Share

ไออุ่นแห่งรัก [1]

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-04 23:16:16

ชายหนุ่มกำลังเดินเตะเท้าเปล่าออกจากอำเภอ หลังเซ็นต์ใบหย่าเลิกกับภรรยา เขาพยายามคลี่คลายความเครียดดราม่ามาหลายวัน หลังจากเมื่อได้รู้ว่า จิตสุภา ซึ่งแต่งงานนอนเตียงเดียวกัน แอบมีชู้ลับหลังเขา

ชวกร (ชะ-วะ-กอน) ส่ายหัวตบมือหนาเข้าที่หน้าผากอย่างเหนื่อยหน่าย ความร้อนจากหน้าผากแผ่กระจาย เมื่อใช้ความคิดมาหนักหน่วงพอสมควร เห็นทีจะต้องได้เวลาหยุดพักผ่อน เพื่อให้ตัวเองหมดทุกข์เสียที...

จิตสุภาเดินตามหลังชวกอนออกมา เพื่ออยากจะขอความมีน้ำใจดีๆ กับชวกรอีกครั้ง แววตาเธออยากจะขอโทษ และอยากจะขอโอกาสเขา เพื่อขอคืนดีแม้ว่าจะถูกศาลสั่งให้เซ็นต์ใบหย่า เธอยอมรับว่า สถานการณ์ตอนนั้นอารมณ์พาไป และสถานการณ์ตอนนี้ก็บังคับให้เธอทำ...

“ชวกร!!!” จิตสุภาเดินตามหลังอดีตสามีซึ่งเดินห่างรำไร เขากำลังจะไปยังที่จอดรถ เพื่อพาตัวเองออกจากอำเภอนี้

ชายหนุ่มไม่อยากจะพลิกกายหันไปเจออดีตภรรยา ซึ่งเขาเคยรักและเคยร่วมลับนอน ความสุขที่ผ่านมา มันคงเป็นเพียงแค่ความฝันที่มีความสุขที่สุด แต่เมื่อเขาตื่นมาก็ได้พบความจริงว่า ภรรยาเขาไม่ได้เป็นเมียที่แสนอบอุ่นอีกต่อไป เธอมีชู้กับชายอื่น ยามเขาไปทำงาน และขอเงินเขาเพื่อไปอยู่กับชายชู้...

“ชวกร...ได้โปรดเถอะ เรากลับมาคืนดีกันเถอะนะ” จิตสุภาเร่งฝีเท้าเพื่อวิ่งเข้าไปหาชวกร แต่ช้าไปเมื่อชายหนุ่มขึ้นรถยนต์ญี่ปุ่นส่วนตัวได้ เขารีบสตาร์ทเครื่องยนต์ขับออกจากที่นี่ทันที เพื่อมิให้ต้องบังคับพวงมาลัยชนจิตสุภา ด้วยความเกลียดชัง

ชวกรกำลังเคร่งเครียดไม่อยากจะพบกับจิตสุภาอีกต่อไป ความเร็วของเครื่องยนต์เพิ่มทวี กำลังพาเขาออกไปให้ห่างไกลจากอำเภอ ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านหลังเดียวกับจิตสุภา หรือสถานที่ใดก็ตามเพื่อรำลึกถึงภรรยาเก่าอีกต่อไป

******

ระหว่างความเร็วของรถวิ่งออกไป ฝ่าความเลวร้ายของพายุและสายฝนเริ่มโปรยปราย ชายหนุ่มมิได้ลดความเร็วลง แต่เมื่อทางข้างหน้าเริ่มจะมองไม่เห็นเขาจึงเริ่มชะลอ สายฝนยิ่งเทหนักลงมาจนหน้าปัดน้ำฝนไม่อาจทำงานได้เต็มที่ มองทางข้างหน้าเห็นรำไร...

มีเสียงดังขึ้นหน้ารถ ราวกับเขาชนอะไรบางอย่าง ฝ่าเท้าขวากระทืบเบรกอย่างแรงเพื่อมิให้ต้องไปเหยียบอะไรซ้ำ... ชายหนุ่มรู้สึกตกใจว่าเขาชนอะไรไปหรือเปล่า สายฝนยังคงเทกระหน่ำหนัก จึงเริ่มตัดสินใจไปหยิบร่มหลังพนักนั่ง ลงจากรถเพื่อไปดูว่าเขาชนกับอะไรไปหรือเปล่า?

รถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วสูงผ่านเขาไปหลายคัน เพราะเขาวิ่งอยู่เลนกลาง ชายหนุ่มรู้สึกตกใจมากที่เขาพบว่า เขาขับรถชนผู้หญิงคนหนึ่งในชุดดำ ชวกรตกใจมากว่าความเร็วของรถยนต์ซึ่งเขาขับมา อาจฆ่าเธอก็ได้ ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับเข้าไปที่ตัวรถ เพื่อไปหยิบมือถือ

“ฮัลโหล...ขอหน่วยกู้ชีพด่วนเลยครับ ผมอยู่ที่ถนน...” ชวกรรีบให้รายละเอียด เพื่อหาทางช่วยชีวิตหญิงสาวนิรนามในชุดดำคนหนึ่ง หวังว่าเธอจะไม่ตาย เขายิ่งไม่อยากเจอข้อหาฆ่าคนโดยไม่ได้เจตนา เพราะมันเป็นอุบัติเหตุ เขาไม่อยากรู้สึกผิดในยามที่รู้สึกแย่เพียงนี้

หน่วยกู้ชีพนำร่างไร้สติของเธอขึ้นเปลห่ามเข้ารถ เพื่อพาไปร.พ. ตำรวจผู้รับคดีบอกให้เขาตามไปด้วย ชวกรเห็นว่าเขาไม่ได้มีธุระอะไรวันนี้ คิดว่าน่าจะไปดูอาการหญิงสาวชุดดำเสียหน่อยก็ดี ตำรวจไม่ได้เอาผิดกับเขา เพียงแต่อยากจะให้เขาไปดูอาการ เพื่อติดตามหาญาติมาดูแลหญิงสาวคนนี้ต่อไป...

ชวกรจึงขับรถไปถึงร.พ. ตามหลังหน่วยอาสากู้ชีพ พาเธอเข้าห้องฉุกเฉิน ชวกรรออยู่นอกห้องฉุกเฉินเพื่อรอทราบอาการของหญิงสาวชุดดำคนนั้น เขาเพิ่งจะทราบชื่อเธอว่า “กชนันท์” (กด-ชะ-นัน) จึงได้แต่ภาวนาว่า ขออย่าให้เธอต้องพิการหรือเสียชีวิตเลย

สามชม.ให้หลังเมื่อแพทย์ออกมาพบกับตำรวจ เพื่อบอกรายละเอียดที่เหลือ ตำรวจมีสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจากไป

“เธอปลอดภัยแล้วครับ ยังไงก็ตามผมจะลองพยายามติดต่อญาติคนไข้ดู ยังไงก็ขอบคุณคุณที่ช่วยติดต่อหน่วยกู้ชีพ พาเธอมาส่งร.พ.”

“ขอบคุณครับ ผมเข้าไปเยี่ยมเธอได้แล้วนะครับ” ชวกรถามอย่างสุภาพ ตำรวจหนุ่มกล่าวน้ำเสียงขันแข็งว่าเขาเข้าไปได้ หลังจากนั้น จึงสวมหมวกของตนเดินตบเท้าออกไป เพื่อทำหน้าที่ของตนกลับไปเขียนรายงาน

******

ชวกรเปิดประตูห้องฉุกเฉิน เพื่อเข้าไปดูอาการของกชนันท์ จากการขับรถชนของเขา ทำให้ขาซ้ายของเธอหัก ตอนนี้เย็บปากแผล เข้าเฝือกเรียบร้อยแล้ว ต้องใช้เวลากว่า 6 เดือน จึงจะถอดเฝือกออกไปได้

ชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างๆ หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงพักฟื้นพิเศษ เพราะยังไม่แน่ใจว่าเธอจะฟื้นเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ ว่าแพทย์บอกว่า เธอพ้นขีดอันตรายแล้ว เขารู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้ฆ่าคนตายโดยไม่ได้ตั้งใจไปเสียก่อน

หญิงสาวเริ่มเหม่อ ส่ายหัวอย่างมึนงง พลางขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด ร้องเอื้อนเอ่ยไม่เป็นศัพท์ รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว ยิ่งไปกว่านั้นเจ็บแปลบที่ขาซ้าย ราวกับจะหลุดเป็นชิ้นๆ ดวงตาค่อยๆ กระพริบถี่แต่ลืมตาไม่ขึ้น...

ชวกรได้ยินเสียงเธอดังแผ่ว เขาจึงพยายามจับหัวไหล่เธอเบาๆ เพราะกลัวจะเจ็บปวด พลางเรียกชื่อเธอให้รู้สึกตัว

“คุณกชนันท์ครับ... คุณกชนันท์...?” ชวกรพยายามเรียกให้เธอฟื้นขึ้นมา หญิงสาวค่อยๆ ยกมือมาจับที่ศีรษะตน เพราะมันจะปวดหัวมึนชาสลับกันไป บอกอารมณ์ตอนนี้ไม่ถูกนอกจากรู้สึกไม่สบายตัว

“หิวน้ำจัง” เธอเปรยขอ เพราะรู้สึกริมฝีปากบางแห้ง กลืนน้ำลายยากลำบากฝืนคอไปหมด ชวกรจึงรีบไปหยิบแก้วน้ำใส่หลอด เพื่อส่งให้เธอดูดดื่ม

แววตาชายหนุ่มมองเธอด้วยความเป็นห่วง เขาไม่คิดว่า แค่การชนแค่ครั้งเดียว ทำให้เธอต้องลำบากย่ำแย่เพียงนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ หลังจากเสียใจเรื่องการหย่ากับจิตสุภา

“นี่ฉันยังไม่ตายรึ?” เธอเปรยด้วยความผิดหวัง หลังจากลืมตาตื่นขึ้นมา ได้ยินเสียงคลื่นโซน่าตรวจความดันและการเต้นของหัวใจ ภายในห้องพักฟื้นร.พ. สายตาหันไปมองรอบด้าน พบสายน้ำเกลือ และรายละเอียดศัพท์ทางแพทย์มากมาย แววตารู้สึกปวดร้าวผิดหวังสุดใจ...

