ร่างอรชรของหญิงสาวหุ่นสมส่วนอ้อนแอ้นทรวดทรงอวบอิ่มเต่งตึงน่าสัมผัสไปทั้งร่างกาย ผิวสีน้ำผึ้งไม่ขาวไม่ดำจนเกินไปกับเรือนผมสีน้ำตาลยาวสลวยมัดรวบตึงไว้กลางศีรษะ จอมใจ หรือ กานต์พิชชา แสงทรัพย์ เลขาสาวใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งดูเชิดรั้นตามสไตล์ของคนดื้อรั้นสู้ไม่ถอย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลชวนหลงใหลที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันไม่อาจต้านทานได้ อีกทั้งยังมีริมฝีปากสีชมพูระเรื่ออิ่มเอิบ ที่เมื่อยามหญิงสาวส่งยิ้มไปให้คู่สนทนาทีไรก็ทำให้ชายหนุ่มหรือคู่สนทนาใจเต้นแรงได้อย่างง่ายดาย
จอมใจสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนขายาวสีเข้มเข้ารูปเผยให้เห็นเรียวขายาวสลักเสลา หญิงสาวกำลังก้าวเดินเข้ามาในผับดังที่ใหญ่โตหรูหรา ถึงแม้ว่าจอมใจจะแต่งตัวธรรมดาไม่ได้หวือหวาโชว์เนื้อหนังมังสาแต่ทว่าก็มีชายหนุ่มหลายคนจับจ้องมองมายังร่างเล็กสูงเรียวด้วยสายตาหื่นกระหายตามประสาของเหล่านักท่องเที่ยวยามราตรี
หญิงสาวไม่ได้สนใจสายตาของใครทั้งนั้นในเวลานี้เพราะเธอมีสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ เธอรีบร้อนเดินแทรกตัวผ่านผู้คนจำนวนมากตรงไปยังห้องวีไอพีที่ชายหนุ่มหน้านิ่งจอมเย็นชาอยู่และในขณะที่จอมใจกำลังเดินอยู่นั้นโทรศัพท์ในมือของเธอก็สั่นแจ้งเตือนขึ้นมา
ร่างเล็กหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เธอจะยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพบว่าคนที่โทรมาก็คือ คุณหญิงณิชาหรือก็คือแม่ของท่านประธานที่เธอทำงานด้วยนั่นเอง
มือบางของจอมใจกดรับสายและยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเอาไว้อย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าคุณหญิงจะเป็นห่วงลูกชายจนเกินไป ปลายสายจึงเอ่ยขึ้นมาทันทีที่จอมใจกดรับสาย
‘จอมใจ หนูเจอนักรบหรือยัง’
เสียงหวานของณิชา มารดาของนักรบพูดขึ้นมาผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นกังวลและเป็นห่วงเป็นใยลูกชาย
นักรบ หรือ ปรัชญ์ธนัช เทวาศิริโชติ ชายหนุ่มหน้าเอเชียคมเข้มหล่อเหลาที่เป็นประธานบริษัทศิริโชติจำกัด เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำรายใหญ่ของประเทศ ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มหล่อเหล่าดั่งเทพบุตรที่ได้เป็นประธานบริษัทตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยความสามารถของตัวเองที่ทำให้คณะกรรมการและผู้อาวุโสไว้วางใจให้เป็นประธานบริษัทตั้งแต่อายุ 28 ปีและชายหนุ่มก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาโดยตลอด
“หนูกำลังเดินไปหาท่านประธานที่ห้องวีไอพีค่ะ แต่ให้คนสนิทของท่านประธานเฝ้าไว้อยู่ค่ะคุณป้า” จอมใจตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแต่แฝงไปด้วยความมั่นคง
‘ป้าฝากดูแลนักรบหน่อยนะ’ ณิชาเอ่ยต่อ
“ได้ค่ะ คุณป้าไม่ต้องห่วงนะคะ”
‘ขอบใจหนูมากๆ เลยนะ ที่คอยดูแลนักรบแทนป้ามาตลอดสองปีที่หนูทำงานมา’
