เพลินตาเลิกลั่กหลังจากที่ตัวเองดันเผลอตกหลุมพรางคนเจ้าเล่ห์จนหลุดปากยอมรับไปได้ จึงได้ทำเป็นเบี่ยงหลบสายตาเฉไฉแล้วรีบแกะดึงฝ่ามือใหญ่ที่ยังคงตะปปเอาไว้ที่บริเวณหน้าท้องแบนราบของเธออยู่ออก
"ปล่อยเพลินนะคะพี่เต็ม แล้วก็เอาโทรศัพท์ของเพลินคืนมาด้วยค่ะเพลินจะกลับบ้าน"
"พี่ปล่อยแน่ แต่ต้องหลังจากที่เด็กนิสัยไม่ดีถูกลงโทษเสียก่อน"
"ลงโทษ นี่พี่เต็มหมายความว่ายังไง"
เพลินตาใจหายวาบและมีความตระหนกฉายชัดขึ้นในแววตา ราวกับว่าคำพูดของปฏิธานนั้นกำลังมีความหมายบางอย่างแอบแฝงและมันก็ยิ่งหน้าตกใจขึ้นเมื่อร่างของเธอถูกดันให้ถอยหลังไปอีกหน่อยจนชนเข้าติดกับตัวรถและเขาก็เปลี่ยนเป็นวางโทรศัพท์มือถือของเธอไว้ที่หลังรถ ก่อนจะกำสองมือของเธอตรึงไว้จนไม่สามารถขยับได้
"พี่เต็ม นี่พี่จะทำอะไร"
ปฏิธานยิ้มเท่ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามากระซิบเบาๆที่ข้างใบหูขาว ทำเอาเพลินตานั้นขนลุกขึ้นเกลียวไปทั้งตัวและลมหายใจติดขัด หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ายระส่ำรุนแรง ยิ่งเขาขยับ กลิ่นน้ำหอมประจำกายก็ยิ่งโชยชัดเข้าจมูกจนต้องสูดมันเข้าไป
"ทำโทษ เพลินคงไม่รู้ใช่ไหมว่าเด็กดื้อต้องโดน..."
"อื้อ"
เพียงแค่เสียงกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบาลง ริมฝีปากร้ายของคนตัวใหญ่ก็เลื่อนเข้ามาประกบ เพลินตารู้สึกช็อกกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่จนเหมือนกับว่าสรรพสิ่งรอบกายนั้นได้หยุดการเคลื่อนไหวลง ริมฝีปากเล็กถูกลิ้นร้ายชอนไชเปิดทางสะดวกเข้าไปภายในได้จนสำเร็จ ราวกับว่ามีกระแสไฟวิ่งแปลบปลาบไปทั่วทั้งร่าง จนแข้งขาที่เคยมีแข็งแกร่งนั้นพลันหมดเรี่ยวแรงลง
ปฏิธานกำลังจูบเธอ ผู้ชายร้ายๆที่เธอตั้งแง่รังเกียจในความเจ้าชู้กำลังใช้เรี่ยวแรงที่มีมากกว่าบังคับจูบเธอเอาเสียง่ายๆ เรียวลิ้นชื้นของคนตัวใหญ่ดูดรัดฟัดเกี่ยวไล่ต้อน ทำเอาคนที่ไร้ประสบการณ์ในด้านนี้ถึงกับทำตัวไม่ถูก รสสัมผัสที่แปลกใหม่ บวกกับฤทธิ์ของเหล่าเหล้ายาแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปนั้นยังเจืออยู่ ทำให้ร่างกายของหญิงสาวเกิดยากต่อการควบคุม ไม่รู้เลยว่าช่วงเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ จนกระทั่งคนตัวใหญ่ค่อยๆปล่อยริมฝีปากเธอให้เป็นอิสระแล้วหยุดมองสบตา ดวงตากลมโตที่แสนสดใสนั้นก็ค่อยกลับมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอ
