Share

เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑ (๑)

Penulis: Madam Hangover
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-02 00:00:53

จิตใจของนางหญิงผู้นี้ช่างต่ำทราม โสมม แลกักขฬะเหลือเกิน

ภายในใจของพ่อครูคันศรบังเกิดถ้อยคำหยาบโลนต่อสตรีงามเมืองตรงหน้า ท่านรู้จักกับพระยาสิงห์ดี ท่านผู้นั้นเป็นคนมากตัณหามากทรัพย์สมบัติ แลมีชะตาต้องตายตก ตระกูลย่อยยับทันทีที่รับหญิงนางนี้เข้ามาในบ้าน

ชีวิตจักดับสูญ วอดวาย บ้านมิเป็นบ้าน จักทุกข์ระทมเพราะถึงเขามิลงของให้ นางหญิงนี่ก็จะไปกว้านหาหมอครูทำเสน่ห์แลหมอผีประกอบพิธีกรรมฆ่าเมียเอก พรากลูกพรากแม่ด้วยการจากตายอยู่ดี ใจมันริษยาเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เห็นใครได้ดีไปกว่าตนเป็นมิได้

อีนังหญิงอัปปรีย์จัญไร คอยดูเถิด ถ้ามิใช่เพราะพระยาสิงห์เคยมีบุญคุณต่อเขาแล้วละก็... คงมิยอมทนลงไปเกลือกกลั้วกับหญิงใจต่ำพรรค์นี้เป็นเด็ดขาด

เมื่อดวงตาหวานหยาดเยิ้มนั้นช้อนสายตาสบมองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเล็บก้อยในระหว่างที่ทำพิธีทำของเสน่ห์ เขารู้ได้ในทันทีว่าหล่อนมีความต้องการในเรื่องใด แล้วก็เอื้อนเอ่ยออกมาได้ตรงใจความเสียด้วย

“ถ้าหลง จักทำเช่นไร” หญิงสาวแทบตีปีกบิน แสดงสีหน้าเปี่ยมเสน่ห์อย่างปิดไม่มิด หล่อนมันร่านราคะ โสมมมิสมกุลสตรี ทำหน้าตาปานนี้คงจักคิดว่าตนเองกำลังตกเป็นที่รักของเขาอยู่ละสิ

ไม่มีวันเสียหรอก นังหญิงใจหยาบช้า หญิงเช่นนางแค่เพียงผ้าขี่ม้า (ผ้าอนามัย) ใช้แล้วทิ้งยังมิพอ

“เดี๋ยวอีกสามวันข้าก็จักต้องตกเป็นของเจ้าพระยาสิงห์แล้ว”

“...”

“งั้นคืนนี้... พ่อครูซื้อตัวข้าดีหรือไม่เจ้าคะ?”

“งั้นก็ดีเสียสิ” ท่านนิ่งไปชั่วอึดใจ มิได้เสียดายเบี้ยพดหรือกระไร หากแต่เสียดายที่ต้องมาเสพของต่ำก็เท่านั้น ในใจนั้นนึกเหยียดหยันหญิงเช่นนางไม่รู้กี่ถ้อยวาจา “กูซื้อตัวมึงคืนหนึ่ง จนถึงเช้าวันพรุ่ง”

“พ่อครู” เสียงสาวหยาดเยิ้ม ค่อยๆ หมอบคลานอย่างมีจริตไปหาท่านที่นั่งเปลือยอกนุ่งซิ่นอยู่หลังหิ้งบูชาองค์ฤาษีแลของขลังต่างๆ นานา ฝ่ามือเล็กค่อยๆ นาบลงกับท่อนขาแกร่งของพ่อครูคันศร ขยับนวดเป็นจังหวะยั่วเย้าอีกฝ่าย

ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เขามิได้แค่เพียงทานทนต่อพิษสตรีได้ แต่สามารถปลุกกำหนัดให้ตนเองทั้งที่มิได้รักมิได้ชอบพอได้ทันใจด้วย ฝ่ามือหนาคว้าหมับที่ข้อแขนเล็ก รั้งให้ไปสู่ห้องนอนลับด้านหลังเรือนไทยใหญ่