“มันเป็นหน้าที่ของหนูอยู่แล้วค่ะ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะคุณป้า” จอมใจเดินมาจนกระทั่งถึงหน้าห้องวีไอพีที่ลูกน้องของท่านประธานได้บอกกล่าวเธอเอาไว้
‘จ้า’
สิ้นเสียงของณิชา จอมใจจึงยกโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่ออกและจัดการกดวางสายทันที
“ท่านประธานอยู่ในห้องครับ ไม่ยอมให้ใครเข้าไปเลย” ภูผา มือขวาคนสนิทของนักรบที่ยืนอยู่หน้าห้องวีไอพีพูดขึ้นมาเมื่อจอมใจเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างหนักแน่น
หลังจากนั้นร่างเล็กก็เก็บโทรศัพท์ในมือลงไปใส่กระเป๋ากางเกงยีนขายาวด้านหลังเอาไว้ หญิงสาวยกมือขึ้นมาเคาะประตูสามครั้งตามมารยาทและเปิดประตูเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องวีไอพี กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง จอมใจมองไปที่โซฟาใหญ่กลางห้องก็พบกับท่านประธานของเธอหรือก็คือนักรบที่กำลังนั่งหน้านิ่งแต่สายตาดุดันอยู่คนเดียวในห้องนี้ สายตาของชายหนุ่มมองจ้องไปด้านหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะใครมาในห้องนี้หรือเปล่า
ร่างกำยำอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวหลุดลุ่ยดูไม่เป็นระเบียบสักเท่าไหร่กับกางเกงเนื้อดีสีดำ ชายหนุ่มเอนกายพิงกับโซฟาตัวใหญ่พร้อมกับในมือหนาถือแก้วเหล้าสีอำพันควงหมุนวนไปมาทำให้ของเหลวในแก้วเหมือนเป็นพายุเล็กๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลดูกังวลและครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
จอมใจไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปเพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองควรจัดการกับสถานการณ์แบบนี้อย่างไร หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องและนั่งลงโซฟาข้างๆ ชายหนุ่ม เธอรู้ดีนิสัยของนักรบมากกว่าใครทั้งนั้นเพราะเธอทำงานใกล้ชิดกับชายหนุ่มมาเกือบสองปี
“มาทำไม” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยถามออกไปโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าเธอ
“คุณหญิงให้มาดูแลท่านประธานค่ะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างตรงไปตรงมา ในคราแรกเธอกำลังจะเข้านอนแล้ว แต่เพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาเธอจึงต้องลุกขึ้นมากดรับสายและพบว่าเป็นมารดาของท่านประธานที่มีเรื่องร้อนใจต้องฝากฝังให้เธอมาจัดการโดยเร็วที่สุด
“ฉันรินเหล้าให้นะคะท่าน”
จอมใจรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีพร้อมกับมือบางเอื้อมไปหมายจะหยิบแก้วเหล้าในมือของนักรบมาเทเหล้าให้ นักรบจึงกระดกเหล้าพรวดเดียวจนหมดแก้วและยื่นไปให้เลขาสาวสวยอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวรับแก้วมาจากมือของนักรบก่อนที่เธอจะจัดการรินเหล้าให้ชายหนุ่มและยื่นไปวางไว้บนโต๊ะข้างหน้าคนตัวใหญ่
