LOGINกฤติกาตกลงใจทำงานกับอัศราในตำแหน่งผู้ช่วย หน้าที่เธอคือติดสอยห้อยตามเวลาเจ้านายออกไปไซต์งาน อยู่ในที่ประชุมเวลาเขาคุยกับลูกค้าหรือผู้รับเหมา ทำหน้าที่อ่านแบบงานเพื่อมาคุยรายละเอียดหรือออกความคิดเห็นได้
เมื่อได้ทำงานด้วยกันพอสมควรหญิงสาวพบว่าอัศราเป็นคนจริงจังในเวลางาน ทุกอย่างสำหรับเขาต้องเป๊ะและลูกน้องสามารถท้วงได้หากเขาผิดพลาด แต่นอกเวลาชายหนุ่มก็เหมือนคนอารมณ์ดีทั่วไป ชอบพูดเรื่องตลก ชอบทำให้เธอหัวเราะ
“อ้อ ผมได้ข่าวมาว่าคุณสมิติเขาแก้ข่าวให้ลูกไก่แล้วนะเรื่องขึ้นบัญชีดำ” อัศราพูดขึ้นมาในเย็นวันหนึ่งก่อนเลิกงาน
“คะนาย” เธอเงยหน้ามอง หญิงสาวเรียกเขาว่านายเหมือนที่คนอื่นๆ เรียก
“ผมได้ข่าวมาว่าจากวงในว่าคนที่ทำเรื่องเป็นน้องสาวคนเล็กของเขา สั่งให้ผจก.ฝ่ายบุคคลทำ คุณสมิติของคุณเขาเลยไล่ผจก.ออกกับสั่งพักงานน้องสาว ตัดเงินเดือนครึ่งนึงเป็นเวลาหนึ่งปี”
วงในของอัศราคือวงในจริงๆ เพราะอัศราดูโฮมคือหนึ่งในเครือญาติของสมิติ แต่ในด้านการบริหารมีอิสระของตัวเอง ดำเนินการโดยใช้ทุนฝั่งตัวเอง ในลำดับเครือญาติปู่ของเขาเป็นน้องชายของปู่สมิติ ในทางด้านการงานอัศราดูโฮมเป็นคู่แข่งของเอสเอ็มมานานหลายปี โดยเฉพาะเมื่ออัศราก้าวมารับตำแหน่งกุมบังเหียนแทนพ่อของเขา การฟาดฟันกับเอสเอ็มก็ดูเหมือนว่าจะกล้าเปิดหน้าชนมากขึ้น
“ช่างมันเถอะค่ะ ไก่ก็ไม่ได้คิดจะไปหางานที่อื่นหรอกตอนนี้” เธอพูดความยุติธรรมที่มาช้ามันคือความไม่ยุติธรรมอยู่ดี สิ่งที่เธอต้องเจอในช่วงหนึ่งเดือนนั้น โอกาสต่างๆ ที่เสียไปการแก้ข่าวตามหลังไม่ได้ชดเชยอะไรให้เธอได้ แต่ความดีในอดีตที่สมิติเคยมีให้เธอนั่นทำให้หญิงสาวหยุดความโกรธเคืองไว้เพียงแค่นั้น
เย็นนั้นเธอกลับบ้านด้วยใจที่หนักน้อยลง ความทุกข์ในใจยังอยู่แต่ไม่มากเท่าเดิม หญิงสาวชะงักเมื่อเห็นรถยนต์ของสมิติจอดอยู่หน้าหมู่บ้าน
“คุยกันได้ไหมไก่ พี่มีเรื่องคุยด้วย” ข้อความในแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น
หญิงสาวตัดสินใจจอดรถที่ริมถนน ตรงนั้นเป็นสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้าน สมิติเดินมาเคาะกระจกรถเธอลดกระจกลง
“มีอะไรคะ” เธอไม่มองหน้าเขา
“ลงมาคุยกันได้ไหมไก่”
หญิงสาวเปิดประตูรถเดินนำลงไปที่สวนสาธารณะ เธอมองไปทางสระน้ำเหมือนว่ามันน่ามองกว่าหน้าของสมิติ
“มีอะไรคะว่ามาเลย” เธอเร่งเมื่อไม่ได้ยินเขาพูดอะไร
“เรื่องนั้นพี่จัดการให้แล้วนะ ขอโทษด้วยที่น้องสาวพี่ทำแบบนั้น” เขาไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อเจอท่าทีมึนตึงของอดีตคนในปกครอง
