แชร์

บทที่ 2 ถามชื่อแซ่

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-14 13:05:13

เมื่อเจียงมู่ตานออกมาจากห้องได้นางก็ตรงไปหามามาผู้ดูแลหอชายงามแห่งนี้ทันที ตอนนี้นางปิดบังใบหน้าสวมชุดเป็นบุรษ จึงต้องดัดเสียงเป็นบุรุษ สอบถามว่าในสุรามียาปลุกกำหนัดหรือไม่ มามายิ้มหวานบอกว่าจะเรียกว่ายาปลุกกำหนัดก็ไม่ถูกต้อง เพราะว่ามันคือสมุนไพรบำรุงกำลัง

ดื่มแล้วจะทำให้มีอารมณ์ อาจจะเพราะใส่มากไปสักหน่อยทำให้ออกฤทธิ์แรงเกินไป อีกทั้งยังถามนางว่าคณิกาชายผู้นั้นถูกใจนางหรือไม่

เจียงมู่ตานไม่ตอบแต่กลับเดินจากไปทันที

เท่ากับว่าสุรานั่นไม่มีสิ่งใดผิดปกติ

ด้านอ๋าวเยว่เมื่อแต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สั่งให้คนไปสืบต้นตอของสุรานั้นแต่กลับไม่พบความปิดปกติอันใดเช่นเดียวกัน

เขายกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ก่อนหน้านี้เพราะความอยากเที่ยวจึงทำให้พลาดท่า เขาอุตส่าห์ปลอมเป็นชายงามเพื่อมาตรวจดูเรื่องราวทุกอย่างด้วยตนเอง อีกทั้งที่นี่ก็มีคนของเขาแฝงตัวอยู่ทุกที่ในเมืองหลวงมีทหารลับปะปนอยู่ทุกหย่อมหญ้าเพื่อสืบความเป็นไปในเมืองหลวงให้เขาทราบ เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่ามีขุนนางชั่วคนไหนคิดคิดบ้าง

เขาพรูลมหายใจออกมา ก่อนจะเร้นกายกลับเข้า

วังหลวงในทันที เมื่อกลับมาถึงก็อาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์และพักผ่อน แต่กับนอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงสิ่งที่เขาและสตรีนางนั้นกระทำร่วมกัน

นางแต่งกายเป็นบุรุษได้แนบเนียนไม่น้อยเลย หากไม่ใช่เพราะดื่มสุราที่มีปัญหาเข้าไปยอมไม่เปิดเผยตัวตนเป็นแน่

"ฝ่าบาท"

เสียงขององค์รักษ์ลับเรียกสติให้เขาละจากความคิดที่ไร้สาระ ชายหนุ่มหันมามององค์รักษ์ของตน ก่อนจะเอ่ย

"สืบได้ความใดบ้าง ตามนางไปทันหรือไม่"

"พ่ะย่ะค่ะ นางเข้าไปในจวนตระกูลเจียง เมื่อนางกลับเข้าจวนก็มีสาวใช้เข้ามาหาซ้ำยังเอ่ยเรียกนางว่าคุณหนู

ดูเหมือนสตรีนางนั้นจะเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของ

แม่ทัพใหญ่เจียง"

"แม่ทัพใหญ่เจียงหรือ"

"พ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคุณหนูเจียงผู้นี้เป็นคนรักสนุก

นางถึงกับลงทุนปิดหอคณิกาชายเพื่อดูบุรษร่ายรำ แต่กลับไม่เคยซื้อตัวใครมานอนด้วย อีกทั้งยังชอบเข้าไปหาความสำราญที่โรงพนันและร้านสุรา ทำสิ่งที่สตรีทั่วไปไม่กระทำกันพ่ะย่ะค่ะ"

ทำสิ่งที่สตรีทั้วไปไม่กระทำกันอย่างนั่นหรือ เหอะ!

"ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าออกไปเถอะ"

"ให้จับตาดูนางหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

"ไม่ต้อง นางไม่รู้ว่าข้าเป็นใครย่อมไม่ใช่ปัญหา"

"พ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อคนจากไปแล้ว อ๋าวเยว่ก็ทิ้งกายลงนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ดูเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้จะเป็นเพียงความบังเอิญไม่ได้มีใครคิดจะทำลายเขา

บัลลังก์มังกรเปรียบเสมือนดาบสองคม แม้เขาจะครองราชย์มาหนึ่งปี เหล่าขุนนางดูเหมือนจะสนับสนุนแต่กลับไม่ได้จริงใจอย่างที่คิด มีบางคนที่ลักลอบทำเรื่องไม่ดีลับหลังเขามากมาย แม้เขาจะจัดการลงโทษไปได้ไม่น้อยแล้ว