"โดนจูบแค่นี้ถึงกับร้องไห้เลยหรือไงเพลิน"
"พี่เต็มทำแบบนี้กับเพลินทำไม"
"บอกแล้วไงว่าดื้อแบบเพลิน ต้องเจอแบบพี่"
"พี่มันทุเรศ ทำไมถึงได้กล้าทำอะไรบ้าๆแบบนี้"
"ไม่เอาน่า ทำอย่างกับว่าเพลินเสียจูบแรกให้พี่ไปได้"
ก็ใช่ไง นี่มันจูบแรกของเธอ ทำไมเธอถึงจะต้องเสียมันให้กับผู้ชายเจ้าชู้อย่างปฏิธานด้วย เขาไม่ได้คู่ควรเลยสักนิด
"เพลินเกลียดพี่ ไอ้คนสารเลว เมื่อตอนหัวค่ำยังจูบกับผู้หญิงอื่นอยู่เลย แหวะ จะอ้วก ฮือๆ"
"อยากจะแหวะจะอ้วกหรือว่าจะทำอะไรก็ตามสบายได้เต็มที่เลย แต่ว่าตอนนี้เพลินต้องขึ้นรถ พี่จะไปส่ง"
"ไม่! พี่เต็มปล่อยมือเพลินนะ เพลินไม่ไป"
"จะยอมให้พี่ขับไปส่งที่คอนโดดีๆ หรือว่าจะให้พี่ขับพาเพลินกลับไปส่งที่บ้าน"
ไปส่งที่บ้านงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ ขืนถูกพากลับไปส่งที่บ้านในสภาพแบบนี้ มีหวังเธอคงถูกคุณนายเพียงรดาผู้เป็นมารดาบ่นร่ายยาวเรื่องการแต่งตัวไปอีกสิบปีไม่มีวันจบ มารดาไม่เคยชอบเวลาที่เห็นว่าเธอแต่งตัวน้อยชิ้นแบบนี้ ไม่เหมือนกับผู้ที่เป็นพี่สาว รายนั้นน่ะสวยสง่ายิ่งกว่าผ้าที่ถูกจับจีบเอาไว้ งดงามสมกับการเป็นผู้ดีสมศักดิ์ศรีกับเป็นคุณหนูพราวมุก ได้ดั่งใจบิดามารดา
หลังจากถูกปฏิธานบังคับจูบไปจนร้องไห้ออกมาตาแดง เวลานี้เพลินตาก็ยังถูกเขาบังคับให้ขึ้นรถมาโดยที่มีเขาเป็นคนขับ รถยนต์สัญชาติยุโรปรุ่นใหม่ป้ายแดงที่บิดาพึ่งจะให้มาเป็นของขวัญในวันเกิดอายุครบรอบยี่สิบสองปี ถูกปฏิธานขับมันพาเธอทะยานมุ่งหน้ากลับสู่คอนโดมิเนียมหรูกลางใจเมือง ระหว่างทางเพลินตายังคงนั่งเงียบไร้การสื่อสาร สายตามองออกไปยังถนนด้านนอกที่เริ่มมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ภายในสมองเองก็คอยเอาแต่คิดถึงสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้นไป ว่าเหตุใดปฏิธานถึงได้แกล้งเธอแรงแบบนี้
"คิดอะไร"
"เรื่องของเพลิน"
"หรือว่ากำลังคิดเรื่องที่ถูกพี่จูบ"
"พี่เต็ม!"
