Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-05-15 22:38:58

"มาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้เหรอคะ" พิรญาไม่เห็นแฟนหนุ่มของตนและผู้หญิงคนนั้นอยู่ในงาน จึงเดินออกมาตามหา "ธัน คุณเมริสา"

ไม่พูดเปล่าเดินเข้าไปหาร่างชายหนุ่ม แล้วควงแขนแกร่งกำยำเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเจ้าของต่อหน้าเมียเขา! ก็แค่เมียที่ต้องแต่งเพราะถูกคลุมถุงชนเท่านั้น

"เปล่าค่ะ" ธนาธิปรีบปฏิเสธ ไม่อยากให้คนรักเข้าใจผิดจนพาลคิดมากในความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเมริสา ถึงแม้ว่าต่อให้เธอจะนอนอ้าขาพร้อมถวายตัวประเคนใส่พานให้เขาถึงปาก เขาก็จะไม่มีวันชายตาแลหรือแตะต้องตัวเธอเป็นอันขาด แต่อย่างไรเสีย ผู้หญิงก็ยังคงเป็นผู้หญิงอยู่วันยันค่ำ คนรักของตนเองต้องอยู่ร่วมบ้านกับผู้หญิงคนอื่นที่พ่วงห้อยท้ายด้วยสถานะเมียตามกฎหมายก็ต้องมีรู้สึกอะไรบ้างเป็นธรรมดา เขาเข้าใจ จึงพยายามรักษาระยะห่างกับเมริสาเท่าที่จะทำได้เพื่อความสบายใจของพิญญา “พิญออกมาแบบนี้ คนอื่นไม่สงสัยแย่เหรอคะ"

เมริสาอยากจะกรอกตามองบนด้วยความเอือมระอาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เธอคล้ายอาเจียนอ้วกออกมาเต็มแก่ ตอนได้ยินบทสนทนาที่ออกจากปากธนาธิปตอนสนทนากับแฟนแล้วตบท้ายว่า คะ ขา ค่ะ ทุกคำ สายตานี่ไม่ต้องพูดถึงเลย หวานหยดย้อยเหมือนน้ำผึ้งเดือนห้า ถ้าสวบพิรญานั่นได้เขาคงทำไปแล้วมั้ง แต่ทีกับเธอปั้นหน้ายักษ์ หน้ามาร ถมึงทึงใส่ ใช้วาจาห้วน ๆ นับคำได้

ของพรรค์นี้เธอก็พอเข้าใจได้แหละ จะไปซีเรียสอะไรมาก นั่นมันแฟนสาวของเขานี่ ส่วนเธออ่ะเหรอ เหอะ อย่าถามหาความรัก ความเอ็นดูเลย ระหว่างเรามันอยู่ในสถานะเกลียดขี้หน้ากันด้วยซ้ำ ถึงคิดอย่างนั้นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้อยู่ดี คนอะไรสองมาตรฐานแบ่งชนชั้นแบบเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งขนาดนี้

“ตอนนี้ไม่มีใครสนใจพิญหรอกค่ะ เพราะทุกคนกำลังร่วมดื่มไวน์ฉลองวันเกิดให้คุณป้าจรรยาอยู่ พิญก็เลยรีบปลีกตัวออกมา เพราะไม่เห็นธันอยู่ในงาน” พิรญายิ้มตอบ “ส่วนเธอ เมริสา เธอพูดออกไปแบบนั้น ฉันไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไรกันแน่”

“ก็ไม่นี่” เมริสาไหวไหล่ตอบอย่างไม่ยี่หระ

“ไหนเธอบอกว่าเธอไม่ได้รัก และไม่เคยคิดจะรักธัน ที่เธอแต่งงานกับเขาก็เพราะความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อครบกำหนดหนึ่งปีเธอก็จะยินยอมเซ็นใบหย่าให้ไม่ใช่เหรอ แต่การที่เธอพูดออกไปแบบนั้น มันจะทำให้ทุกคนหันมาโจมตีหาว่าฉันลักลอบขโมยกินสามีคนอื่น ๆ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอก็น่าจะรู้แก่ใจดีว่าอะไรเป็นอะไร” พิรญาโมโหไม่ใช่น้อย คำพูดของเมริสาวันนี้แน่นอนว่าพรุ่งนี้จะต้องดังว่อนในโลกโซเชียลแน่นอน และอาจทำให้หล่อนต้องมีปัญหากับต้นสังกัด รวมทั้งส่งผลกระทบต่องานต่าง ๆ ที่โถมเข้ามาเพราะกระแสคู่จิ้นกับดาราหนุ่มอีกคนอย่างสอง

