หลังเลิกงานในเย็นวันศุกร์มนัญชญาก็รีบกลับบ้านเพราะวันนี้หญิงสาวมีนัดกับริคาโด้ในเวลาหนึ่งทุ่ม เธอใช้เวลาเลือกชุดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะสวมชุดไหน
วันนี้มนัญชญาเลือกสวมเดรสปาดไหล่สีดำขับผิวขาวให้ดูสว่างมากขึ้น หญิงสาวสวมสร้อยคอเพชรเม็ดเล็กที่ได้รับมาจากบิดามาสวม สร้อยเส้นนี้ถูกเก็บอยู่ในกล่องมานานแต่วันนี้มนัญชญากลับเลือกที่จะสวมมันเพราะอยากแต่งตัวและสวมเครื่องประดับให้เหมาะสมกับสถานที่รวมถึงอยากให้ริคาโด้ประทับใจ
หญิงสาวแต่งตัวเสร็จก่อนเวลานัดถึงครึ่งชั่วโมง เธอถ่ายรูปตนเองหน้ากระจกจากนั้นก็ส่งไปให้เพื่อนสนิทที่ชื่อญาตาวีหรือลูกตาลช่วยวิจารณ์เมื่อเพื่อนของเธอเห็นก็รีบวิดีโอคอลกลับมาทันที
“สวยมากเลยขิม”
“สวยจริงใช่ไหมลูกตาล ขิมไม่มั่นใจเลย”
“ทั้งสวยและดูแพงเลยล่ะ มีนัดสำคัญใช่ไหม” ญาตาวีถามอย่างรู้ทัน
“อือ” มนัญชญาพยักหน้า
“แล้วนัดกับใครล่ะคนพิเศษเหรอ นี่เราไม่ได้คุยกันอาทิตย์เดียวเองขิมแอบไปมีแฟนแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” มนัญชญารีบปฏิเสธ
“ไม่ใช่แฟนแล้วทำไมต้องเขินด้วยล่ะ ลูกตาลเห็นนะว่าขิมหน้าแดง” ญาตาวีแกล้งแซวเพื่อน
“เขินที่ไหนลูกตาลตาฟาดแล้ว”
“ก็เห็นอยู่ว่าขิมกำลังเขิน ลูกตาลว่าขิมเล่าให้ลูกตาลฟังดีกว่านะว่าวันนี้มีนัดจะออกไปไหนกับใคร”
“ก็แค่คนรู้จักน่ะ เขามาขอเรียนพิเศษภาษาไทยกับขิมไม่มีอะไรหรอก” มนัญชญาพูดแล้วก้มหน้าเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเห็นแววตาของเธอที่มันเป็นประกายเวลาพูดถึงริคาโด้
“อย่าปิดลูกตาลเลยนะ เราเพื่อนกันนะเล่าให้ลูกตาลฟังหน่อยนะ”
ญาตาวีเซ้าซี้จนมนัญยอมใจอ่อนเล่าเรื่องริคาโด้มาขอเรียนภาษาไทยกับเธอรวมทั้งเรื่องที่เขาพาเธอออกไปทานอาหารค่ำให้กับเพื่อนฟัง
“ชัดเลยชัวร์มาก”
“ชัวร์อะไรเหรอลูกตาล”
“ก็ชัวร์ว่าเขากำลังตามจีบขิมอยู่นะ อย่าบอกนะว่าไม่รู้”
“ขิมยอมรับก็ได้นะ ว่าพอจะรู้แต่ในเมื่อเขาไม่พูดขิมก็จะคิดว่าเขายังไม่จีบหรอกนะ”
“ขิมชอบเขาใช่ไหมล่ะ” ญาตาวีเห็นท่าทางของเพื่อนก็พอจะเดาออก
“เปล่านะขิมไม่ได้ชอบเขาเลย” มนัญชญารีบปฏิเสธเสียงแข็ง
“แต่ดูจากท่าทางแล้วลูกตาลว่าขิมกำลังชอบเขาอยู่ อย่าคิดจะโกหกเดียวเลยลูกตาลรู้จักขิมมานานถ้าขิมไม่มีใจหรือรู้สึกอะไรกับเขาขิมคงไม่ออกไปไหนมาไหนกับเขาตามลำพังหรอกนะ”
“ก็ขิมไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจ”
“เอาน่าขิมจะไม่ยอมรับก็ได้แต่บอกหน่อยได้ไหม ว่าเขาชื่ออะไรอยู่ที่ไหนทำงานอะไรหล่อหรือเปล่า” ญาตาวีถามออกมารัวๆ หญิงสาวอยากจะรู้ว่าผู้ชายคนไหนที่สามารถแง้มหัวใจเพื่อนคนนี้ของเธอได้
“เขาชื่อริคาโด้น่ะ หน้าตาก็หล่ออยู่นะ ตัวสูงหุ่นดี”
“ต่างชาติเหรอ”
“ใช่เขาเป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีน่ะ”
“ว้าว หนุ่มอิตาลีซะด้วย ลูกตาลอยากเห็นหน้าเขาจัง เขาคงหล่อมากแน่ ถ้างั้นขิมคงไม่สนใจขนาดนี้หรอก ขิมมีรูปเขาไหม ลูกตาลอยากเห็นหน้า”
