Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-05-15 22:38:58

"มาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้เหรอคะ" พิรญาไม่เห็นแฟนหนุ่มของตนและผู้หญิงคนนั้นอยู่ในงาน จึงเดินออกมาตามหา "ธัน คุณเมริสา"

ไม่พูดเปล่าเดินเข้าไปหาร่างชายหนุ่ม แล้วควงแขนแกร่งกำยำเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเจ้าของต่อหน้าเมียเขา! ก็แค่เมียที่ต้องแต่งเพราะถูกคลุมถุงชนเท่านั้น

"เปล่าค่ะ" ธนาธิปรีบปฏิเสธ ไม่อยากให้คนรักเข้าใจผิดจนพาลคิดมากในความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเมริสา ถึงแม้ว่าต่อให้เธอจะนอนอ้าขาพร้อมถวายตัวประเคนใส่พานให้เขาถึงปาก เขาก็จะไม่มีวันชายตาแลหรือแตะต้องตัวเธอเป็นอันขาด แต่อย่างไรเสีย ผู้หญิงก็ยังคงเป็นผู้หญิงอยู่วันยันค่ำ คนรักของตนเองต้องอยู่ร่วมบ้านกับผู้หญิงคนอื่นที่พ่วงห้อยท้ายด้วยสถานะเมียตามกฎหมายก็ต้องมีรู้สึกอะไรบ้างเป็นธรรมดา เขาเข้าใจ จึงพยายามรักษาระยะห่างกับเมริสาเท่าที่จะทำได้เพื่อความสบายใจของพิญญา “พิญออกมาแบบนี้ คนอื่นไม่สงสัยแย่เหรอคะ"

เมริสาอยากจะกรอกตามองบนด้วยความเอือมระอาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เธอคล้ายอาเจียนอ้วกออกมาเต็มแก่ ตอนได้ยินบทสนทนาที่ออกจากปากธนาธิปตอนสนทนากับแฟนแล้วตบท้ายว่า คะ ขา ค่ะ ทุกคำ สายตานี่ไม่ต้องพูดถึงเลย หวานหยดย้อยเหมือนน้ำผึ้งเดือนห้า ถ้าสวบพิรญานั่นได้เขาคงทำไปแล้วมั้ง แต่ทีกับเธอปั้นหน้ายักษ์ หน้ามาร ถมึงทึงใส่ ใช้วาจาห้วน ๆ นับคำได้

ของพรรค์นี้เธอก็พอเข้าใจได้แหละ จะไปซีเรียสอะไรมาก นั่นมันแฟนสาวของเขานี่ ส่วนเธออ่ะเหรอ เหอะ อย่าถามหาความรัก ความเอ็นดูเลย ระหว่างเรามันอยู่ในสถานะเกลียดขี้หน้ากันด้วยซ้ำ ถึงคิดอย่างนั้นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้อยู่ดี คนอะไรสองมาตรฐานแบ่งชนชั้นแบบเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งขนาดนี้

“ตอนนี้ไม่มีใครสนใจพิญหรอกค่ะ เพราะทุกคนกำลังร่วมดื่มไวน์ฉลองวันเกิดให้คุณป้าจรรยาอยู่ พิญก็เลยรีบปลีกตัวออกมา เพราะไม่เห็นธันอยู่ในงาน” พิรญายิ้มตอบ “ส่วนเธอ เมริสา เธอพูดออกไปแบบนั้น ฉันไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไรกันแน่”

“ก็ไม่นี่” เมริสาไหวไหล่ตอบอย่างไม่ยี่หระ

“ไหนเธอบอกว่าเธอไม่ได้รัก และไม่เคยคิดจะรักธัน ที่เธอแต่งงานกับเขาก็เพราะความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อครบกำหนดหนึ่งปีเธอก็จะยินยอมเซ็นใบหย่าให้ไม่ใช่เหรอ แต่การที่เธอพูดออกไปแบบนั้น มันจะทำให้ทุกคนหันมาโจมตีหาว่าฉันลักลอบขโมยกินสามีคนอื่น ๆ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอก็น่าจะรู้แก่ใจดีว่าอะไรเป็นอะไร” พิรญาโมโหไม่ใช่น้อย คำพูดของเมริสาวันนี้แน่นอนว่าพรุ่งนี้จะต้องดังว่อนในโลกโซเชียลแน่นอน และอาจทำให้หล่อนต้องมีปัญหากับต้นสังกัด รวมทั้งส่งผลกระทบต่องานต่าง ๆ ที่โถมเข้ามาเพราะกระแสคู่จิ้นกับดาราหนุ่มอีกคนอย่างสอง

