INICIAR SESIÓNทันทีที่คนด้านในเปิดประตูออกมา ภูริก็ต้องกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางตื่นตระหนกของเธอ ตลกตากลมโตมองเขาไม่ต่างจากฆาตกร
“ต่อเวลานะครับ” ถามย้ำเพราะอยากแกล้งให้เธออับอาย เพราะตอนนี้นางพญาแสนสวยได้กลายร่างเป็นลูกแมวไปแล้ว
“ไม่ค่ะ ฉันจะกลับเลย” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวยังเดินผ่านหน้าเขาไปด้วยท่าทางที่ไม่ใยดี การกระทำของเธอสร้างความไม่พอใจให้กับภูริไม่น้อย ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าลงจากเตียงถ้าเขาไม่อนุญาต
“คุยกันก่อนสิคุณ” เมื่อเห็นว่าเธอไม่ใยดี ภูริจึงรั้งเธอเอาไว้ ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่คุกคาม
“เงินอยู่บนหัวเตียง” ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนจัด เมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกล้ำเส้น วันนี้เขามาแปลก นอกจากบทรักที่รุนแรง ท่าทางที่แสดงออกมา บ่งบอกให้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา จะยังไงก็ตามเธอไม่สนใจเลยสักนิดว่าเขาเป็นใคร เพราะยังอยู่ในกติกาเดิม ที่จ่ายแล้วจบ
“ผมมีข้อเสนอ เผื่อคุณสนใจ” เมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจ ภูริก็ไม่อ้อมค้อม ยอมรับว่าติดใจในรสสวาทของเธอไม่น้อย ถ้าเธอชอบแบบนี้เขาจะผูกปิ่นโตกับเธอ จากที่เธอเป็นคนจ่าย เขาจะจ่ายให้เธอบ้าง แค่สลับหน้าที่กันเล็กน้อย เธอก็แค่ดูแลเอาใจทุกครั้งที่เขาต้องการขึ้นเตียง
“ข้อเสนอ...อะไรคะ” แม้จะไม่พอใจแต่คำพูดของเขาก็น่าสนใจ ข้อเสนอของเขาคืออะไรกัน
“มาเป็นคู่นอนของผม มาขึ้นเตียงทุกครั้งที่ผมต้องการ” คำพูดของเขาทำให้หัวคิ้วเรียวกระตุก ผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าพูด คำนี้กับเธอ
“ทำไมคะ” ถามพร้อมกับสบตาเขาอย่างไม่ลดล่ะ
“ผมเห็นคุณชอบซื้อกิน” ตอบพร้อมกับยักไหล่ กระดกเหล้าในแก้วลงคออึกใหญ่
“ฉันดูร่านขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เมื่อเขาไม่ไว้หน้า เธอก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเขา ก็แค่ที่ระบายเป็นแค่เครื่องมือบำบัดความใคร่ มีสิทธิ์อะไรมายื่นข้อเสนอแบบนี้ให้เธอ
“ผมเห็นว่าคุณชอบเซ็กส์ แล้วเราก็นอนด้วยกันหลายครั้งแล้ว เลยคิดว่า...”