จอมใจไม่เคยรับรู้ว่าชายหนุ่มมีปัญหาอะไรถึงได้เป็นคนที่ติดเหล้าหนักขนาดนี้และเธอก็ไม่เคยก้าวก่ายหรืออยากรู้เรื่องของเจ้านายด้วย เธอมีหน้าที่แค่ดูแลและทำตามคำสั่งของนักรบกับคุณหญิงณิชาเท่านั้น
“พรุ่งนี้มีประชุมเรื่องเรือขนสินค้าไปประเทศจีนตอนเที่ยงนะคะ ท่านสามารถเข้าบริษัทช่วงสายๆ ได้ค่ะ”
“อือ” นักรบตอบกลับสั้นๆ
หลังจากนั้นนักรบก็ดื่มเหล้าสีอำพันลงคอไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีคำพูดใดๆ เอ่ยออกมาจากทั้งสองคน จอมใจยังคงทำหน้าที่คอยรินเหล้าใส่แก้วให้นักรบอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเมาจนเกินไปเขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นดังนั้นจอมใจจึงลุกพรวดขึ้นมาพยุงเจ้านายเอาไว้ ทำให้นักรบยกวงแขนแกร่งขึ้นมาพาดลำคอระหงของหญิงสาวเอาไว้ด้วยความเคยชิน ถึงแม้ชายหนุ่มจะเมาแต่เขายังมีสติและเดินเหินได้ตามปกติ อาจจะมีโอนเอนบ้างเล็กน้อยแต่คนตัวเล็กกลับคอยเข้ามาพยุงเขาแบบนี้ทุกครั้งที่เขาเมาจนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
หญิงสาวค่อยๆ ก้าวเดินพาชายหนุ่มร่างกำยำที่สูงกว่าเธอออกมาจากห้องวีไอพีอย่างช้าๆ นักรบมักจะเป็นแบบนี้เสมอในเวลาที่ชายหนุ่มมีเรื่องเครียดหรือทุกข์ใจ ชายหนุ่มมักจะออกมานั่งกินเหล้าคนเดียวแต่พอเขารู้ตัวว่าเริ่มเมามากแล้ว ชายหนุ่มก็จะกลับเพนท์เฮาส์ทันทีเพราะกลับไปเขาจะได้หลับโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย
“ผมช่วยไหมครับ” เสียงของภูผา มือขวาของนักรบที่ยืนรออยู่หน้าห้องเอ่ยถามทันทีที่เห็นเจ้านายกับเลขาสาวเดินออกมาจากห้องวีไอพี
“ไม่เป็นไรค่ะ” จอมใจตอบกลับไปก่อนที่จะเอ่ยต่อ
“รถจอดอยู่ตรงไหนคะ”
“ที่จอดรถวีไอพีครับ” มือขวาคนสนิทของนักรบเอ่ย
“คุณเดินนำไปได้เลยค่ะ”
“ครับ”
นักรบไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาก็ยังคงเป็นเขาที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกอะไรอยู่
ภูผาเดินนำไปยังรถหรูที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถวีไอพี ซึ่งจอมใจก็พานักรบเดินตามมาเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งสามคนมาถึงรถคันหรูสีดำเงาสี่ที่นั่งที่มีราคาหลักล้าน
บอดี้การ์ดคนสนิทเดินไปเปิดประตูรถฝั่งขวาด้านหลังให้พวกเขา จากนั้นนักรบก็ขึ้นมาบนรถและตามมาด้วยจอมใจเลขาคนสวย
เมื่อทั้งสองคนขึ้นไปนั่งบนรถหรูเรียบร้อยแล้ว ภูผาจึงจัดการปิดประตูให้พวกเขาและเดินไปฝั่งคนขับ เขาเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับรถ
หลังจากนั้นรถคันหรูสีดำเงาก็ค่อยๆ ขับเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถสุดหรูของผับแห่งนี้อย่างช้าๆ นักรบนั่งเอนกายพิงกับเบาะหนังราคาแพงพร้อมกับปิดเปลือกตาลงส่วนจอมใจก็หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าหลังกางเกงยีนออกมาส่งข้อความไปหามารดาของเจ้านายเธอเพื่อไม่ให้ท่านเป็นกังวลไปมากกว่านี้
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง รถคันหรูมูลค่าหลายล้านก็ขับเคลื่อนมาจอดลงตรงลานจอดรถวีไอพีของโรงแรมกลางเมืองกรุงที่มีเพนท์เฮาส์ของนักรบอยู่ชั้นบนสุดของที่นี่