“ครับ คุณกชนันท์ คุณยังไม่ตายครับ... แต่อาจจะเดินลำบากหน่อยที่ขาซ้ายคุณหัก แต่ถ้าดูแลดีๆ ก็คงจะหายดีเป็นปกติ...” ชวกรพยายามคุยกับเธอเพื่อให้ได้สติ ความจริงเขาควรจะไปเรียกหมอให้มาดูแลอาการ แต่มือหนึ่งหญิงสาวคว้าเขาไว้แน่น

“ฉัน... ฉันไม่อยากอยู่ร.พ. ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่...” กชนันท์เม้มปากแน่น เพราะเธออยากให้เขาพาเธอขึ้นรถเข็น พาเธอขึ้นดาดฟ้า เพื่อฆ่าตัวตายให้ได้...

“ไม่ได้นะครับ ผมจะไปเรียกหมอ คุณอาจจะละเมอหรือเพ้อเพราะพิษไข้ ตอนฝนตกผมเป็นคนขับรถชนคุณ คุณกชนันท์จะตายไม่ได้นะครับ ผมจะพยายามติดต่อหาญาติมาพบคุณ...” ชวกรพยายามให้กำลังใจแก่เธอ เพื่อให้เธอมีชีวิตอยู่

เขาสิ ควรจะตายเสียให้ได้ หลังจากหย่ากับจิตสุภา เพราะแค่หย่ามันไม่ได้หมายความว่า ภรรยาเก่าจะไม่พยายามติดตามค้นหาเขา... กชนันท์ส่ายหัวไม่ยอมรับความหวังดีจากชวกร เธอยังคงยืนยันจะทำตามที่ตัวเองพูดเหมือนเดิม

“ฉันไม่อยากอยู่ต่ออีกแล้ว ฉันอยากตายเสียให้พ้นๆ ช่วยพาฉันขึ้นดาดฟ้าเถอะนะคะ ฉันอยากฆ่าตัวตาย” หากชายไร้ชื่อเบื้องหน้า ไม่ยอมช่วยเหลือพาเธอไป เธอไปเองก็ได้... กชนันท์หายใจเหนื่อยหอบ แต่ยังพยายามจะใช้มือถอดสายช่วยชีวิต และสายน้ำเกลือ เพื่อพาตัวเองลงจากเตียง

ชวกรพยายามจะห้าม แต่สายไปเมื่อเธอลงจากเตียงได้แล้ว แต่เพราะขาซ้ายหักเข้าเฝือก ทำให้เธอทรุดลงแทบกองฟื้น เดินอย่างยากลำบาก ชายหนุ่มจึงวิ่งออกไปนอกห้องเพื่อเรียกหมอให้เข้ามาดูอาการเธอ

“ทำไมคนไข้ลงจากเตียงแบบนั้นล่ะครับ?”

“ตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมา เธอพยายามจะไปดาดฟ้าเพื่อฆ่าตัวตาย ผมห้ามเธอแล้วครับหมอ” แพทย์ผู้มีประสบการณ์จึงบอกให้พยาบาลพยุงหญิงสาวขึ้นมานอนบนเตียง แต่ท่าทางเธอจะดื้อรั้นและพูดยาก พยาบาลสามคนจึงช่วยกันบังคับให้เธอกลับไปนอนพักฟื้นเหมือนเดิม มันเป็นหน้าที่ของพวกเธอ เมื่อเจอคนไข้ประเภทนี้...

สายรัดเตียงถูกใช้มาเพื่อมิให้เธอดิ้นรน หรือทำอะไรตามใจชอบ เพราะมันจะไม่ดีต่อผลการรักษา หญิงสาวถูกมัดมือ และถูกรัดอยู่บนเตียง และเฝือกก็ต้องเข้าที่เหมือนเดิม รู้สึกเมื่อยตัวและเจ็บปวดไปหมด เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่ และอยากตายเสียให้พ้นๆ

ชวกรไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับกชนันท์ ทำไมเธอพยายามฆ่าตัวตาย หรืออาจจะตั้งแต่จงใจวิ่งไปตัดหน้ารถเขา ซึ่งมาด้วยความเร็วเพื่อชนเธอให้ตายเสีย หรือเมื่อรู้ว่าตัวเองยังอยู่ ก็ยังจะพยายามไปดาดฟ้า เพื่อตกลงมาตายเสียจริงๆ เธอทำไปเพื่ออะไร?

******

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [6] -จบ-

    หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [5]

    หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [4]

    เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [3]

    หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [2]

    รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [1]

    ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status