“ฉันไม่ตกลง ขอตัวก่อนนะคะ” คำพูดที่เหลือของภูริค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อเธอขัดขึ้น ใช้สายตาเป็นเชิงเตือนว่าเขากำลังดูถูกเธอ ก่อนจะขอตัวแล้วเดินไปที่ประตู
“คุณวางอนาคตไว้ยังไง”
“หมายความว่าไง”
“ไม่มีผู้ชายคนไหน อยากได้ผู้หญิงที่มีตำหนิไปเป็นแม่ของลูกหรอกนะ” คำพูดของเขาทำให้พนิดาหน้าชา เดือดจนเลือดขึ้นหน้า ใบหน้าสวยสะบัดกลับมามองหน้าเขา จิกตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาด้วยท่าทางสมเพช
“แล้วยังไงคะ ฉันต้องสนใจไหม ฉันมาที่นี่เพราะอะไรคุณก็รู้คำตอบ มีหน้าที่แค่ไหนก็ทำไปแค่นั้นเถอะค่ะ เลี้ยงตัวเองได้แล้วเหรอ ถึงอยากจะมาเลี้ยงฉัน” เยาะเย้ยถากถางคนที่บังอาจมาวางอำนาจใส่เธอ
“ที่ผมพูดก็เพราะหวังดี เป็นผม ผมก็ไม่เอาผู้หญิงมีตำหนิมาเป็นเมีย” เมื่อเธอสาดวาจาเชือดเฉือนมาให้ เขาก็เป็นบูมเมอแรง ใส่มาเท่าไรก็ฟาดกลับเท่านั้น แม้ในใจลึก ๆ จะรู้ว่าไม่สมควรก็ตาม
“ฉันมีเงิน ฉันจ่ายเงินซื้อคุณ ฉันผิดตรงไหน และที่สำคัญฉันก็ไม่ได้มีคุณแค่คนเดียว คุณก็หน้าตาก็ดีนะ ลองหาคนอื่นก็แล้วกัน”
“โชคดีแล้วกัน”
“เพราะมีผู้ชายแบบคุณไง โลกถึงไม่เจริญ” พูดจบก็เปิดประตูเดินออกไป อยู่ ๆ น้ำตาก็รื้นหัวตา เธอไม่ใช่คนอ่อนแอ คำพูดที่เป็นเหมือนคำดูถูกของเขาไม่มีผลกับเธอเลยสักนิด อยู่มาจนอายุขนาดนี้ ชีวิตคู่หรือครอบครัวไม่ได้อยู่ในหัวของเธอเลยสักนิด
“หยิ่งให้ตลอดก็แล้วกัน” มือหนาหยิบมือถือขึ้นมา เปิดดูรูปที่ถ่ายติดเครื่องเอาไว้ ก่อนจะกดส่งให้ใครบางคน พร้อมกับข้อความกำกับที่เน้นย้ำว่า ภายในครึ่งชั่วโมงเขาต้องรู้ว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าเป็นใคร
“นิด...พนิดา” ครางชื่อเธอออกจากลำคอเบา ๆ ไม่แน่ใจว่าใช่ชื่อของเธอจริงหรือเปล่า เพราะเป็นการแนะนำตัวก่อนขึ้นเตียง เธออาจจะตั้งชื่อใหม่เพื่อมาหลอกเขาก็ได้ จะยังไงก็ตามเขาจะทำทุกวิธีทาง เพื่อให้เธอเป็นทาส
ของเขา“รู้จักผมน้อยไปนะคุณนิด” คำปฏิเสธของเธอไม่ได้มีผลกับความรู้สึกเขา เพราะภูริเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะตอบตกลง แต่ที่ทำให้เขาไม่พอใจก็คือ ต่อไปนี้เธอคงไม่กลับมาที่นี่อีก และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไร เธอชอบเซ็กส์ เขาคิดว่าเธอคงไม่หยุดอยู่แค่นี้
รถสปอร์ตคันหรูขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเจ้าของรถอยู่ในอารมณ์ที่โกรธจัด คำพูดของผู้ชายคนนั้นยังก้องอยู่ในหู เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงมาดูถูกเธอ เสนอให้เธอไปเป็นคู่ขา พร้อมจ่ายค่าเสียเวลาให้ ผู้ชายไม่ได้มีความหมายกับเธอเลยสักนิด ซื้อกินคือวิธีที่ดีที่สุด ไม่คิดว่าจะถูกผู้ชายขายบริการดูถูก ไม่มีใครอยากได้ผู้หญิงมีตำหนิไปเป็นเมีย ตัวเขาเองก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลาเขาก็ไม่เลือกเธอเป็นแม่ของลูก ก็แค่สนุกชั่วครั้งชั่วคราว เซ็กส์ไม่ใช่อาหาร ไม่กินก็ไม่ตาย