“ฝากดูแลท่านประธานต่อด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันจะเรียกรถกลับแล้ว” เลขาสาวเอ่ยขึ้นมาและเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนเหมือนเช่นเคย
“ฉันเมามาก เธอต้องเป็นคนอยู่ดูแลฉันก่อนจนฉันหลับแล้วค่อยกลับ” นักรบตอบกลับในขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นมามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตานิ่งเรียบไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำเล็กน้อยด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ชายหนุ่มดื่มไปเป็นจำนวนมาก
“เอ่ออ..ได้ค่ะ” หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เธอจะตอบกลับไป สงสัยครั้งนี้เจ้านายของเธอคงจะเมาจริงๆ เพราะปกตินักรบไม่เคยให้เธอขึ้นไปบนเพนท์เฮาส์เลยสักครั้ง เขาจะให้เธอรออยู่ข้างล่างตลอด ซึ่งหญิงสาวก็ปฏิบัติตัวตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัดอยู่ตลอดเวลา
จอมใจเอื้อมมือไปเปิดประตูรถและลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว จากนั้นหญิงสาวก็เดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูรถและพยุงร่างกำยำของเจ้านาย
“ไหวไหมคะท่านประธาน” เสียงหวานเอ่ยถามก่อนที่เธอจะเข้าไปพยุงชายหนุ่มเอาไว้ เธอเองก็อยากจะรีบกลับไปพักผ่อนเต็มที่แล้ว รีบทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จเธอจะได้กลับไปพักผ่อนสักที
“อือ” วงแขนแกร่งของนักรบโอบรอบไหล่แบบบางพร้อมกับทิ้งน้ำหนักลงไปใส่คนตัวเล็กแต่เขาก็ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักลงไปมากเท่าไหร่
จอมใจค่อยๆ พาเจ้านายร่างสูงโปร่งเดินตรงมายังลิฟต์หรูตัวใหญ่ภายในชั้นล็อบบี้อย่างทุลักทุเลเพราะขนาดตัวที่ต่างกันลิบลับแต่หญิงสาวก็ไม่บ่นสักคำจนกระทั่งพวกเขาขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมหรู เพนท์เฮาส์ของชายหนุ่มกินพื้นที่ไปจนเต็มหมดชั้นนี้จึงมีเพียงแค่ห้องของนักรบเพียงห้องเดียวเท่านั้น
“รหัสอะไรคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อพวกเขาเดินออกจากลิฟต์มาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ที่มีปุ่มให้กดรหัสผ่านหน้าประตูซึ่งเป็นระบบล็อกประตูแบบดิจิทัล
“ฉันกดเอง” เสียงทุ้มทรงพลังตอบกลับ จากนั้นชายหนุ่มก็เลื่อนมือหนาไปกดรหัสผ่านตรงประตูอย่างช้าๆ
ติ้ด ติ้ด ติ้ด ติ้ดด
มือบางของจอมใจเอื้อมไปจับลูกบิดประตูพร้อมกับดันประตูห้องของเจ้านายเปิดเข้าไป ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องที่ดูก็รู้ว่าเป็นห้องนั่งเล่น ภายในห้องตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทันสบายโทนสีน้ำตาลครีม
“ห้องนอนอยู่ฝั่งนู้น” นักรบชี้ไปตรงฝั่งขวาของห้องที่มีประตูอยู่มากมายหลายห้องทำให้จอมใจก้าวเดินมาทางที่ชายหนุ่มบอกเธอ
“ค่ะ”
“ห้องนั้น” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบอีกครั้ง