แต่ก็ยังคงไม่อาจวางใจลงได้

ด้านเจียงมู่ตานเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วก็รีบอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะทิ้งกายลงนอนพัก

เช้าวันต่อมา ในขณะที่นางกำลังลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีบางอย่างกำลังจ้องมองนางอยู่

เมื่อมองให้ชัด เจียงมู่ตานก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย นางลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะอุ้มเจ้าห่านสีขาวตัวใหญ่ขึ้นมากอดเอาไว้

"หมานหมาน เจ้ามาแล้วหรือ เมื่อคืนข้าง่วงนอนมาก ก็เลยไม่อยู่เล่นกับเจ้า เจ้าอย่าโกธรข้าเลยนะ"

เจ้าห่านส่งเสียงร้องออกมาอย่างออดอ้อน เจียงมู่ตานยิ้มหวานก่อนจะอุ้มมันมานั่งกินอาหารด้วย หนึ่งคนหนึ่งห่านกินอาหารร่วมกันอย่างสุขใจ

นางเพิ่งจะตักอาหารเข้าปากได้ไม่กี่คำ ก็ได้ยินเสียงของบิดาเอ่ยขึ้นมา

"มู่ตาน เจ้านี่ช่างดีนักนะ สมบัติข้าวายวอดหมดก็เพราะเจ้าเอาไปเลี้ยงพวกคณิกาชายบัดซบนั่น ข้าจะไปเผาหอคณิกาของพวกมันเสีย"

เจียงมู่ตานถึงกับกลอกตาไปมา นางยกมือขึ้นแคะหูอีกทั้งยังทำท่าทีว่ารำคาญเสียเต็มประดา

แม่ทัพใหญ่เจียงที่เห็นว่าบุตรสาวไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิดเลยแท้แต่น้อยก็เริ่มอารมณ์ขึ้น เขาตรงเข้าไปหมายจะฟาดนางสักครั้ง แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้เจียงมู่ตาน เจ้าห่านสีขาวนามว่าหมานหมานก็กระพือปีกจ้องเขาเขม็ง

แม่ทัพใหญ่เจียงชะงักฝีเท้า ก่อนจะยกมือขึ้นชี้หน้าห่าน

"เจ้าห่านสารเลว เจ้าจะตีข้าหรือ"

ห่านสีขาวส่งเสียงร้องเหมือนไม่ยินยอม แม่ทัพใหญ่เจียงมือสั่นปากสั่น ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบุตรสาว

"ครั้งนี้เจ้าเอาเงินไปใช้สิ้นเปลืองข้าจะตัดเบี้ยหวัดเจ้า มู่ตาน เจ้าทำตัวให้เหมือนสตรีทั่วไปบ้างเถอะ แม้แคว้นของเราจะเปิดกว้างแต่ข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เจ้าเข้าออกหอชายงามเป็นบ้านหลังที่สองเช่นนี้!"

เจียงมู่ตานถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ย

"ท่านพ่อ ขามีเรื่องจะสารภาพ"

"เรื่องใด"

"เมื่อคืนข้าไปนอนกับบุรุษคนหนึ่งมา ข้าไม่รู้จักชื่อเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร รู้เพียงว่าเขาเป็นคณิกาชาย แต่ข้าคิดว่าคงไม่มีครั้งที่สองแล้ว ท่านอย่าตีข้าเลย ตีไปก็เอาคืนมาได้ได้

ข้าเสียตัวไปแล้ว"

เอ่ยจบนางก็ทำท่าทีเหมือนเศร้าใจยิ่งนัก แม่ทัพใหญ่เจียงถึงกับแน่นหน้าอก หน้าเริ่มมืด

"เจ้าเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้หรือ"

"เจ้าค่ะ แต่หล่อมาก"

นางเอ่ยจบก็ทำท่ายกนิ้วโป้งให้บิดาดู

แม่ทัพใหญ่เจียงกำหมัดแล้ว จะตีบุตรสาวก็ไม่ได้เพราะห่านบัดซบมันจ้องอยู่ เขาจึงเอาโทสะทั้งหมดไปลงกับต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ด้านหลังจวน ต้นไม้ทั้งหลายต้นถูกฟันทิ้งจนขาดกระจุย

อีกทั้งสองวันต่อมา หอคณิกาชายก็เกิดเพลิงไหม้

แม้ทางการจะจับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่เจียงมู่ตานมีหรือจะไม่รู้ว่านี่เป็นฝีมือของบิดาตน

เห้อ สถานที่เที่ยวเล่นถูกทำลายไปอีกหนึ่งแห่งแล้ว

นางยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ในใจรู้สึกคิดถึงชายหนุ่มรูปงามคนนั้นยิ่งนัก นางชบเขาจริง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบนางเอาเสียเลย และนางเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นเช่นไรบ้าง หอคณิกาถูกเผาไปแล้วเขาจะไปทำมาหากินที่ไหนนะ

