LOGINฉันก็คิดเหมือนกัน ดูจากรูปลักษณ์ต่างๆ ของคุณก็ดูดีออก ฉันเองก็ดูดีเช่นกัน “งั้นเรามาแต่งงานกันเถอะ”
View More“หว้าาา.. สงสัยมันคงไม่ฟังเฮียแล้วล่ะ ดูสิยิ่งอัญญาพูดมันก็ยิ่งตอบสนองอัญญามากกว่า” อนาคีนแสร้งขยับตัวดุนดันตัวตนของตัวเองที่ตื่นตัวเต็มที่เข้าใกล้ร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอดของตนอย่างจงใจ ก่อนจะพูดด้วยท่าทีเย้าแหย่อีกฝ่าย “อ๊ะ อย อย่าค่ะ” อัญญาที่ถูกตัวตนแข็งขืนอุ่นร้อนของอีกฝ่ายดุนดันหยอกล้อ อยู่ใกล้กับจุดอ่อนไหวของตัวเอง ก็ถึงขั้นอ่อนแรงเผลอส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “อ๊ะ อืออ” “อ๊าส์.. ไม่ทันแล้วครับที่รัก ขอบอกรักตอนเช้าหน่อยนะ เด็กดี อ๊าส์” อนาคีนที่ตอนแรกจงใจจะแกล้งอัญญา แต่กลับห้ามใจไม่ไหว ยิ่งเสียงครวญครางแสนหวานของอีกฝ่ายดังขึ้น ตัวเขาเองก็ยากจะทานทนต่ออารมณ์ของตัวเอง พร้อมกดร่างแกร่งเข้าใส่ดอกไม้อ่อนนุ่มทันที ก่อนจะพูดขบกรามแน่น ข่มอารมณ์ร้อนที่กำลังปะทุ แล้วกดจูบลงบนแผ่นหลังนวลเนียนเพื่อเป็นการปลอบโยน “อาส์ อัญญา พลั่บๆๆๆ ซี๊ดด!!” อนาคีนคำรามเสียงกดต่ำร้องเรียกเจ้าของร่างก่อนจะกระหน่ำสะโพกสอบรัวเร็ว ตามอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้น อย่างแสนรัก “อ๊ะๆๆๆ ฮะ เฮียคีน อื่มม” อัญญาก็ไม่ได้ยอมแพ้ เมื่อห้ามอีกฝ่ายไม่ได้ เธอก็เลือกที่จะปลดป
ณ เวลานี้ไม่ว่าต้องแลกกับอะไรตัวเขานั้นก็ไม่ยอมทั้งนั้น เพราะความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวในอ้อมกอดมันช่างตีขึ้นมาชัดเจนเหลือเกิน จนทำให้ตัวเขานั้นก็เจ็บปวดทรมาน เพราะเสียงสะอื้นไห้ ของอีกฝ่ายเช่นกัน “เฮียคีนนน... ฮึกก.. อึก.. อะ อัญ..” ไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานแค่ไหนที่สองร่างนั้นยังคงกอดปลอบมอบความอบอุ่นให้แก่กัน และในที่สุดเมื่อร่างงามเริ่มประมวลผลต่างๆ ได้และรู้สึกจิตใจสงบลง เธอก็ค่อยๆ เงยหน้าเผชิญกับใบหน้าคมที่แสนคุ้นเคย ดวงตาสีดำสนิทตอนนี้จดจ้องมาที่ตนอยู่ก่อนแล้ว ภาพในนั้นปรากฏเป็นตัวเธออย่างชัดเจน ยิ่งทำให้ในใจที่กำลังสงบลง มีคลื่นของความเสียใจผลุดขึ้นมาอีกระลอก ความรู้สึกผิดกำลังตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้อัญญานั้นกำลังจะพูดสารภาพกับอีกฝ่าย เริ่มสะอึกสะอื้น สั่นไหวอีกรอบ แค่เพียงเห็นใบหน้านวลที่เปอะไปด้วยน้ำตานองหน้า ทำให้ผิวที่ขาวอยู่แล้วยิ่งซีดลงไปอีก แววตาที่เคยส่องเป็นประกาย บัดนี้กลับดูหม่นหมองลงด้วยความรู้สึกผิด และตัวเขาเองก็รู้ว่าอัญญานั้นจะพูดว่าอะไร และตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไร จนทำให้ อนาคีนหัวใจหล่นฮวบลงทันที ก่อนที่อัญญาจะพูดจบ เป็นเขาเองที่ทนต่อความสงสา