จอมใจพาชายหนุ่มมาจนถึงหน้าห้องนอนของนักรบ มือบางเอื้อมไปจับลูกบิดประตูหมุนและเปิดประตูเข้าไปภายในห้องนอนทันที
หญิงสาวพาชายหนุ่มมาจนถึงเตียงนอนใหญ่สีน้ำตาลครีมกลางห้องนอน นักรบค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงตรงขอบเตียงนุ่มนิ่มช้าๆ
“ขออนุญาตนะคะ” จอมใจเอ่ยก่อนที่เธอจะย่อตัวนั่งลงคุกเข่าตรงพื้นห้องเพื่อถอดรองเท้าหนังราคาแพงออกให้ชายหนุ่มเพราะคิดว่าชายหนุ่มคงจะก้มลงถอดเองไม่ไหวแน่ๆ หญิงสาวค่อยๆ ถอดรองเท้าออกให้ชายหนุ่มและหยิบขึ้นมาถือเอาไว้ จอมใจลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้องนอนของนักรบแต่ทว่าเสียงทุ้มทรงพลังก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ถอดออกให้หมด”
“หมดแล้วนะคะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างไม่ได้คิดอะไร
“เสื้อผ้าด้วย ฉันไม่ชอบใส่อะไรนอน” นักรบมองจ้องไปที่ใบหน้าสวยคมของหญิงสาว
“ทะ..ทำไมถึงต้องถอดออกให้หมดค่ะ” เลขาสาวเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก
“เพราะฉันสั่ง”
“คือ…”
“เร็วๆ” ชายหนุ่มเสียงแข็งใส่หญิงสาว
“คะ..ค่ะ” จอมใจสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เธอจะวางรองเท้าลงบนพื้น จากนั้นมือบางก็เอื้อมมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวออกทีละเม็ดอย่างช้าๆ จอมใจลอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ แต่เธอก็พยายามทำตัวเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้คิดอะไรและเป็นมืออาชีพมากพอทั้งๆ ที่เธอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อนขนาดนี้เลย
นักรบจับจ้องไปที่ร่างเล็กที่ทำหน้าตานิ่งเรียบเหมือนกับว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่มันเป็นเรื่องปกติ มือบางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มออกจนหมดเผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องแน่นเป็นลอนน่าสัมผัส
หมับ!
นักรบคว้ามือบางที่กำลังจะดึงรั้งเสื้อเชิ้ตออกจากไหล่หนาให้หญิงสาวหยุดการกระทำก่อน
“ทำไมต้องทำเกินหน้าที่ตลอด” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างมีเลศนัย
“เพราะคุณปะ..เอ่ออ คุณหญิงต้องการให้ฉันดูแลท่านประธานค่ะ”
“แล้วถ้าไม่ใช่เพราะแม่ฉัน เธอจะคอยดูแลฉันแบบนี้ไหม” นักรบถามออกไป ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องถามเธอแบบนี้
“ค่ะ เพราะมันคือหน้าที่ของเลขาค่ะ”
“จอมใจ” ชายหนุ่มเรียกชื่อของเลขาสาวอย่างแผ่วเบาก่อนที่เขาจะกระชากเรียวแขนเล็กในทับลงมาบนตัวของเขาและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ชายหนุ่มเอนกายนอนราบลงไปพอดี จึงกลายเป็นว่าในตอนนี้จอมใจนอนอยู่บนร่างกำยำของเจ้านายตัวเองเป็นที่เรียบร้อย
“ทะ..ท่านประธาน จะ..จะทำอะไรคะ!” เสียงหวานพูดขึ้นมาอย่างตะกุกตะกักพร้อมกับพยายามดันตัวขึ้นจากชายหนุ่มแต่ทว่าก็โดนวงแขนแกร่งกอดรัดเอาไว้แน่น
“หยุดนะคะ คุณเมามากแล้วนะคะ ปล่อยฉันเถอะค่ะ!”