เห้อ อยากอุปถัมภ์เสียจริง

นั่งอยู่แต่ในจวนก็รู้สึกเบื่อหน่าย เจียงมู่ตานจึงอุ้มเจ้าห่านตรงไปที่เรือนใหญ่ พร้อมกับของเงินบิดา แต่บิดาไม่ให้ นางจึงแกล้งบอกว่าผีท่านแม่ยืนอยู่ข้างหลัง เมื่อบิดาหันไปมองนางก็คว้าตั่วเงินหลายพันตำลึงมาถือเอาไว้และวิ่งอุ้มห่านออกจากจวนไปอย่างรวดเร็ว แม่ทัพใหญ่เจียงกระทืบเท้าเร่าๆ รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ

เวรกรรมอันใดกันเขาจึงมีบุตรสาวบัดซบเช่นนี้!

ชายวัยกลางคนมองไปโดยรอบ ก่อยจะเอ่ยขึ้นมา

"เมียรัก เจ้าตายไปแล้วอย่ามาหาข้านะ ข้ากลัว"

เอ่ยจบเขาก็รีบเดินออกมาจากเรือนใหญ่ มุ่งหน้าไปห้องตำราในทันที

ด้านเจียงมู่ตานนั้น นางอุ้มห่านเดินออกมาจากจวน จวนตระกูลเจียงอยู่ใกล้ตลาด ไม่ต้องใช้รถม้าให้วุ่นวาย นางเดินมาตามทางเรื่อยๆ ไม่ได้พาสาวใช้ติดตามมาด้วยแม้แต่คนเดียว

เหล่าชาวบ้านต่างมองนางด้วยแววตาที่เป็นมิตร เพราะนางไม่ถือตัว เจอใครก็ทักทายไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าหรือเถ้าแก่

ทำให้ผู้คนชอบนางเป็นอย่างมาก แม้ชื่อเสียงนางจะไม่ค่อยดี เพราะชอบเที่ยวเตร่ แต่พวกเขากลับทำเป็นมองข้ามมันไปเสีย

"คุณหนูเจียง วันนี้อยากลองชิมหมั่นโถวหรือไม่"

"ท่านป้า วันนี้ข้าเหมาหมดเลย ท่านเอาไปแจกเด็กๆ นะ"

"จ้า"

แม่ค้าหมั่นโถวพยักหน้ารับด้วยความดีใจ เจียงมู่ตานยิ้มตาหยี ก่อนจะหยิบหมั่นโถวลูกหนึ่งมากินและแบ่งให้

เจ้าห่านหมานหมานครึ่งหนึ่ง

เดินอยู่นาน จนกระทั่งมาถึงร้านน้ำชาเล็กๆ ร้านหนึ่งนางจึงแวะเข้าไป ในขณะที่กำลังจะยกถ้วยชาขึ้นดื่ม สายตาของนางก็เหลือบไปเห็นคนผู้หนึ่งเข้า

นั่นใช่ชายงามในหอคณิกาชายที่หลับนอนกับนางเมื่อหลายคืนก่อนหรือไม่

เจียงมู่ตานจำเขาได้ แม้วันนี้เขาจะแต่งกายดูดีกว่าคืนนั้น แต่นางก็จำเขาได้ เขาหล่อมาก

ดูท่าคงจะมีคนซื้อตัวไปเลี้ยงดูแล้วสินะ เสื้อผ้าที่สวมใส่จึงดูดีไม่น้อยเลย แม้จะดูราบเรียบแต่ฝีเข็มปักกลับละเอียดประณีตเป็นอย่างยิ่ง

อยู่ๆ เจียงมู่ตานก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา นางยกถ้วยชา

ขึ้นดื่ม ก่อนจะอุ้มห่านเดินตรงไปหาเขา

อ๋าวเยว่ที่กำลังนั่งดื่มชาเมื่อเห็นเจียงมู่ตานก็ถึงกับสะดุ้ง ก่อนหน้านี้เขาออกมาตรวจตราความเป็นไป และแวะที่ร้านน้ำชาเล็กๆ แห่งนี่ แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ชากลับมีรสชาติดีมาก

แต่ใครจะคาดคิดเขาจะพบเจอนางเข้าอีกหน

หญิงสาวอุ้มห่านตัวใหญ่เอาไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา

วันนี้เขามากับองค์รักษ์สองคน ส่วนทหารคนอื่นล้วนแฝงกายอยู่โดยรอบรอเขาเรียกใช้

อ๋าวเยว่ไม่อยากจะมองหน้าเจียงมู่ตาน แม้จะรู้ว่านางมีฐานะเป็นถึงบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่เจียงแต่เขาก็ไม่อยากจะมองนาง