น้ำเสียงแข็งกร้าวและแววตาดุดันหันขวับกลับไปมองหน้าคนที่กำลังทำเป็นขับรถอย่างอารมณ์ดี หากแต่ว่าแอบมีรอยยิ้มกวนประสาทประดับไว้อยู่ที่มุมปากจนน่าหมั่นไส้ เพลินตาไม่เคยชอบรอยยิ้มนั่น ถึงแม้ว่ามันจะมีเสน่ห์และดูดีมากเพียงใด แต่ปฏิธานก็มอบแจกรอยยิ้มของเขาให้กับสาวๆทุกคน เพลินตารู้สึกว่ามันไม่แฟร์ ในเมื่อปฏิธานคือว่าที่คู่หมั้นของพี่สาวเธอ รอยยิ้มของเขาที่มีมันก็ควรที่จะเป็นของพี่สาวเธอคนเดียว ไม่ใช่มีไว้ให้กับผู้หญิงคนอื่น
"เดี๋ยวจอดส่งเพลินเสร็จแล้วพี่ขอยืมรถขับกลับบ้านหน่อยนะ พอดีเมื่อตอนหัวค่ำพี่มากับเพื่อน ก็เลยไม่ได้เอารถมา"
มากับเพื่อนหรือว่ามากับหญิงคะเอาดีๆ เพราะตั้งแต่ที่เธอเห็นเขาเดินกอดเอวกับผู้หญิงคนนั้นเดินกันเข้ามา เพลินตาก็ไม่เห็นว่าปฏิธานจะมีเพื่อนคนไหนอยู่แถวๆนั้นอย่างที่เขาว่าเลยสักคน
"เห็นทีว่าคงไม่ได้หรอกค่ะ รถเพลินไม่ใช่รถสาธารณะ แล้วอีกอย่างพรุ่งนี้เช้าเพลินเองก็มีธุระให้ต้องไปทำด้วย เพลินจำเป็นต้องใช้รถ พี่เต็มเรียกรถแท็กซี่เอาเองสิคะ"
ก็อย่างที่บอกว่ารถคันนี้บิดาอุตส่าห์ซื้อให้มาเป็นของขวัญวันเกิด ถึงแม้ว่ารถที่ปฏิธานขับอยู่ปกติจะเป็นซุปเปอร์คาร์ที่แพงระยับกว่ารถเธอเป็นสิบยี่สิบเท่า แต่อยู่ดีๆเธอคงไม่ยอมปล่อยให้ผู้ชายคนนี้ยืมรถที่บิดาซื้อให้ขับไปไหนต่อไหน หรือไม่ก็ขับไปรับใครในบรรดาจำพวกผู้หญิงของเขาหรอก คงอัปมงคลสิ้นดี
"พึ่งรู้นะว่าเพลินใจร้ายขนาดนี้ พี่อุตส่าห์เห็นว่าเพลินเมาก็เลยอาสาขับมาส่งให้ ข้างนอกฝนตกหนักขนาดนี้แท็กซี่ที่ไหนจะผ่านเข้ามา"
"สมัยนี้มีทั้งแกร็บทั้งอูเบอร์นะคะเผื่อว่าพี่เต็มไม่รู้"
"ใช่ พี่ไม่รู้ ถ้าเกิดว่าเพลินอยากให้พี่ใช้ก็เรียกให้สิ แต่ว่าตอนนี้ปวดฉี่ ขอขึ้นไปเข้าห้องน้ำก่อน"
ว่าแล้วรถยนต์ของเธอก็ถูกปฏิธานขับเลี้ยวเข้าไปจอดยังที่จอดรถกลางแจ้งในขณะที่เม็ดฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ทำเอาคนสองคนที่ต้องวิ่งตากฝนเข้ามาต่างก็พากันเนื้อตัวเปียกชื้น
"ชั้นไหน กดเร็วเข้าสิ"
ท่าทางลังเลกับท่าทีที่ดูเหมือนว่าไม่มั่นใจนั้นแสดงออกมาบนใบหน้าสวยอย่างเห็นได้ชัด เพลินตาค่อนข้างมั่นใจเลยว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่ถููก ถึงแม้ว่าระหว่างเธอและเขา ครอบครัวเราทั้งสองคนจะรู้จักกันมานาน แต่การที่เธอจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่ลับตากับคนที่กำลังจะได้ชื่อว่าเป็น 'ว่าที่พี่เขย' นั้นย่อมเป็นสิ่งที่มันไม่ควร จริงอยู่ที่เธอไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่ก็ประเมินเอาจากเหตุการณ์ที่เธอพึ่งถูกผู้ชายคนนี้จูบไปเมื่อตะกี้ว่ามันไม่สมควรอย่างแรง
"เพลินว่า.."