ซิ่นลวดลายวิจิตรฉบับล้านนาถูกปลดออกด้วยฝ่ามือของแม่แพรว ดวงหน้าหญิงสาวนั้นแนบอยู่ข้างซอกขาแกร่งของพ่อครู เขาหลุบตาลงมองหยันอย่างนึกเดียดฉันท์ ยิ่งหยันยิ่งขึ้นเมื่อนางประโลมโคมเรียวลิ้นปลุกความผงาดของท่อนจันทน์เขา ดูดเลียซุกไซร้ชโลมกลิ่นกายหญิงชั่วให้คาวโลกีย์

ไร้เสียงครางครวญด้วยความรู้สึกดี เขาเพียงต้องการให้หล่อนรู้ว่าหล่อนเป็นเพียงเบี้ยล่างอันต้อยต่ำ ต้องตกเป็นทาสสวาทของชายอยู่ร่ำไป เหมือนดั่งที่นางคิดจักฆ่าหญิงสาวที่ท่านเคารพรักอย่างเช่นคุณหญิงวาดรัก

“อื้ม... ลึงค์พ่อครูหอมหวานยิ่งนักเจ้าค่ะ” เสียงปรนเปรอสวาทของหญิงชั้นต่ำดังเคล้าคลอเสียงดูดอมฉ่ำน้ำลายของหล่อน พ่อครูแหงนหน้าขึ้นมองขื่อไม้สักด้านบน ด้วยบังเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้น ถึงเขาจักครองพรหมจารีย์ ยึดถือศีล ๘ แต่เขาก็ยังคงมีความรู้สึกราวกับปุถุชนธรรมดาทั่วไปเฉกเช่นเดิม ยิ่งอีกฝ่ายปรนเปรอบำเรอได้ช่ำชอง ปลดกำหนัดจนมาถึงจุดหนึ่ง เขาจึงเผลอตัว ปล่อยวารีสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนอุ้งปากบาง

หล่อนเพียงแลบลิ้นเลียขอบปากของตนเองลิ้มชิมรสชาติของน้ำกามรีอย่างยั่วยวน พ่อครูคันศรจดจ้องมองร่างอรชรที่อยู่ต้อยต่ำกว่า ฝ่ามือหนากุมปลายคางมนแน่นขนัดจนหล่อนเบ้หน้าอย่างรู้สึกเจ็บ ปลดดอกลำดวนช่อหนึ่งที่กลัดบนมวยผมสวยออกจนเส้นผมยาวสยายระจนถึงสะโพกผาย

เขาขยับเข้ามาชิดอีกนิด พร้อมกับกัดฟันกระซิบชิดกลีบปากนวลของหล่อนที่หยัดยิ้มหวานยั่ว

“กูจักมิปรนเปรอกระไรให้มึงทั้งนั้น แม้กระทั่งการสอดปากเข้าดูดดื่ม จงวางใจเถิด จักมิมีทางสาวไส้มาถึงตัวมึง ว่ากูกับมึงได้เสียกันก่อนวันที่พระยาสิงห์จักมาไถ่ตัว”

“...”

“ส่วนค่าของ... จงจ่ายด้วยเรือนกายของมึงเสีย”

ฝ่ามือหนาที่กำรอบลำคอขาวผ่องนั้นบีบแน่นขึ้นทุกชั่ววินาที สะสมความคั่งแค้นที่มีลงสู่ผิวกายขาวละออ แต่หญิงสาวกลับกดรอยยิ้มชั่ว หล่อนชอบรสรักที่รุนแรง เพราะอีกฝ่ายเป็นชายที่หญิงเกือบค่อนพระนครต่างหมายปอง แม้ว่าเขาจักมีท่าทีปฎิเสธผู้หญิงทุกคนที่เข้าหา และใช้ชีวิตอยู่กลางป่าไพรก็ตาม