“ขิมจะมีรูปเขาได้ยังไงล่ะ เราไม่เคยถ่ายรูปคู่กัน”
“งั้นแอบถ่ายรูปมาให้ลูกตาลดูหน่อยได้ไหมล่ะ” ญาตาวีอยากเห็นหน้าว่าที่เพื่อนเขย
“จะบ้าเหรอถ้าเกิดเขารู้ขึ้นมาได้อายเขาตาย”
“เอาจริงๆ นะขิมชอบผู้ชายคนนี้มากเลยใช่มั้ยล่ะ”
“ลูกตาลถามตรงขิมตอบตรงๆ ก็ได้ ขิมรู้สึกดีกับเขานะแต่ก็ไม่กล้าคิดอะไรมากหรอก”
“อ้าวทำไมล่ะ”
“ขิมว่าขิมกับเขาค่อนข้างต่างกันน่ะ ขิมเป็นคนแค่ครูอนุบาลตัวเล็กๆ เองนะส่วนเขามีธุรกิจใหญ่โตตอนอยู่อิตาลีเขาก็เป็นถึงมาเฟีย”
“เป็นมาเฟียเหรอแบบนี้เขาจะโหดหรือเปล่า ลูกตาลเคยได้ยินมาว่ามาเฟียน่ะทั้งโหดทั้งน่ากลัวเลยนะ”
“เรื่องนี้ขิมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เท่าที่ได้คุยกันมาก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกนะ”
“นั่นไงแค่ฟังแบบนี้ลูกตาลก็รู้แล้วว่าขิมกำลังหลงเสน่ห์เขาระวังนะถ้าใกล้ชิดเขามากๆ จะรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นล่ะ อย่าลืมดูให้ดีนะว่าเขามีแฟนอยู่ที่อิตาลีหรือเปล่า”
“ขิมก็กำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ ขิมจะรีบสอนให้เสร็จไวๆ จะได้ไม่ต้องเจอกันอีก ขิมก็กลัวใจตัวเองเหมือนกัน”
“ลูกตาลรู้ว่าขิมยังไม่เคยมีแฟนเพราะที่ผ่านมาขิมก็ตั้งใจเรียนมาตลอดนี่คงเป็นผู้ชายคนแรกใช่ไหมล่ะที่ขิมรู้สึกชอบ”
“ไม่ใช่สักหน่อยตอนเรียนขิมก็แอบชอบรุ่นพี่อยู่หลายคนนะ”
“ชอบแบบนั้นมันต่างกันนะขิมผู้ชายที่ชอบแบบชื่นชมกับผู้ชายที่อยู่ใกล้ชิดแล้วรู้สึกชอบรู้สึกสบายใจ มีความสุขมันต่างกันขิมรู้สึกแบบนั้นกับคุณริคาโด้ใช่ไหม”
“ใช่ขิมยอมรับเลยว่ารู้สึกแบบนั้นกับเขา ถ้าใครได้อยู่ใกล้เขาขิมก็ว่าจะต้องชอบเขาแน่ๆ”
“ถ้าชอบเขาก็อย่าปิดกั้นตัวเองนะ”
“อือ”
“แล้วนี่เขานัดไว้กี่โมงล่ะ”
“ขิมนัดไว้ทุ่มหนึ่ง ขิมขอไปเตรียมตัวเพิ่มอีกนิดนะ”
เมื่อวางสายจากเพื่อนแล้วมนัญชญาก็สำรวจความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจกอีกครั้ง เธอยิ้มให้กระจกด้วยความมั่นใจก่อนจะเดินออกมานั่งรอริคาโด้ที่ห้องรับแขก
พอได้ยินเสียงรถของริคาโด้หญิงสาวก็เดินออกมาหาซึ่งตอนนี้ริคาโด้ก็เปิดประตูรอเธออยู่ก่อนแล้ว
“ขอบคุณค่ะคุณริค คราวหน้าขิมเปิดเองก็ได้นะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”
“มันไม่เป็นการเสียเวลาอะไรเลยครับมันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องทำอยู่แล้ว วันนี้คุณสวยมากนะ” เขาพูดจบก็ปิดประตูให้เธอปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับของตัวเอง
ชายหนุ่มหันมามองหน้าเธอแล้วยิ้มแต่ยังไม่ยอมขับรถออกไปจากหน้าบ้าน
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณริค” มนัญชญามองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย
“ผมคิดว่าวันก่อนที่เรานัดไปทานข้าวที่โรงแรมคุณสวยแล้ว แต่วันนี้คุณสวยกว่าเดิมอีกนะ”
“คุณริคชมขิมแบบนี้ขิมก็เขินแย่สิ”
