แชร์

บทที่56

ผู้เขียน: ต้นไม้แห้ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-09 02:06:10

วันที่สองของการเดินทาง

แสงแรกของวันสาดส่องผ่านทิวเขาสูง มอบแสงทองอ่อนๆให้กับขบวนที่กำลังมุ่งหน้าผ่านเส้นทางที่ทุรกันดาร ในตอนนี้เมิ่งฮวากับโจวจางเหว่ย กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายของพวกเขา ‘อู่หวัง’ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทุกคนในขบวนรู้ดีว่าเต็มไปด้วยความลับและความอันตราย

การเดินทางในช่วงเช้านี้เป็นไปอย่างเงียบๆเพราะทุกคนรู้ดีว่าอีกไม่นาน พวกเขาจะถึงจุดที่ไม่เคยมีใครได้สำรวจอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือแม้แต่ผู้คุ้มกันจากราชสำนักก็ไม่สามารถเข้าไปในเขตนี้ได้โดยง่าย

“เจ้าไม่รู้สึกแปลกๆเหรอ?” เมิ่งฮวาหันไปถามโจวจางเหว่ย หลังจากที่ขบวนเดินไปได้ครู่ใหญ่

โจวจางเหว่ยหยุดเดินและหันมามองรอบตัวเขา ท่าทางเขาค่อนข้างระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวขององครักษ์ที่คอยตรวจตราเส้นทาง

“ข้ารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล” เขาพูดพร้อมขมวดคิ้วหนัก เมื่อเขามองไปยังป่ารอบข้างที่ดูเหมือนจะเงียบเกินไป “แต่เราต้องรีบไปถึงจุดหมาย หากรอมากเกินไปอาจทำให้พวกมันมีโอกาสจัดการกับเรา”

เมิ่งฮวากำหมัดเล็กน้อยแต่ก็รู้ดีว่าโจวจางเหว่ยพูดถูก พวกเขาต้องรีบไปถึงอู่หวังและค้นหาความจริงให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องเผชิญกับปริศนาและอันตรายที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

เมื่อขบวนเข้าใกล้ยอดเขามากขึ้น บรรยากาศก็เริ่มหนาแน่นขึ้นด้วยหมอกบางๆที่คลุมทิวเขา ทั้งสองหยุดพักที่เชิงเขาสูงเพื่อเตรียมตัวขึ้นไปบนภูมิประเทศที่ยากลำบากมากขึ้น

“อู่หวังอยู่ที่ไหน?” เมิ่งฮวาถามเสียงเครียด ขณะยืนอยู่ข้างโจวจางเหว่ย ที่ตอนนี้หันมาสังเกตแผนที่ในมืออย่างใกล้ชิด

“ตรงนั้น” เขาชี้ไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดในบริเวณนั้น “หากตามแผนที่บอกมาถูกต้อง เราน่าจะถึง ‘ปากทาง’ ของอู่หวังในไม่ช้า…”

“แต่เราอาจต้องเตรียมตัวสำหรับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้น” เมิ่งฮวาพูดเสียงเบา สัมผัสถึงความกดดันจากทั้งความลับที่ซ่อนอยู่และภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามา

ขณะที่ขบวนเริ่มเดินทางขึ้นสู่จุดสูงสุดของภูเขา โจวจางเหว่ยก็เริ่มรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวแปลกๆ ในอากาศ เสียงของกิ่งไม้ที่แตกหักและใบไม้ที่ถูกบดขยี้ดังขึ้นในความเงียบ ทำให้ทุกคนในขบวนตั้งสติระมัดระวังมากขึ้น

“ระวังตัว!” โจวจางเหว่ยตะโกนเสียงดังทันทีที่เขาสังเกตเห็นเงาร่างบางๆ เคลื่อนไหวผ่านต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไป

“พวกมันมากันแล้ว!” เมิ่งฮวาเรียกออกมาอย่างตกใจ เมื่อเธอเห็นเงาฝูงหนึ่งเคลื่อนไหวเหมือนจะคุมกำลังอยู่ในระยะที่ค่อนข้างใกล้