"นี่ ข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย เจ้าชื่ออะไรเหรอ ข้าชื่อเจียงมู่ตานนะ จวนข้าอยู่ไม่ไกลนี่เอง ไปดื่มสุรากันไหม"

อ๋าวเยว่ส่งเสียงเหอะ ก่อนจะเอ่ย

"ดูเหมือนคุณหนูเจียงจะชอบชวนบุรุษไปดื่มสุราบ่อยสินะ เจ้าทำเช่นนี้บิดาเจ้ารู้หรือไม่"

"นี่เจ้ารู้สถานะของข้าแล้วหรือ ก็ดี บิดาข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เก่งมาก อีกทั้งเขารู้แล้วอย่างไร ห้ามข้าได้ที่ไหน"

นางเอ่ยอย่างไม่รู้สึกอันใด อ๋าวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

"อย่าทำให้ข้าลำบากใจ เจ้าสัญญาแล้วว่าระหว่างพวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา เจียงมู่ตานที่ได้ยินกลับไม่โกธรและยังยิ้มหวาน ก่อนจะล้วงหยิบตั๋วเงินปึกหนึ่งยัดใส่มือเขา อ๋าวเยว่ถึงกับชะงัก

"เอามาให้ข้าด้วยเหตุใด"

"คราก่อนข้าให้เจ้าแค่ห้าอีแปะเจ้าเลยโกธรข้าสินะ

ข้าขอโทษตอนนั้นข้าไม่มีเงินจริงๆ แต่วันนี้ข้ามีแล้ว หนึ่งพันตำลึงข้าให้เจ้าหมดเลย ดูแล้วตอนนี้เจ้าคงมีคุณหนูจากจวนไหนสักจวนซื้อตัวเจ้าไปเลี้ยงดูแล้วสินะ เป็นข้าเองที่ทำให้เจ้าเดือดร้อน นี่หนุ่มหล่อ ข้าจ่ายพันตำลึง ซื้อตัวเจ้า ต่อไปเจ้ามาอยู่กับข้า ข้าจะบอกให้นะตั้งแต่เกิดมาข้าไม่เคยทำเช่นนี้กับบุรษคนไหนเลยนะ เจ้าเป็นคนแรก ภูมิใจหรือไม่สุดหล่อ"

อ๋าวเยว่เริ่มหมดความอดทนแล้ว นี่นางเอะอะก็จะซื้อตัวเขาเหมือนสิ่งของ ช่างเหลวไหลสิ้นดี

ในใจคิดอยากจะเอาดาบบั่นคอนางแต่กลับไม่อาจทำได้

"คุณหนูเจียง อย่ายุ่งกับข้า"

"พันตำลึงไม่พอหรือ เดี๋ยวข้าไปขโมยสมบัติท่านพ่อมาให้ แต่ต้องบอกมาก่อนว่าเจ้าชื่ออะไร"

"ข้าไม่บอก!"

"เช่นนั้นข้าจะตะโกนว่าเจ้าล่วงเกินข้า"

"หุบปาก"

"ข้าจะตะโกนแล้วนะ!"

"เจียงมู่ตาน"

"ข้าจะ..."

"อาเยว่"

"ก็แค่นี้ เล่นตัวจริงเชียว"

เอ่ยจบนางก็ส่งยิ้มหวานให้เขา ก่อนจะหันไปมอง

ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามกับอาเยว่คนหล่อ นางเดาว่าคงจะเป็นชายงามในหอคณิกาชายที่หนีตายมาพร้อมกับอาเยว่ตอนเกิดเพลิงไหม้เป็นแน่

อ๋าวเยว่จนปัญญาไม่คิดว่านางจะดื้อด้านถึงเพียงนี้

"ข้าจะไปแล้ว"

"ช้าก่อนสิ ยังไม่ได้ตกลงกันเลย เจ้าไปจวนข้าก่อน

ดื่มสุราด้วยกันสักจอก"

"ไม่ดื่ม"

"หมานหมาน จัดการ"

อ๋าวเยว่ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบโต้ ก็พบว่าห่านสีขาวในอ้อมกอดของเจียงมู่ตานกำลังอ้าปากออก และพุ่งเข้ามาจิกเส้นผมของเขาไม่ยอมปล่อย!

องครักษ์ถึงกับทำหน้าไม่ถูก เจ้านายไม่มีคำสั่งเขาก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทั้งในที่ในใจอยากจะตัดคอห่านบัดซบนี่เสียเต็มประดา

"นี่คือการสั่งสอน หากเจ้าไม่เชื่อฟัง ข้าจะให้หมานหมาน

ของข้าตีเจ้าอีกหน!"