“ท่านประธานค่ะ!!” หญิงสาวเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใกล้หน้าของเธอมากๆ
นักรบจ้องมองริมฝีปากเรียวเล็กอยู่ชั่วครู่ก่อนที่ชายหนุ่มจะเลื่อนมือขึ้นมาตรงศีรษะของหญิงสาวและกดหัวของเธอให้ลงมาใกล้ใบหน้าหล่อเหลา นักรบผงกหัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าชายหนุ่มจะทำแม้กระทั่งตัวของเขาเอง
“อื้ออออ”
ร่างบางครางต่ำในลำคอพร้อมกับดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อโดนนักรบฉกจูบลงที่ริมฝีปากเล็กของเธออย่างกะทันหัน
ริมฝีปากหนาของนักรบฉกจูบลงบนเรียวปากสีชมพูระเรื่ออย่างจาบจ้วง ลิ้นสากร้อนส่งเข้าไปทักทายกับลิ้นเรียวเล็กพร้อมกับขบเม้มริมฝีปากล่างของหญิงสาวเบาๆ มือหนาเลื่อนต่ำลงมาโอบรอบเอวคอดกิ่งพลางดึงรั้งหญิงสาวให้แนบชิดกับแผงอกแกร่งเปลือยเปล่า มือบางยกขึ้นมาลูบไล้หน้าอกกำยำอย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา นิ้วเรียวเล็กซุกซนสะกิดยอดจุกของชายหนุ่มพลางจูบตอบสามีจนเสียงทุ้มครางต่ำในลำคอด้วยความพึงพอใจชายหนุ่มเคลื่อนมือสากล้วงเข้าไปในเสื้อสีขาวสะอาดตาของจอมใจก่อนที่มือหนาจะหยุดลงตรงเต้าอวบอิ่ม เขาบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอย่างเมามัน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังคงจูบกันเกี่ยวพันลิ้นร้อนอย่างดูดดื่มนักรบคว้ามือบางให้ล้วงเข้าไปในกางเกงผ้าเบาสบายของเขา จอมใจรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี มือเล็กล้วงเข้าไปสัมผัสหยอกล้อกับแก่นกายใหญ่ที่มีเส้นเลือดปูดโปนกำลังแข็งขันชูชันสู้มือ หญิงสาวถลกหนังหุ้มปลายหัวหยักแดงก่ำลงพลางใช้นิ้วเล็กลูบวนบนปลายหัวจนเริ่มมีน้ำใสๆ ไหลปริ่มออกมาจากรูเล็กตรงกลางหัวมันเงาชายหนุ่มไม่รอช้า มือหนาเริ่มปลดกระดุมชุดนอนสีขาวสะอาดตาของหญิงสาวออกอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาค่อยๆ เคลื่อนไปตรงซอกคอขาวเนี
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของจอมใจนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่กำลังพูดคุยกับณิชาไปเรื่อยเปื่อยบนโซฟากลางห้อง ตรงพื้นห้องมีเหล่าบรรดาสาวใช้ประมาณสองคนที่กำลังเก็บข้าวของที่เกลื่อนกลาดตรงพื้นห้องอยู่ ถัดไปก็มีแม่บ้านที่อาวุโสที่สุดในคฤหาสน์กำลังนั่งมองเด็กทารกวัยหนึ่งขวบหลับอยู่ในเปลนอนสีน้ำตาลสุดหรูด้วยสายตาเอ็นดูและหลงใหลในความน่ารักน่าชังของเด็กน้อยตั้งแต่มีเด็กชายตัวน้อยๆ เข้ามาในคฤหาสน์ ทุกคนในบ้านก็ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งทุกคนยังเลี้ยงดูเด็กชายช่วยกันเป็นอย่างดีจนแทบจะเรียกได้ว่าแย่งกันเลี้ยงเลยทีเดียวเหนือสมุทรเดินเข้ามาในห้องโถงพลางกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ในห้อง เมื่อชายแก่เห็นว่าเด็กชายหลับอยู่เขาจึงค่อยๆ เดินย่องให้เบาที่สุด ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วเด็กน้อยจะตื่นยากแต่เหนือสมุทรก็ไม่อยากรบกวนการนอนหลับของเด็กชายตัวน้อยสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณปู่” ณิชากับจอมใจกล่าวทักทายชายแก่พร้อมกัน “นักรบละ” เหนือสมุทรเอ่ยถาม“อยู่ในห้องทำงานค่ะ” จอมใจตอบกลับพลางส่งยิ้มหวานไปให้“ฉันซื้อเสื้อผ้ากับของเล่นมาให้เหลนฉัน”“จอมทัพเพิ่งหลับไปสักพักเองค่ะ” จอมใจบอกกล่าวเหนือสมุท