ท่ามกลางต้นไม้ที่สูงเสียดฟ้า เงามืดของกลุ่มนักฆ่าค่อยๆปรากฏตัวขึ้น พวกมันกอดอาวุธอย่างเงียบๆ สัญญาณของการเตรียมการเพื่อการโจมตีที่รวดเร็ว

“เตรียมตัว! พวกมันมา!” โจวจางเหว่ยตะโกนสั่งโดยไม่ลังเล ทุกคนรีบหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาพร้อม

ไม่ทันที่เมิ่งฮวาจะรู้ตัว นักฆ่าหมายเลขหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาเธอด้วยความเร็วสูง พวกมันใช้กลยุทธ์เข้าปะทะอย่างรวดเร็วและดุดัน

“อย่าคิดจะหนีไปไหน!” มือสังหารในชุดดำยิ้มเย็นๆ ก่อนจะพุ่งเข้ามาในระยะใกล้

เมิ่งฮวาหัวใจเต้นแรงขึ้น เธอไม่รอช้าจัดการก้าวหลบไปด้านข้างด้วยการใช้กลยุทธ์จาก การฝึกในอดีต เลี่ยงการโจมตีอย่างมืออาชีพ

ฟิ้ว! ดาบของมือสังหารพลาดไปเพียงนิดเดียว เพราะเมิ่งฮวาใช้ท่าทางหลบหลีกที่แม่นยำ ทว่าเธอก็ไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อมือสังหารอีกคนได้เข้ามาโจมตีจากด้านหลัง

ในขณะที่มือสังหารกำลังจะฟันดาบใส่เมิ่งฮวา โจวจางเหว่ยก็พุ่งเข้ามาโดยไม่ลังเล กระบี่ในมือฟาดออกไป “ออกไปให้ห่างจากนางซะ!”

มีเสียงดาบปะทะกันดังสนั่น เมื่อโจวจางเหว่ยฟันกระบี่สวนกลับไปอย่างรวดเร็วจนมือสังหารต้องถอยหลังไปสองก้าว

“ฮึ่ม!” มือสังหารคำรามขณะถอยหลัง เขากำดาบแน่นขึ้น

“อย่าปล่อยให้พวกมันหลบหนีไปได้!” โจวจางเหว่ยตะโกนเสียงดังก่อนจะพุ่งเข้าหามือสังหารตัวที่กำลังโจมตีเมิ่งฮวาอีกครั้ง

“เจ้าอย่าทำให้ข้าเสียเวลาเลย!” เมิ่งฮวารับสั่งด้วยเสียงเยือกเย็น ก่อนจะฟันดาบเข้าไป

เสียงการต่อสู้ดังขึ้นจนกลบทุกอย่างรอบตัว เมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ยใช้ทักษะในการป้องกันตัวและโจมตีอย่างกล้าหาญ ตลอดเวลาองครักษ์ที่เหลือก็คอยทำหน้าที่ของตัวเองในการดูแลรอบๆค่าย

ในที่สุดหลังจากการต่อสู้อันยาวนาน กลุ่มนักฆ่าก็ได้ล่าถอยไป...

หลังจากกลุ่มนักฆ่าล่าถอยไปชั่วคราว ความสงบที่กลับคืนมาไม่อาจทำให้ใครในขบวนวางใจได้ ทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจว่าพวกมันอาจกลับมาโจมตีเมื่อไรก็ไม่อาจคาดเดา

เมิ่งฮวายืนมองยอดเขาสูงที่ยังโอบด้วยหมอกบางๆ ราวกับกำลังรอคอยท้าทายให้นางและโจวจางเหว่ยขึ้นไปค้นหาความลับใน ‘อู่หวัง’ แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความกังวล เพราะศัตรูเหล่านั้นต้องการชีวิตของพวกเขาอย่างแน่นอน

“พักกันสักหน่อยเถอะ” โจวจางเหว่ยออกคำสั่งเรียบๆ ให้ทุกคนกระจายกำลังตั้งค่ายชั่วคราวบริเวณพื้นที่ราบเล็กๆใต้เนินเขา

เมิ่งฮวาเดินมาหาเขา เธอสังเกตเห็นร่องรอยอ่อนล้าที่ฉายชัดในใบหน้าคมคาย แต่กระนั้นดวงตาของเขายังแน่วแน่เหมือนเดิม