“ค่ะ ไม่ขอบคุณนะคะเพราะไก่ไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้แต่แรก” เธอตอบ
“อีกเรื่องคือพี่อยากอธิบายที่พี่บอกเลิกไก่ พี่หวังดีไก่อายุยังน้อยยังมีอนาคตที่ดีรออยู่ พี่อยากให้ไก่ใช้ชีวิตอิสระให้คุ้มแล้ววันนึงถ้าเรายังมีโอกาสเส้นทางของเราก็คงได้กลับมาเจอกันอีก”
นกทุกตัวย่อมต้องการอิสระที่จะบินไปเท่าที่ปีกของมันไปถึง แต่สมิติลืมไปว่านกที่มีเจ้าของ นกที่ถูกเลี้ยงมาทั้งชีวิตอิสระอาจจะไม่ใช่สิ่งที่มันต้องการ
กฤติกายอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดมันดีกับตัวเธอเอง หากเธอไม่ต้องการอนาคตที่ดีเธอคงไม่ยอมอยู่กับเขาเพื่อให้เรียนจบ เพื่อให้มีเงินส่งเสียน้องๆ แต่การตัดสินใจฝ่ายเดียวของเขามันก็โหดร้ายกับความรู้สึกของเธอเช่นกัน
“ขอบคุณค่ะสำหรับอิสระ แค่นี้ใช่ไหมคะ”
ในใจเธอร่ำร้องว่าเธอไม่ได้ต้องการอิสระที่เขาให้ เธอต้องการเขาต่างหากแต่ถ้าสมิติตัดสินใจไปแล้วเธอก็ยอมรับ
และตัวเขาเอง...ก็ต้องยอมรับเช่นกัน
ทุกการเติบโตย่อมผ่านคืนวันที่เจ็บปวด เหมือนกับเรื่องของเธอและเขาที่ต่อไปมันจะเป็นเพียงแค่ลมที่พัดผ่านแล้วหายไป เหลือเพียงความทรงจำให้คิดถึงเท่านั้น
##############
จากวันนั้นกฤติกาใช้ชีวิตตามปกติ ถึงจะมีเรื่องภายในใจแต่เธอไม่ลืมว่าตนเองยังมีคนที่เธอต้องดูแล ในเทอมต่อมาก้องเกียรติได้เข้าเรียนต่อในระดับปวช. เด็กหนุ่มเลือกเรียนสาขาช่างยนต์ด้วยเหตุผลที่ว่าสามารถหางานง่าย หรือทำอู่เล็กๆ ของตัวเองก็ยังได้
เกศราท้องใหญ่ขึ้นทุกวัน เด็กสาวดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้พี่สาวเหนื่อยเกินไป อัศราเองที่พักหลังเข้านอกออกในบ้านเธอมากขึ้น เขามีของฝากมาฝากคนท้องบ่อยๆ
ครบกำหนดคลอดเกศราคลอดทารกเป็นเพศหญิง กฤติกาเป็นคนตั้งชื่อให้เองว่าอัญชุลี เด็กหญิงผิวขาว จ้ำม้ำ ริมฝีปากเป็นสีชมพูเข้มจนอัศราที่มาเยี่ยมเรียกว่าน้องเชอรี่ เป็นอันว่าเธอได้ชื่อว่าเชอรี่เป็นนิคเนมตั้งแต่นั้น
เกศราเลี้ยงลูกอยู่บ้านสองเดือน จากนั้นเธอไปลงเรียนมหาวิทยาลัยเปิดตั้งใจจะหางานทำไปด้วย
“อย่าเพิ่งเลยหน่อย เลี้ยงลูกอยู่บ้านสักปีแล้วค่อยว่ากัน” กฤติกาไม่เห็นด้วย
พอมีเด็กอ่อนครอบครัวเธอเริ่มมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามไม่ให้เสียงร้องของหลานไปรบกวนคนอื่น แต่มันก็ต้องมีบ้างที่ต้องมีเสียงร้อง จนกฤติกาถูกเพื่อนบ้านร้องเรียนไปที่เจ้าของบ้าน
“ซื้อบ้านเองดีกว่าไหมลูกไก่” อัศราเสนอในวันหนึ่งที่เธอปรึกษาเขา
“ไก่เพิ่งทำงานปีเดียวเองค่ะ เครดิตพอเหรอคะ” เธอยังไม่อยากเอาเงินก้อนที่มีมาใช้ซื้อบ้าน เธอกลัวความไม่แน่นอนในอนาคต