“ก็ใช่ ที่ฉันต้องจำใจแต่งงานกับแฟนคุณก็เพราะความต้องการของคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น ฉันไม่ได้รู้สึกพิศวาสในตัวเขาเลยสักนิด เธอไม่ต้องตีโพยตีพายหรือหึงหวงหรอกนะ คนอย่างฉันหาได้ดีกว่าผู้ชายแบบนี้ที่ไปเดินเอาตามสำเพ็งก็พบเจอเป็นขโยงแน่นอน" เมริสายกแขนเรียวบางขึ้นกอดอก สิ่งที่เธอพูดไม่เกินจริง ธนาธิปหน้าตาก็ธรรมดาทั่วไป ไม่ได้วิเศษวิโสหล่อเหลาจนใจละลายเหมือนพระเอกซีรีย์จีนที่เธอตามติดเป็นติ่งสักหน่อย

"แล้วเธอทำแบบนี้เพื่ออะไร?" พิรญาเลิกคิ้วถาม

"ช่วยไม่ได้ คุณธันไม่ให้เกียรติฉันก่อน ที่ผ่านมาฉันไม่เคยว่าเลยนะที่คุณจะไปขลุกตัวอยู่กับผู้หญิงคนนี้ กลับบ้านอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง เพราะฉันเข้าใจดีว่าระหว่างเราเนี่ยมันเป็นยังไง แต่วันนี้คุณกลับหักหน้าฉัน ไม่ให้เกียรติฉัน ไม่ให้เกียรติคุณพ่อคุณแม่ฉัน ต่อให้ฉันไม่พูด แล้วคนอื่นเขาไม่มีตาเหรอที่จะไม่เห็นว่าคุณมากับพิญญาและปล่อยให้ภรรยานั่งรถตามมาทีหลัง คนอื่นเขาก็ได้เอาไปนินทา ลูกสาวคนเดียวของคุณเกียรตินครและคุณพรพรรณ โดนสามีที่เพิ่งแต่งงานกันไปหมาด ๆ ชิ่ง ควงผู้หญิงอีกคนออกงานสังคม"

นั่นเป็นเรื่องที่เธอยอมไม่ได้เด็ดขาด เธอมีศักดิ์ศรีและต้องรักษามันเอาไว้อย่าให้ใครมาดูถูกเหยียบย่ำได้เลย

"พูดเกินไปรึเปล่าเมริสา"

"อยู่ในวงสังคมมาก็นาน ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอ ข่าวคืบหนึ่ง คนมันพูดปากต่อปากก็กลายเป็นหลายคืบได้ เอาเถอะ นี่ถือเป็นการเตือนก็แล้วกัน หากมีอีกครั้งฉันทำได้มากกว่านี้แน่"

เมริสาปรับสีหน้าจากนิ่งเรียบกลายมาเป็นรอยยิ้มแย้มแต้มเต็มริมฝีปากในชั่งพริบตา "เข้าไปด้านในกันเถอะค่ะพี่ธัน" ว่าพลางควงแขนอีกข้างหนึ่งของชายหนุ่มที่ยังคงว่างอยู่

"..."

"ถ้ารับไม่ได้ ก็ขอหย่าสิ หย่าเล๊ย" เมริสาท้าทาย เพราะเธอเองก็อยากเป็นอิสระจากไอ้ข้อตกลงบ้า ๆ นี้เต็มแก่แล้วเหมือนกัน หากธนาธิปเป็นฝ่ายทนไม่ไหว และขอหย่าขาดจากเธอเอง เธอจะได้มีข้ออ้างกับคุณพ่อ คุณแม่ว่า เรื่องนี้เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกฝ่ายเป็นคนที่ทนไม่ไหวเอง ฉะนั้นสัญญาก็เท่ากับต้องยกประโยชน์ให้จำเลยอย่างเธอ