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ” เขาบอกอีกครั้งด้วยเสียงที่มั่นคง แล้วยิ้มอ่อนโยนให้ แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็ทำให้นางใจชื้นขึ้นมาได้

เธอยิ้มตอบอย่างซาบซึ้ง ก่อนจะหันไปมองเหล่าองครักษ์และสมาชิกในขบวนที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้เมื่อครู่ บางคนมีบาดแผลฉกรรจ์ บางคนอ่อนล้าจนแทบลุกไม่ไหว

และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่เมิ่งฮวาจะใช้ “ความลับ” ของเธอ

นางเหลือบตาไปรอบๆค่อยๆเลี่ยงผู้คนจนไปยืนหลบมุมใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทาง ใจเต้นระส่ำเล็กน้อยเพราะต้องระวังไม่ให้ใครสงสัย จากนั้นจึงหลับตาตั้งสมาธิเล็กน้อย

“ข้าต้องช่วยพวกเขา… มิติช่องว่างของข้ายังมีอาหารและยาอีกมาก” เมิ่งฮวาเอ่ยเบาๆ กับตัวเอง

แม้นางจะพึงระวังไม่เปิดเผยความลับนี้อย่างเปิดเผยนัก แต่หากปล่อยให้ทุกคนทรมานด้วยความบาดเจ็บและขาดเสบียง ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงขึ้นยามเจอศัตรูในอนาคต

เมิ่งฮวาเพ่งสมาธิมโนภาพถึง “มิติช่องว่าง” ส่วนตัวที่อาจเรียกได้ว่าเป็น ขุมทรัพย์จากอนาคต ในนั้นมี อาหารสำเร็จรูป ยาสมุนไพรแปลกๆของใช้ที่ดูทันสมัย ซึ่งติดมาจากโลกก่อน หรือจากประสบการณ์เก่าของนาง

มือเรียวเล็กค่อยๆสัมผัสอากาศเบื้องหน้าราวกับเปิดประตูมิติไร้รูปทรง เธอรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่โอบล้อมฝ่ามือ ซึ่งคนอื่นจะมองไม่เห็น

“ข้าขอสิ่งของที่จำเป็นในการรักษาและฟื้นฟูพวกเขา… เถอะนะ…” นางพึมพำเบาๆ

และแล้วนางก็สัมผัสได้ถึงห่อผ้าพันแผลกับสมุนไพร ที่พกเอาไว้ในมิติ รวมถึง ถุงอาหาร บางส่วนที่นางเก็บไว้อย่างพอดิบพอดี

เมิ่งฮวาโผล่กลับออกมาจากมุมต้นไม้โดยพกของใช้เหล่านั้น ใบหน้าของเธอดูใจชื้นขึ้นเล็กน้อย

“เจ้าไปหามาจากไหนกัน?” องครักษ์บางคนถามด้วยความฉงน แม้ว่าก่อนหน้านี้เมิ่งฮวาจะเตรียมข้าวของมาไม่น้อย แต่ก็ไม่น่าถึงขั้นมีของอย่างยาและอาหารที่ดูใหม่เอี่ยมแบบนี้

โจวจางเหว่ยที่ช่างสังเกตยิ่งกว่าใคร จ้องมองเมิ่งฮวาด้วยสายตาสงสัยอ่อนๆ แต่เขาก็รู้ดีว่าควรเก็บความสงสัยไว้ก่อน เมื่อเห็นนางกำลังช่วยเหลือองครักษ์ในสถานการณ์คับขัน

“ข้า… ข้าแค่มีวิธีเก็บของสำรองไว้นิดหน่อย” เมิ่งฮวาตอบกลั้วหัวเราะบางๆอย่างเก้อเขิน เธอยังไม่พร้อมบอกความจริงทั้งหมด แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ซักไซ้ต่อ

นางรีบหยิบ อาหารแห้ง บางส่วนให้คนที่อ่อนล้าจนมือสั่นเทา และจัดการ ยาสมุนไพร วางเบื้องหน้าองครักษ์ที่บาดเจ็บ ก่อนจะสาธิตวิธีใช้ผ้าพันแผลอย่างถูกหลัก เพราะส่วนหนึ่งเป็นความรู้การปฐมพยาบาลจากโลกก่อน