“ก็ใช่ ที่ฉันต้องจำใจแต่งงานกับแฟนคุณก็เพราะความต้องการของคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น ฉันไม่ได้รู้สึกพิศวาสในตัวเขาเลยสักนิด เธอไม่ต้องตีโพยตีพายหรือหึงหวงหรอกนะ คนอย่างฉันหาได้ดีกว่าผู้ชายแบบนี้ที่ไปเดินเอาตามสำเพ็งก็พบเจอเป็นขโยงแน่นอน" เมริสายกแขนเรียวบางขึ้นกอดอก สิ่งที่เธอพูดไม่เกินจริง ธนาธิปหน้าตาก็ธรรมดาทั่วไป ไม่ได้วิเศษวิโสหล่อเหลาจนใจละลายเหมือนพระเอกซีรีย์จีนที่เธอตามติดเป็นติ่งสักหน่อย

"แล้วเธอทำแบบนี้เพื่ออะไร?" พิรญาเลิกคิ้วถาม

"ช่วยไม่ได้ คุณธันไม่ให้เกียรติฉันก่อน ที่ผ่านมาฉันไม่เคยว่าเลยนะที่คุณจะไปขลุกตัวอยู่กับผู้หญิงคนนี้ กลับบ้านอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง เพราะฉันเข้าใจดีว่าระหว่างเราเนี่ยมันเป็นยังไง แต่วันนี้คุณกลับหักหน้าฉัน ไม่ให้เกียรติฉัน ไม่ให้เกียรติคุณพ่อคุณแม่ฉัน ต่อให้ฉันไม่พูด แล้วคนอื่นเขาไม่มีตาเหรอที่จะไม่เห็นว่าคุณมากับพิญญาและปล่อยให้ภรรยานั่งรถตามมาทีหลัง คนอื่นเขาก็ได้เอาไปนินทา ลูกสาวคนเดียวของคุณเกียรตินครและคุณพรพรรณ โดนสามีที่เพิ่งแต่งงานกันไปหมาด ๆ ชิ่ง ควงผู้หญิงอีกคนออกงานสังคม"

นั่นเป็นเรื่องที่เธอยอมไม่ได้เด็ดขาด เธอมีศักดิ์ศรีและต้องรักษามันเอาไว้อย่าให้ใครมาดูถูกเหยียบย่ำได้เลย

"พูดเกินไปรึเปล่าเมริสา"

"อยู่ในวงสังคมมาก็นาน ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอ ข่าวคืบหนึ่ง คนมันพูดปากต่อปากก็กลายเป็นหลายคืบได้ เอาเถอะ นี่ถือเป็นการเตือนก็แล้วกัน หากมีอีกครั้งฉันทำได้มากกว่านี้แน่"

เมริสาปรับสีหน้าจากนิ่งเรียบกลายมาเป็นรอยยิ้มแย้มแต้มเต็มริมฝีปากในชั่งพริบตา "เข้าไปด้านในกันเถอะค่ะพี่ธัน" ว่าพลางควงแขนอีกข้างหนึ่งของชายหนุ่มที่ยังคงว่างอยู่

"..."

"ถ้ารับไม่ได้ ก็ขอหย่าสิ หย่าเล๊ย" เมริสาท้าทาย เพราะเธอเองก็อยากเป็นอิสระจากไอ้ข้อตกลงบ้า ๆ นี้เต็มแก่แล้วเหมือนกัน หากธนาธิปเป็นฝ่ายทนไม่ไหว และขอหย่าขาดจากเธอเอง เธอจะได้มีข้ออ้างกับคุณพ่อ คุณแม่ว่า เรื่องนี้เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกฝ่ายเป็นคนที่ทนไม่ไหวเอง ฉะนั้นสัญญาก็เท่ากับต้องยกประโยชน์ให้จำเลยอย่างเธอ