“ไอ้โรคจิต!” นึกแล้วก็โมโหไม่หาย ทำไมตอนนั้นเธอไม่ฟาดปากเขาสักที สั่งสอนที่บังอาจมาพูดจาพล่อย ๆ ใส่เธอ
ภูริกลับเข้ามาในห้องนอน ในเวลาต่อมา ตาคู่คมมองไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ ที่มีคนตัวเล็กซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ความรู้สึกในหัวตีกันจนสับสนไปหมด เกิดอะไรขึ้น เขาไม่เคยรู้สึกอยากได้ใครมากมายเท่านี้มาก่อน ยิ่งพนิดาถอยหนีเขาก็ยิ่งอยากได้เธอ ภูริคิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเขาอยากเอาชนะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับค้นพบว่าเธอมีค่ามากกว่านั้น แผนครอบครองเธอไม่ง่ายเสียแล้ว เมื่อข่าวเรื่องธุรกิจของเธอแพร่ออกไป นักลงทุนทั้งหลายต่างก็จดจ้องเหมือนเสือตะครุบเหยื่อ ทุกคนรู้ว่า CCL ยังทำเงินให้อีกมหาศาล เป็นแบบนี้เขายิ่งหัวเสีย เพราะไม่ได้คิดเรื่องนี้เผื่อเอาไว้ เขาคิดเพียงแค่ว่า เพื่อรักษาบริษัทเอาไว้พนิดาจะต้องยอมทำตามข้อเสนอของเขา และเมื่อวันนั้นมาถึงเขาจะคืน CCL ให้เธอ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็ทำให้ปวดหัวไปกันใหญ่ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอา CCL มาเป็นของตัวเอง เพราะถ้า CCL ตกอยู่ในมือคนอื่น พนิดาจะไม่มีวันได้มันกลับคืนมา ปัญหาของเขาตอนนี้ก็คือ มีคู่แข่งโผล่มาเสนอราคาให้มากกว่า และไม่ใช่แค่รายเดียว “ผมจะเอามันกลับมาคืนให้คุณนะนิด” จะสายไปไหมถ้าเขาจะแก้ไขสิ่งที่ทำพลาดไป ผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ไม่ใช่เจ้าของ มีคนมาเสน
ภูริอุ้มคนคอพับอยู่กับอกเข้าสู่วงแขน แล้วพาเดินขึ้นชั้นบน บรรจงวางคนหลับลงบนเตียงอย่างเบามือ ถอดรองเท้าส้นสูงที่เธอใช้เป็นอาวุธทำร้ายเขาออกจากเท้าบาง แล้ววางมันไว้ข้างเตียง ร้องเท้าคู่นี้คงคับเกินไป เพราะเขาเห็นรอยแดงที่เท้าของเธอ ตาคมเข้มจับจ้องอยู่ที่ใบหน้า ที่เลอะไปด้วยเครื่องสำอางของเธอ อยากเช็ดออกให้แต่กลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเธอ พนิดาเหนื่อยมาก จนหลับคารถ ทั้ง ๆ ที่กำลังทำเลาะกันอยู่แท้ ๆ “คุณดื้อกับผมเหลือเกินนิด” เขาเองก็เหนื่อยล้าที่ต้องทำร้ายเธอสารพัดวิธี เขาซื้อหุ้นของCCL ได้เมื่อไร พนิดาก็อยู่ในกำมือของเขา อีกไม่นานหรอกเพราะตอนนี้เธอก็จนแต้มแล้ว จังหวะนั้นคนบนเตียงก็สะอื้นออกมา พร้อมกับดิ้นไปมา เธอคงฝันร้าย ร่างสูงก้าวเข้าหาแต่ก็ต้องหยุดเท้าที่ก้าวเดินเพราะมือถือที่สั่นขึ้นครืด~ครืด “ขออนุญาตครับนาย มีเรื่องด่วนครับ” ลูกน้องต่างรู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย จะไม่มีใครรบกวนเวลาพักผ่อนของเขา ขยับผ้าห่มให้กระชับตัวคนหลับ จูบลงที่หน้าผากมนฟอดใหญ่ เมื่อเธอสงบลง “ฝันดีนะครับ” กระซิบชิดใบหูคนหลับ ขโมยจูบริมฝีปากสีซีด ก่อนจะเดินออกไปจากห
