Home / โรแมนติก / เมียบำเรอไร้รัก / ๑ คนเก่ายังอยู่ในใจ คนใหม่ยังอยู่ข้างกาย

Share

๑ คนเก่ายังอยู่ในใจ คนใหม่ยังอยู่ข้างกาย

last update Last Updated: 2025-09-03 17:22:47

คนเก่ายังอยู่ในใจ คนใหม่ยังอยู่ข้างกาย

จันทร์กระจ่างนั่งรออิชย์อยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน จนกระทั่งเลยเวลาอาหารมาเกือบครึ่งชั่วโมง เสียงเรียกเข้าจึงดังออกมาจากสมาร์ตโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้า

         “ค่ะคุณอิชย์ ใกล้ถึงหรือยังคะ” เอ่ยถามออกไปพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ ทว่าคำตอบที่ดังกลับมาทำให้รอยยิ้มเมื่อครู่ค่อยๆ จางลงจนในที่สุดก็เหือดหายจากดวงหน้าหวาน

         “ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ”

         เมื่อตัดสายจากอิชย์ หญิงสาวก็ผ่อนลมหายใจยาว คิ้วโก่งงามขมวดเข้าหากัน เพราะระหว่างที่เขาบอกว่าเที่ยงนี้มีธุระ จึงกลับมากินข้าวเที่ยงด้วยกันไม่ได้ หล่อนได้ยินเสียงของผู้หญิงไม่ผิดแน่ เสียงนั้นอ่อนหวานเสียจนหล่อนหวั่นใจ

         “คุณอยู่กับใคร” หญิงสาวรำพึงรำพันกับตนเอง รู้สึกอิ่มตื้อขึ้นมาทันทีทั้งที่ยังไม่มีข้าวตกถึงท้องเลยสักเม็ด อาหารที่หล่อนตั้งใจทำรอเขาเป็นหมันอีกครั้ง กี่คราวแล้ว ที่เขาทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งไว้กลางทาง สำหรับเขา หล่อนคงเป็นคนที่สำคัญน้อยที่สุดกระมัง

         หญิงสาวเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้ พลางเม้มปากขณะมองตรงไปยังภาพเบื้องหน้า นึกถึงวันที่ตัดสินใจใช้ชีวิตกับเขา พลันน้ำตาก็ไหลออกมาจนต้องรีบยกมือขึ้นเช็ดออกอย่างรวดเร็ว

         ผมไม่ใช่คนอ่อนหวาน หรือเอาใจเก่ง ถ้าคุณชอบแบบนี้ ก็ขอให้มองผ่านผมไปได้เลย

         สำหรับจันทร์กระจ่างแล้ว ไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้ ขอแค่เขามีเพียงหล่อน ต่อให้แข็งกระด้างแค่ไหน หล่อนก็ยังรักเขาเสมอ แต่เมื่อใดที่เขาปันใจให้ใครอื่น นั่นต่างหากที่หล่อนจะไม่ทน...

         หญิงสาวเดินกลับขึ้นห้อง นั่งลงบนเตียงกว้างที่ในทุกค่ำคืนจะมีเพียงเขาและหล่อนครอบครอง บางครั้งในยามที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา หล่อนอยากรู้ว่าหัวใจเขาอยู่ที่ใคร หล่อนหรือว่าผู้หญิงอีกคน...

         เขาไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัว ไม่ชอบให้วุ่นวายกับกระเป๋าเงิน ไม่ชอบให้ถือวิสาสะดูโทรศัพท์ และไม่ชอบคนจู้จี้ และเรื่องมาก ซึ่งหล่อน ก็ไม่เคยทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ แม้ลึกๆ ในหลายครั้ง หล่อนก็อยากจะตะโกนออกมาดังๆ และอาละวาดใส่เขาบ้าง แต่ที่ทำได้คือเงียบและยิ้มรับทุกอย่างที่เผชิญ อดทนเพราะคำว่ารักเพียงคำเดียว...ทุกอย่างเป็นเพราะหล่อนรักเขาข้างเดียว

         เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดที่โรงจอดรถในช่วงเกือบค่ำ ทำให้คนที่กำลังเตรียมตั้งโต๊ะอาหารชะเง้อมองออกไป พอเห็นว่าเป็นใครรอยยิ้มก็แต้มเรียวปากอิ่ม ดีใจทุกครั้งที่เขากลับบ้าน