"อย่าบอกนะว่ากลัวพี่ ปกติเห็นเพลินเก่งออก หรือว่าพอโดนพี่จูบไปทีเดียว ก็เลยใจป๊อดไม่กล้าอยู่ใกล้พี่ขึ้นมา เพลินคงไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักหรอกจริงไหม ถ้าใช่นี่น่าอายตายเลยนะพี่ว่า ปีนี้อายุตั้งยี่สิบสองแล้ว แต่ว่ายังขาดประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆ..."
หนอยแน่ะ อีตาบ้านี่ ดันมาทำเป็นอ่านใจเธอออกอีก ขืนถ้าบอกว่า ใช่ ก็คงจะเสียชื่อเพลินตาหมด รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเปรี้ยวจี๊ดแบบเธอ ถึงแม้ว่าจะปฏิเสธออกไปก็คงยากที่จะมีใครเชื่ออยู่ดี เพราะฉะนั้นยังไงเสียเธอก็จะไม่ยอมให้ปฏิธานหยามได้
"ไม่ใช่สักหน่อย เพลินไม่ได้กลัวอย่างที่พี่ว่าหรอก มันก็แค่.."
"แค่?"
"ก็แค่ ห้องเพลินมันรก ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มีเวลาได้ทำความสะอาด ขืนเพลินให้พี่ขึ้นไปเห็น พี่ก็คงเอาเพลินไปล้อเสียๆหายๆก็แค่นั้น ส่วนเรื่องรักๆใคร่ๆ เพลินเองก็ผ่านมาหมดแล้ว ถึงได้ดูออกว่าเจ้าชู้อย่างพี่เต็มน่ะ ไม่เหมาะกับพี่พราวพี่สาวเพลินเลยสักนิด"
"อืมงั้นเหรอ ถ้าไม่กลัวก็ดี ตกลงว่าห้องเพลินอยู่ชั้นไหนล่ะ ขืนมันโอ้เอ้ช้าอีกหน่อยพี่คงต้องฉี่มันหน้าลิฟท์นี้แล้วล่ะ"
"โอ๊ยบอกก็ได้ค่ะ ชั้นสิบห้า รีบฉี่แล้วก็รีบกลับล่ะ พรุ่งนี้เช้าเพลินมีธุระต้องไปทำต่อ"
เพลินตารีบพูดตัดความรำคาญแล้วนิ้วมือเล็กก็กดจิ้มลงไปยังหมายเลขชั้นที่อยู่ด้านหน้า โดยที่ไม่ทันได้หันมาสังเกตเลยว่าคนที่ก้าวเท้าเดินตามเธอเข้าไปตามหลังนั้นผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาตรงมุมปาก
ช่วงเวลาตลอดทั้งบ่ายเพลินตายังคงต้องทำงานที่ที่ค้างเอาไว้อยู่ในแผนกต่อโดยการไหว้วานนิธิพลและพี่ๆ คนอื่นที่ต้องรีบไปเข้าประชุมภาคบ่าย จนกระทั่งได้เวลาเลิกงาน กระเป๋าสะพายใบโปรดก็ถูกรีบคว้าขึ้นมาบนบ่าและตัวเธอเองก็กะว่าจะรีบจ้ำอ้าวออกจากบริษัทไปก่อนที่ใครจะมาเห็นแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าโดดงาน ก็ในเมื่ออยู่จนถึงเวลาเลิกงานแล้ว เธอจะรีบออกเร็วหรือช้าก็เป็นสิทธิ์ของเธออยู่ดี กะว่าอยากจะรีบไปเดินผักผ่อนหย่อนกายเสียหน่อย เอาเป็นห้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณทางผ่านตอนจะกลับคอนโดมิเนียมนี่ก็แล้วกันสะดวกดี กะว่าแวะหาอะไรทาน เดินเลือกซื้อของ แล้วก็จะกลับ จนกระทั่งตอนที่เธอเปิดประตูลิฟท์ออกมาแล้วเจอเข้ากับผู้ชายคนนี้ หนึ่งในลูกหลานของตระกูลทรัพย์ณรงค์กุล"เลิกงานแล้ว เพลินช่วยไปดูหนังกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนหน่อยครับ""พี่ปรานต์"เพลินตายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนตรงหน้าคือใคร ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาฝึกงานที่นี่เรียกว่าแทบจะนับครั้งได้ที่เธอเจอเขา หนึ่งในผู้บริหารหนุ่มของ SNG ดีกรีความหล่อสูสีกับปฏิธานก็จริง แต่ปรานต์ออกจะดูเป็นผู้ชายอบอุ่นมากกว่า"ไปยังไงมายังไงคะ ถึงได้มาดักรอเพลินอยู่ที่ลิฟท์หน้าบริ
เพลินตาเดินกลับออกมาด้วยความรู้สึกที่แสนจะหลากหลาย สมองอื้ออึงและมึนตึงไปพร้อมๆ กันเมื่อคำพูดของปฏิธานเอาแต่รบกวนระบบประสาทของเธออยู่เรื่อย ปฏิธานจะให้เธอยอมไปเป็นผู้หญิงลับๆ ของเขาจนกว่าพี่สาวของเธอจะกลับมา เธอขอสัญญากับตัวเองไว้ตรงนี้เลยว่ายังไงเสียก็จะไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด ผู้ชายคนนั้นจะไม่มีทางได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนดีเลิศเลอ แต่เธอก็จะไม่ยอมต่ำตมจนต้องยอมทำอะไรผิดพลาดอีก"อ้าวเพลินกลับมาแล้วเหรอ เห็นคุณต้นอ้อแจ้งมาว่าให้เพลินช่วยไปถ่ายเอกสารให้ที่ข้างบนมาเพราะว่าเตรียมเอาไว้ใช้ในห้องประชุมบ่ายนี้ไม่ทัน เป็นไง เสร็จเรียบร้อยดีแล้วใช่ไหมจ๊ะ"หลังจากเดินกลับมาถึงยังชั้นที่ตัวเองทำงานอยู่เพลินตาก็เดินเข้าแผนกมาแบบเครียดๆ ในหัวตอนนี้ไหนจะมีเรื่องที่ปฏิธานพึ่งจะพูดกับเธอมา ไหนจะเป็นเรื่องที่ว่าตอนนี้พี่ๆ ในแผนกต่างมากันครบหมดแล้วอีก แล้วเธอควรต้องแก้ตัวว่าอะไร จนกระทั่งเดินเข้ามาเจอกับหัวหน้าแผนกอย่างคุณนิธิพล ที่แจ้งเหตุผลทันทีที่เห็นหน้าเธอว่าคุณต้นอ้อนั้นโทรมาบอกเหตุผลที่เรียกตัวเธอไปใช้งานเรียบร้อยแล้วเพลินตาอ้าปากแบบงงๆ คุณต้นอ้อคือใครแน่นอนว่า
ในที่สุดก็ถึงเช้าวันจันทร์ เพลินตายังคงต้องไปทำงานตามปกติ หลังจากที่นั่งกลั้นใจอยู่ในรถตั้งนานกว่าที่จะทำใจให้ยอมลงจากรถไปได้ เธอไม่พร้อมเจอหน้าปฏิธาน ไม่พร้อมหรืออาจจะถึงขั้นไม่อยากเจอ ยิ่งพอได้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวันศุกร์แล้วก็ได้แต่อยากร้องไห้เมื่อความจริงที่ว่าเธอมีอะไรกับปฏิธานไปแล้วนั้นมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีกับตัวเองที่ตอนนี้เธอกลายเป็นคนทรยศหักหลังพี่สาวแต่ถ้าให้เลือก..