“ถ้าถามผม ผมว่าบ้านซื้อเงินสดได้ก็ควรซื้อ ถ้าลูกไก่เสียดายเงินก้อนก็กู้ตัวเองสิ พอถึงรายเดือนเงินเดือนออกก็คืนใส่บัญชีไปเหมือนผ่อนกับธนาคาร ถือว่าให้ตัวเองได้ดอกเบี้ย” อัศราช่วยออกความคิด จากการที่ทำงานร่วมกันมาหนึ่งปีกฤติกาทำให้เขามองเธอใหม่ ภาพความเป็นเด็กเสี่ยไม่มีเหลือเธอใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า
กฤติกาไม่ใช่คนตระหนี่ เธอใช้ของดีมีคุณภาพแต่ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ ไม่สุรุ่ยสุร่ายไม่ฟุ่มเฟือย เธอใช้ของแบรนด์เนมที่แน่ใจแล้วว่ามันคุ้มราคาและไม่ต้องซื้อบ่อย จนอัศราแปลกใจว่าสมิติเลี้ยงดูเธอมาแบบอัตคัตหรืออย่างไร
กฤติกายิ้มออก “จริงด้วยค่ะ”
“ผมมีบ้านของคนรู้จักที่เขาบอกขาย ลูกไก่ไปลองดูก่อนไหมถ้าชอบเดี๋ยวผมช่วยต่อรองราคาให้” อัศราพูดต่อ
“ขอบคุณค่ะนาย”
วันเสาร์ต่อมาเธอไปดูบ้านหลังนั้นกับอัศราและน้องๆ มันเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 70 ตร.ว. สองชั้นครึ่งมีสี่ห้องนอน ห้าห้องน้ำ มีห้องเก็บของและห้องแม่บ้าน
ในตัวบ้านมีบ่อปลาและต้นไม้ลงไว้แล้ว ตัวบ้านร่มรื่นเธอรู้สึกชอบตั้งแต่ตอนแรกที่เข้าไปดู ส่วนเกศราและก้องเกียรติก็ชอบมากเช่นกัน
“ราคาเท่าไหร่คะนาย”
“ห้าล้านแต่ถ้าคุณกับน้องๆ ชอบผมจะต่อรองราคาให้” อัศราไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเอาตัวเองมาพัวพันกับครอบครัวนี้ โดยเฉพาะเด็กหญิงอัญชุลีที่เขาเอ็นดูเป็นพิเศษ
###############
หนึ่งสัปดาห์ต่อมากฤติกาเซ็นสัญญาซื้อขายบ้านเรียบร้อย เธอมองเช็คเงินสดจำนวนสี่ล้านห้าแสนด้วยความเสียดาย แต่เมื่อคิดว่าแลกกับบ้านหนึ่งหลังมันก็คุ้มค่า และเธอไม่ต้องรู้สึกผิดกับสมิติที่เป็นเจ้าของเงินก้อนนี้
หนึ่งปีผ่านมาทำให้ความโกรธของเธอลดลง และนั่นทำให้เธอมองเห็นว่าที่สมิติเคยบอกว่าเขาอยากให้เธอไปใช้ชีวิตของตัวเองมันหมายความว่าอย่างไร และยิ่งทำให้เธอเห็นถึงความต่างของเขาและเธอว่าไม่มีวันที่เธอจะก้าวไปยืนเคียงข้างเขา อยู่ในสังคมของเขาได้จริง
“เตรียมเก็บของได้เลย เดี๋ยวเราจะทยอยย้ายของ” เธอบอกก้องเกียรติและเกศรา หญิงสาวก้มลงอุ้มน้องเชอรี่ขึ้นมา
“ว่าไงคะหนูชอบบ้านใหม่ที่แม่ซื้อให้ไหมลูก” เธอรับเด็กหญิงเป็นลูกตามที่เธอเคยบอกน้องสาวไว้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าน้องเชอรี่มีแม่สองคนเพราะเอาเข้าจริง เกศราก็ไม่สามารถตัดใจยกเด็กหญิงให้เธอได้แบบเด็ดขาด
น้องเชอรี่หัวเราะ เด็กหญิงวัยหกเดือนกำลังมองสิ่งรอบตัวอย่างสนใจ โลกของเด็กมักจะสดใสเสมอ
สามปีต่อมาชีวิตของเกศราและอัศราดำเนินไปอย่างมีความสุขภายใต้ร่มเงาของความรักและความเข้าใจ มีพ่อ แม่และลูกอีกสองคนคือน้องเชอรี่และน้องพีชทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ขึ้น การมีสมาชิกเพิ่มอีกคนทำให้บ้านอบอุ่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น น้องเชอรี่รับหน้าที่พี่สาวได้อย่างดีเยี่ยม เธอรักน้องชายมาก หวงมากและคอยช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ดูแลน้องพีชอยู่ไม่ห่างเกศรายังคงสนุกกับงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง กฤติกาผู้เป็นเจ้าของช่องก็ยังคงสร้างสรรค์คอนเทนต์ดีๆ ออกมาไม่หยุด การทำงานร่วมกันของพี่น้องเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ เกศราใช้เวลาส่วนหนึ่งในการดูแลลูกๆ และอีกส่วนหนึ่งในการพัฒนาอาชีพที่เธอรักอัศราเองก็ยังคงเป็นผู้บริหารมือทองและเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่น เขาบริหารงานที่บริษัทอัศราดูโฮมให้เติบโตอย่างมั่นคง และยังคงมีเวลาสำหรับภรรยาและลูกๆ ทุกคนรู้ดีว่าความสุขที่แท้จริงของอัศราอยู่ที่บ้าน สถานที่ที่มีรอยยิ้มของเกศรา เสียงหัวเราะของแม่ลูก รวมถึงเสียงเถียงกันบ้างหรือรักกันดีบ้างของน้องเชอรี่ และน้องพีชดังก้องอยู่เสมอก้องเกียรติน้องชายคนเล็กของเกศรา ก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง อู่ซ่อมรถเล็ก
“เช้านี้คุณแม่ต้องไปหาหมอใช่ไหมครับ เดี๋ยวพี่เข้ามารับตอนเที่ยงนะเผื่อไปหาอะไรกินกันก่อน” อัศราบอกขณะที่ยกนมและอาหารเช้ามาวางไว้ให้ภรรยาที่โต๊ะ “หน่อยไปเองก็ได้นะคะพี่ฮาน โรงพยาบาลอยู่แค่นี้เอง” ตั้งแต่อายุครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สาม และหมอเริ่มนัดบ่อยขึ้นครอบครัวก็ย้ายมาพักที่เพนต์เฮาส์เพราะว่าที่นี่อยู่ใกล้โรงพยาบาลมาก เดินทางไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงแล้ว“ไม่เป็นไร พี่อยากไปด้วย” อัศราเลื่อนเก้าอี้ให้ภรรยานั่งหลังจากที่เขาดูแลให้เชอรี่นั่งเรียบร้อยแล้ว“กินมื้อเช้าก่อนค่ะลูก เชอรี่วันนี้มีโจ๊กนะคะ พ่อสั่งร้านข้างล่างมาให้ใส่ไข่ออนเซ็นแบบที่หนูชอบด้วย” “มีหมี่กรอบอีกไหมคะพ่อ” เด็กหญิงหยิบช้อนเตรียมจะคนโจ๊ก“มีลูก แม่ใส่ให้ดีกว่าจะได้ไม่หก” เกศราเลื่อนถ้วยใส่หมี่กรอบที่อัศรารู้ว่าลูกชอบเป็นพิเศษ เขาจึงสั่งซื้อมาต่างหากเพิ่มมาด้วย“ขอบคุณค่ะแม่ แบบนี้เลยที่หนูอยากกิน”ชีวิตหลังแต่งงานของเกศรากับอัศราดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุขกันดี ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งก่อนแต่งงาน ทำให้ไม่ต้องมีเรื่องปรับตัวกันอีก และจากการที่เธอท้องลูกอีกคนความรักขอ