“ก็ผมพูดความจริงนี่ครับ คุณขิมเป็นคนที่สวยมีเสน่ห์มากๆ” เขาชมแล้วยิ้มตาเป็นประกาย
“อาจจะสวยเพราะเสื้อผ้ากับเครื่องประดับหรือเปล่า”
“ไม่นะของพวกนี้มันก็แค่สิ่งที่ช่วยเสริมให้คุณดูสวยขึ้นแต่คุณขิมเป็นคนที่มีใบหน้าสวยจริงๆ นะครับ”
“คุณริคคะ ขิมว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะค่ะ ตอนนี้ขิมหิวแล้วนะคะ”
มนัญชญาไม่อยากจะให้เขาชมเธออีกเพราะยิ่งเขาชมมากเท่าไหร่มันก็ทำให้ใจเธออ่อนจนแทบละลายมากขึ้นเท่านั้น
“ผมก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกันครับ” ริคาโด้ยิ้มก่อนจะขับรถพาเธอมายังโรงแรม
ครบหนึ่งหกเดือนแล้วที่ริคาโด้ประสบอุบัติเหตุตอนนี้เขากลับมาเดินได้ตามปกติแต่คุณหมอยังไม่อนุญาตให้วิ่งหรือออกแรงขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บมากจนเกินไปวันนี้เป็นโอกาสที่ที่เขาได้มาร่วมงานแต่งงานของน้องชายต่างมารดาที่อิตาลี การมาครั้งนี้นอกจากตัวเอาเองแล้วครอบครัวของเอเลน่ารวมถึงมนัญชญาก็มาร่วมงานแต่งงานด้วยหลังจากงานแต่งงานของน้องชายเสร็จเรียบร้อยแล้วริคาโด้ก็มาคุยกับบิดาและพามนัญชญามากับเขาด้วย“ฉันดีใจจะที่ความรักของนายยังไปได้สวย”“แน่นอนครับ เราสองคนยังรักกันดี”“น้องของแกก็แต่งงานไปแล้ว เมื่อไหร่แกจะแต่งล่ะ”“คงอีกไม่นานหรอกครับพ่อ”“ฉันขอถามเธออีกครั้งและมันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ” อัลแบโต้มองหน้าคนรักของลูกชายด้วยสายตาที่ยังคงเป็นกังวล“ได้ค่ะคุณอัลแบโต้”“เธอจะไม่เปลี่ยนใจจากลูกชายของฉันแน่ใช่ไหม”“แน่ค่ะ คำตอบของฉันก็ยังคงเหมือนเดิม”“พ่อจะถามเพื่ออะไรครับ หรือยังไม่เลิกคิดจะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก”“เรื่องนั้นฉันเลิกคิดไปแล้ว”“พ่อเลิกคิดเองหรือเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งงานกับผมล่ะครับ ผมรู้ว่าเรื่องของผมที่นี่มันไม่เป็นความลับ” ริคาโด้รู้จากคนของเขาว่าโซเฟียเอาเรื่องของเ
ผ่านมาหนึ่งเดือนหลังจากเกิดอุบัติเหตุตอนนี้ริคาโด้ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าซึ่งแต่ก่อนเขาก็เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้แต่พอน้องสาวแต่งงานชายหนุ่มจึงย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมเหตุผลที่ริคาโด้ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าก็เพราะถ้าเขาไปอยู่ที่คอนโดมนัญชญาจะไม่ยอมตามไปดูแลเขาที่นั่นเพราะหญิงสาวเป็นห่วงและกลัวว่าช่วงที่เธอไปทำงานริคาโด้จะไม่มีคนคอยดูแลตอนนี้ชายหนุ่มยังต้องใช้ไม้เท้าเวลาเดินและนั่งรถเข็นเวลาไปทำงานที่โรงแรมในบางวันที่เขามีประชุม ส่วนวันอื่นๆ ก็เอางานกลับมาทำที่บ้านโดยมีวสันต์และคนของเขาคอยประสานงาน“วันนี้เหนื่อยหรือเปล่าคะ” มนัญชญาถามหลังจากคนของเขาไปรับเธอมาจากโรงเรียน“ไม่เท่าไหร่ครับวันนี้ผมไปประชุมแค่ครึ่งวัน เสร็จแล้วก็รีบกลับมาพัก”“ดีมากค่ะ แบบนี้จะได้หายไวๆ นะคะ เราไปทานข้าวกันนะคะหนูอันนาน่าจะหิวแล้ว” หญิงสาวช่วยพยุงเขาลุกขึ้นจากนั้นก็ส่งไม้เท้าให้เขา ในตอนแรกเธอก็คอยช่วยประคองเวลาเขาเดิน แต่นักกายภาพบำบัดแนะนำว่าควรให้เขาเดินเองเพราะจะได้รู้จังหวะในการเดินและลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุซ้ำได้“ลุงริคขา วันเสาร์คุณพ่อคุณแม่จะพาอันนาไปเที่ยวทะ