“กะทัดรัดดีจัง?” โจวจางเหว่ยเผลออุทานเล็กน้อยเมื่อเห็น ซองอาหาร แปลกๆที่นางหยิบมา มันหอมกลิ่นเครื่องเทศจางๆแตกต่างจากอาหารยุคนี้โดยสิ้นเชิง

“ให้ตายเถอะ! อาหารนี่อะไรกัน หอมน่าทานมาก…”

องครักษ์คนหนึ่งสูดกลิ่นพลางมองด้วยดวงตาเป็นประกาย “แต่ข้าว่าไม่เคยเห็นเจ้าพกไว้ในรถม้าเลยนะ ข้าว่าข้านับเสบียงตลอด…”

เมิ่งฮวาได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน ไม่อาจตอบอะไรไปมากกว่านั้น

หลังได้รับยาและอาหารเรียบร้อย ทุกคนในขบวนก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย นั่งพักเอาแรงกันริมลำธารน้ำใสที่ไหลมาจากยอดเขา

โจวจางเหว่ยเดินตรงมาหาเมิ่งฮวา ใบหน้าเจือความสงสัยปนเป็นห่วง

“เจ้า… มีข้าวของแบบนี้เก็บซ่อนไว้อย่างนั้นหรือ?” เขาถามเสียงเบา ให้ได้ยินกันเพียงสองคน

“ก็นิดหน่อยน่ะ” เมิ่งฮวาตอบอย่างลังเลก่อนเมินสายตาไปทางอื่น “… เจ้าคงสงสัยมากสินะ?”

โจวจางเหว่ยพยักหน้าเบาๆ แต่ไม่มีสีหน้าเหมือนจะบังคับให้พูด “ข้าไม่อยากกดดันเจ้า… แค่สงสัยว่าตอนนี้มันอาจจะช่วยเราได้เยอะ ถ้าต้องเจอศัตรูยืดเยื้ออย่างพวกมือสังหารนั่นอีก”

เมิ่งฮวาเม้มปาก ค่อยๆตัดสินใจเอ่ย “เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้ามีอดีตที่อธิบายได้ยาก… มีหลายเรื่องที่ข้ารู้ทั้งๆที่ไม่น่ารู้… ของพวกนี้ก็เหมือนกัน ข้าแค่… มีวิธีเก็บไว้ใช้ยามคับขัน”

เธอเลี่ยงไม่พูดถึง “โลกเดิม” หรือ “มิติช่องว่าง” ตรงๆ แต่พยายามบอกอย่างให้เขาพอเข้าใจว่ามันไม่ธรรมดา

โจวจางเหว่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาเหมือนจะรู้ตั้งแต่แรกว่าหญิงสาวตรงหน้ามีปริศนาเกินคนธรรมดา แต่ก็ไม่คิดจะคาดคั้นให้เธอต้องลำบากใจ

>“ไม่เป็นไร… ถึงอย่างไร ข้าก็ดีใจที่เจ้าสามารถช่วยทุกคนได้” เขายิ้มบางๆ ให้ “และถ้าสักวันเจ้าอยากบอก ข้าก็จะรอฟังเอง”

เมิ่งฮวาส่งยิ้มตอบกลับเล็กน้อย ในใจรู้สึกอบอุ่นกับท่าทีที่เขาให้เกียรติและเชื่อใจเธอ

เมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ยตัดสินใจแบ่งอาหารแห้งในถุงที่ได้จาก “มิติของนาง” ให้คนในขบวนได้รับประทานเพียงพอ บางส่วนก็เก็บไว้เพื่อยามฉุกเฉิน นอกจากนี้เธอยังหาโอกาสจ่ายยาแก้ปวดและยาสมุนไพรขั้นพื้นฐานให้กับผู้บาดเจ็บ

เมื่อได้รับการดูแล ความพร้อมในการต่อสู้ของขบวนก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด องครักษ์หลายคนที่นอนซีดเซียวเพราะขาดอาหารมื้อดี ก็สามารถลุกขึ้นมาถือดาบได้แบบไม่โซเซมากนัก