สิ้นคำสั่งชายฉกรรจ์กลุ่มนั้น ก็กรูเข้ามายังจุดที่พนิดากับเอื้อตะวันยืนอยู่ หญิงสาวก้าวมาบังเอื้อตะวันเอาไว้ เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะเธอ เอื้อตะวันดึงพนิดาไปข้างหลัง แล้วใช้ตัวบังเธอเอาไว้แทน ดารกระทำที่แสดงถึงความห่วงใยของคนทั้งสอง เพิ่มความโมโหให้ภูริเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว กรามแกร่งขบเข้าหากัน อยากสั่งสอนหมอนั่นให้หลาบจำ จะได้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร “หนีไปค่ะคุณเอื้อ พวกเขาไม่ทำอะไรฉันหรอก” “ไม่! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่าคุณกับเขามีปัญหาอะไรกัน แต่ผมจะไม่ทิ้งคุณ” น้ำเสียงหนักแน่นที่มาพร้อมกับสายตาเด็ดเดี่ยว ทำให้หัวใจที่อ่อนล้าของพนิดาเข้มแข็งขึ้น นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าเพื่อนตาย เพิ่งจะรู้จักกันแท้ ๆ แต่เอื้อตะวันเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเธอ “ไม่ค่ะ ฉันทำให้คุณเดือดร้อน เรื่องนี้ฉันต้องรับผิดชอบ ไปสิคะหนีไป” “ไม่นิด ผมจะไม่ไปไหน” บทสนทนาของเขาและเธอเข้าหูภูริทุกประโยค จากที่ตั้งใจว่าจะไปรอในรถก็ต้องเปลี่ยนใจ เพิ่งจะรู้จักกันแต่ยอมตายแทนกันได้ น่าประทับใจจริง ๆ “อย่าเข้ามานะ! คุณเอื้อไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ พวกนายอย่า
บรรยากาศในร้านกาแฟเต็มไปด้วยความอบอุ่น พนิดาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไว้ใจและยอมมากับเขา เอื้อตะวันเป็นคนคุยเก่ง และตามทันเวลาที่เธอเล่นมุกตลก เธอต่างหากที่ตามไม่ทันมุกตลกฝืดของเขา ความไม่ตลกของเขาทำให้สนุกและผ่อนคลาย เธอสั่งกาแฟร้อนและขนมรองท้อง ในขณะที่เขาสั่งนมสดเย็นแก้วเดียว หมอมักจะรักษาสุขภาพ ชวนเธอมาดื่มกาแฟแต่ตัวเองดื่มนม ก็น่ารักไปอีกแบบ “คุณนิดชอบสัตว์ไหมครับ” ชวนคุยเพราะไม่อยากให้บรรยากาศบนโต๊ะเงียบเกินไป หลายครั้งที่เห็นมือถือเธอสั่น แต่พนิดาไม่รับสาย “สัตว์เลี้ยงเหรอคะ” “ครับ” “ก็มีชอบบ้างค่ะ” นึกว่าเขาจะเล่นมุก เพื่อโยงไปหาตัวเอง สัตว์ที่ว่าคือสัตว์แพทย์อะไรอย่างนี้ แต่เมื่อเขารับคำพนิดาก็ไปไม่เป็น บางครั้งเอื้อตะวันเหมือนจะรุก บางครั้งก็เว้นระยะห่าง เหมือนกลัวว่าเธอจะอึดอัด จึงเดาทางไม่ถูก “ชอบหมาหรือแมวครับ” หมากับแมวคือสัตว์เลี้ยงที่ใครหลาย ๆ คนหลงรัก “ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะ ฉันชอบจระเข้” “หืม...จระเข้เหรอครับ” “ใช่ค่ะ ฉันชอบเวลามันกินเหยื่อ มันดูโหดร้ายดีค
