LOGINเมื่อชีวิตคู่ถึงจุดอิ่มตัว ย่อมมีใครบางคนที่อยากเดินออกไปจากความสัมพันธ์...
View Moreเมื่อชีวิตคู่มาถึงจุดอิ่มตัว ย่อมมีใครบางคนที่อยากเดินออกไปจากความสัมพันธ์...
พริมากำแท่งลิปสติกสีแดงเพลิงไว้แน่น เธอเจอมันในรถของสามีโดยบังเอิญ ไม่ใช่ของเธอ
แล้วใครที่เป็นเจ้าของ?
กายบางนั่งนิ่งเหมือนหุ่น ทว่าจิตใจกับว้าวุ่น ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตาคู่งามปรากฏแววสั่นไหว หายใจเข้าออกคร่อมจังหวะ
เมื่อคืน เธอเข้านอนก่อนสามี เขากลับมาถึงบ้านตอนไหนก็ยังไม่รู้ รู้อีกทีก็เช้าและเขาก็นอนอยู่บนเตียงข้างกายเธอแล้ว
“นี่มันอะไรคะ?”
เงยหน้าขึ้นนิด ช้อนตาขึ้นสบกับนัยน์ตาสีนิลราบเรียบ ไร้ความรู้สึกใด ๆ เผยให้เห็น
“ลิปสติก”
เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความสะทกสะท้านใด ๆ ประหนึ่งว่าเคยเห็นสิ่งที่เมียยื่นให้ดูอยู่ก่อนแล้ว
“พริกรู้ค่ะว่ามันคือลิปสติก แต่ที่พริกถามเพราะพริกอยากรู้ว่ามันเป็นของใคร”
คนถูกถามระบายลมหายใจอุ่นร้อนผ่านปลายจมูกโด่งพร้อมมองเมียด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย อีกแล้ว...
ต้องหาเรื่องมาชวนทะเลาะอีกแล้วสินะ
“เมื่อคืนพี่ชาญไปไหนมา? พริกไลน์ไป อ่านก็ไม่ตอบ” เมื่อคืนก่อนจะเข้านอน พริมารู้สึกเหนื่อยและเพลีย อาจเพราะว่าโดนฝน เมื่อวานเธอไม่ได้ขับรถไปทำงาน เลือกใช้บริการรถแท็กซี่พลางไปก่อน เพราะเจ้ารถกระป๋องคันเล็ก อยู่ ๆ ก็น็อกจนต้องให้เจ้าของอู่ลากไปทิ้งไว้ที่อู่ จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าชะตากรรมของมันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“ไปดื่มกับไอ้ภัค”
“ไปกับพี่ภัคแค่สองคนเหรอคะ?” พริมาไม่ได้อยากทำตัวงี่เง่า ไม่ได้อยากซักไซ้เรื่องส่วนตัวของชาญชัยมากนัก แต่หลายเดือนมานี้ รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตแต่งงาน
ชาญชัยกลับบ้านผิดเวลา พอถามก็อ้างว่ามีงานด่วนหรือไม่ก็บอกว่าติดลูกค้า แรก ๆ เธอก็เชื่ออย่างสนิทใจ แต่หลายครั้งเข้า เขาก็ยังอ้างเหตุผลเดิม ๆ
มันผิดปกติเกินไป
“พริกจะอะไรกับพี่นักหนา พี่จะดื่มกับไอ้ภัคหรือจะดื่มกับคนอื่น มันก็คือดื่มอยู่ดี” ชาญชัยพูดเสียงเข้มขึ้น ใบหน้าฉายชัดว่ากำลังรู้สึกไม่พอใจที่ถูกพริมาซักไซ้ ถึงจะแต่งงานกันแล้ว แต่เขาก็ยังอยากเหลือพื้นที่ส่วนตัวบ้าง
“ถ้าดื่มกับพี่ภัค พริกไม่ว่าหรอกค่ะ แต่พริกแค่อยากรู้ว่านอกจากพี่ภัคแล้วมีใครอีกไหม แล้วไอ้ลิปนี่ก็คงไม่ใช่ของพี่ภัคหรอกมั้งคะ”
“ไม่ใช่”
“แล้วเป็นของใครคะ?”