ว่าระหว่างคนที่มาช่วยเธอคือ ปฏิธาน หรือจะให้เป็นใครคนอื่น บอกตามตรงว่ามันช่างเป็นคำตอบที่ยากแสนยาก เพลินตาไม่อยากให้เป็นคนอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธออยากให้มันป็น เขา ผู้ที่ได้ชื่อว่ากำลังจะมีสถานะมาเป็นว่าที่สามีของพี่สาวตัวเองในอนาคต"สวัสดีตอนเช้าครับน้องเพลิน"ทันทีที่ประตูรถเปิดออกสีหน้าที่ดูเครียดอยู่ก็เปลี่ยนไปในทางแปลกใจเมื่อเห็นว่าใครคือคนที่ยืนตรงหน้าคือกันตธีร์ ผู้ชายที่เธอพึ่งเจอที่ผับเมื่อคืนวันนั้น หลังจากที่เกิดเรื่องไปเธอก็ไม่ได้ติดต่อเขาอีก ส่วนมินตราพอโทรไปหาก็ดูเงียบไปแปลกๆ ก็เลยยังไม่กล้าถามหรือแม้แต่เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ฟัง เช้านี้กันตธีร์
หลายชั่วโมงผ่านไป แต่ก็ดูเหมือนว่าฤทธิ์ยาน่าจะยังคงไม่ยอมจางหายไปได้ง่ายๆ ในขณะที่ล้มตัวนอนลงไปข้างๆ กันด้วยความเหนื่อยหอบ ปฏิธานก็ดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้แล้วเริ่มบีบคลึงที่สองเต้าอวบอีก ช่วงจังหวะนี้เพลินตาเริ่มจะรับรู้ได้แล้วว่า สิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นมาระหว่างเธอและปฏิธานนั้นคืออะไร หากแต่ความต้องการภายในที่ยากต่อการควบคุมนั้นกลับทำให้เธอยังคงเรียกร้องให้เขาทำมันอีกซ้ำๆ"ดูดนมให้เพลินอีกสิพี่เต็ม""ดูดแค่นมมันจะไปพออะไร เพลินอ้าขาสิ พี่อยากลงไปเลียข้างล่าง"ค่ำคืนนี้คุณหนูเพลินตาจอมเซี้ยวช่างว่าง่ายนัก ไม่ว่าปฏิธานจะเอ่ยปสกบอกให้ทำอะไรเธอก็คล้อยตามเขาไปเสียหมด ทันทีที่ลิ้นร้อนๆของปฏิธานจ่อเลียเข้ามา สองเรียวขาก็รีบกระหวัดเอี่ยวขึ้นไปบนบ่า ก่อนจะแอ่นเด้งกายสาวเข้าหาให้เข้าได้กินใกล้ๆ"อ๊า พี่เต็มขา เพลินรู้สึกดีจังเลย""อื้มเพลิน พี่ชอบมัน"ปฏิธานยกสองเรียวขาพาดบ่าให้แน่น ก่อนจะขยี้ปลายลิ้นบี้ลงไปกับเม็ดเสียว เพลินตาดิ้นเร่า พยายามแอ่นเนินเนื้ออวบของเธอเข้าหาใบหน้าเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บทรักที่แสนเร่าร้อนของปฏิธานนั้นแสนร้อนแรง แถมยังช่วยเปิดประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆให้กับเธอได