เหมาะสมกับหญิงที่ชำนาญกับป่าอย่างเธอนัก

บัดนี้อีแพรวคนนี้กำลังจะได้ขึ้นครูแล้วสิหนา

มิจำเป็นต้องจูบ มิจำเป็นต้องกอด มิจำเป็นต้องเล้าโลมหรือกระทำการใด อีแพรวก็จักขึ้นทำเองทุกอย่างเลย รูปงามขนาดนี้ แถมยังเสน่หาหล่อนอย่างเหลือร้ายจนยอมให้แลกเรือนกายแทนค่าครู

“มิจำเป็นต้องแลกศักดิ์ศรีของพ่อครูดอกเจ้าค่ะ... เพียงแค่ยอมให้ข้าตกเป็นของท่าน ก็เหลือบุญคุณเต็มที” หล่อนเอ่ยวาจาไร้ยางอายออกมา แค่เพียงได้ขึ้นครู นางยอมทุกอย่าง อย่างไรสุดท้ายก็จะได้อำนาจเงินตราสมปรารถนาในวันสองวันอยู่แล้ว

สิ้นประโยคนั้น พ่อครูคันศรจึงผลักร่างอรชรลงจนแผ่นหลังขาวใสไร้สิวฝ้าแนบกับพื้นไม้เย็นเฉียบ ฉีกซิ่นงามราคาถูกจนขาดวิ่น จับนางแยกแข้งแหกขา สอดใส่ลึงค์ใหญ่โตที่กำลังแข็งชูคอเต็มที่เข้าสู่ช่องพรหมจารีย์ของหญิงสาว หากแต่เยื่อบางเช่นนั้นสำหรับหญิงงามเมืองเช่นนี้คงขาดสลายไม่มีชิ้นดีไปนานแล้ว

เรือนกายสองร่างบดเบียดเสียดสีไปด้วยราคะสวาทจนพื้นไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด แต่พ่อครูคันศรกลับมีสีหน้าบึ้งตึงตลอดกิจกรรมนั้น แม้ตัณหาจะพัดโหมกระหน่ำ แต่ทว่าใจของท่านยังชัดแจ้งว่าเกลียดชังหญิงแพศยาคนนี้มากแค่ไหน

กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ดวงวิญญาณแม่แพรวกลับถูกสวมรอยเข้าร่างด้วยวิญญาณสาวยุคปัจจุบันอย่างแพรวพราว อดีตนางร้ายอันดับท็อปต้นๆ ของประเทศไทยในยุคสมัยใหม่ ดวงตาสีรวงข้าวลืมตาโพลงขึ้นมา รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน ลมด้านนอกพัดแรงจนเกิดเสียงต้นไม้ไหวโบก

หล่อนโกยลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ราวกับตายแล้วเกิดใหม่ก็ไม่ปาน

ไม่ได้ตายจริงๆ สินะ ภาพที่หล่อนตกสลิงลงมาเสียชีวิตคงเป็นเพียงแค่ความฝัน และตอนนี้เธอกำลังเริงสวาทกับนับสิบอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นแสนคุ้นเคย แพรวพราวแหงนคอขึ้นประกบริมฝีปากจูบพ่อครูคันศรทันทีจนเขาลืมตาโต เอวสอบกระแทกกระทั้นลึกขึ้น ในขณะที่หญิงสาวสะคราญน่าชิงชังนั้นโอบรอบคอแกร่งท่านไว้แล้วแอ่นสะโพกสวนกลับ

“อื้มมม แฮ่ก สิบ... แรงอีกสิคะ” เสียงหวามกระซิบยั่วเมื่อผละกลีบปากออกมาจากชายหนุ่ม พ่อครูคันศรไม่นึกแปลกใจที่หล่อนจักพลั้งเผลอโพล่งชื่อชายใดที่เคยซื้อตัวออกมา มันคือการปรนเปรอที่ผิดพลาดตามประสาโสเภณี เขามองเหยียดหยัน แต่นั่นกลับทำให้แพรวพราวในร่างใหม่นั้นขบริมฝีปากตนเองอย่างเร่าร้อน