สี่เดือนต่อมาเสียงเอ๊ะอ๊ะโวยวายภายในคฤหาสน์ของตระกูลเทวาศิริโชติดังขึ้นมา ร่างกำยำของนักรบกำลังอุ้มจอมใจที่ท้องโตในท่าเจ้าสาวกำลังก้าวตรงมายังลานจอดรถด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจและวิตกกังวล เพราะเมื่อสักครู่นี้จอมใจเดินลงบันไดมาอยู่ดีๆ เธอก็บอกกับเขาว่าเธอเจ็บท้องมากๆ ซึ่งในเวลาต่อมาน้ำคร่ำของเธอก็แตกไหลเปียกลงมาระหว่างเรียวขาสวย นักรบรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวจะคลอดลูกชายตัวน้อย เขาจึงรีบช้อนร่างอวบอิ่มอุ้มตรงมาที่รถอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้รีบวิ่งไปตามมารดาของนักรบทันที“จอมใจ! อดทนหน่อยนะ!” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยกับร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงสั่นเทา“ฮึก! คะ..ค่ะ อืออ” จอมใจหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเจ็บปวดที่ท้องและอาการมดลูกหดเกร็งที่บีบรัดอยู่เป็นระยะ“ไหวไหม” นักรบเอ่ยถามหญิงสาวไม่หยุดปาก“วะ..ไหวค่ะ ฉันไหวค่ะ” หญิงสาวพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้“ไอ้ภูผา! ไอ้ภูผา! ไปไหนของมันวะ” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเขาอุ้มภรรยามาถึงลานจอดรถของคฤหาสน์ ทว่าเขากลับไม่เห็นคนสนิทของเขา“นักรบ ใจเย็นๆ นะลูก ให้คนอื่นขับพาไปก็ได้นะลูก” ณิชาที่รีบวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกกล่าวกับลูกชายทันที“ไม่ได้แม่…ต้องให้มัน
สองเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอวบอิ่มหน้าท้องนูนเด่นขึ้นมาเล็กน้อยกำลังนอนอยู่บนเตียงตรวจโดยมีคุณหมอคนสวยสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนอยู่ข้างเตียงกับชายหนุ่มร่างกำยำที่นั่งอยู่ใกล้ชิดกับจอมใจด้วยใบหน้าที่ดูตื่นเต้นเล็กน้อย นักรบกับจอมใจมาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายของจอมใจและเพื่อตรวจเพศของทารกในครรภ์“ตอนนี้เรากำลังจะมาดูเพศน้องกันนะคะ” เสียงเครื่องอัลตราซาวน์ดังขึ้นเป็นระยะในขณะที่คุณหมอคนสวยดูท่าทางใจดีและอบอุ่นกำลังใช้หัวตรวจวนไปวนมาอยู่ตรงเจลที่ทาไว้ก่อนหน้านี้ตรงหน้าท้องของจอมใจ“เดี๋ยวรอน้องอยู่ในท่าที่เห็นได้ชัดก่อน หมอจะแจ้งให้ทราบนะคะ” หมอสาวค่อยๆ ขยับหัวตรวจอย่างแผ่วเบาอยู่สักพัก นักรบมองท้องของหญิงสาวสลับกับหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ“เห็นชัดแล้วค่ะ..น้องเป็นผู้ชายนะคะ” สิ้นเสียงคุณหมอคนสวย จอมใจหันหน้าไปมองชายหนุ่มพลางฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีอกดีใจให้เขาทันที แน่นอนว่านักรบเองก็ดีใจมากๆ เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพศไหนเขาก็รักลูกของเขาอยู่ดีทว่าได้ลูกชายก็ดีเลยเพราะเขาก็อยากจะสอนถ่ายทอดวิชาและการใช้ชีวิตต่างๆ ให้กับลูกชายของเขา“ดีใจด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่”“ขอบคุณนะคะคุณหมอ” เสียงหวา