หลังจากถูกจับลอกคราบออกเสียจนสิ้น เรือนร่างที่แสนงดงามสมส่วนของเพลินตาก็นอนบิดเร่าอยู่บนเตียงใหญ่ ใบหน้างดงามเหยแกเพราะผลจากฤทธิ์ของยาจนไม่สามารถต้านทานต่อความต้องการที่เกิดขึ้นภายในกายได้ จึงได้เอื้อมมือเล็กของตัวเองบี้คลึงลงไปที่ใจกลางเกสรของดอกไม้งาม ก่อนจะแยกเรียวขาออกอย่างไม่นึกอาย"อ๊า พี่เต็มขาได้โปรดช่วยเพลินด้วย อื้อ เพลินทรมานเหลือเกิน"ปฏิธานจ้องมองภาพนั้นก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ภาพของเพลินตาที่นอนแหวกอ้าขาออก แล้วใช้มือตัวเองบีบขยี้บี้คลึงปุ่มเกสรกลางกาย ทำเอาต่อมความยับยั้งช่างใจของเขายิ่งตะเลิด ทั้งๆที่ใจจริงไม่เคยได้คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะกล้าถึงขั้นเลยเถิดลามปามเด็กผู้หญิงตัวน้อย หากแต่เป็นตอนนี้ ปฏิธานตัดสินใจแล้วว่าเขาจะต้องช่วยเธอ หากว่าไม่ มีหวังเพลินตาคงต้องช็อกตายเพราะความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนองเป็นแน่ราวกับสุนัขจิ้งจอกเตรียมพร้อมที่จะกลืนกินลูกแกะตัวน้อย ปฏิธานจ้องมองเรือนร่างงดงามที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงเขาด้วยความหื่นกระหาย สายตากวาดไล่มองสำรวจตั้งแต่ใบหน้าสวยลากเลื้อยลงมาจนไปหยุดที่กึ่งกลางกาย เพลินตางดงามไปเสียทุกส่วน จนเขาไม่สามารถที่จะทนย
เพลินตาไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับเธอนั้นคืออะไร ความรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัวจนคอแห้งปากแห้งและยังใจสั่น อาการเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวแล้วเปลี่ยนเป็นการคลั่นเนื้อคลั่นตัวแทน มือไม้สั่นระริกระคนจนแทบจะไม่สามารถควบคุมได้ หากแต่เวลาที่สัมผัสโดนผิวกายของปฏิธานแม้เพียงเล็กน้อย กลับทำให้เธอนั้นอยากทำเรื่องบ้าๆ ด้วยการกระโจนเข้าหาและดึงเขาเข้ามากอดจูบเสียอย่างนั้น "พี่เต็ม เพลินเป็นอะไรก็ไม่รู้"เพลินตาตัดสินใจหันไปพูดบอกกับปฏิธานตามตรง หากแต่จุดโฟกัสสายตากลับกลายเป็นเป็นสันจมูกโด่งและริมฝีปากของเขาที่เธอเคยได้สัมผัส จากนั้นดูเหมือนว่ามันจะยังคงไม่พอ เพลินตายังคงแอบละสายตาจากริมฝีปากของคนข้างๆ ไต่ไล่ลงมายังลูกกระเดือก ช่วงจังหวะที่มันขยับกลับยิ่งทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอยู่ภายในใจจนตามร่างกายยิ่งร้อนวูบวาบ"เป็นอะไรเพลิน""มัน มันรู้สึกร้อนๆ แปลกๆ"ปฏิธานหันกลับมามองเธอเพียงแค่แวบหนึ่ง สภาพของเพลินตาที่เห็นในตอนนี้ก็คืออีกฝ่ายกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่สุดแสนจะหวานเชื่อม มือไม้ก็อยู่ไม่สุก ไล่เเกะปัดป่ายไปตามเนื้อตัวตัวเอง มองจากสภาพของเพลินตา ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะรู้อยู่หรอก