         ท่าทางเนือยๆ ของร่างสูงทำให้จันทร์กระจ่างรีบรินน้ำส่งให้เขาทันทีที่อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร

         “กลับมาจากฟาร์มหรือคะ”

         อิชย์วางแก้วน้ำที่ดื่มเกือบหมดแก้วลงบนโต๊ะพร้อมพยักหน้า

         “อืม วันนี้เข้าไปดูวัวมา ต้องแยกตัวที่ป่วยออกมาเกือบสิบตัว ตอนนี้ก็ให้ปศุสัตว์เฝ้าระวังโรคระบาด”

         “กินข้าวเลยไหมคะ” หญิงสาวไม่มีความเห็นในเรื่องนั้น เมื่อมองสีหน้าของเขาแล้วก็รู้ทันทีว่าชายหนุ่มกำลังเหนื่อย จึงไม่อยากถามซอกแซก โดยเฉพาะเรื่องตอนเที่ยง...

         “กินเลยก็ได้”

         เมื่อชายหนุ่มบอกเช่นนั้น หญิงสาวก็พยักหน้าบอกกับแม่ครัวให้ช่วยกันเสิร์ฟอาหาร

         หญิงสาวตักข้าวใส่จานให้ชายหนุ่ม แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวตรงข้าม ระหว่างนั้นก็ลอบสังเกตสีหน้าของเขาไปพลาง ทั้งยังคอยดูแลตักกับใส่จานให้ชายหนุ่มอย่างต้องการเอาใจใส่ ขณะที่อีกฝ่ายก็กินไปเงียบๆ ไม่ได้ชวนคุยหรือบอกว่าเขาไปธุระที่ไหนกับใครในช่วงเที่ยง

         หญิงสาวเงยหน้ามองดวงหน้าคมเข้ม ริมฝีปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันเบาๆ หลายครั้งที่หล่อนคิดจะเอ่ยปากถาม แต่เมื่อมองกับข้าวบนโต๊ะ จึงปิดปากเงียบ ปล่อยให้เวลานี้ผ่านพ้นไป จนกระทั่งกินข้าวอิ่มกันทั้งคู่ ก็มีสายเรียกเข้าดังมาจากสมาร์ตโฟนของเขา ร่างสูงไม่มองหล่อน เขารับโทรศัพท์แล้วเดินห่างออกไปอย่างรวดเร็ว แต่หล่อนยังทันได้ยินเสียงหวานๆ ที่ดังลอดออกมาจากสมาร์ตโฟนของสามี

         หัวใจของจันทร์กระจ่างหล่นวูบ มือเย็นเยียบและสั่นระริกจนต้องรีบวางจานลงบนโต๊ะ กระทั่งแม่บ้านเดินออกมา หญิงสาวจึงยิ้มเจื่อนๆ แล้วบอกให้ฝ่ายนั้นเก็บทุกอย่างกลับไป

         เกือบสี่ทุ่ม อิชย์จึงกลับเข้าห้องนอน ขณะที่หญิงสาวนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เมื่อเขาก้าวเข้ามาก็ปรายตามองหล่อนแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป หญิงสาวถอนหายใจ หนังสือที่ชอบนักชอบหนา กลับอ่านไม่เข้าหัวเลยสักนิด เพราะเอาแต่ครุ่นคิดถึงเจ้าของเสียงหวานที่ได้ยิน และมั่นใจว่าเป็นเสียงของคนคนเดียวกับที่ได้ยินในตอนเที่ยง

         สี่ทุ่มครึ่ง ร่างสูงใหญ่ของอิชย์ก็สอดเข้ามาภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน หญิงสาวขยับตัวและหันไปมองเขา ทำให้คนที่ทำท่าผ่อนคลายและกำลังจะหลับตาลงทันทีที่หัวถึงหมอนเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม

         “มีอะไรจะพูดหรือเปล่า”

         เมื่อเขาถาม หญิงสาวจึงขยับตัวนอนตะแคง และมองใบหน้าคมคายของเขา พร้อมกับวางมือลงบนแผงอกกำยำ ลูบเบาๆ ก่อนตัดสินใจถามออกไป

         “เมื่อตอนเที่ยงคุณบอกว่ามีธุระ คุณไปไหนมาคะ”

