Share

บทที่ 9 จับพิรุธคนโกหก (2)

last update Last Updated: 2025-11-20 11:15:47


ดวงตากลมโตมองไปยังบันไดที่จะพาเดินลงไปยังสวนอุทยาน ทันใดนั้นบังเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัว ขาเรียวก้าวตรงไปหยุดยืนอยู่ตรงขั้นบันได ทำท่าจะเดินลงไปยังสวนดอกไม้ แต่จู่ๆก็หยุดชะงักไป มือบางยกขึ้นกุมศีรษะ ก่อนจะทิ้งกายลงไปสู่เบื้องล่างทันที

สวีอี้ฝานรับรู้ได้ถึงความเคว้งคว้าง ตัวของนางล่องลอยอยู่กลางอากาศ ทว่าก่อนที่ร่างบางจะกระแทกพื้นเจ็บตัวพลันมีมือหนาของใครบางคนเอื้อมมาคว้าตัวของนางเอาไว้ได้ทัน

เปลือกตาบางลืมขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เห็นดวงตาคมดุจเหยี่ยวของเปาอี้ส่วงจับจ้องมายังนางด้วยความตกใจ ในตอนนี้สวีอี้ฝานมั่นใจได้ทันทีว่าเขาไม่ได้ตาบอด!

"เป็นอะไรหรือไม่" ชายหนุ่มรีบละสายตาจากคนตรงหน้า ในขณะที่ยังกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน หญิงสาวหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นจึงแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร

"ข้าเวียนศีรษะนิดหน่อยเจ้าค่ะ"

"เช่นนั้นกลับไปพักผ่อนเถิด" กล่าวพลางย่อกายอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน สวีอี้ฝานจึงใช้มือกอดคอของเขาเอาไว้ ปล่อยให้คนตัวโตอุ้มนางเดินกลับไปยังห้องหอ



เปาอี้ส่วงสังเกตเห็นว่าระหว่างทางเดินกลับมายังห้องหอ สวีอี้ฝานส่งสายตาจดจ้องมองมายังเขาอย่างไม่ละสายตา เมื่อครู่นี้เขาทำพลาดเพราะเห็นว่าสวีอี้ฝานทำท่าจะตกบันได ด้วยความตกใจทำให้เขารีบพุ่งเข้าไปหานางเกรงว่านางจะได้รับบาดเจ็บ แต่ในตอนที่ตาสบตา เขาเห็นสีหน้าสงสัยของนางจึงรู้ได้ทันทีว่านางกำลังสงสัยว่าเขาตาบอดจริงๆหรือไม่

"ถึงห้องหอของเราหรือยัง" ทันทีที่มาหยุดยืนอยู่หน้าประตู เขาจึงแกล้งถามออกมาทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก

"ถึงแล้วเจ้าค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงเรียบ ในใจร้องเหอะออกมาเบาๆ สายไปแล้วล่ะท่านแม่ทัพ ข้ารู้ความจริงหมดแล้ว

ตุ้บ!

"โอ๊ะ!" นางส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ ดวงหน้างามเหยเกด้วยความเจ็บพลางใช้มือลูบสะโพกของตนป้อยๆ เมื่อเปาอี้ส่วงปล่อยมืออย่างกะทันหันทำให้ร่างบางตกลงไปบนพื้น

"ขอโทษ ข้ามองไม่เห็นเลยไม่รู้ว่าเตียงอยู่ที่ตรงไหน" เขากล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉย จากนั้นจึงแสร้งยื่นมือไปข้างหน้าควานหาเตียงก่อนจะหย่อนกายนั่งลง

'แกล้ง! เขาแกล้งนางแน่ๆ!' สวีอี้ฝานได้แต่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ ได้แต่ข่มกลั้นความโมโหเอาไว้เพราะเกรงว่าจะทำให้เหยื่อรู้ตัวเสียก่อน

"ท่านพี่ อากาศวันนี้ร้อนอบอ้าว ข้ารู้สึกเหนียวตัวจะให้หลิงหลิงมาปรนนิบัติอาบน้ำเสียหน่อย"