ธนาธิปหันไปมองเมริสาด้วยสายตาเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ เพียงชั่วขณะเดียว ก่อนจะสับเท้าเดินกลับเข้าไปแสดงละครคู่รักเข้าใหม่ปลามันในงานวันเกิดคุณหญิงจรรยาต่อ ส่วนหนึ่งก็เพื่อกลบข่าวมือที่สามอย่างพิรญาด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมริสากล้าท้าทายขอให้เขาเป็นฝ่ายหย่าขาดจากเธอ ต่อให้อยากเป็นอิสระจากผู้หญิงพรรค์นี้มากขนาดไหนแต่เขาจะทำเช่นนั้นได้ยังไงในเมื่อสัญญาระบุไว้ว่า ต้องครบกำหนดหนึ่งปี ไม่เช่นนั้น ทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่เขาสร้างมาก็จะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น เว้นเสียแต่ว่า เมริสา จะเป็นฝ่ายขอไปเองเท่านั้น

ซึ่งเขาก็พยายามทำให้เธอทนไม่ไหว อยู่ไม่ได้ อึดอัด คับข้องหมองใจที่จะต้องอยู่ในฐานะเมียตามกฎหมายของเขา ทั้งเฉยชา เมินตึงใส่ก็แล้ว ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนเป็นเพียงอากาศธาตุก็แล้ว กลับบ้านอาทิตย์ละครั้งสองครั้งก็แล้ว แสดงความรักกับพิรญาอย่างเปิดเผยต่อหน้าเธอเขาก็ทำมาหมดทุกอย่างแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับดื้อด้าน ไม่สะทกสะท้านสักนิด ในทางกลับกันเธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขสุด ๆ แบบความทุกข์ใจของเขา

ทำได้ยังไง เขาไม่เข้าใจ เขาแสดงออกชัดว่าไม่ชอบขี้หน้าและจะไม่มีวันชอบขนาดนี้ แต่เธอกลับปล่อยจอย ไม่สนใจห่าเหวอะไรเลยสักอย่างว่าเขาจะไปมุดหัวอยู่ที่ไหนหรือจะกลับมานอนบ้านหรือไม่ เธอก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร

...

...

วันรุ่งขึ้น ข่าวเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง พิรญา ดาราสาวดาวรุ่งที่กำลังมีกระแสคู่จิ้นกับสุรสิทธิ์จนมีงานเข้ามาไม่ล้นหลาม และธนาธิป นักธุรกิจไฟแรงที่เพิ่งจะแต่งงานสายฟ้าแลบไปกับเมริสาลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่

ผู้คนแห่กันแชร์และแสดงความคิดเห็นกันว่อนโซเชียล และขึ้นเทรนทวิตเตอร์ 'แบนพิญญา' เพราะความผิดหวังที่พวกเขาเหล่าแฟนคลับอุตส่าห์ตามเชียร์ ตามจิ้น และซัพพอร์ตดันทั้งคู่ให้มีงานมีเงินเข้ามาไม่ขาดสาย

ป๊อก เสียงสวิตซ์ไฟถูกกดเปิด แสงสว่างอร่ามทั่วภายในห้องสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวของเมริสาโดยผู้ถือวิสาสะไม่ได้รับคำอนุญาตอย่าง ธันวา

"โอ๊ย! แสบตา" เมริสาขยุกขยิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมโปงแล้วพริ้มหลับอีกครั้งโดยไม่ได้สนใจว่าใครคือคนเปิดสวิตซ์

"ตื่น เมริสา" ธนาธิปเดินเข้าไปดึงผ้านวมออกจากร่างบาง แต่ก็ต้องรีบหันหลังให้แทบไม่ทัน เมื่อเรือนร่างบอบบางขาวเนียนตรงหน้ามีเพียงเดรสสายเดี่ยวตัวบางปกปิดเอาไว้

ทั้งคอกว้าง ทั้งบาง ทั้งสั้น! หรือจะเรียกได้ว่า ไม่ใส่เลยเสียยังดีกว่า เพราะแทบจะใกล้เคียงกันอยู่แล้ว

ประจวบเหมาะกับท่วงท่าที่เธอพลิกตัวนอนส่งผลให้สายชุดนอนหลุดลงไปเกือบถึงข้อศอก จนด้านหน้าที่ค่อนข้างกว้างเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเผยให้เห็นเนินเนื้ออิ่มอัดโผล่ออกมาเกือบเกินครึ่งเต้า!!