นับสิบซาดิสต์ขึ้น การมองหยันหล่อนเช่นนั้น ทั้งที่ปกติใครๆ ต่างก็เชิดชูแพรวพราวมากมาย นี่มันเร้าใจเป็นบ้า ที่เธอยอมคั่วกับนับสิบ เพราะลีลาของเขาเวลาอยู่บนเตียงนั่นต่างกับภาพลักษณ์ที่แสดงต่อสื่อต่างๆ ว่าเป็นผู้ชายลุคอบอุ่นแสนดี

“ร่านสวาทยิ่งนัก” เสียงทุ้มเอียงไปกระซิบข้างหูทำทีเหมือนโลมเล้าด้วยถ้อยคำหยาบโลน เขามิได้ทนุถนอมเรือนกายหล่อนสักเท่าไหร่ กลับกันเขายิ่งรุนแรงใส่อารมณ์เต็มที่จนร่างเล็กอรชรนั้นโคลงเคลงไปมาเหมือนเรือสำเภายามถูกคลื่นยักษ์ถาโถมจนเรือใกล้ล่มพร้อมจมลงสู้ก้นมหาสมุทร

ทำไมน้องสิบถึงใช้ภาษาโบราณแบบนั้น?

เปลี่ยนบรรยากาศเหรอ ก็ดีเหมือนกันนะ

“สิบชอบหรือเปล่าละ?” อีกฝ่ายว่าพลางเอื้อมมือมากุมแก้มสาก หล่อนช้อนสายตาขึ้นยั่วยวน พ่อครูคันศรหรี่ตาลงมอง แผ่นอกอวบนั้นถูกฝ่ามือหนากอบกุมขยำจนหล่อนครางเสียดเสียวแทนคำตอบ พ่อครูกดปลายนิ้วลงกับเม็ดบัวสีเข้ม บดบี้อย่างรุนแรงด้วยปลายนิ้วชี้แลนิ้วโป้ง ขยี้สุดแรงจนแพรวพราวชูชัน

“อื้มมม ขอร้อง กระแทกพี่แรงๆ เลยได้ไหมคะ?” หล่อนช้อนสายตาขึ้นเว้าวอน ท่าทางเหลือร้ายแบบมีจริตนั้นทำให้นึกแปลกใจขึ้นมาครามครัน

พ่อครูคันศรชะงักงัน เพราะเท่าที่ได้ยินเขาล่ำลือมา อีแพรวนั้นเป็นลูกสาวบ่าวไพร่ที่ขายลูกไถ่หนี้มาเป็นหญิงงามเมืองในโรงนครโสเภณีที่มีนายโรงทองพัน มหาเศรษฐีที่เป็นนายโรงใหญ่ในพระนครดูแลอยู่ หญิงงามเมืองในที่ของเขาว่ากันว่ามีแต่สาวงามทั้งนั้น อีแพรวเป็นหนึ่งในหญิงที่มีชายจ้องรอจับจองซื้อตัวมากที่สุด แต่มักทนสันดานนางผู้นี้ไม่ไหว ไหนจักของดำที่นางเคยใช้ทำร้ายเมียของพวกเขาจนจับไข้ป่วยหนัก ไปจนถึงแรงริษยาต้องการเป็นหนึ่ง จนกระทั่งพระยาสิงห์หลงใหลจนยอมแม้กระทั้งไถ่ตัวนางผู้นี้ไปเป็นอนุภรรยา เล่าลือกันว่าเวลามีสัมพันธ์สวาท หล่อนจะยั่วยวนทุกหนทางที่มี ไม่มีวันนอนรอออกคำสั่งชายใดให้กระแทกเรือนกายแรงๆ แบบนี้แน่ แม้สุดท้ายผู้ชายพวกนั้นจะกลายเป็นศพลอยอืดมาตามคลองก็เถอะ

ถือเป็นเวรเป็นกรรมของคนที่ได้มันเป็นเมียแท้ๆ

กู... พ่อครูคันศรผู้นี้จักสะกดวิญญาณชั่วช้า รวมถึงจิตสำนึกริษยาโสมมของนางผู้นี้ให้อยู่หมัดเอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี ปัจฉิมบท