มนัญชญาพูดกับอัลแบโต้เพราะอยากให้เขามั่นใจว่าจากนี้ลูกชายของเขาจะมีเธอเป็นคนดูแลอย่างดี“แล้วเธอจะได้อะไรกับการทำแบบนี้” อัลแบโต้ถามไปตามตรงเพราะถ้าหากลูกชายเขารักษาไม่หายผู้หญิงคนนี้ก็คงจะเป็นทุกข์มาก เขารู้ว่าหญิงชายวัยนี้เรื่องบนเตียงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต แล้วจะมีใครยอมเอาตัวเองมาจบอยู่กับผู้ชายที่ให้ความสุขไม่ได้แบบนี้“นั่นสิ เธอจะทนอยู่กับเขาได้ยังไง หรือคิดว่าเขาจะรักษาหาย” โซเฟียมองมนัญชญาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่าเธอจะยอมอยู่กับริคาโด้ได้ยังไงเพราะถ้าเป็นตัวเธอเองคงไม่อยู่กับเขาแน่“เพราะคุณริคคือคนรักของฉันไงคะ เขาจะรักษาหายหรือไม่หายมันก็ไม่สำคัญหรอกนะ”“เธอจะทนอยู่ได้แน่เหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ”“ฉันไม่สนใจว่าคุณหรือใครจะเชื่อหรือไม่ ฉันสนใจแค่คุณริคคนเดียว”“ขอบใจนะขิม แต่ที่โซเฟียพูดก็ถูกนะ ผมคงไม่เห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอก”“เรื่องของเราเอาไว้คุยกันสองคนดีกว่านะคุณริค” มนัญชญาไม่อยากให้ริคาโด้ต้องลำบากใจไปมากกว่านี้“ก็ได้ครับ”“ฉันว่าเรื่องนี้คงต้องคุยกันยาวๆ” อัลแบโต้ยังไม่แน่ใจว่ามนัญชญาจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าและเขาก็จะลองให้โอกาสเธอดูสักครั้งถ้าหากเว
ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยไม่มีใครรู้ว่าริคาโด้กับคุณหมอพูดเรื่องอะไรกัน“ถ้าคุณตัดสินใจแล้วผมก็จะบอกความจริงทั้งหมดให้กับทุกคนรู้”คุณหมอวัยกลางคนมองหน้าริคาโด้และทุกคนในห้องแล้วถอนหายใจก่อนจะบอกถึงอาการของริคาโด้ให้กับทุกคนรู้“เท่าที่เราทุกคนทราบว่าคุณริคาโด้ประสบอุบัติเหตุจนกระดูกหักแต่ที่ทุกคนไม่รู้ก็คือระหว่างเกิดอุบัติเหตุนี้ร่างกายของคุณริคาโด้ถูกกระแทกตรงบริเวณหน้าอก ช่องท้องรวมถึงอุ้งเชิงกรานของเขาด้วย แรงกระแทกไม่ได้ส่งผลให้อวัยวะเสียหายอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็มีอวัยวะและเส้นประสาทบางส่วนเสียหายจากแรงกระแทกนี้” คุณหมออธิบายด้วยภาษาอังกฤษช้าๆ เพื่อให้ทุกคนในห้องเข้าใจอย่างชัดเจน“หมอคะ หมอกำลังจะบอกอะไรก็บอกมาเลยค่ะไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว” โซเฟียไม่เข้าใจสิ่งที่คุณหมอพูดและเธอก็คิดว่าคนอื่นก็คงไม่มีใครเข้าใจเหมือนกันเพียงแต่ไม่มีใครกล้าถามคุณหมอยังคงมีท่าทางอึดอัดที่จะพูดออกมาตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไข้ของเขา“ผมไม่อายหรอกครับหมอบอกทุกคนไปเลย” ริคาโด้พูดขึ้นเพราะเห็นทุกคนมีสีหน้าสงสัยและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่“เส้นประสาทบางส่วนของคุณริคาโด้ได้รับค