เธอไม่ใส่บรา! ไม่ใส่ที่ปิดจุก! เนื้อล้วน ๆ

แถมขาเรียวยาวยังยกขึ้นมาเกยหมอนข้าง จนชายกระโปรงถกร่นขึ้นไปขึ้นต้นขาบน หากเธอขยับอีกนิดเดียว กลีบลำดวนคงได้ออกมาเต้นโชว์สเตปแน่

อุจาดตา

ผู้หญิงอะไรนอนได้น่าเกลียดขนาดนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 43

    งานแต่งงานเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายมีแค่คนภายในครอบครัวไม่มีอยู่จริง...ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหล่อนแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่โปรดปรานนักโปรดปรานหนาอย่างหนูเมริสาทั้งทีมีหรือคุณผกาวรรณจะยินยอมให้มันไม่เอิกเกริกยิ่งใหญ่...ซึ่งในช่วงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตร สวมแหวน รดน้ำสังข์ ซึ่งมีเพียงคนภายในครอบครัวที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างอบอุ่นวันนี้เมริสาสวมชุดไทยสีชมพูหวานมีสไบพาดเฉียงไปด้านหลัง ตัวเนื้อผ้าถูกตัดเย็บและปักสลักอย่างละเมียดละไม แต่งหน้าจนดูสวยผิดหูแปลกตา ทรงผมมัดเป็นหางม้าแต่ม้วนลอนเรียงลงมาคล้ายกับเกลียวคลื่น ดูอย่างไรก็เข้ากัน...ส่วนธนาธิปด้านบนเป็นเสื้อสูทสีชมพูโทนเดียวกับเจ้าสาวแสนสวย ด้านล่างสวมใส่โจงกระเบนสีเข้มกว่าเล็กน้อยกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับขันหมากโดยมีพ่อกับแม่ขบาบข้างเป็นญาติผู้ใหญ่ทาบทามสู่ขอ..."โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ โฮ โฮ๊ โฮ โฮ๊" "ฮิ้ววววว" "โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ โฮ โฮ๊ โฮ โฮ๊" "ฮิ้ววววว" "ใครมีมะกรูด มาแลกมะนาว ใครมีลูกสาว มาแลกลูกเขย ฮู้วววว" เสียงร้องรำทำเพลงดังครึกครื้นด้านหน้าบ้าน... ถึงแม้ว่านี่จะเป็นงานแต่งงานครั้งที่สอง แต่ก็เป็นครั้

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 42

    ธนาธิปประกบจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างละเมียดละมัยนุ่มนวลแล้วค่อย ๆ ชำแรกปลายลิ้นเข้าไปควานหาน้ำหวานในโพรงอุ่นดูดดึงหยอกเย้ากอบโกยความสุขเสพสมจากกันและกันนานสองนานจนภายในกายมันอบอวลไปด้วยไอรักอยู่เต็มเปี่ยมไม่รู้ และคงไม่พยายามคิดหาคำตอบว่าต้นรักต้นเล็ก ๆ ที่มันก่อเกิดอยู่กลางใจจนรากของมันชอนไชยึดเหนี่ยวเราทั้งสองคนเอาไว้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทราบเพียงแค่ว่าในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็จะรักษาและดูแลมันให้คงอยู่ไปตลอด ทั้งสองค่อย ๆ ผละจูบออกจากกัน ฝ่ามือของธนาธิปเลื่อนขึ้นไปจับประคองศีรษะของหญิงสาวเอาไว้แล้วให้หน้าผากชนชิดรวมถึงปลายจมูกที่แตะสัมผัสกัน ก่อนจะขยับลงมาจุมพิตพวงแก้มนุ่ม ๆ ฟอดใหญ่ ทุกการกระทำของเขาคล้ายกับขนนกที่ปลิวผ่านปุยเมฆมันทั้งนุ่มนวล อบอุ่นจนใจเธอสั่นสะท้าน เขาไม่ได้รุนแรง หรือรุกอย่างฉาบฉวยแต่กลับทำให้เธอค่อย ๆ รู้สึกโอนเอนอ่อนไหวตามต่างหาก"ขอบคุณนะเมที่ให้โอกาสคนโง่ ๆ แบบผม" "ค่ะ" "กลับมาเป็นเมริสาเหมือนคนเดิมนะ รู้หรือเปล่าตอนที่คุณเปลี่ยนไปใจผมมันหดแทบจะเหลือเท่าปลายนิ้วก้อยอยู่แล้ว" ชายหนุ่มหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาแล้วถือวิสาสะรั้งตัวเธอเข้ามาโอบกอดเอาไว้