“ของอุ๋ย”
“ไหนบอกว่าเลิกติดต่อกันแล้ว นี่พี่ชาญโกหกพริกเหรอ?” ได้ยินชื่อเจ้าของแท่งลิปสติก พริมาก็อารมณ์ปรี๊ดขึ้นมาทันที
อรอุมาอดีตคนรักของสามี
“เจอกันโดยบังเอิญ”
ไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้นัดเจอกับอรอุมาใด ๆ ทั้งนั้น บังเอิญไปเจอกันที่ร้านเหล้า เขาเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอกับอดีตคนเคยรักด้วยซ้ำ
ถ้าไม่เพราะภพภัคชวนอรอุมาให้มานั่งร่วมโต๊ะ เขาก็คงไม่มีโอกาสได้กลับไปคุย
“พริกไม่เชื่อ!” ก่อนที่ชาญชัยจะคบกับเธอ เขากับอรอุมาก็เคยรักกันมากมาก่อน ถ้าผู้หญิงไม่ทิ้งไปแต่งงานกับคนรวย ทิ้งชาญชัยเหมือนหมูเหมือนหมา ป่านนี้คนทั้งคู่ก็อาจจะแต่งงานกันไปแล้ว
“ไม่เชื่อก็แล้วแต่พริก พี่ขี้เกียจอธิบายแล้ว”
“ทำไมถึงทำกับพริกแบบนี้” พริมาไม่เชื่อว่าชาญชัยจะเจอกับอรอุมาโดยบังเอิญ เลิกติดต่อกันไปตั้งหลายปี ใครจะบังเอิญมาเจอกันง่าย ๆ แบบนี้ ละครชัด ๆ “พี่ชาญไม่เคยลืมพี่อุ๋ยเลยใช่ไหม ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่อุ๋ยทำอะไรกับพี่บ้าง เขาทิ้งพี่ไปแต่งงานกับคนอื่นนะ!”
“อย่าทำตัวงี่เง่าได้ไหมพริก”
ชาญชัยจับต้นแขนทั้งสองข้างของพริมาเขย่าอย่างแรงเพื่อเรียกสติ เขาเคยเป็นแฟนกับอรอุมาก็จริง แต่หลังจากที่เลิกรากันก็ตัดขาดการติดต่อกันทุกช่องทาง ใครจะอยากไปคิดถึงผู้หญิงที่ทิ้งไปแต่งงานกับคนที่รวยกว่า
“ไม่ต้องมาว่าพริก ที่พริกเป็นแบบนี้ก็เพราะ พี่ชาญ พี่ชาญเปลี่ยนไป พี่ชาญไม่เหมือนเดิม”
พริมามั่นใจแล้วว่าหลายเดือนมานี้เหตุผลที่ทำให้ชาญชัยเปลี่ยนไปต้องเป็นอรอุมา ถ่านไฟเก่าที่เคยมอดไหม้คงกลับมาติดไฟกันอีกรอบ
“ไม่ตามไปดูเหรอวะ จะตบกันในห้องน้ำไหมนั่น” สถานการณ์ตอนนี้ดูไม่น่าไว้ใจนัก ดูออกว่าอรอุมากำลังโกรธ คงโกรธที่เพื่อนไม่สนใจและโกรธที่เจอศัตรูหัวใจตัวฉกาจ“ไปทำไม มึงก็รู้ว่าพริกเอาอยู่” ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มดับความขุ่นเคืองใจอีกครั้ง ลองถ้าอรอุมาทำอะไรพริมา เขาไม่ปล่อยไปง่าย ๆแน่“อุ๋ย แม่งน่ากลัววะ ทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์[1] ไปได้ ระวังตัวไว้บ้างนะ ใครจะบังเอิญมาเจอกันร้านเหล้า 3 ครั้งติดวะ บอกเมียมึงให้ระวังตัวไว้ด้วย ถ้าอุ๋ยบ้าขึ้นมาจะยุ่ง” ลำพังชาญชัยเขาไม่ห่วงอะไรมากนักหรอก