ผู้คนหันมามองที่พวกนางเป็นตาเดียว อ๋าวเยว่อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าตนเอาไว้ แต่เจียงมู่ตานกลับหัวเราะชอบใจและยังบอกให้เจ้าห่านหมานหมานจิกหัวเขาไม่หยุด

บัดซบ! เขาอยากประหารห่านยิ่งนัก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   ตอนจบ

    คืนนี้อ๋าวเยว่พักที่บ้านสวนเกษตรของจวนตระกูลเจียง แต่พักอยู่อีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกับห้องของเจียงมู่ตาน นางไม่ยอมให้เขาเข้าไปนอนด้วย อ๋าวเยว่เองก็ไม่ได้ดึงกันใด แต่ในใจกลับลอบวางแผนเขารอจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงกลางดึก รอจนเจียงมู่ตานหลับสนิทแล้ว จึงแอบเข้ามาในห้องนอนของนางเจียงมู่ตานหลับสนิทลมหายใจสม่ำเสมอ นางหลับลึกยิ่งนักเพราะเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย อีกทั้งวันนี้ยังดื่มสมุนไพรที่ช่วยให้นอนหลับสบายเข้าไป นางจึงหลับไม่รู้เนื้อรู้ตัวเมื่อเห็นว่านางหลับสนิทอ๋าวเยว่ก็นึกสนุก เขาค่อยๆถอดเสื้อผ้าของนางและของตนเองออกจนหมด เจียงมู่ตานขยับร่างกายเล็กน้อยแต่ยังไม่ได้บืมตาตื่นขึ้นมา อ๋าวเยว่ยกเรียวขางามของนางให้อ้าออก แสงเทียนภายในห้องส่องแสงสว่างให้เห็นกลีบกุหลาบสีแกงสดที่แย้มบานรอให้เขาเชยชม ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไป ก่อนจะใช้ปลายลิ้นกระดกแลบเลียติ่งเกสรเม็ดงามของนางอย่างถี่ระรัวสตรีน้อยร่างบางส่งเสียงครางพลางย่นหัวคิ้ว อ๋าวเยว่ช้อนสายตาขึ้นมองนางเห็นว่ายังหลับสนิมก็รู้สึกพึงพอใจมากเขารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ที่ได้ทำเช่นนี้ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียไปทั่วทุกซอกทุกมุมในร่องกลีบสวาทจนเปียกชุ่ม ก่อนจะส

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 12 ตามรัก

    เจียงมู่ตานนั่งรถม้ากลับจวนตระกูลเจียงในทันที เมื่อมาถึงนางก็สั่งห้ามไม่ให้สาวใช้เข้ามารบกวน แม้กระทั่งเจ้าหมานหมานเองก็ยังรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของเจ้านายตนเองเมื่อนั่งอยู่ในห้องเพียงลำพังแล้ว เจียงมู่ตานก็ยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ในใจของนางยามนี้สับสนจนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดอย่างไรดีที่ผ่านมาเขาหลอกลวงนางมาตลอดไม่ได้บอกความจริงกับนาง ทั้งที่เขารู้ว่านางไม่อยากเข้าวังหลวงแต่กลับยังหาทางมาผูกพันธ์กับนางไม่หยุดไม่หย่อนไม่ยอมตีตัวออกห่างแต่เมื่อคิดอีกมุมหนึ่งก็เป็นนางเองไม่ใช่หรือที่ไม่ถามไถ่เรื่องราวของเขาให้ดีเอง ปล่อยให้ความหลงใหลปิดบังดวงตาของตน ทั้งที่ควรจะสงสัยในตัวเขานานแล้ว แต่ไหนแต่ไรอาเยว่ของนางชอบทำตัวลึกลับ นางสืบหาต้นตอของเขาเท่าใดก็ไม่พบ นับเป็นเรื่องน่าแปลกเจียงมู่ตานถอนหายใจออกมา ในเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว นางคงเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์กับเขานางชอบเขามาก ชอบอย่างที่ไม่เคยชอบบุรุษใดมาก่อน แต่นางไม่อยากถูกผูกมัดเอาไว้ในวังหลวงไปชั่วขีวิต นางไม่อยากใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในกรงขังตลอดเวลามิสู้ตัดใจเสียแล้วเดินหน้าต่อไป นางจะไม่ผูกกับบุรุษใดอีกและจะไม่แต่งงานชั