เปาอี้ส่วงไม่ว่าอะไร เดิมทีตั้งใจจะมาสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกเขาไปพบและบอกว่าสวีอี้ฝานกลั่นแกล้งสาวใช้ทั้งสองคน แต่เมื่อซักไซ้สอบถาม เขาสังเกตเห็นพวกนางสองคนพูดจาไม่ตรงกันจึงจับได้ว่าพวกนางโกหก เขาจึงจัดการสั่งลงโทษให้พวกนางอดข้าวสามวัน แต่เมื่อเห็นว่าวันนี้ดูเหมือนว่าสวีอี้ฝานจะไม่สบาย เขาจึงไม่อยากนำเรื่องอื่นมาทำให้นางปวดหัว ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องพร้อมเรียกหลิงหลิงเข้าไปปรนนิบัตินาง



ยามซวี (19.00 - 20.59 น.) เปาอี้ส่วงก็เดินกลับมาที่ห้องหอ หลังจากปล่อยให้สวีอี้ฝานนอนพักผ่อนอยู่ในห้องตามลำพังหลายชั่วยาม

แอ๊ด!

ประตูไม้ถูกผลักให้เปิดออก หลิงหลิงเห็นคนมาใหม่ก็แย้มยิ้มเล็กน้อย จากนั้นจึงรีบเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้านายทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง

"ท่านพี่มาแล้วหรือเจ้าคะ" สวีอี้งานผุดลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้ามาหา เปาอี้ส่วงเหลือบมองคนตรงหน้าเล็กน้อยเห็นว่านางอยู่ในชุดคลุมพร้อมนอนจึงคิดว่านางคงจะอาบน้ำเตรียมเข้านอนแล้ว

"ข้าสั่งให้หลิงหลิงเตรียมขนมกุ้ยฮวาไว้ให้ ท่านพี่มาลองชิมหน่อยเถิดเจ้าค่ะ" กล่าวพลางเดินเข้ามาใกล้ จับมือคนตัวโตให้เดินไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างโต๊ะกลม คิ้วกระบี่ของเปาอี้ส่วงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ครุ่นคิดด้วยความแปลกใจว่าเหตุใดวันนี้นางถึงได้เอาอกเอาใจเขาผิดแปลกไปจากปกติ

"อากาศวันนี้ร้อนอบอ้าวยิ่งนัก ท่านพี่คิดเหมือนกันหรือไม่" นางเอ่ยพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ ปลดเสื้อคลุมตัวยาวออกจากตัว ทำท่าโบกมือคลายร้อนไปมา

ปากหนาเผยอค้างเล็กน้อย ดวงตาคมเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า เมื่อเห็นว่านางอยู่ในชุดนอนตัวบางที่แทบจะปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งไว้ได้ไม่มิด และทันใดนั้นจู่ๆเขาก็รู้สึกได้ถึงของเหลวหนืดข้นที่บริเวณปลายจมูก เมื่อลองเอามือแตะดูพบว่าเป็นเลือดกำเดาของเขานั่นเอง

'แย่ชะมัด! ตั้งแต่เกิดมาจนถึงอายุยี่สิบสามปีเพิ่งเคยเลือดกำเดาไหลเพราะเห็นสตรีแต่งกายยั่วกำหนัดนี่แหละ'

สวีอี้ฝานดีดนิ้วดังเปร๊าะกระโดดเข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของเขา ชี้นิ้วที่สั่นระริกไปที่คนตัวโต

"จับได้แล้ว! ที่แท้ท่านก็ไม่ได้ตาบอดจริงๆด้วย!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (2)