ธนาธิปหันไปมองเมริสาด้วยสายตาเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ เพียงชั่วขณะเดียว ก่อนจะสับเท้าเดินกลับเข้าไปแสดงละครคู่รักเข้าใหม่ปลามันในงานวันเกิดคุณหญิงจรรยาต่อ ส่วนหนึ่งก็เพื่อกลบข่าวมือที่สามอย่างพิรญาด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมริสากล้าท้าทายขอให้เขาเป็นฝ่ายหย่าขาดจากเธอ ต่อให้อยากเป็นอิสระจากผู้หญิงพรรค์นี้มากขนาดไหนแต่เขาจะทำเช่นนั้นได้ยังไงในเมื่อสัญญาระบุไว้ว่า ต้องครบกำหนดหนึ่งปี ไม่เช่นนั้น ทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่เขาสร้างมาก็จะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น เว้นเสียแต่ว่า เมริสา จะเป็นฝ่ายขอไปเองเท่านั้น

ซึ่งเขาก็พยายามทำให้เธอทนไม่ไหว อยู่ไม่ได้ อึดอัด คับข้องหมองใจที่จะต้องอยู่ในฐานะเมียตามกฎหมายของเขา ทั้งเฉยชา เมินตึงใส่ก็แล้ว ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนเป็นเพียงอากาศธาตุก็แล้ว กลับบ้านอาทิตย์ละครั้งสองครั้งก็แล้ว แสดงความรักกับพิรญาอย่างเปิดเผยต่อหน้าเธอเขาก็ทำมาหมดทุกอย่างแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับดื้อด้าน ไม่สะทกสะท้านสักนิด ในทางกลับกันเธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขสุด ๆ แบบความทุกข์ใจของเขา

ทำได้ยังไง เขาไม่เข้าใจ เขาแสดงออกชัดว่าไม่ชอบขี้หน้าและจะไม่มีวันชอบขนาดนี้ แต่เธอกลับปล่อยจอย ไม่สนใจห่าเหวอะไรเลยสักอย่างว่าเขาจะไปมุดหัวอยู่ที่ไหนหรือจะกลับมานอนบ้านหรือไม่ เธอก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร

...

...

วันรุ่งขึ้น ข่าวเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง พิรญา ดาราสาวดาวรุ่งที่กำลังมีกระแสคู่จิ้นกับสุรสิทธิ์จนมีงานเข้ามาไม่ล้นหลาม และธนาธิป นักธุรกิจไฟแรงที่เพิ่งจะแต่งงานสายฟ้าแลบไปกับเมริสาลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่

ผู้คนแห่กันแชร์และแสดงความคิดเห็นกันว่อนโซเชียล และขึ้นเทรนทวิตเตอร์ 'แบนพิญญา' เพราะความผิดหวังที่พวกเขาเหล่าแฟนคลับอุตส่าห์ตามเชียร์ ตามจิ้น และซัพพอร์ตดันทั้งคู่ให้มีงานมีเงินเข้ามาไม่ขาดสาย

ป๊อก เสียงสวิตซ์ไฟถูกกดเปิด แสงสว่างอร่ามทั่วภายในห้องสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวของเมริสาโดยผู้ถือวิสาสะไม่ได้รับคำอนุญาตอย่าง ธันวา

"โอ๊ย! แสบตา" เมริสาขยุกขยิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมโปงแล้วพริ้มหลับอีกครั้งโดยไม่ได้สนใจว่าใครคือคนเปิดสวิตซ์

"ตื่น เมริสา" ธนาธิปเดินเข้าไปดึงผ้านวมออกจากร่างบาง แต่ก็ต้องรีบหันหลังให้แทบไม่ทัน เมื่อเรือนร่างบอบบางขาวเนียนตรงหน้ามีเพียงเดรสสายเดี่ยวตัวบางปกปิดเอาไว้

ทั้งคอกว้าง ทั้งบาง ทั้งสั้น! หรือจะเรียกได้ว่า ไม่ใส่เลยเสียยังดีกว่า เพราะแทบจะใกล้เคียงกันอยู่แล้ว

ประจวบเหมาะกับท่วงท่าที่เธอพลิกตัวนอนส่งผลให้สายชุดนอนหลุดลงไปเกือบถึงข้อศอก จนด้านหน้าที่ค่อนข้างกว้างเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเผยให้เห็นเนินเนื้ออิ่มอัดโผล่ออกมาเกือบเกินครึ่งเต้า!!