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 11 รู้ตัวตน

    เมื่อส่งนางกลับถึงจวนตระกูลเจียงแล้วเขาก็จูบที่หน้าผากของนางอีกครา ก่อนจะบอกลามุ่งหน้ากลับวังหลวงในทันทีอีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงวันพระราชสมภพของอ๋าวเยว่แล้ว ยามนี้ในวังหลวงกำลังตระเตรียมงานอย่างคึกครื้น อวิ๋นไทเฮาถึงกับสั่งให้นางกำนัลขันทีเตรียมทุกอย่างให้ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ว่าอ๋าวเยว่กลับไม่ได้สนใจเท่าใดนัก ด้านเจียงมู่ตานนั้นนางมีเวลาว่างอยู่ไม่น้อย จึงนั่งมองดูเครื่องประดับที่อาเยว่มอบให้ เมื่อเช้านี้บิดาส่งคนมาแจ้งนางว่าครั้งนี้จะต้องไปร่วมงานวันพระราชสมภพของฮ่องเต้ จะบิดพริ้วไม่ได้อีกเป็นอันขาด ครั้งก่อนตอนที่รู้ว่าบุตรสาวแกล้งล้มป่วยเพราะไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาเขาก็โมโหแทบตาย เจียงมู่ตานเกือบจะหาเรื่องให้ตระกูลเจียงหัวขาดทั้งจวนโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงเมื่อเห็นว่าปฎิเสธไม่ได้ นางเองก็ไม่คัดค้าน ครั้งนี้จึงเลือกแต่งกายธรรมดาสีสันเรียบง่ายไม่ฉูดฉาด ไม่ต้องแต่งกายงดงามไปแข่งกับสตรีน้อยเหล่านั้น ใครอยากจะเป็นฮองเฮาหรือนางสนมก็เรื่องของเขาเถอะ แต่นางไม่อยากเป็นสามวันต่อมาก็ถึงเวลาที่จะต้องไปเข้าร่วมงานวันพระราชสมภพของฝ่าบาทแล้วครั้งนี้มีเหล่าขุนนางและเหล่าฮูหยินรวมไปถึงคุณหนูแ

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 10 ชมจันทร์

    เมื่อออกจากเขตประตูเมืองหลวงได้แล้ว อ๋าวเยว่และเจียงมู่ตานก็ควบม้ามาตามทางเรื่อยๆ อย่างไม่รีบไม่ร้อน คนทั้งสองนั่งม้าตัวเดียวกันพลางใช้แสงจันทร์นำทางในคืนที่มืดมิดใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงทะเลสาปแถวชายเมืองตามที่นางบอก อ๋าวเยว่กระโดดลงจากหลังม้าก่อนจะยื่นมือไปอุ้มนางลงมายืนบนพื้น คนทั้งสองเดินจับมือกันมาที่ริมทะเลสาป เดินมาไม่นานก็พบกับโขดหินก้อนใหญ่ที่สามารถนั่งชมพระจันทร์ได้ เจียงมู่ตานพาอ๋าวเยว่มานั่งที่โขดหิน ก่อนจะเงยหน้าไปมองพระจันทร์ที่แสนงดงามบนท้องฟ้าชาติก่อนนั้นตอนที่นางยังไม่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของสตรีนางนี้ นางชอบมองดูพระจันทร์มาก ในโลกปัจจุบันมีสถานที่แสนงดงามมากมายที่สามารถนั่งชมพระจันทร์ได้ แต่เมืองโบราณแห่งนี้กลับมีน้อยยิ่งนัก จนกระทั่งนางได้มาเจอกับทะเลสาปแห่งนี้ ทุกคราที่มีเวลานางจะชอบมาที่นี่ "เจ้าชอบชมพระจันทร์หรือ"อ๋าวเยว่หันมาเอ่ยถามเจียงมู่ตาน หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ"ใช่ ยามที่ได้มองดูพระจันทร์เช่นนี้ เหมือนกับได้ชมความงามที่แสนห่างไกล มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แต่ข้ารู้สึกชอบมาก"นางยิ้มตาหยีพร้อมเอ่ยอย่างอารมณ์ดี รอยยิ้มของน

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 9 มาเยี่ยม

    เมื่อเจียงมู่ตานตื่นขึ้นมาในยามเช้าของอีกวันก็พบว่าอาเยว่ของนางได้หายไปเสียแล้ว หญิงสาวชินชาเสียแล้วกับการที่เขามักจะหายไปเช่นนี้ นางลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะบิดกายไปมาแล้วจึงรับไปล้างหน้าล้างตาและอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ ก่อนจะมารับมื้อเช้าที่ห้องโถง ตอนนี้สายมากแล้ว คาดว่าบิดาของนางออกไปจัดการงานธุระที่ค่ายทหารตั้งแต่เช้าตรู่แล้วหลังจากที่นางกินมื้อเช้าอิ่มแล้วก็รู้สึกเบื่อหน่าย จึงอุ้มหมานหมานเจ้าห่านคู่ใจออกไปเดินเล่นที่ด้านนอกด้วยกัน นางเดินเข้าออกร้านนั้นร้านนี้จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ร้านเครื่องประดับร้านหนึ่งเถ้าแก่ร้านเมื่อเห็นว่านางข้าเดินเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับขับสู้ด้วยความยินดี เจียงมู่ตานอุ้มห่านมองไปโดยรอบ พบว่าตอนนี้มีหญิงสาวหลายนางกำลังเลือกเครื่องประดับ เถ้าแก่ร้านบอกว่าช่วงนี้ร้านค้าค่อนข้างคึกคักไม่น้อยเลย เพราะว่าเหล่าสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงกำลังมาเลือกเครื่องประดับเพื่อเตรียมไปร่วมงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของฝ่าบาทในอีกสามวันข้างหน้าเจียงมู่ตานเพียงพยักหน้ารับไม่ได้เอ่ยสิ่งใดมากนัก ฮ่องเต้จะเกิดวันใดวันไหนไม่ใช่เรื่องที่นางจะใส่ใจ หญิงสาวเดินไปเลือกเครื่องประดับก่อนจะ