    "ฝานฝานข้าหิวแล้วรีบไปกินข้าวกันเถิด" เขากล่าวเสียงสั่นก่อนรีบสาวเท้าเดินออกมาจากห้อง สวีอี้ฝานทำหน้ามุ่ยอย่างไม่เข้าใจนัก เขาไม่ต้องการนางแล้วหรือ ไยถึงทำท่าทางรังเกียจไม่อยากแตะต้องตัวนางเช่นนั้นเล่าทว่านางยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สวีอี้ฝานรีบก้าวยาวๆตามสามี จับมือหนาของเขาเอาไว้และเดินไปตรงระเบียงหน้าหอนอนที่มีโต๊ะกลมวางอยู่ บนโต๊ะถูกจุดด้วยเทียนเล่มเล็กให้ความสว่างไสวอย่างสลัวๆ ที่ตรงนี้บรรยากาศดีสามารถมองเห็นวิวของสวนอุทยานในตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจน"ท่านพี่นั่งก่อนเจ้าค่ะ" หญิงสาวผายมือให้เขาอย่างเชื้อเชิญ เมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งลงแล้ว นางจึงเดินกรีดกรายไปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเขา"วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรือเปล่า" เปาอี้ส่วงถามด้วยความสงสัย มองบรรยากาศรอบกายด้วยความสับสน วันนี้หาใช่วันเกิด หรือวันครบรอบแต่งงานของเขาและนาง เหตุใดนางถึงทำเหมือนว่าวันนี้มันเป็นวันพิเศษ"ถ้าไม่ใช่วันพิเศษข้าจะกินข้าวกับท่านพี่ด้วยบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้หรือเจ้าคะ" มือบางเท้าคางจดจ้องไปยังคนตัวโตตาแป๋ว ท่าทางน่ารักน่าชังจนทำให้คนมองใจสั่นสะท้าน"แน่นอนว่าย่อมได้ ฝานฝานก็รู้ว่าข้าตามใจเจ้าเสมอ" ชายหนุ่มเ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 2 ยั่วสามี (1)

    หลายเดือนต่อมาสวีอี้ฝานได้ให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดแก่เปาอี้ส่วง สร้างความปีติยินดีให้แก่คนสกุลเปาและคนสกุลสวีอย่างมาก เจ็ดวันหลังจากที่เจ้าก้อนแป้งคลอด สวีอี้ฝานก็ได้รับของขวัญที่ถูกส่งมาจากหวางจื่อชางอ๋อง นับตั้งแต่ที่เขาจากไปท่องยุทธภพ นางก็ไม่ได้พบเจอกับเขาอีกเลย เปาอี้ส่วงจัดการเปิดห่อของขวัญอย่างระมัดระวังพบว่ามันคือป้ายหยกสลักลวดลายมงคลหาใช่สิ่งของที่ใช้เกี้ยวสตรีอย่างที่เขานึกกลัวจึงค่อยโล่งใจไปบ้าง แม้ตัวของหวางจื่อชางอ๋องจะจากไป แต่เปาอี้ส่วงรู้ว่าอย่างไรเสียคนผู้นั้นไม่มีทางตัดใจจากสวีอี้ฝานได้โดยง่าย เขาจึงยังมีความหวาดระแวงเกรงว่าหวางจื่อชางอ๋องจะกลับมาแย่งชิงสวีอี้ฝานไปจากเขาอยู่ ยามนี้เจ้าเด็กแฝดทั้งสองคนอายุได้หนึ่งหนาวแล้ว เป็นเด็กอ้วนท้วนรูปร่างแข็งแรง พวกเขามีชื่อว่าเปาอี้เฉิงและเปาอี้หาน ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งได้เห็นพัฒนาการทางด้านหน้าตาทำให้ได้รู้ว่าเด็กๆทั้งสองคนถอดแบบจากคนเป็นพ่อแม่มาคนละครึ่ง ดูเป็นความแตกต่างที่สร้างสรรค์กันอย่างลงตัว คนที่ดูจะดีใจพอๆกับเปาอี้ส่วงที่เจ้าก้อนแป้งทั้งสองได้ถือกำเนิดขึ้นดูจะไม่พ้นเป็นฮูหยินผู้เฒ่า นับตั้งแต่ตอนที่เด็กๆเกิดมาจนถึงตอนนี้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (2)