“วันนี้อากาศดีมาก ฝนก็ไม่ตกด้วยใครปักตะไคร้นะ” เสียงแซวดังขึ้นในเช้าวันสำคัญ เด็กหญิงอัญชุลีหรือน้องเชอรี่ยกมือทันที“หนูเองค่ะย่า” เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที วันนี้ในพื้นที่ในส่วนรีสอร์ตของบูรพาถูกเหมาปิดทั้งหมดเพื่อจัดงานแต่งงานระหว่างอัศราและเกศรา “เดี๋ยวจะได้เวลาทำพิธีแล้ว ใครเป็นคนไปตามเจ้าสาวจ๊ะ” นางอัมพรถาม ทำให้ก้องเกียรติรีบตอบ “พี่ไก่ไปแล้วครับคุณป้า ส่วนผมว่าจะออกไปดูความเรียบร้อยที่สนามข้างนอกอีกที” คำตอบของเขาทำให้บรรดาผู้ใหญ่พยักหน้า พลางจัดเตรียมที่นั่งของแต่ละท่านด้านในห้องแต่งตัวเจ้าสาว “เจ้าสาวแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ” กฤติกาเข้ามาดู“อีกนิดเดียวค่ะคุณลูกไก่ เดี๋ยวคุณลูกไก่รอเติมหน้าด้วยไหมคะ หนูว่าน่าจะเก็บรายละเอียดอีกนิด” ช่างแต่งหน้าประจำกองของบริษัทถามเจ้านายสาว“ได้สิ งั้นเดี๋ยวพี่รอในนี้แหละ” ระหว่างรอเจ้าสาวแต่งหน้ากฤติกาเดินมามองออกไปยังนอกหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าทอประกายอบอุ่นลงมาต้องผืนหญ้าสีเขียวขจี ณ สถานที่จัดงานแต่งงานริมทะเลสาบที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างงดงามทุกตารางนิ้วถูกประดับประดาด้วยมวลดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ตามที่เจ้าสาวชอบ ท
ข่าวดีเรื่องการขอแต่งงานของอัศรากับเกศราแพร่สะพัดไปทั่วทั้งสองครอบครัวอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างแสดงความยินดีและปลาบปลื้มใจ โดยเฉพาะน้องเชอรี่ที่ดูจะมีความสุขเป็นพิเศษ เมื่อรู้ว่าเธอจะได้เห็นคุณแม่ใส่ชุดสวยๆ ใส่แหวนแวววาว และคุณพ่อจะได้แต่งตัวหล่อวันสู่ขอถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นที่บ้านของกฤติกา บรรยากาศภายในบ้านอบอวลไปด้วยความรักและความสุข อัศรามาพร้อมกับคุณศราและนางอัมพรผู้เป็นบิดามารดา เพื่อสู่ขอเกศราอย่างเป็นทางการ ส่วนฝ่ายเกศราก็มีนางแก้วคำผู้เป็นแม่ กฤติกา และก้องเกียรติ มาร่วมเป็นสักขีพยานเมื่อถึงเวลาพูดคุยเรื่องสินสอดทองหมั้น อัศราเอ่ยปากถึงสิ่งที่เขาได้เตรียมไว้ให้เกศราอย่างสมฐานะและแสดงถึงความรักที่เขามีให้เธออย่างเต็มเปี่ยม แต่แล้ว นางแก้วคำก็ยกมือขึ้นปรามเบาๆ“คุณฮานคะ... แม่ขออย่างเดียวเท่านั้นค่ะ” นางแก้วคำพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความจริงใจและความรักที่แม่มีต่อลูกสาว“สินสอดทองหมั้น... แม่ไม่ขออะไรจากคุณฮานเลยค่ะ”คำพูดของนางแก้วคำสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในห้อง โดยเฉพาะอัศราที่เตรียมตัวมาอย่างดี“ที่ผ่านมา..