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 8 สาสมใจยิ่งนัก

    เอ่ยจบเขาก็ให้นางนอนหงายลงไปบนเตียง ก่อนจะจับเรียวขางามให้อ้าออกจนกว้าง แล้วบดเบียดท่อนเนื้อท่อนเอ็นใหญ่ยาวเข้าไปในรูสวยจนมิดลำ เจียงมู่ตานส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียวสะท้านยามนี้นางทั้งเสียวและจุกแน่นเป็นอย่างมาก"อ๊ะ" "เป็นเช่นไร ซี๊ด ใหญ่คับรูเจ้าหรือไม่"เขาเอ่ยถามนางด้วยความเสียวสะท้าน เจียงมู่ตานเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยยั่วโทสะ"ก็ไม่เท่าใดนี่"ประโยคนี้เหมือนจุดไฟแห่งความบ้าคลั่งในใจของอ๋าวเยว่ให้รุนแรงขึ้น เขาส่งเสียงเหอะก่อนจะจับเรียวขางามขึ้นพาดบ่า และขยับสะโพกสอบกระแทกกระทั้นเข้าออกรูรักของนางอย่างรัวแรงตับตับตับ"อร๊าย เสียว""โอว แน่น"เขายื่นสองมือมาบีบขยำสองเต้างามของนางจนเกิดเป็นรอยแดงห้านิ้ว ในขณะที่ช่วงล่างก็ขยับไหวเร็วแรงไม่หยุดพักจนร่างบางระหงหัวสั้นหัวคลอน เตียงไม้โยกไหวจนเกิดเสียงลามก ภายในห้องนอนร้อนแรงไปด้วยไฟแห่งราคะ อ๋าวเยว่อุ้มเจียงมู่ตานมาที่โต๊ะอาหารซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง ก่อนจะให้นางนอนคว่ำหน้าไปบนโต๊ะ เจียงมู่ตานถูกปิดตานางจึงใช้สองมือปัดป่ายไปจับขอบโต๊ะเอาไว้แน่น อ๋าวเยว่สอดแทรกความเป็นชายเข้ามาในรูสวยก่อนจะจับรั้งเอวบางของนางเอาไว้แน่น พร้อมกับกระแทก

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 7 ลงโทษ

    หลังจากที่เจียงมู่ตานกินดื่มหาความสำราญจนหนำใจแล้ว นางก็อุ้มห่านคู่ใจเดินกลับมายังจวนจระกูลเจียงทันที ยามนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว แม่ทัพใหญ่เจียงที่เห็นบุตรสาวมีท่าทางคล้ายคนเมาก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือมระอา เขาจนปัญญาจะสั่งสอนเจียงมู่ตานแล้ว จึงสั่งให้คนทำน้ำแกงสร่างเมาไปมอบให้นางดื่มหนึ่งถ้วยหลังจากดื่มน้ำแกงสร่างเมาแล้ว เจียงมู่ตานก็ไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ วันนี้สุราที่นางดื่มเข้าไปค่อนข้างแรงทำให้หญิงสาวปวดหัวไม่น้อยเลยนางทิ้งกายลงนอนบนเตียงก่อนจะสั่งให้สาวใช้ออกไปด้านนอกให้หมด เมื่ออยู่คนเดียวแล้ว นางก็เงยหน้ามองหลังคาเตียงนอนอย่างเหม่อลอย อยู่ๆ ในใจก็คิดถึงอาเยว่ขึ้นมาหลายวันแล้วที่าเยว่ไม่มาหานาง คนของนางก็สืบหาที่อยู่ของเขาไม่พบและไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนนางคงจะบ้าไปแล้วจริงๆ ที่ไปหลงรักบุรุษที่ขายเรือนกายเพื่อหาเลี้ยงชีพ คนเช่นเขาจะมารักใครจริง เขารักเงินมากกว่าน่ะสิไม่ว่า"คนบัดซบ หายไปหลายวันแล้ว ข้าคิดถึงรู้หรือไม่อาเยว่"นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ก่อนจะลุกขึ้นมาเดินเล่นรอบๆ ห้องเบื่อแก้เหงา อยู่ๆ ก็มีเงาดำสายหนึ่งพุ่งเข้ามาทางหน้าต่างแลคว้าตัวนางไปกอดเอาไว้ จากนั้นก็จับนา