สัตว์แพทย์หนุ่มยืนพิงสะโพกในท่าทางสบาย ๆ เมื่อหญิงสาวขอตัวเข้าห้องน้ำ มืดแล้วก็จริงแต่ที่นี่ปลอดภัยเพราะอยู่ใจกลางเมือง ชีวิตที่เป็นเหมือนหุ่นยนต์ของเขาเริ่มต้นขึ้น และจบลงหลังจากปิดคลินิก ยี่สิบสี่ชั่วโมงของคนอื่นเป็นแบบไหนไม่รู้ แต่สำหรับหมอหมาอย่างเขามีแต่งานกับงาน วันนี้ก็เช่นกันหลังจากปิดคลินิก ตั้งใจจะมาเดินเล่นเพื่อพักสมอง เขาเห็นรถของหญิงสาวจอดอยู่ตรงจุดนั้นนานเกินไป เพราะความห่วงใยจึงทำให้เขาได้รู้จักเธอ พนิดา ศิริวิมล นักธุรกิจสาวสวยแถวหน้าของเมืองไทย ข่าวเรื่องธุรกิจของเธอไม่สู้ดีนัก และที่สำคัญเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เพราะหลักฐานอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ “รอนานไหมคะ” คำถามที่มาพร้อมกับร่างระหงที่มายืนอยู่ข้างหน้า ทำให้หมอหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เพราะกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ “ตกใจเหรอคะ ขอโทษค่ะ” พนิดาเอ่ยขอโทษด้วยท่าทางเก้อเขิน “เปล่าครับ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” ถามพร้อมกับมองหน้าเธอ ที่แต่งหน้าออกมาอย่างสวยงาม จนเขาจำแทบไม่ได้ “ทำไมคะ” พนิดาถามเมื่อถูกมองนาน “สวยครับ” “เพราะเครื่องสำอางค่ะ ฉันแต่งหน้าทำผมใหม
ภูริกลับออกมาหลังจากปล่อยให้เธอรออยู่พักใหญ่ ใบหน้าของเขาชุ่มไปด้วยน้ำ น้ำบางส่วนไหลลงไปเปียกที่คอเสื้อเป็นวงกว้าง ไม่มีกล่องปฐมพยาบาลติดมือมาอย่างที่ควรเป็น พนิดาหน้าตึง เมื่อรู้ว่าเขาแกล้งถ่วงเวลา “กล่องยาอยู่ไหนคะ” ถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ข่มความไม่พอใจเอาไว้ เวลาทุกวินาทีของเธอมีค่า แต่เขาทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องสนุก เธอไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเขาหรอกนะ ภูริทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวตรงข้าม จ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง เขาเพิ่งล้างหน้าและเห็นว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของเขายับเยินเพราะฝีมือเธอ ถ้าแจ้งความเธอคงติดคุกข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะดีเอ็นเอของเขาอัดแน่นอยู่ในกงเล็บของเธอ “ไม่ทำแผลแล้วใช่ไหมคะ” “ทำยังไงถึงจะใจอ่อน” คำพูดของเขาทำให้มือที่กำลังรวบแฟ้มบนโต๊ะชะงัก สุดท้ายเขาก็วกกลับมาเรื่องเดิม “ไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ” “นิด...” น้ำเสียงที่ใช้เบาลงก็จริง แต่ยังคงกระด้างหูเหมือนเดิม “ฉันไม่มีเวลามาล้อเล่น หรือเล่นเกมบ้า ๆ กับคุณหรอกค่ะ” “ผมกำลังจะช่วยคุณอยู่นี่ไง” “เก็บความหวังดีของคุณไว้เถอะค่ะ ฉั