โจวจางเหว่ยหันไปประเมินกำลังที่มี ใบหน้ายังเคร่งขรึมแสดงให้เห็นว่าภารกิจข้างหน้ายังยากลำบาก

“พวกมือสังหารถอยไปเพื่อเตรียมสกัดเราต่ออย่างแน่นอน… ข้าคาดว่าเส้นทางบนเขาข้างหน้าคงมีดักหรือซุ่มโจมตีอีก เราต้องเดินอย่างระมัดระวัง อย่าปล่อยให้ตกเป็นเป้านิ่ง”

เมิ่งฮวาพยักหน้ารับพลางมองไปยังแนวเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหมอก

“ที่อู่หวัง… อาจมีความลับที่ข้าก็ยังไม่รู้ ถ้าเราไปถึงที่นั่นข้าอาจเข้าใจอดีตและเหตุผลที่พวกมันหมายจะเอาชีวิตของข้า”

เธอกุมมือกำแน่นใจสั่นระคนมุ่งมั่น เพราะ “ปริศนาอดีต” คือสิ่งที่กระตุ้นให้นางมาถึงจุดนี้ และมิติลี้ลับในตัวเธอก็อาจเป็นแค่เศษเสี้ยวของความลับที่รอให้ค้นพบ

หลังพักฟื้นกันครู่ใหญ่ขบวนก็ตัดสินใจออกเดินทางต่อ ทุกคนต่างมีท่าทีฮึกเหิมกว่าเดิมเนื่องจากได้เติมพลังจากอาหารที่เมิ่งฮวาแอบนำออกมา

“พร้อมนะ?” โจวจางเหว่ยกระซิบถามเมิ่งฮวาในตอนที่นางกำลังชักม้าขึ้นไปตามเส้นทางลาดชัน ใบหน้านางซีเรียส ทว่าลุกโชนด้วยจิตใจอันแกร่งกล้า

“อืม… ข้าพร้อมสู้เต็มที่” เมิ่งฮวาตอบ ดวงตาสุกใสจับจ้องไปข้างหน้า

เสียงกีบม้ากระทบหินดังเป็นจังหวะ ลมภูเขาพัดแรงขึ้นเรื่อยๆชวนให้รู้สึกหนาวเย็น แต่ในใจของเหล่าผู้ร่วมขบวนกลับร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความหวั่นเกรงและความหวังผสมกัน

เบื้องหลังแนวไม้รกชัฏ เงาร่างนักฆ่าชุดดำบางส่วนกำลังซุ่มดูอยู่จริงอย่างที่คาด สายตาดุดันของพวกมันบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นไม่แพ้กัน แต่คนละฝ่ายกับโจวจางเหว่ยและเมิ่งฮวา

“มันผ่านจุดนี้ไปได้เร็วกว่าเราคิด…” มือสังหารผู้หนึ่งกระซิบอย่างหัวเสีย

“ไม่เป็นไร ยังไงยอดเขาก็มีแค่ทางขึ้นทางเดียว เราแค่ต้องไปรอปิดบัญชีพวกมันตรงจุดที่เหมาะสม” หัวหน้ากลุ่มชุดดำแค่นหัวเราะ “อย่าลืมว่าพวกเรายังมีตัวช่วยอีกหลายทาง…”

ขบวนของโจวจางเหว่ยและเมิ่งฮวาเคลื่อนตัวสูงขึ้นเรื่อยๆทีละก้าวอย่างระมัดระวัง ไม่มีใครล่วงรู้ว่า ‘อู่หวัง’ จะปรากฏอยู่หลังม่านหมอกหนาในสภาพใด หรือจะมีปริศนาซับซ้อนเพียงใดที่รอให้ไข

ความรู้สึกในอกคือทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น และมุ่งมั่นเพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขบวนนี้ก็เปรียบเสมือนความหวังสุดท้ายที่เธอยอมฝากชะตาไว้ โดยมีโจวจางเหว่ยคอยเคียงข้าง

“สักวัน… ข้าจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าได้รับรู้” เมิ่งฮวารำพึงในใจเมื่อมองใบหน้าหนักแน่นของโจวจางเหว่ย “แต่ตอนนี้ เราต้องรอด และปกป้องคนเหล่านี้ให้ได้ก่อน”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่63