เธอไม่ใส่บรา! ไม่ใส่ที่ปิดจุก! เนื้อล้วน ๆ

แถมขาเรียวยาวยังยกขึ้นมาเกยหมอนข้าง จนชายกระโปรงถกร่นขึ้นไปขึ้นต้นขาบน หากเธอขยับอีกนิดเดียว กลีบลำดวนคงได้ออกมาเต้นโชว์สเตปแน่

อุจาดตา

ผู้หญิงอะไรนอนได้น่าเกลียดขนาดนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 20

    หากอยู่กันนานกว่านี้ กูว่าเมริสาต้องเล่นหัวเขาเข้าสักวันแน่! ปากเรียกกู คุณธัน คุณธันวาทุกคำ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ย้อนแย้งสัส ๆ “ทำไมเมื่อกี้กินแค่นิดเดียว อิ่มเหรอ” ถามคำถามนี้ปุ๊บ สายตาแปลก ๆ ของเมริสาก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนหัวคิ้วจะขมวดย่นติดกันเล็กน้อย “ปกติคุณไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ แต่นี่สังเกตด้วยว่าฉันกินนิดเดียว เอ๊ะ” แววตากรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มเลศนัยกระตุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาจนปลายจมูกแทบชนกัน “เอ๊ะ หรือได้กันครั้งเดียว คุณหลงฉันแล้วเหรอไง๊” “คงงั้นมั้ง” ธนาธิปไม่ได้หลบหลีกหรือปฏิเสธอย่างที่เมลิสาคิด ในทางกลับกันเขายื่นหน้าเข้าไปซ้ำยังทำสายตากรุ้มกริ่มใส่เธออีกด้วยทำให้คนที่คิดจะกลั่นแกล้งเมื่อครูต้องรีบถอยเสียเอง “บ้า” ใบหน้าเธอแดงก่ำ หลุบความขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก บ้าชะมัดกะว่าจะเป็นเสือไล่ตะครุบเหยื่อให้กลัวเล่นแท้ ๆ แต่ดันโดนเขาหลอกกลับเสียได้!! จะว่าไปตั้งแต่ที่ธนาธิปตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดูสดใสไม่เก๊กครึ้มหรือทำตัวเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ธนาธิปหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตื่นตูมของเมริสา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโผงผางตรงไปต

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 19

    คุณผกาวรรณเข้าไปดึงหูลูกชายตัวดีของหล่อนก่อนจะลากพามันเข้าไปด้านในสะบัดตัวให้ทิ้งลงบนโซฟานุ่มพร้อมจ้องมอง ท้าวสะเอวอย่างคาดโทษ“ตาธันแกคิดอะไรอยู่ถึงได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านห๊ะ! แกควรจะให้เกียรติเมียแกบ้าง! ไม่ใช่ทำอะไรประเจิดประเจิดประเจ้อขนาดนี้ โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก ทั้งลูก ทั้งผัวไม่ได้เรื่องสักคน!!!” มาถึงยังไม่ทันจะพูดจะจา หรือดื่มน้ำสักแก้ว ผกาวรรณก็เหวใส่ลูกชายเสียงดัง ซึ่งมันเป็นภาพธนาธิปเองก็คุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม่เขาเป็นคนแบบนี้แหละ แรง ๆ ตรงไปตรงมา ปากกล้า คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ถึงได้เอาคุณพ่อที่เคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่หมัดมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยมั้งที่คุณแม่ของเขา ทั้งรัก ทั้งเอ็นดู แม่หนูเมริสาอะไรนั่นหัวปักหัวปำ เพราะมีลักษณะนิสัย กิริยาท่าทางที่ละม้ายคล้ายกันละมั้งตอนอยู่อยู่กับเมลิสากูรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ยังไงก็ไม่รู้ อบอุ่นฉิบหาย!!! ฉิบหายแล้ว เหลือแต่อบอุ่น!“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิญมาได้ยังไง” คราวนี้เขาพูดจริง ไม่ได้โกหกเหมือนครั้งก่อน ที่มักนัดเจอกับพิรญาแล้วบอกว่าบังเอิญเจอ แต่หนนี้เขาไม่รู้มาก่อนล

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 18

    หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่ารับปากไปเพื่ออะไรวะ?ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !ปิ้ง!! จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา pv.rosese : -send photo- pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่ เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ ...เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว กริ้งง...my mom (เม ว่าไงลูก) เสี