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 6 หึงหวง

    ต้นยามเหม่า ภายในห้องนอนของเจียงมู่ตานยังคงมีเสียงครางกระเซ่าดังลอดออกมาเป็นระยะ ตอนนี้นางกำลังนั่งคล่อมอยู่บนตัวเขา พร้อมกับขยับโยกกายขึ้นลงด้วยความเมามันส์ จวบจนฟ้าเกือบสางนางจึงล้มตัวลงนอนหลับไป อ๋าวเยว่ลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้าก่อนจะมองดูสตรีที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่นเตียงนอน เขายื่นมือไปดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้นางอย่างเบามือ แล้วจึงเร้นกายหายไปทางหน้าต่าง มุ่งหน้ากลับสู่วังหลวงทันทีเมื่อกลับมาถึงวังหลวง เขาก็เอาแต่ครุ่นคิดถึงประโยคที่นางเอ่ยกับเขานางบอกว่าไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง ไม่ต้องการให้กฎระเบียบมากมายมาผูกมัดตัวนางเอาไว้ และนางไม่ต้องการเป็นสตรีของเขา แต่นางกลับชอบอาเยว่ที่เป็นชายงามในหอคณิกาชายมากกว่าดูเหมือนจะหาได้ยากยิ่งนักที่จะพบเจอสตรีที่ไม่สนใจในอำนาจที่เขามี นางเพียงอยากใช้ชีวิตราบเรียบกับคนที่นางรัก ครองรักกันไปจนแก่เฒ่าแล้วถ้าหากนางรู่ว่าเขาเป็นฮ่องเต้เล่านางจะไปจากเขาหรือไม่อยู่ๆ ความคิดสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของอ๋าวเยว่ เขากลัวว่านางจะหายไปจากเขา เขากลัวว่านางจะไม่กลับมาหาเขาอีกตลอดกาลไม่รู้ว่าความรู้สึกแปลกประหลาดมากมายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอี

  • เล่ห์รักดอกมู่ตาน   บทที่ 5 งานเลี้ยง

    ผ่านมาร่วมหลายวัน วังหลวงก็จัดงานเลี้ยงชมบุปผาขึ้น งานเลี้ยงครั้งนี้เหล่าคุณหนูจากตระกูลใหญ่ต่างตั้งตารอคอยที่จะได้เข้าร่วม พวกนางอยากจะมีอำนาจ มียศฐาบรรดาศักดิ์ แม้บางคนจะไม่หวังได้เป็นถึงฮองเฮามารดาของแผนดิน แต่ขอเพียงได้เป็นพระสนมที่ฝ่าบาททรงโปรดปราณก็นับว่าสุขสบายมากแล้วได้ยินผู้คนเล่าลือกันว่าฮ่องเต้องค์ใหม่รูปงามเหนือสามัญ พวกนางที่เป็นเพียงสตรีน้อยในห้องหอยังไม่เคยเห็นพระพักตร์ของเขาเลยสักครา ครั้งนี้หากได้พบหน้ากัน ก็อยากจะยลโฉมของเขาให้มากหน่อยงานเลี้ยงวันนี้จัดอย่างหรูหรางดงาม มีเหล่าคุณหนูจากจวนตระกูลสูงศักดิ์มากมายมาเข้าร่วม อวิ๋นไทเฮาและอดีตฮองเต้เมื่อได้เห็นสาวงามมากความสามารถก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก พวหเขาย่อมต้องช่วยบุตรชายคัดเลือกฮองเอาและสนมที่งามเพรียบพร้อมไม่นานนักอ๋าวเยว่ก็ปรากฏตัวในงานเลี้ยง ทันทีที่เขาปรากฏตัว เหล่าคุณหนูทุกคนก็ถึงกับตกตะลึงราวกับถูกตรึงเอาไว้ไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ใบหน้าของเขาหล่อเหลาคมคาย แววตาฉายล้ำลึกชวนค้นหา ท่วงท่าดูองอาจสง่างามเหนือสามัญเหล่าสตรีน้อยต่างขวยเขินเอียงอายไม่กล้าสบตากับฮ่องเต้หนุ่มตรงๆ บางคนถึงกับวางแผนในใจว่าวันนี้จะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status