    เมื่อสุดท้ายเขาต้องจากกับเธอ ทั้งความตายที่เคยเป็นคำสาปแช่งที่มาจากอคติ ทั้งความรู้สึกชิงชังในวันนั้น ที่ในวันนี้มันกลายเป็นเพียงคำหลอกลวง เพราะเขานั้นหลงรักอีแพรวตั้งแต่แรกเจอแรกเริ่มอาจจะเป็นเพราะดวงหน้าที่คล้ายคลึงกับดอกรัก จนรู้สึกไปเองว่านั่นอาจเป็นความชิงชังที่ดูคล้ายกับยาพิษอันหอมหวาน ความรู้สึกในตอนที่ร่วมรักกับเธอ นั่นราวกับการมอบพรหมจรรย์ให้กับโอกาสสุดท้ายที่ก้าวเข้ามา ไม่ว่าหล่อนจะเป็นใครแปลงกายมากันแน่ทุกวันเขาบอกตนเองว่า ดอกรักไม่มีจริง คนที่คล้ายคลึงกับดอกรักเองก็ไม่มีจริงเช่นเดียวกัน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านั้น ไม่ใช่ดอกรัก เธอเป็นเพียงสัตว์ประหลาด ที่หน้าตาคล้ายกับคนอัครที่เขาเคยรักเท่านั้นการปฏิบัติตัวที่ผ่านมากับแพรวพราวนั้น ราวกับเป็นการชดเชยในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำกับดอกรักมาโดยตลอด ที่เธอเคยปฏิเสธเขา ที่เธอทำท่ารังเกียจรังงอนเขา ที่เธอไม่แม้แต่จะมอบดวงใจให้เป็นของเขา เขาใช้ความรู้สึกน่ารังเกียจด้านมืดเหล่านี้ ส่งต่อให้กับแพรวพราวซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไร ในเรื่องราว ระหว่างเขา และอดีตคนที่เขาแอบรักมาโดยตลอดเลยสักนิดแต่เมื่อรู้ว่าหล่อนไม่ใช่มนุษย์ อคตินั้นยิ่งบ

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๖) จบตอน

    “แพรว ข้า...” ฝ่ามือหยาบหนานั้นกำหมัดแน่นจนสั่นเทิ้ม เขาแค้นใจและนึกอาฆาตเธอมาตลอดทั้งเรื่องราว แต่ทันทีที่เธอยอมรับความคิดนั้นของเขาและยอมที่จะตายโดยไม่มีข้อแม้ เขากลับรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ “ข้า... ไม่กล้าพอที่จักฆ่าเจ้า ข้าจึงใช้สังวรีราพณ์เป็นข้ออ้างเท่านั้น”“แล้วมันต่างกันตรงไหน?”“วันนี้ข้ารู้แล้วว่าเจ้าคือสิ่งสำคัญ ข้าไม่ได้อยากขอโอกาสจากเจ้า ข้ารู้ว่ากำลังถูกหลอกใช้ แต่ข้า... กลับใช้สิ่งนั้นเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงเพื่อที่จะกำจัดเจ้า เจ้าจักไปจากข้าก็ได้ แต่ขออย่างเดียวให้ข้าได้แก้ไขในสิ่งที่ข้าเคยทำผิดพลาดไปด้วยเถิด” พ่อหมอไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของตนเองอย่างถ่องแท้หรอก เขาก็แค่กลัวว่าจะเสียเธอไปทั้งอย่างนี้เท่านั้น เพราะความรู้สึกในตอนที่เห็นว่าไม่มีเธออยู่ตรงนั้น และห้องอันว่างเปล่านั่นทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าตอนที่ดอกรักตายจากไปในอ้อมแขนของเขาเสียอีกอาจจะเพราะหล่อนหน้าตาคล้ายกับเมียที่ตายจากไปแล้วก็ได้ ผู้หญิงที่เขาจะไม่มีวันได้ครอบครอง ผู้หญิงที่ทั้งหัวใจมีเพียงแค่พรานสมิงเท่านั้น ผู้หญิงที่แม้แต่ลูกที่เขาเฝ้าดูแล ยังไม่ใช่ลูกที่เกิดมาจากเลือดเนื้อของเขาด้วยซ้ำเขาทำลา

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๕)