    "ว้าย! ฝานฝานขึ้นไปทำอะไรบนนั้นรีบลงมาเถิด เดี๋ยวจะตกลงมานะ อันตรายจริงๆ!""ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะท่านย่า แต่ก่อนข้าเคยขึ้นไปสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ" หญิงสาวตอบอย่างไม่สะทกสะท้านกับท่าทีตกใจของจางเข่อซินยามนี้ความสัมพันธ์ของคนสกุลสวีกับฮูหยินผู้เฒ่าดีขึ้นมาก นับว่าเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่ายามนี้สวีอี้ฝานกำลังตั้งครรภ์ นางรู้สึกดีใจจนร้องไห้ออกมา หากเจ้าก้อนแป้งเกิด นางก็จะกลายเป็นท่านทวด เมื่อนึกถึงเจ้าก้อนกลมที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของคนสกุลเปาส่วนหนึ่งก็ยิ่งรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจ นางมักจะสรรหาของกินอร่อยๆหรือยาบำรุงชั้นเลิศมาให้สวีอี้ฝานอยู่เสมอ ดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะยินดียิ่งกว่าคนเป็นแม่อย่างนางเสียอีก"ตายแล้ว! หนิงเชา ข้าจะทำอย่างไรดี หากฝานฝานตกลงมาหลานข้าคงไม่รอดแน่ โอย" ร่างบางของจางเข่อซินถึงกับซวนเซทำท่าจะล้มลง ยิ่งได้เห็นตอนที่สวีอี้ฝานกระโดดขึ้นเกาะลำต้นไม้ใหญ่สลับต้นกันไปมา นางก็รู้สึกใจสั่นราวกับจะหลุดออกมานอกอก ห่วงทั้งเจ้าก้อนกลมที่อยู่ในท้องและแม่ของเจ้าก้อนกลมที่ดูจะดื้อรั้นมากเหลือเกินทว่าเพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวก็มีสายลมพัดวูบผ่าน

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   ตอนพิเศษ 1 อยากกินของเปรี้ยว (1)

    ยามนี้สวีอี้ฝานตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว หน้าท้องกลมนูนขยายใหญ่ออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ตอนที่ส่องกระจกทองเหลืองนางได้แต่ทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ไม่นึกเลยว่าการตั้งครรภ์ช่างลำบากยากเข็ญยิ่งนัก นอกจากรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากแล้ว เวลาจะเดิน นั่งหรือนอนก็ไม่รวดเร็วเหมือนเมื่อก่อน ดีแต่ว่าเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อาการแพ้ท้องที่มีค่อยๆทุเลาลงไปมากแล้ว จากเดิมที่มักจะคลื่นเหียนเวลาที่ได้กลิ่นอาหาร แต่ตอนนี้นางกลับเจริญอาหารมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ เปาอี้ส่วงจึงสั่งห้ามไม่ให้นางออกไปข้างนอกโดยที่ไม่มีเขาไปด้วย ทุกๆวันสวีอี้ฝานจึงได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ที่จวนสกุลเปาอย่างเบื่อหน่าย ยังดีที่ว่าหลี่อ้ายซีผู้เป็นมารดากับสวีหยางโปผู้เป็นบิดามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมนางอยู่บ่อยๆ "ฮูหยินเจ้าขา ผลไม้มาแล้วเจ้าค่ะ" หลิงหลิงเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ในมือถือถาดใส่อาหารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะกลม สวีอี้ฝานที่นอนเล่นอยู่บนเตียงค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น "หลิงหลิงเอามาให้ข้าที่เตียง" นางเอ่ย หลิงหลิงจึงรีบยกมาให้ตามคำบอก ร่างบางกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง บนตักวางถาดใส่ผลไม้พลางหยิบมันเข้าปาก ทว่ากินไปได้