พริมาสิ กลัวว่าถ้าอรอุมาเกิดอยากได้ชาญชัยคืนแล้วคิดทำเรื่องไม่ดีกับเมียเพื่อนขึ้นมาทำธุระส่วนตัวเสร็จพอออกมาก็เห็นอรอุมายืนกอดอกพิงหลังอยู่ที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าด้วยใบหน้าที่แสดงชัดว่าไม่เป็นมิตรถอดหน้ากากออกแล้วสินะ“น้องพริกนี่ก็ปากดีเหมือนกันนะ”“ไม่ตอแหลแล้วเหรอคะ อ่อ พริกลืมไป ไม่ได้อยู่ต่อหน้าพี่ชาญ พี่อุ๋ยเลยไม่ต้องแอ๊บ”อยากเป็นศัตรูกับเธอก่อน ดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับ วิน ๆ“ตอนที่เป็นแฟนกับชาญ ชาญรักพี่มากนะ”“พริกรู้ค่ะ พี่ชาญเคยบอก” พริมาเปิดก๊อกน้ำบนอ่างแล้วล้างมืออย่างใจเย็นพลางสบตากับอรอุมาที่ยืน
“ทำไมเราบังเอิญเจอกันบ่อยจังเลยเนาะอุ๋ย”ภพภัคเปิดก่อนได้เปรียบ เพราะรู้ว่าอรอุมาต้องพูดคำว่า ‘บังเอิญ’ แบบไม่บังเอิญออกมาแน่“เบื่อ ไม่อยากอยู่ห้อง ขอนั่งด้วยได้ไหม ?”“เอาสิ นั่งเลย เก้าอี้ยังว่าง” ภพภัคผายมือเชิญให้อรอุมานั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ข้างตัวพอก้นแตะเก้าอี้ อรอุมาก็ส่งยิ้มให้ชาญชัยแล้วก็หุบยิ้มเมื่อเห็นว่ามือของอดีตคนรักกุมมือของหญิงสาวที่นั่งอยู่เก้าอี้ติดกัน“คนนี่ไงน้องพริก เมียไอ้ชาญ น่ารักไหมอุ๋ย ?”อรอุมาหน้าชาไปชั่วขณะหนึ่ง แต่แค่ครู่เดียวรอยยิ้มก็เข้ามาแทนที่ เมียของชาญชัย“น่ารักสิ ตัวนิดเดียว ขาวจั๊วะเลย นึกว่าชาญชอบคนผิวสองสีซะอีก” พอเหน็บแนมด้วยคำพูดและสายตาไปแล้ว อรอุมาก็แสร้งยิ้มอย่างไร้เดียงสา แม้ว่าภายในใจกำลังเดือดเหมือนน้ำต้ม “พี่อุ๋ยนะคะ ไม่รู้ว่าพี่ชาญเคยเล่าเรื่องพี่ให้น้องพริกฟังบ้างรึเปล่า”“สวัสดีค่ะพี่อุ๋ย ตัวจริงสวยจังเลยค่ะ ดีใจที่ได้เจอพี่อุ๋ยนะคะ พี่ชาญกับพี่ภัคเคยเล่าให้ฟังอยู่ค่ะว่าพี่อุ๋ยเป็นแฟนเก่าพี่ชาญ” ตอแหลมาตอแหลกลับ ไม่โกง รู้จักคนอย่างพริมาน้อยไปเสียแล้ว เคยเป็นคนที่ชาญชัยรักมาแล้วอย่างไร อดีตก็คืออดีต จะเข้ามาแทนที่คนปัจจุบันไม่ได้
“พี่ภัค คิดถึงจังเลยค่ะ”“ว่าไงครับ น้องพริกคนสวยของพี่ นึกยังไงให้ผัวชวนพี่มาดื่ม” ภพภัคยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ในหน้าพลางเอื้อมมือไปขยี้ที่ศีรษะของพริมาด้วยความเอ็นดูด้วยความที่เมียเพื่อนอายุน้อยกว่าเป็นรอบ ภพภัคก็เอ็นดูและรักเหมือนน้องสาว“คิดถึงน่ะค่ะ ไม่เจอพี่ภัคหลายเดือนแล้ว”อมยิ้มจนแก้มป่องพลางเสตามองไปยังสามีที่นั่งส่ายหน้าด้วยความหมั่นไส้กับความสนิทสนมของเมียกับเพื่อนเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย น้องว่าดีพี่ก็ว่าดี“แค่คิดถึงจริงอะ” ภพภัคถามอย่างรู้ทัน เพราะสนิทกันมาหลายปี แม้ไม่ได้เจอกันบ่อย แต่ถ้าได้เจอกันทุกครั้ง ก็พูดคุย เฮฮากันได้ทุกเรื่องประหนึ่งว่าสนิทกันมานานหลายสิบปี“มาจับแมวค่ะ แมวขโมย” กระซิบกระซาบเล่นเสียงเหมือนเด็กจนภพภัคหัวเราะขำเสียงดังนั่นไง คิดไว้แล้วเชียว ว่าต้องมีจุดประสงค์“แมวตัวเขื่องด้วย ร้ายด้วยนะแมวตัวนี้”“มือเดียวเอาอยู่ไหมคะพี่ภัค” ยกมือข้างขวาขึ้นพลางมองหน้าเพื่อนสามีอย่างจริงจัง“ไม่น่าอยู่ ต้องสองมือแหละ คนละรุ่นเลย”อรอุมาตัวสูงใหญ่กว่าพริมาเยอะ ถ้าสู้กันตัวต่อตัว คาดว่าพริมาน่าจะล้มแมวตัวนี้ยาก คงต้องใช้ตัวช่วยใกล้ ๆตัว ถึงจะเอาลงได้“พอได้แล้วไอ้
พริมาตื่นก่อนสามี พอเข้ามาในห้องน้ำก็เห็นชุดนอนของตัวเองและชุดทำงานของเขาถูกทิ้งอยู่ในห้องน้ำตั้งแต่เมื่อคืน ก้มไปหยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นพลันก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างรอยลิปสติกสีแดงอีกแล้ว...ฝีมืออรอุมาอีกแล้วสินะมือขาวเล็กกำเสื้อเอาไว้แน่น โกรธจนหายใจผิดจังหวะ หัวใจเต้นโครมคราม หวิวเนื้อหวิวตัวเธอจะโกรธไม่ได้ชาญชัยบอกแล้วว่าไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบเหมือนในวันวาน แล้วทำไมต้องเสียเวลา เสียสุขภาพจิตกับเรื่องบ้า ๆนี้ด้วยขยุ้มเสื้อเชิ้ตแล้วโยนทิ้งลงในตะกร้า ใจร้อนรุ่ม อยากเดินไปกระชากคอคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงมาถามเอาความจริงให้มันรู้แจ้งเห็นชัดแต่จะไม่ทำแบบนั้นเมื่อคืนทุกอย่างมันดีแล้ว เธอมีความสุข ชาญชัยมีความสุข แค่นี้พอพริมาทิ้งความว้าวุ่นใจไว้ชั่วคราวแล้วจัดการกับธุระส่วนตัว วันนี้วันหยุด เธอกับสามีจะมีเวลาได้อยู่ด้วยกันทั้งวันชาญชัยสะดุ้งตื่น ควานหาเมียก็ไม่อยู่บนเตียง กายหนาชันตัวลุกขึ้นนั่ง มองผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่เพราะผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วงมาเมื่อคืนริมฝีปากหนายกยิ้มเห็นหลับสนิทก็นึกว่าจะเพลียจนลุกไม่ขึ้น ที่ไหนได้ ตื่นก่อนเขาเสียอีกลุกออ