    คำพูดของพรานสมิงทำให้แพรวพราวได้ฉุกคิด ที่ผ่านมาเธออาจไม่อยากยอมรับความจริงที่ว่าที่เธอรักนับสิบ และคิดว่าเขาคือคนที่อยู่เคียงข้างเธอ แสนดีกับเธอมาโดยตลอด อาจจะเป็นความรู้สึกถึงชัยชนะที่เธอมีต่อฟ้าลดา ผู้หญิงที่เป็นที่ต้องการของแม่มากกว่าเธอ เมื่อเธอตั้งท้องและคันศรไม่ต้องการกัน ทำให้แพรวพราวรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธอีกครั้ง เธอเสียใจ และเมื่อเขาพาวาดรักเข้ามา เธอจึงรู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำตัวตนของตนเองจนลบเลือนหายไปที่บอกว่าการไม่มีแม่ก็ไม่เห็นเป็นไรที่จริงแล้วเธออาจจะโกหกตัวเอง การที่เธอบอกว่าเธอรักนับสิบอาจจะเพราะว่ามันคือชัยชนะที่โหยหามาโดยตลอด กับผู้ชายที่ฟ้าลดาหลงรัก แพรวพราวไม่มีวันลืมวันที่เธอก้าวเข้าหาเขา เพราะว่าข่าวลือที่ฟ้าลดาคนนั้นชอบพอกับคนในวงการเดียวกันที่เล่นละครด้วยกันเป็นคู่พระนางตลอดมาเหมือนที่ฟ้าลดาเป็นที่ต้องการของแม่มากกว่าเธอผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด เธอไม่รู้เรื่องราวการมีอยู่ระหว่าง DNA ของแม่กับแพรวพราวด้วยซ้ำ นับสิบเองก็ไม่ได้ผิดที่หลงรักเธอ มันก็แค่ความเห็นแก่ตัว และต้องการเรียกร้องความรักจากแม่ของเธอเท่านั้นมันก็แค่ความอิจฉาที่น่ารังเกียจของเธอเอง... ค

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๔)

    “นึกสงสัยขึ้นมาได้แล้วหรือแม่หญิงของข้า?”แต่ทว่าในขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง ท่ามกลางร่างใหญ่มหึมาของกานพลูนั้นปรากฏร่างของชายผู้หนึ่งโผล่ตัวขึ้นมาเหนือกายยักษ์ของช้างเชือกนั้น“... พรานสมิง” แพรวพราวยอมรับตามตรงว่าตกใจ ก็ไหนว่าเขาหนีหายออกไปแล้วยังไงล่ะ เพราะว่ารับไม่ได้ที่เธอตั้งท้องกับคันศร หรือว่าผัวเธอโป้ปดกันอีกแล้ว?“คิดถึงข้าหรือไม่” เขาไถ่ถาม โดยไม่ดูสถานการณ์ว่าหล่อนกำลังเข้าตาจนอยู่เลยสักนิด“นะ... ไหนพี่ศรบอกว่านายหนีไปแล้ว?”“ข้าแค่แวะไปหาลูกเท่านั้นแล” ชายหนุ่มทำได้แค่เพียงยักไหล่ปัดป้องและบอกความเป็นจริง “โดนทิ้งมาอีกแล้วสินะ”หากแต่ประโยคต่อมากลับทำให้เธอรู้สึกเจ็บที่หัวใจดวงน้อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง หรือจะยอมรับว่ามันไม่ใช่ก็ได้ เพราะเธอเป็นคนตัดสินใจหนีออกมาด้วยตัวเองต่างหาก… แต่นั่นก็เพราะว่าคนๆ นั้นแสดงออกว่าไม่ต้องการกันแล้วไม่ใช่หรือยังไง ก็เลยเจ็บใจเหมือนโดนแทงใจดำกันอย่างช่วยไม่ได้“พูดบ้าๆ ฉันต่างหากที่อุ้มท้องหนีออกมาเพราะเขาพาคุณวาดรักกลับมาที่เรือนนั่น” หญิงสาวคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องโกหกผู้ชายตรงหน้าหรอก เขาเห็นสภาพน่าสมเพชน