เข้าวันที่สี่แล้วในการนอนโรงพยาบาลของริคาโด้ ตอนนี้อาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดของชายหนุ่มแทบไม่มีแล้วแต่หมอก็ยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้เพราะแผลยังไม่หายดีเท่าไหร่แต่เขาก็ไม่ได้อยากออกจากโรงพยาบาลเพราะรู้สึกดีที่มนัญชญามานอนเฝ้าเขาทุกคืนวันนี้หลังจากเลิกมนัญชญาแล้วก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนจะกลับมานอนเฝ้าริคาโด้ที่โรงพยาบาลเหมือนกับสามคืนก่อนหน้านี้“เป็นยังไงบ้างคะปวดแผลหรือเปล่า” หญิงสาวถามคนรักก่อนจะเดินมานั่งข้างเตียง“ปวดครับแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ วันนี้ผมเลยไม่ขอยาแก้ปวดจากพยาบาลเลยครับ”“คุณริคเก่งมากและฟื้นตัวได้ดีมากๆ เลยนะคะ”“เพราะผมได้กำลังใจดีจากขิมไงล่ะครับ แล้วขิมเหนื่อยไหมที่ต้องมานอนเฝ้าผมทุกคืนแบบนี้ อดทนอีกนิดนะครับถ้าผมหายดีแล้วผมจะทำหน้าที่แฟนให้ดีที่สุดเลย”“ตอนนี้คงริคก็ดีที่สุดสำหรับขิมแล้วนะคะ”“ขิมของผมน่ารักที่สุดเลย” ริคาโด้จับมือเธอแล้วยกขึ้นมาจูบ ไปบนหลังมือด้วยความรักตั้งแต่เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาลมนัญชญาก็คอยดูแลมาตลอดเธอไม่เคยชักสีหน้าไม่พอใจหรือทำท่าทางเบื่อหน่ายที่ต้องมานอนเฝ้าเขาที่โรงพยาบาลเลย มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกรักเธอมากขึ้นอีกและคิดว่าค
วันรุ่งขึ้นมนัญชญาก็แวะมาโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพื่อสอบถามอาการของริคาโด้จากพยาบาลประจำห้องไอซียูก่อนไปทำงานและพอเลิกงานหญิงสาวก็แวะมาหาเขาอีกครั้งก็เลยได้เจอกับสิรภพและเอเลน่าพอดีหลังจากคุยกับพยาบาลแล้วทั้งสามคนก็แยกย้ายกันกลับก่อนจะนัดกันมาเยี่ยมริคาโด้อีกครั้งในเช้าวันเสาร์ซึ่งพยาบาลบอกว่าจะย้ายชายหนุ่มไปยังห้องพักฟื้นเช้าวันเสาร์มนัญชญารีบออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถของสิรภพมาจอด ทั้งสามคนพากันมายังห้องพักผู้ป่วยวีไอพีที่เอเลน่าจองไว้ให้กับพี่ชาย พอประตูห้องเปิดเข้าไปก็เห็นริคาโด้นอนอยู่บนเตียงโดยมีวสันต์ผู้ช่วยของเขายืนอยู่ข้างๆ“อะไรคะพี่ริคเจ็บหนักขนาดนี้ยังจะทำงานอีกเหรอคะ” เอเลน่าต่อว่าพี่ชาย“พี่แค่สั่งงานนิดหน่อยเอง” เขารีบส่งแฟ้มคืนให้วสันต์แล้วยิ้มให้กับน้องสาวและคนรัก“เจ็บมากมั้ยคะ” หญิงสาวมองขาของคนรักมีผ้าพันแผลแล้วถามด้วยความเป็นห่วงอันที่จริงมนัญชญาได้คุยกับริคาโด้แล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแต่ยังไม่ได้มาเยี่ยมเพราะหมอยังไม่อนุญาต“ตอนนี้ไม่เจ็บเพราะพยาบาลเพิ่งฉีดยาให้แต่ถ้าหมดฤทธิ์ยาก็เจ็บเอาการอยู่”“พี่ริคคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแน่นะคะ”“ทำไมถามแบบนั้นล่ะเอเลน