         เจ้าของดวงตาคมกริบสบตาคู่งามของคนข้างกายอยู่อึดใจก่อนจะเบือนหน้ามองขึ้นไปบนเพดาน นานอยู่หลายอึดใจจนจันทร์กระจ่างเกือบตัดใจ เขาจึงเอ่ยออกมา

         “เพื่อนแวะมาหา ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ก็เลยออกไปกินข้าวด้วยกัน”

         คำตอบของเขาทำให้คนถามหลุบตาลงมองที่ต้นแขนแกร่ง ริมฝีปากขบเม้มเบาๆ กล้ำกลืนฝืนใจรับคำตอบที่เขาบอกออกมา เขาเลิกนัดหล่อนแต่ออกไปกับเพื่อนแทน เพื่อนคนนี้คงสำคัญกับเขามากเลยสินะ...

         “เพื่อนคนไหนคะ จันทร์ รู้จักหรือเปล่า” หญิงสาวพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ เช่นเดียวกับสีหน้ายามถามที่เจือยิ้มเสมอ แม้ลึกๆ ลงไปแล้วจะเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม

         เสียงถอนหายใจคล้ายจะรำคาญนิดๆ ของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้ทันทีว่ากำลังทำให้เขาไม่พอใจ แต่หล่อนมีสิทธิ์รู้ไม่ใช่หรือ หล่อนเป็นเมียของเขา ไม่ใช่ใครอื่น...

         “จันทร์ได้ยินเสียงผู้หญิง”

         คนที่กำลังจะหลับตาลงลืมตาขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาหันไปมองคนที่ตั้งคำถามกับเขาด้วยสายตาเย็นชา หัวใจของหญิงสาวหล่นวูบยามสบสายตาคมกล้าก่อนหลุบตาลง

         อิชย์จะบอกปัดก็ได้ แต่เขาไม่ชอบโกหก ยิ่งได้เห็นหยาดน้ำใสๆ จากดวงตาคู่งาม หัวใจที่หงุดหงิดรำคาญก็ค่อยๆ เบาบางลง

         “เหมือนแพรกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ของเธอ พอดีว่าคลินิกของฉันเป็นทางผ่าน ก็เลยแวะมาทักทาย”

         ก็เลยพากันไปรำลึกความหลังตอนเที่ยงแทนการกลับมากินข้าวกับหล่อน…

         หญิงสาวได้แต่คิดด้วยหัวใจที่ปวดแปลบ เหมือนแพร หล่อนรู้จักผู้หญิงคนนี้ เพราะในอดีตเคยเป็นคนสำคัญกับอิชย์มากกว่าใครๆ

         “เธอสบายดีหรือเปล่าคะ” ดวงหน้าหวานของคนถามเจือยิ้ม แววตาที่มองเขาไร้ร่องรอยหึงหวง ทำให้ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะเขาไม่อยากทะเลาะกับหล่อนกลางดึกในเรื่องนี้

         “สบายดี นอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันต้องออกแต่เช้า ต้องเข้าไปดูวัวก่อนแล้วต้องเข้าคลินิกอีก”

         หญิงสาวมองเขานิ่งเมื่อชายหนุ่มดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงช่วงอก และทำท่าจะหลับไปโดยไม่สนใจว่าหล่อนจะยังมองเขาอยู่หรือไม่ แต่ราวกับว่านึกขึ้นได้ จึงสบตาหญิงสาวอีกครั้ง และทันได้เห็นแววตาเศร้าหมองของจันทร์กระจ่าง จึงนิ่งอึ้งไปอึดใจก่อนรั้งร่างบางเข้าไปกอด พร้อมกระซิบเบาๆ

         “หลับเถอะ”

         หญิงสาวซุกกายเข้าหาอ้อมแขนของเขาเหมือนกับทุกคืน แต่หล่อนรู้ว่าค่ำคืนนี้ ต่างออกไปจากเดิม เพราะมีเงาของใครบางคนเพิ่มเติมเข้ามาในห้องใจของเขาจนไม่มีที่ให้หล่อนยืน...

         เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของอิชย์ดังสะท้อนออกมา ในขณะที่จันทร์กระจ่างพยายามหลับไปพร้อมกับน้ำตา...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียบำเรอไร้รัก   บทส่งท้าย

    วันที่ 9 เดือน 9 พ่อหนูตัวอวบก็ถือกำเนิด เนื่องจากตอนที่ลูกชายคนแรกลืมตาดูโลกนั้น อิชย์แทบไม่มีส่วนร่วมดูแลตอนที่เขาอยู่ในครรภ์มารดาจวบถึงตอนคลอด ชายหนุ่มจึงไม่ยอมพลาดที่จะเป็นคนตัดสายสะดือให้กับลูกอีกสองคนถัดมา... “เป็นยังไงบ้างลูก” นางมนพรลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อลูกชายออกมาจากห้องคลอด เขายิ้มกว้างพร้อมกับจับมือมารดาแล้วนั่งลงตามเดิม “สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งแม่และลูกครับ หลานชายคนนี้หน้าเหมือนคุณย่าเลยนะครับ” คนฟังถึงกับเป็นปลื้ม น้ำตาซึมออกมา “อีกนานไหมพวกเราถึงจะได้เจอหลาน” “ก็ต้องรอให้จันทร์เข้าพักในห้องพักฟื้นก่อนครับ คงอีกสักพักใหญ่ ตอนนี้เราทำได้แค่รอ แต่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลานแม่คนนี้ตัวใ

  • เมียบำเรอไร้รัก   บทส่งท้าย

    เวลาเกือบสามทุ่มของคืนหนึ่ง จันทร์กระจ่างกำลังนั่งพิมพ์งานเหมือนทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะถึงแม้จะยุ่งกับการดูแลลูกและสามีมากแค่ไหน ก็ยังคงรับจ็อบแปลหนังสือและเขียนนิยายที่รักเสมอ ก่อนหยุดชะงักเมื่อหันไปเห็นสันหนังสือที่เป็นผลงานการเขียนของหล่อนเข้า ครั้งหนึ่ง อิชย์เคยหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ‘เมียบำเรอไร้รัก’ เรื่องราวในนั้นคือส่วนหนึ่งในชีวิตของหล่อนและเขา วันนั้นจึงทำให้อิชย์เงียบซึมไปทั้งวัน ‘พี่เพิ่งรู้ว่าตัวเองเลวและแย่แค่ไหน ที่ทำให้จันทร์เหมือนตกอยู่ในนรกแบบนั้น’ นั่นคือประโยคหนึ่งที่เขากล่าวออกมาในค่ำคืนนั้น และหล่อนก็กลายเป็นคนที่ปลอบใจพ่อคนจิตใจอ่อนไหวตลอดทั้งคืน แต่พอตื่นขึ้นมา คนที่ปวดเมื่อยไปทั้งตัวกลับกลายเป็นหล่อน แต่พ่อคนอ่อนไหวดันสดใสกระปรี้กระเปร่าอยู่คนเดียว เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกมา ทำให้หญิงสาวที่กำลังย

  • เมียบำเรอไร้รัก   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อิชย์และจันทร์กระจ่างกำลังจะกลายเป็นคุณพ่อคุณแม่ลูกสาม ทั้งเพื่อนบ้านและคนงานต่างแซวชายหนุ่มว่าแรงดีไม่มีตก กิจการของเขาเองก็กำลังไปได้สวย รับพนักงานใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน เพื่อสลับสับเปลี่ยนกับดนัย ส่วนตัวเขารับงานเพียงช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายเน้นเข้าฟาร์ม แต่ก็ไม่ทุกวัน เพราะเสาร์อาทิตย์เขาจะอยู่กับครอบครัวเป็นหลัก สี่คนพ่อแม่ลูกจึงมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่าเดิม บางครั้งในวันหยุด หญิงสาวจึงชวนสามีไปเยี่ยมปัทมาที่ราชบุรี “คิดถึงแกมาก” ปัทมาสวมกอดเพื่อนรัก “ฉันก็คิดถึงแก ไหนลูกสาวล่ะ” “ไม่อยู่ เพิ่งออกไปกับพ่อ ไปซื้อขนม มาเถอะเข้าบ้านก่อน เชิญค่ะคุณอิชย์” หญิงสาวกล่าวเชิญสามีของเพื่อน รวมทั้งเรียกเด็กๆ ให้เดินตาม หนุ่มน้อยสาวน้อยดูจะชอบร่องสวนมะพร้าวมาก เพราะกระโดดข้ามกันสนุกสนาน