หญิงสาวที่เขารักก็ยังเป็นแค่เพียงภรรยาในนามของอีกฝ่ายเท่านั้น และยิ่งมาได้รับข้อมูลจากพีตาร์อีก ในตอนนั้นตัวเขาก็ตกลงทำตามแผนที่วางไว้อีกครั้งโดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองเรื่องราวให้รอบคอบ จนเผลอเกือบทำให้คนที่เขารักตกอยู่ในอันตรายแล้วจริงๆ ถ้าหากเขาไปช่วยเธอไว้ไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าพีตาร์จะใจร้อนทำนอกเหนือสิ่งที่ตกลงกับตัวเขาไว้ให้แก้แค้นแทนตัวเอง แล้วยิ่งวันนี้ได้มาเห็นกับตาว่าผู้ชายที่เพรียบพร้อมไปทุกด้าน ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจแห่งแวดวงธุรกิจ ไม่มีแม้กระทั้งความรู้สึกใดๆ แต่กลับทิ้งปัญหาไว้เบื้องหลังแล้วรีบมาหาภรรยาของตนในฐานะสามีธรรมดาคนหนึ่ง ทั้งท่าทีแววตาดำสนิทที่จดจ้องไปเบื้องหน้าล้วนแต่แสดงความรู้สึกทุกอย่างที่มีต่อหญิงสาวร่างงามเบื้องหน้าตนอย่างชัดเจน จนตัวเขานั้นรับรู้และรู้สึกละอายแก่ใจไม่น้อย ทั้งยังตอนที่ตัวเขากระโดดลงไปช่วยอัญญา แม้คำพูดสุดท้ายก่อนหญิงสาวจะหมดสติไปก็ยังเป็นชื่อของผู้ชายคนนี้ เพียงเท่านี้ตัวเขาเองก็คงไม่มีสิทธิที่จะไปเปรียบตัวเองกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ได้แต่ทำใจยอมรับอย่างไม่มีข้อโต้เถียงใดๆ แต่โดยดีเท่านั้น “เรื่องที่คุณไม่สามารถจัดการได้ ผมจะจั
ทันทีที่ร่างสูงมาถึง ภาพเบื้องหน้าที่เห็น เป็นห้องกระจกใส ปรากฏร่างงามคุ้นตาที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงผู้ป่วยสีเขียวอ่อน ผิวขาวละเอียดจนดูซีด ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเลือนลางมากขึ้น จังหวะการเต้นของหัวใจแกร่งยิ่งบีบรัดอย่างหนักหน่วงยามเมื่อได้มองสำรวจเห็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ อยู่เต็มไปหมด “อะ เอ่ออ.. บอสคะ หมอบอกว่า ตอนนี้หนูอัญไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ต้องอยู่ห้องปลอดเชื้อรอดูอาการอีกนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ” เป็นหลุยเองที่เห็นปฏิกิริยาร่างสูงที่จ้องมองร่างงามภายในห้องอย่างยากจะคาดเดา แต่ภายในแววตาคมนั้นกลับสะท้อนภาพร่างงามอย่างชัดเจน ตัวเขาเองจึงค่อยๆ เดินไปบอกกล่าวกับอีกฝ่ายอย่างหวาดกลัว เพราะตอนนี้ร่างหนานั้นแผ่รังสีเย็นเยือกออกมาอย่างน่าขนลุก เป็นบรรยากาศที่กดดันคนที่อยู่รอบข้างเป็นที่สุด “ผมต้องการเข้าไป” อนาคีนเอ่ยออกมาราบเรียบ โดยสายตาคมยังคงจดจ้องภาพเบื้องหน้าไม่ไหวติง “ดะ ได้ค่ะ ดะ เดี๋ยว จะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” เพียงแค่เสียงเอื้อนเอ่ยที่ราบเรียบไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ แต่กลับทำให้คนฟังถึงขั้นกระตุก ตื่นตกใจไม่น้อย ทำให้หลุยนั้นรีบตอบรับอีกฝ่ายอย่างตะกุกตะกัก รี