หกเดือนต่อมารถตู้ของทีมงาน “ไทยทริปแดนสไมล์” แล่นไปตามถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยองเกศรานั่งอยู่ข้างกฤติกา มือถือแท็บเลตตรวจดูตารางงานและคิวถ่ายทำของวัน กฤติกามองน้องสาวด้วยรอยยิ้ม“ตื่นเต้นไหมหน่อย ที่จะได้กลับไปถ่ายทำที่สวนแม่อีกครั้ง”เกศรายิ้มตอบ “ตื่นเต้นค่ะพี่ไก่ คิดถึงบรรยากาศที่นั่นเหมือนกัน”การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่เป็นการหวนรำลึกถึงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของช่อง “ไทยทริปแดนสไมล์” เมื่อสี่ปีที่แล้ว หลังจากการทดลองถ่ายทำคลิปแรกที่สวนผลไม้ของนางอัมพรซึ่งในตอนนั้นเป็นเพียงการอัดคลิปง่ายๆ เพื่อแนะนำสวนทุเรียนเนื้อดี นอกจากทุเรียนที่ถือเป็นราชาผลไม้ทางสวนยังมีเงาะ มังคุดและอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่เปิดให้เข้าชมแบบบุฟเฟต์กินได้ไม่อั้น ใครจะคิดว่าคลิปนั้นจะได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย จนกลายเป็นจุดแจ้งเกิดของช่องยูทูบที่ตอนนี้มีผู้ติดตามหลักล้านเมื่อรถตู้เลี้ยวเข้ามาในเขตอำเภอเมืองระยอง ตำบลบ้านเพ บรรยากาศสองข้างทางก็เริ่มเปลี่ยนไป ต้นไม้ใหญ่เขียวขจี อากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นอายของธรรมชาติที่คุ้นเคยก็โชยมาปะทะจมูก“ถึงแล้วพวกเรา” เสียงทีมงานคนหนึ่งร้องขึ้นเมื่อรถต
หลังจากที่เกศราสำเร็จการศึกษาแล้ว หญิงสาวตอบตกลงข้อเสนอทำงานต่อที่ Aurix Audit Group เพราะว่าเธอยังต้องการความรู้และประสบการณ์จากการทำงานจริงที่จากที่นี่ซึ่งมีโปรเจกต์มากมายให้เธอเรียนรู้ ทำให้เธอรู้สึกสนุกและท้าทายกับการได้ศึกษาสิ่งใหม่ๆ ทุกวันส่วนอัศราเขายังคงเป็นผู้ชายที่แสนดีและเป็นที่พึ่งให้เธอเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องที่เกี่ยวกับน้องเชอรี่เขาก็ดูแลเอาใจใส่ไม่เคยขาด ตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมาเขาพิสูจน์ความมั่นคงให้ได้เห็น ความรักและความผูกพันของเกศรากับอัศราเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ เกศราเองก็ยอมรับในใจว่าเธอรักผู้ชายคนนี้หมดหัวใจ และมองเห็นอนาคตที่มีเขากับน้องเชอรี่อยู่เคียงข้างได้อย่างชัดเจนทุกเย็นหลังเลิกงานอัศราจะมารับเกศราที่บริษัทเสมอ และบางครั้งก็พาน้องเชอรี่ที่กลับจากโรงเรียนอนุบาลมารอรับด้วย ทำให้ภาพของครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่นนี้เป็นที่คุ้นตาของพนักงานคนอื่นๆ ในบริษัท ความรักและความเอาใจใส่ที่อัศรามีให้เกศราและน้องเชอรี่นั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนวันหนึ่งเมื่อเกศรากำลังตรวจสอบตารางงานในสัปดาห์หน้า อัศราก็เดินเข้ามาพร้อมใบหน้ายิ