    หลังผ่านเหตุการณ์สั่นคลอนชะตาทั้งหลายที่ปราสาทอู่หวัง และผ่านช่วงเวลาพักรักษาตัวอยู่ในจวนใหญ่ของโจวจางเหว่ย ในที่สุดนางก็สามารถฟื้นตัวคืนกำลังได้เกือบเต็มร้อย พลังลี้ลับจากเลือดมังกรในกายไม่ปรากฏอาการร้อนผ่าวอีกแล้ว เธอสัมผัสได้ว่าบัดนี้ตนไม่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งเช่นเดิมอีกต่อไปในเช้าวันแดดจัดที่มีเมฆลอยเรียงกันประปราย โจวจางเหว่ยได้จัดเตรียมรถม้าอย่างเรียบง่าย พาเมิ่งฮวาออกเดินทางกลับหมู่บ้านซานซี อันเป็นดินแดนเล็กๆที่เธอเคยใช้ชีวิตเรียบง่ายร่วมกับ ท่านลุงลี่คุน และท่านป้าลี่จูเสมอมาเมิ่งฮวามองเห็นทิวเขาคุ้นตาแต่ไกล ยิ่งใกล้ซานซีเท่าไรเธอยิ่งรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ นึกถึงวันที่ยังใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ไม่ต้องพัวพันกับเลือดมังกรหรือการเมืองใดๆ เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้านเธอเห็นรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของโจวจางเหว่ย และสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นๆที่พัดมาเหมือนยินดีต้อนรับการกลับมาของเธอเมื่อรถม้าวิ่งเข้าเขตบ้านลุงลี่คุน ท่านป้าลี่จูก็ปราดออกมาต้อนรับทันทีด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความห่วงใย“อาเมิ่ง! เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?” ท่านป้าลี่จูรีบเข้ามาจับมือเมิ่งฮวา ตรวจดูกันตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับหล

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่62

    เสียงก้องสะท้อนในห้องมังกรใหญ่ยังคงโหมกระพือ เสาหินรอบข้างสั่นไหวราวกับจะถล่มลงทุกเมื่อ อานุภาพมหาศาลจากแกนมังกรแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ทำให้อากาศสั่นระริกจนทุกคนที่อยู่ในห้องรู้สึกหายใจลำบากเมิ่งฮวายืนอยู่ตรงกลางวงแสงสีทองที่ปะทุจากจุดศูนย์กลางของแท่นบูชา เหงื่อและเลือดไหลอาบบนใบหน้าที่เธอไม่อาจรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้อีก ในจิตใจเธอมีเสียงสองกระแสคอยก้องสลับไปมา‘หลอมรวม… เพื่อเป็นผู้ครองพลัง! หรือทำลาย… เพื่อยุติความวุ่นวาย!’เบื้องหน้าเธอคือรูปสลักมังกรที่ดูเหมือนมีชีวิต แผ่นโลหะหนาทึบบนอกรูปสลักเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆเผยให้เห็นแกนมังกรคล้ายลูกแก้วสีทองสะท้อนแสงในมือเมิ่งฮวา อำนาจโบราณจากยุคสมัยราชวงศ์เก่ากำลังตื่นขึ้นพร้อมแรงกดดันอันเกรี้ยวกราดขณะที่คลื่นพลังปกคลุมห้องมังกรอย่างหนักหน่วง เหล่ามือสังหารที่ยังมีสติอยู่ก็ต้องคุกเข่าหรือหมอบกับพื้น องครักษ์ของโจวจางเหว่ยที่ยังยืนก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่ บางคนถูกแรงอัดดีดกระเด็นไปยังซอกกำแพงโจวจางเหว่ยตะเกียกตะกายลุกขึ้น มือกำกระบี่ที่สั่นระริก พยายามฝ่าคลื่นพลังเข้ามาหาเมิ่งฮวา“ฮวาเออร์!” เขาเรียกสุดเสียง แต่ถูกแรงอัดบีบจนขยับได้ยากเต็มที