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทส่งท้าย

    ระหว่างที่สวีอี้ฝานกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาด ประตูห้องที่ปิดสนิทลงในตอนแรกก็ถูกเปิดออก ร่างสูงของเปาอี้ส่วงก้าวเข้ามาร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดขาวของหิมะ"ทุกคนมาทำอะไรที่ห้องของข้าขอรับ" ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงง ก่อนจะรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปหาภรรยา เมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของนาง หัวใจของเขาราวถูกบีบรัดอย่างรุนแรง"ฝานฝานเป็นอะไรไป ใครรังแกเจ้า" เขาถามพลางหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่ากับหนิงเชา"ข้าเปล่านะ" จางเข่อซินรีบส่ายศีรษะไปมา ก่อนจะหันไปพยักเพยิดกับหนิงเชาเดินออกไปจากห้องเพื่อปล่อยให้สามีภรรยาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสวีอี้ฝานปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ มองสามีอย่างงอนๆ เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเขาพลางส่งสายตามองสำรวจทั่วตัว"ท่านพี่ท่องยุทธภพกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ""ท่องยุทธภพอะไรกัน" คิ้วกระบี่ขมวดเข้าหากัน เปาอี้ส่วงถามด้วยความไม่เข้าใจ"ท่านพี่หนีข้ามาจากจวนสกุลสวีเพราะจะออกไปท่องยุทธภพมิใช่หรือเจ้าคะ""ใครบอกเจ้ากัน""หมิงหมิงบอกเจ้าค่ะ"เปาอี้ส่วงได้ยินเช่นนั้น เขาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นด้วยความขบขัน เขาบอกสวีชางหมิงว่าจะไปส่งหวางจื่อชางอ๋องไปท่องเที่ยวทั่วยุทธภพต่างหากไ

  • เมื่อตัวประกอบเช่นข้าเปลี่ยนมารับบทนางรองผู้จืดจาง   บทที่ 34 จะกินเต้าหู้หรือกินข้า​ (2)

    หญิงสาวรับแผ่นกระดาษใบเล็กมาจากสาวใช้ก่อนจะเปิดคลี่ออกอ่าน เนื้อความในจดหมายเปาอี้ส่วงเขียนถึงนางไว้ว่า'ฝานฝาน เจ้าคงเกลียดและผิดหวังในตัวข้ามากที่ข้าไม่เชื่อใจเจ้า ข้าผิดไปแล้วจริงๆ ทว่าข้ารู้ว่าต่อให้ข้ากล่าวคำขอโทษซ้ำๆเจ้าก็คงยากที่จะให้อภัยข้า เดิมทีข้าคิดว่าหากข้าง้องอนเจ้า เจ้าคงจะให้อภัยข้าได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าข้าคิดผิด ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้ารำคาญ ต่อจากนี้ไปข้าจะไม่มากวนใจเจ้าอีก'สวีอวี้ฝานขมวดคิ้วมุ่น "คนบ้า! ข้ารำคาญท่านเสียที่ไหนกัน แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือว่าข้าแกล้งทำเพราะอยากทดสอบความอดทนของท่านเท่านั้น"หญิงสาวรู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เปาอี้ส่วงถอดใจจากนางอย่างง่ายดาย แต่เมื่อเห็นถ้อยคำทิ้งท้ายที่เขาเขียนไว้ในจดหมาย จากความรู้สึกผิดหวังน้อยใจก็เปลี่ยนเป็นตกใจทันที'เจ้าจะอยู่ในความทรงจำของข้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นสวีอี้ฝานหรือมู่ฝาน ข้าก็จะรักเจ้าตลอดไป'สวีอี้ฝานรู้สึกใจหายวาบ นิ่งอึ้งไปหลายวินาที จ้องข้อความในจดหมายตาไม่กะพริบ ทางฝ่ายหลิงหลิงเห็นเจ้านายเงียบไปนางก็รู้สึกใจคอไม่ดีเท่าใดนัก นางสงสารฮูหยินเหลือเกิน อีกทั้งยังไม่เข้าใจท่านแม่ทัพเปาว่าเหตุใดเขาถึงทอดทิ้งฮู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status