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๓)

    อยู่ดีๆ เมื่อรู้ว่าหล่อนได้หนีหายออกไปหลังจากที่เขาได้พาวาดรักกลับมาและปลดแอกทุกอย่าง คันศรที่เคยมั่นอกมั่นใจว่าเขาเกลียดชังหล่อนเหลือเกิน และต้องการจะฆ่าหล่อนมากที่สุด กลับรู้สึกเจ็บปวดกับการที่ไม่มีเธออยู่ในห้อง และได้รับรู้ว่าเธอหนีออกไปแล้วเพราะทนอยู่ร่วมกันไม่ได้อีกต่อไป การตามหาเธออาจจะยากเย็นเพราะว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ แถมยังเป็นอสุรกายในตำนานอีกต่างหาก ยิ่งอีกฝ่ายต้องการจะหนีหน้าเขาด้วยแล้ว คงสามารถลบกลิ่นอายของเดรัจฉานได้จนไม่เหลือร่องรอยเป็นแน่ทำไมเขาถึงได้เพิ่งมารู้สึกตัวเอาป่านนี้?ทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกได้ว่าเธอและลูกสำคัญกับเขาเพียงไหน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าลูกในท้องนั้นอาจจะไม่ใช่เด็กคนหนึ่ง แต่จะเป็นยาพิษเสียด้วยซ้ำ“ภูติผีทุกตนที่กูมีอยู่ในขณะนี้ จงออกไปตามหานางแลพานางกลับมาหากูให้ได้ ไม่ว่าจะเจอนางในสภาพไหน ก็จงบอกนางว่ากู...” ท้ายประโยคเขากลืนน้ำลายเพียงอึกเดียวด้วยความยากเย็นที่จะกล้าก้าวผ่านทิฐิที่สูงเสียดฟ้า เผลอลืมตัวไปว่าเคยพูดว่าเกลียดเธอขนาดไหน ก่อนที่จะกลั้นใจโพล่งขึ้นประกาศิตออกมา “ต้องการนาง”เงามืดจำนวนมากหลุดพ้นออกไปจากเขตอาคมของเขา และออกตามหาหญิงสาวที่เ

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๒)

    “อย่างไรลูกก็รู้สึกไม่ดีเจ้าค่ะ ที่ราวกับว่าจะเข้ามาคั่นกลางระหว่างพ่อกับเมียของท่านเช่นนี้”วาดรักโพล่งขึ้นมาหลังจากที่คันศรเข้ามาดูแลเธอด้วยการนวดปลายนิ้วเท้าที่ชาวางลงกับขันรองน้ำอุ่น คอยนวดส่วนไม่งามและอาจผิดครูให้ลูกที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนทั้งที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำแน่นอนว่าเขาเองไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ถึงเข้ามาทำเช่นนี้โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หลังเห็นว่าลูกสาวที่พากลับมาที่บ้านกำลังพยายามนวดปลายนิ้วเท้าของตนเอง อาการชาน่าจะมาจากท้องที่ใหญ่โตเกินร่างกายไปกระมังแม้นิสัยจะไม่ใช่คนที่มีความละเอียดอ่อนอะไรนัก แต่เขาเองก็พอเคยดูแลเมียท้องแก่ที่ไม่ได้รักเขาเลยอยู่บ้าง จะให้มาดูแลลูกเลี้ยงที่ไม่มีแม้แต่เลือดเนื้อของตนเองเลยอีกก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ก็แค่... อาจเพราะว่าดวงของเขาดึงดูดมาแต่คนที่ไม่ได้เป็นของตัวเองมาทั้งชีวิตก็ได้ล่ะมั้งหากแต่สิ่งเดียวที่ชัดเจนในวันนี้... คือหลังจากที่วาดรักได้กลับมาที่นี่ ความรู้สึกสงบในจิตใจจึงได้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง อาจเพราะได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นชีวิตที่ผ่านมาจึงปั่นป่วนรวนเร ทั้งความรู้สึกแย่ๆ จิตใจอันคิดลบและความฟุ้งซ่านเกี่ยวกับอดีตที่เลวร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status