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่61

    แสงสีทองแห่งแกนมังกรที่ซ่อนอยู่ภายในร่างโลหะของมังกรส่องสว่างออกมาจากกลางแท่นบูชาอย่างน่าพิศวง บรรยากาศในห้องใต้ดินอันกว้างใหญ่ชวนให้รู้สึกถึงความเก่าแก่และพลังลี้ลับที่สั่งสมมานับศตวรรษเมิ่งฮวายืนนิ่งหัวใจเต้นระรัวเมื่อตระหนักว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ‘หัวใจ’ของอู่หวังที่แท้จริง ต้นกำเนิดแห่งอำนาจซึ่งเหล่ากบฏกำลังตามหามาโดยตลอดขณะที่เมิ่งฮวากำลังไล่สายตาสำรวจรูปสลักมังกรขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีชิ้นส่วนโลหะพิเศษครอบอยู่เป็นเกล็ด การเต้นของเลือดในร่างกายเธอก็เร่งจังหวะไม่หยุดราวกับสายเลือดตอบสนองต่อบางสิ่งที่เปล่งพลังงานอยู่เบื้องหน้า“ฮวาเออร์…” โจวจางเหว่ยเรียกเธอเสียงเบา มือกำกระบี่ข้างกายแน่น เขามองสถานการณ์ด้วยความระแวดระวังเพราะอาจมีศัตรูโผล่มาได้ทุกเมื่อ “เจ้ารู้สึกไหมว่าพลังนี้กำลังเรียกหาเจ้า?”เมิ่งฮวาพยักหน้าเล็กน้อยสีหน้าสับสนแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นางไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ก้าวเข้าใกล้แท่นบูชามากขึ้นทีละนิดโดยมีโจวจางเหว่ยตามมาคุ้มกันไม่ห่างบริเวณโดยรอบแท่นบูชามีร่องรอยภาพสลักเก่าแก่บนกำแพงหินและพื้น บ้างเป็นรูปมนุษย์แต่งกายหรูหรายืนล้อมมังกร บ้างเป็นรูปผู้คนคุกเข่าบูชา

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่60

    การต่อสู้ในโถงมังกรยังคงดุเดือด ดาบกระทบกันเสียงดังสนั่น เสียงเหล็กเสียดสีกันดังไปทั่วทุกมุมโถง บางครั้งสายตาของเมิ่งฮวาก็เหลือบไปเห็นบันไดลับที่เปิดลงไปยังส่วนลึกของปราสาท อาการบาดเจ็บจากการต่อสู้รุนแรงทำให้ความคิดของเธอพร่าเบลอ แต่เธอรู้ดีว่าถ้าไม่รีบตัดสินใจตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้พวกเขาพลาดโอกาสสำคัญไปท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงนักฆ่าหลายคนเริ่มแยกตัวออกไป โดยมีท่าทางเหมือนจะเริ่มมีกลยุทธ์บางอย่าง การโจมตีของพวกมันแม่นยำและรวดเร็ว หลายครั้งที่เมิ่งฮวากับโจวจางเหว่ยต้องใช้กลยุทธ์หลบหลีกและโจมตีสวนกลับ หากพวกเขายังไม่สามารถหยุดยั้งพวกมันได้ กลุ่มของพวกเขาจะต้องถูกต้อนให้มุมในไม่ช้า“พวกมันกำลังพยายามล่อเราไปที่มุม!” เมิ่งฮวาตะโกนเตือน โจวจางเหว่ยหันไปมองเธอด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็ไม่มีเวลาพูดอะไร เพราะมือสังหารอีกคนพุ่งมาที่เขา โจวจางเหว่ยต้องหลบการโจมตีและสวนกลับด้วยกระบี่ในมือ“ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าหลบหนีไปได้แน่!” เขาตะโกนสั่งองครักษ์ที่ยืนข้างๆ พลางฟันกระบี่ของตนอย่างแม่นยำเสียงของดาบกระทบกันดังตึงตังจนหลายคนสะดุ้ง แต่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงนั้น เมิ่งฮวามองเห็นช่องว่างระห