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 41

    เมริสาวางไอแพดลงบนที่นั่งก่อนจะลุกขึ้นพูดด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง เธอไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกบ้าบอนี้เอาไว้จนมันหนักอกหนักใจได้อีกต่อไปแล้ว เขามากล่าวโทษว่าเธอพยายามหลบหน้า เปลี่ยนแปลงไป คิดอะไรรู้สึกอะไรทำไมไม่บอกเขาตามตรง แล้วเขาล่ะเคยรู้บ้างหรือเปล่าว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันกำลังทำร้ายใครอีกคนที่เขาเผลอคิดไปเอง! "คุณมาทำให้ฉันรู้สึกดี มาทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณรู้สึกอะไรกับฉัน จนฉันเผลอถลำตัว...และสุดท้ายคุณก็มาบอกว่าที่คุณทำไปทั้งหมดจริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย คุณแค่ต้องการให้เราจบกันด้วยดี คุณแค่ต้องการให้วันหย่ามันเป็นไปได้อย่างราบรื่น คุณแค่ต้องการตอบแทนที่ฉันช่วยเหลือคุณ คุณไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลย! แล้วคุณเคยรู้หรือเปล่าว่าฉันคิด คุณแม่งไม่เคยรู้ไง!!! แต่พอฉันเริ่มตีตัวออกห่าง รักษาระยะห่างเซฟความรู้สึกของตัวเอง คุณกลับพยายามเข้าหา พยายามทำให้ฉันกลับไปอยู่ที่จุดเดิม คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร เป็นเหี้ยอะไรห๊ะ ถ้าไม่รักไม่คิดอะไรด้วยก็ต่างคนต่างอยู่ จอบอ จบ” ได้ยินคำพูดของเมริสาไปธนาธิปถึงกับนิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว "คุณรู้หรือเปล่าคุณธันวา ก็การกระทำของคุณไง ไ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 40

    "ก็แปลกสิ คุณลองคิดดูนะเมื่อก่อนโน้นคุณไม่แม้แต่อยากที่จะเสวนาหรือเจอหน้าฉันด้วยซ้ำ เดินผ่านแทบจะชนกันอยู่แล้วคุณก็ยังทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศไม่มีตัวตน แต่เดี๋ยวนี้คุณ..." หญิงสาวไม่รู้ว่าควรใช้คำพูดแบบใดดีที่จะไม่ดูหลงตัวเองจนเกินไป...ถึงแม้ใจจริงอยากถามมากแค่ไหนที่เขาทำแบบนี้เพราะรู้สึกอะไรกับเธอหรือเปล่า แต่ก็ทำได้เพียงเงียบเอาไว้ เรื่องอะไรทำนองนี้ต้องให้ผู้ชายเป็นคนพูดก่อน...แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่เขาจะสารภาพกับเธอสักที ไหน ๆ การกระทำมันก็ชัดเจนขนาดนี้แล้วเหลือแค่รอพูดออกมาอย่างเดียวเท่านั้น "เอ่อ...ผมก็แค่คิดว่าถ้าเกิดเราสองคนผูกมิตรกันไว้คงไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ไหน ๆ ก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะหลุดพ้นจากพันธะใบทะเบียนสมรส ผมเองช่วงนั้นก็ขอความช่วยเหลือให้คุณมาสวมบทบาทคนรักให้อยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าทำดีใส่กันเข้าไว้ ตอบแทนเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร" ธนาธิปตอบไปตามความจริง เขาเป็นนักธุรกิจไม่มีทางที่จะทำอะไรแล้วไม่หวังผลประโยชน์แน่นอน... ได้ยินแบบนั้นใจเธอมันก็แป้วแปลก ๆ รู้สึกวูบโหวงอย่างไรก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ควรจะเคยชินได้แ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 39