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 17

    เมื่อกลับมาจากห้องของเมริสา ชายหนุ่มเองก็สับสนไม่ต่างไปจากเธอ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความคิดมากมายตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉาก ๆ ยังคงวนเวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกราเน้นย้ำว่ามันคือความจริงที่ระหว่างเขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างฝ่ายต่างก็เมามายไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะสำหรับชีวิตแต่งงานของพวกเขาแล้วหนทางไปต่อมันมองไม่เห็น ไม่มี รู้เพียงแค่อีกเจ็ดเดือนข้างหน้าก็จะได้หย่าขาดเป็นอิสระจากพันธะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมาเขาตั้งใจว่าจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียวันนี้ แต่เธอกลับหลบหน้าไม่พูดไม่จา ...ผ่านไปประมาณสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นเขาก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับเมริสาอีกเลย เพราะดูเหมือนเธอจะจงใจหลบหน้า ไม่พูดไม่จาและไม่มาให้เขาพบเจอ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็กลับมานอนบ้านทุกคืน เมริสารู้ดีว่าเขาจะกลับจากทำงานช่วงประมาณหกโมงเย็นและเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่มเธอจึงเล่นกลับเอาเที่ยงคืนเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ได้เจอะเจอหน้ากัน "เม" แต่คราวนี้เขาซัด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 16

    แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม..."อื้อ..." ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ท

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 15

    อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ? "เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า" ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ "เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้" "อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา "เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน "อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้! ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 14

    เอาจริง ตอนนี้เขาไม่รู้จะอึ้งกับอะไรก่อนดี ระหว่างมุมมองแปลกใหม่ในตัวเมริสาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เช่น การสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมา หรือ เรื่องราวในอดีตที่เธอเคยพบเจอมา… เขาเคยคิดว่าชีวิตตัวเองโคตรเพอร์เฟ็กต์ที่สุด แต่พอได้มาทำความรู้สึกกับเมริสาเธอกลับเลยในสิ่งที่เขามี เขาเป็นขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งที่เขาหรือแม้กระทั่งคนอื่น ๆ ก็คงถีบตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ยาก…เมริสาเรียนจบจากต่างประเทศด้วยปริญญาสองใบ มีคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งรัก ทั้งเข้าใจ หวงแหวน และตามใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็พร้อมซัพพอร์ตหากเป็นความต้องการของลูกสาว ทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง ตระกูลนั้นร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ลำพังเพียงหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ถืออยู่ของบริษัทดังระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศอังกฤษก็เฉลี่ยเดือนละหลายร้อยล้าน และที่สำคัญเธอไม่ต้องทำการทำการอะไรสักอย่าง ลอยชายช็อปปิ้งไปวัน ๆลูกคุณหนูสัส ๆ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าอดีตเธอโคตรแย่ เจอกับความสัมพันธ์เหี้ย ๆ เหตุผลในการบอกเลิกแบบคนเห็นแก่ตัว จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย หากในวันนั้นคุณอาทั้งสองขึ้นไปไม่ทัน ก็คงไม่มีเมริสามานั่ง

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 13

    ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก... ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...พอกันที! ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้ ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง "เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก" ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน..."ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 12

    ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นภาพของพิรญาที่กำลังนัวเนียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูปเดียว วินาทีนั้นหยาดน้ำอุ่นคล่อหน่วยจนทัศนวิสัยพร่ามัวแล้วค่อย ๆ เอ่อทะลักพร่างพรูออกมาอาบสองพวงแก้มอย่างยากเกินกว่าจะกัดฟันขมกลั้นเอาไว้ไหว หมดสิ้นแล้ว...เขารู้สึกเหมือนแม่ง ไม่เหลืออะไรสักอย่างไม่มีแรงแม้กระทั่งพิมพ์ข้อความถามออกไปด้วยซ้ำว่าเจ้าของแอ็กเคานต์มีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ร่างกายเขามันอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงแม้แต่หายใจยังโรยริน...ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฝืนทนกล้ำกลืนรับเอาความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ไม่ไหวเพราะมันรุนแรงทรมานเหลือเกินราวกับถูกควักหัวใจออกมาบีบเล่นให้แหลกละเอียดคามือ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าชีวิตรักของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟคทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ครอบครัว หน้าที่การงาน อย่างเขาจะต้องเจอกับเหตุการณ์โคตรผิดหวังแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาทั้งรัก ทั้งไว้เนื้อเชื่อใจและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ท้ายสุดแล้วกลับต้องมารู้ความจริงว่าเธอตอบแทนเขาด้วยการโกหกหลอกลวงและหักหลังแทงข้างหลังเขาอย่างเลือดเย็น ประโยคที่ว่า 'กูคบกับมันเพราะกูต้องการให้ตัวเองสุขสบายเนาะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status