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่59

    ความเงียบงันที่ปกคลุมอุโมงค์หินถูกแทนที่ด้วยเสียง ครืด… ครืด… ที่ดังสะท้อนก้องจนเสียดหู เมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ย ยืนประจันหน้ากับเงาดำขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ตรงส่วนปลายทางเดิน โดยมีองครักษ์อีกสองนายจับอาวุธเตรียมพร้อมในท่าทีตื่นตัวพอแสงคบไฟสาดส่องไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆก็ปรากฏให้เห็นเงาร่างเหมือน “รูปสลักมังกร” ขนาดใหญ่หินแกะสลักที่ลำตัวยาวเลื้อยไปตามผนัง มีส่วนหัวโผล่พ้นขึ้นจากพื้นหินชนิดที่เห็นฟันแหลมคมรางๆ ดวงตาของมันเป็นอัญมณีสีเขียวเข้มสะท้อนแสงไฟพราวระยับ จนดูราวกับมันกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่จริงๆเมิ่งฮวารู้สึกถึงเลือดในกายสูบฉีดเร็วขึ้น สัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือนว่าสิ่งนี้มิใช่เพียงรูปสลักธรรมดา เหมือนมีพลังลี้ลับแผ่ออกมาจากตัวมัน“นายท่าน… นี่มัน… เคลื่อนไหวได้หรือขอรับ?” องครักษ์คนหนึ่งถามเสียงเบาหวิว มือกำกระบี่ไว้จนข้อขาวโจวจางเหว่ยไม่ตอบ เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวโดยที่ยังไม่ลดกระบี่ เสียงหินเสียดสีกันดังครืดอีกครั้ง ขณะเดียวกันรูปสลักมังกรก็ขยับคอไปด้านข้างช้าๆก่อให้เกิดความรู้สึกขนลุกพิลึก“รูปสลักนี้มีกลไกด้านใน… หรืออาจเป็นกับดักที่ใช้แรงคนหมุน?” เขาพึมพำ แต่ความสงสัยกลับเร้าใจขึ

  • เมิ่งฮวาชาตินี้ข้าจะมีความสุขที่สุด   บทที่58

    ท่ามกลางกลิ่นอับชื้นและความเยียบเย็นของห้องหิน ขบวนของเมิ่งฮวาและโจวจางเหว่ยตัดสินใจหยุดพักชั่วคราวเพื่อฟื้นแรงและประเมินสถานการณ์ โดยมีองครักษ์สองนายผลัดกันออกไปยืนเฝ้าที่ปากอุโมงค์เพื่อป้องกันมือสังหารศัตรูที่อาจกลับมาได้ทุกเมื่อเมิ่งฮวานั่งพิงกำแพงที่ขรุขระ หายใจผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยหลังจากผ่านการต่อสู้อันบีบคั้น เหลือบมองสมาชิกในขบวนที่ได้รับบาดเจ็บก็กำลังนั่งพักผ่อนเช่นกัน บางคนก็หลับตาปลดปล่อยความตรึงเครียดโดยมีอาวุธวางข้างตัวไม่ห่าง“ทุกคนเหนื่อยกันมาก…” โจวจางเหว่ยเอ่ยเสียงเบา ดวงตาเข้มทอแววห่วงใย “แต่เรายังต้องก้าวต่อไป หากพ้นคืนนี้แล้วเดินไปอีกไม่ไกลก็อาจถึงใจกลางอู่หวัง”เมิ่งฮวาพยักหน้ารับ เธอเองก็รับรู้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ลึกลงไปในภูเขานี้ คล้ายกับว่ามันรอให้เธอมาค้นพบมานานแสนนาน“นายท่าน!” องครักษ์คนหนึ่งที่เดินตรวจลึกเข้าไปในอุโมงค์ร้องเรียกเบาๆ สะท้อนเสียงมาไกล ราวกับค้นพบอะไรบางอย่างโจวจางเหว่ยและเมิ่งฮวาลุกขึ้นทันที นำองครักษ์บางส่วนถือคบไฟตามเข้าไปยังโพรงแคบภายในห้องต่อไปในโพรงนั้น… พื้นหินเรียบแต่ผนังสองข้างกลับคดเคี้ยวด้วยลวดลายสลักเป็นรูปคนและสัตว์ในท่าทางแป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status