  • เมียบำเรอไร้รัก   ๒๔ โซ่เส้นที่สอง คล้องใจแนบแน่น

    “ขอโทษทีค่ะ จันทร์ก็มัวแต่ยุ่งๆ กับเรื่องของลูก” “มีใครพาไปหาหมอหรือยัง” “พาไปแล้วค่ะ แต่ดีที่ยังเป็นไม่มาก หมอเลยให้กลับมานอนพักที่บ้าน จันทร์เลยให้หยุดไปก่อน หายดีค่อยมาทำงาน” ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะบอกกับหญิงสาว “จันทร์อยู่กับลูกเถอะ พี่ซักเอง เผื่อน้องอิ่มหิวขึ้นมาจันทร์จะได้ให้นมลูก” พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นจากพื้นบ้าน แล้วคว้าตะกร้าผ้าจากมือภรรยามาถือเอาไว้เอง “ขอบคุณนะคะ สามีจันทร์น่ารักที่สุดในโลกเลย” หญิงสาวยิ้มหวาน ทำให้คนใจดีน่ารักที่สุดในโลกยิ้มหน้าบาน “งั้นจันทร์ต้องเตรียมตอบแทนพี่แล้วแหละ” เขายักคิ้วหลิ่วตา พลางทำตาวาวแล้วมองด้วยสายตาโลมเลียจนหญิงสาวค้อนขวับ&n

  • เมียบำเรอไร้รัก   ๒๔ โซ่เส้นที่สอง คล้องใจแนบแน่น

    “พี่อัจกำลังมีความรักจริงๆ ด้วย” จันทร์กระจ่างบอกกับสามี อีกฝ่ายพยักหน้า เขาเองก็เห็นเป็นเช่นนั้น เมื่ออัจฉรามีความรัก อะไรๆ ก็ดูสดใสขึ้นทันตา “พี่เจตน์ครับ มาดื่มน้ำก่อนลูก” “น้ำๆ น้าม” พี่เจตน์วิ่งจนเท้าลอยเข้ามาหาพ่อกับแม่ ดื่มน้ำจนอิ่มแปล้ แล้วปีนขึ้นไปนั่งบนตักพ่อ ส่วนคุณปู่กับคุณย่าก็ได้พัก ไม่นานนัก อัจฉราจึงเดินกลับมาร่วมวงสนทนาอีกครั้ง วันต่อมา อิชย์พาภรรยาและลูกชายไปเที่ยวที่ฟาร์มโคนมของตัวเอง พ่อหนูชื่นชอบวัวมากๆ เขาชวนคุยเรื่องวัวตลอดเวลา ทั้งยังขอขี่หลังมันเสียด้วย คนเป็นพ่อจึงยอมตามใจแต่ก็ดูแลอย่างใกล้ชิด ทุกวันหยุดถ้าไม่อยู่บ้านตัวเองหรือไปบ้านพ่อกับแม่ อิชย์จะพาลูกและเมียขับรถเล่นเสมอ บางครั้งก็พาหญิงสาวไปเยี่ยมเพื่อนรักอย่างปัทมา ที่กำลังจะมีข่าวดีกับคนรักเร็วๆ นี

  • เมียบำเรอไร้รัก   ๒๔ โซ่เส้นที่สอง คล้องใจแนบแน่น

    ๒๔โซ่เส้นที่สอง คล้องใจแนบแน่นสามเดือนต่อมา... “ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณตั้งท้องได้สิบสัปดาห์แล้วครับ” คุณพ่อหนุ่มหล่อกับคุณแม่สาวสวยเดินกุมมือลงมาจากรถยนต์เมื่อกลับมาถึงบ้าน ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวด้วยสายตาอบอุ่น ท้องนี้เขาจะได้ดูแลหล่อนตั้งแต่ท้องอ่อนๆ จนกระทั่งเข้าห้องคลอดเลยทีเดียว เขาจะไม่ยอมพลาดเหตุการณ์สำคัญในชีวิตอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน “เดินดีๆ นะจ๊ะ” จันทร์กระจ่างยิ้มกริ่ม ตั้งแต่เขาบอกรัก ความหวานของอิชย์ไม่เคยพร่องลงเลยสักนิดเดียว ยิ่งรู้ว่าหล่อนท้องเขาก็ยิ่งเห่อหนัก คอยประคับประคองไม่ห่าง “พี่อิชย์คะ จันทร์เพิ่งท้องอ่อนๆ เอง” “ก็นั่นแหละ ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status