    พอหลังจากนั้นประมาณเดือนกว่า ๆ คุณพ่อของเธอก็ล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ จึงตัดสินใจยกตำแหนงให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเมริสาเข้ามาดูแลและนั่งแท่นซีอีโอบริษัทแทน โชคดีที่เธอมีธนาธิปข้างกาย เขาจึงคอยมอบคำแนะนำและคอยซัพอร์ต ส่งผลให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะยังไม่คล่องแคล่วสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ๆ เพราะพื้นฐานแล้วเมริสาเป็นผู้หญิงที่ทั้งเก่ง และ ฉลาด เพียงแต่เกียจคร้านจะหาเหาใส่หัวพาตัวเองไปลำบากเท่านั้น แต่พอภาระหน้าที่มันมากองรออยู่ด้านหน้าอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เธอก็ต้องจำใจรับเอามาดูแล ทางโน้นพอรู้ว่าคุณเกียรตินครป่วยหนัก อาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิต ซ้ำยังทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนให้กับเมริสาลูกสาว และ อดีตภรรยา ซ้ำยกให้หล่อนเพียงบ้านหลังนี้กับเงินในบัญชีธนาคารยี่สิบกว่าล้านเท่านั้น จึงไม่อยากเก็บเขาไว้เป็นภาระที่จะต้องมาคอยดูแล ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อย่างกับคนใช้ ก็เลยถีบหัวส่ง พาคุณเกียรตินครกลับไปให้เมียเก่าดูแล ส่วนหล่อนก็ใช้เงินที่ปอกลอกจากอีกฝ่ายมาได้ด้วยความสเน่หาอย่างสบายใจ หรือไม่ในอนาคตข้างหน้าก็อา

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 38

    ซ่า!!!! น้ำเย็นยะเยือกถูกสาดใส่รดศีรษะของหญิงสาวในชุดเดรสสีชมพูหวานซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ แขนสองข้างไขว้หลังและถูกมัดกันไว้ด้วยเชือกที่ไม่สามารถดิ้นหลุดได้อย่างง่ายดาย"กรี๊ด!!!" พิรญาสะดุ้งตัวโยนด้วยความตกใจก่อนจะเพ่งสายตาหันไปมองคนที่กล้ากระทำกับดาราสาวอันดับหนึ่งอย่างเธอ คอยดูเถอะเธอจะโพสต์ประจานเอาให้ไม่สามารถมีที่ยืนอยู่บนสังคมได้เลย "พวกแกเป็นใคร จับตัวฉันมาทำไม ปล่อย!!! ปล่อยนะ ปล่อย" หญิงสาวพยายามดิ้นพล่านเพื่อให้หลุดออกจากเชือกที่พันธนาการมัดข้อแขนและข้อเท้าอยู่ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ตัวเธอก็เจ็บมากเท่านั้น "ก็เป็นเมียของคนที่แกเล่นชู้ด้วยไง!" จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวเข้ามา หล่อนคนนั้นสวมใส่กางเกงยีนส์และเสื้อของแบรนด์ชั้นนำพร้อมด้วยสะพายกระเป๋าราคาแพงเฉียดหลักสิบล้าน แต่มีแว่นตาปกปิดอยู่จึงมองไม่ออกว่าเป็นใคร ถึงถอดแว่นออกมา ก็ใช่จะรู้ว่าเมียของคนที่เล่นชู้ด้วยคือใคร! บ้าบอ ผู้ชายในสต็อกที่เคยคั่วด้วยก็มีตั้งหลายคนแล้วจะไปทราบได้ยังไงถ้าเกิดไม่เอ่ยชื่อบอกมา เหอะ ถึงเอ่ยก็ไม่รู้ว่าจะจำได้อีกหรือเปล่า! "ใคร?" "คงจะเล่นชู้กับผัวชาวบ้านมาหลายค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status