หลังจากที่นักรบพาภรรยาคนสวยไปทานมื้อค่ำกันจนเสร็จเรียบร้อย คู่สามีภรรยาก็พากันกลับมายังคฤหาสน์ในช่วงพลบค่ำของวัน ชายหนุ่มร่างกำยำโอบไหล่แบบบางของภรรยาเดินตรงเข้ามาในคฤหาสน์ ในขณะเดียวกันสาวใช้ก็เดินตรงมาหาพวกเขาพอดี“นายท่านคะ..ท่านปู่มาค่ะ” สาวใช้ชุดดำเอ่ยขึ้นทันที“อือ” นักรบพยักหน้าให้เธอ สาวใช้ก้มหัวให้เจ้านายหนึ่งครั้งก่อนที่เธอจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์“มีอะไรหรือเปล่าคะ” จอมใจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย วันแต่งงานพวกเธอก็ไม่ได้คุยอะไรกับปู่ของนักรบเลยสักนิดเพราะยุ่งกับงานแต่งอยู่ ซึ่งท่านเองก็เงียบขรึมไม่พูดไม่จาอะไร เธอจึงไม่รู้ว่าชายแก่คิดอะไรอยู่“ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปในบ้านกันเถอะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวเดินเข้ามาในคฤหาสน์และตรงไปยังห้องรับแขกทันทีชายแก่ที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นดูดุดันน่าเกรงขามนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา นักรบเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับจอมใจที่เดินเคียงข้างชายหนุ่มเข้ามา“มาทำไม” เสียงทุ้มของนักรบเอ่ยถามชายแก่ทันที “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นมาพนมกลางอกพลางกล่าวทักทายชายแก่อย่างนอบน้อม“ฉันซื้อผลไม้
คู่รักข้าวใหม่ปลามันลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์พร้อมกัน จอมใจสวมชุดเดรสสั้นทรงตรงสีขาวแขนกุดมีใบหน้าที่อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ชายหญิงตื่นมาทานอาหารเช้ากับมารดาทั้งสองคน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่หนุ่มสาวก็ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมานั่งรอพวกเขาเพื่อทานอาหารเช้า“ตื่นเช้ากันจังเลยละลูก” เสียงของณิชาเอ่ยทักทายคู่สามีภรรยาที่เดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกัน“หนูกลัวว่าคนอื่นจะรอกินข้าวค่ะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างนอบน้อม“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย พวกแม่เข้าใจดี” ณิชาหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับจารวีที่นั่งอยู่ข้างเธอ“มาๆ กินข้าวกันลูก” จารวีพูดขึ้นมา นักรบกับจอมใจจึงเดินไปนั่งลงประจำที่ของตัวเอง ชายหนุ่มนั่งลงตรงหัวโต๊ะและจอมใจเดินไปย่อตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้านขวามือของนักรบ พวกเขาทั้งสี่คนลงมือทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างช้าๆ บรรยากาศภายในบ้านดูอบอุ่นแตกต่างจากเมื่อก่อนไปเยอะมาก“จ๋า เธอก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันเลยสิ” มารดาของนักรบเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกรงใจ” จารวีตอบกลับ แค่นี้เธอก็เกรงใจครอบครัวของณิชามากๆ แล้ว“จะเกรงใจทำไม คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างเราก