LOGINโรสจรินทร์หญิงสาวผู้แบกรับภาระหนี้สินไว้มากมาย หลังจากเลิกรากับอดีตแฟนหนุ่มสุดหล่ออย่างเตชินผู้เป็นรักแรก เธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพและใช้หนี้ไปวันๆ โดยไม่เคยคิดจะกลับไปหาเขาอีก ทว่าโชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง เตชินยังคงเป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจและเจ้าเล่ห์ไม่เปลี่ยน เขาใช้อำนาจและทุกวิถีทางเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับโรสจรินทร์ให้กลับมาเหมือนเดิม และการกลับมาพบกันอีกครั้งก็เริ่มต้นขึ้นด้วยเกมรักที่ร้อนแรง โรสจรินทร์พยายามปฏิเสธและขัดขืนอย่างเต็มที่ แต่เธอก็ไม่อาจต้านทานแรงปรารถนาของเขาได้เลยแม้แต่น้อย อดีตแฟนหนุ่มยังคงตามตอแยและแสดงความเป็นเจ้าของเธออย่างออกนอกหน้า ในขณะที่เธอเองก็สับสนในความรู้สึกของตัวเอง ทั้งโกรธที่เขาไม่ยอมปล่อยเธอไป และยังคงหวั่นไหวกับความรักที่ไม่อาจลืมเลือนได้
View Moreเสียงนาฬิกาปลุกยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด หยอกล้อกับความเงียบงันที่ยังคงอบอวลอยู่ในห้องนอน พลอยทำให้หญิงสาวร่างบอบบางใต้ผ้าห่มผืนหนาขยับตัวด้วยความขัดใจอีกครั้ง ก่อนที่มือเรียวบางจะควานไปกดปุ่มปิดของนาฬิกาปลุกอย่างทุลักทุเล
ภายในห้องนอนขนาดกะทัดรัดที่แต่งแต้มด้วยโทนสีพาสเทลหวานละมุนละไม ของกระจุกกระจิกน่ารักและตุ๊กตาตัวโปรดวางเรียงรายอยู่ทุกมุมห้อง บ่งบอกถึงรสนิยมอันอ่อนโยนและสดใสของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี
“แย่แล้ว...สายจนได้!!!” เสียงพึมพำอย่างหงุดหงิดหลุดลอดออกมาจากใต้ผ้าห่มผืนหนา โรสจรินทร์ หญิงสาวในชุดนอนลายการ์ตูนน่ารักรีบเด้งตัวราวกับมีสปริง ทันทีที่สติสัมปชัญญะกลับคืนมา หญิงสาวก็ผุดลุกขึ้นจากเตียงด้วยความเร่งรีบ ร่างเล็กๆ วิ่งไปยังห้องน้ำอย่างกระฉับกระเฉง ก่อนจะปรี่แปรงฟันล้างหน้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ที่แสนวุ่นวาย
เมื่อแต่งตัวด้วยชุดทำงานที่ดูเรียบร้อย เธอก็ไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าสะพายคู่ใจและเสื้อคลุมตัวโปรด พร้อมกับเดินหอบแฟ้มผลงานออกจากห้องพักไปด้วยความเร่งรีบ
ในเช้าที่การจราจรคับคั่งติดขัด โรสจรินทร์ลงจากรถแท็กซี่ที่หน้าบริษัทพีอาร์พลัส บริษัทเอเยนซีโฆษณาชื่อดังที่เธอรับทำโปรเจกต์โฆษณาให้ หญิงสาวรีบก้าวเท้าเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว
ตุ้บ!
ร่างบอบบางของหญิงสาวที่กำลังเร่งรีบชนเข้าอย่างจังกับร่างสูงที่หน้าลิฟต์ แฟ้มเอกสารในมือของเธอหลุดกระเด็นลงไปกองที่พื้น พร้อมกับเสียงร้องด้วยความตกใจ
“อุ๊ย!!!...ขอโทษค่ะ” หญิงสาวอุทาน ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง แล้วดวงใจก็พลันเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพชายหนุ่มที่เคยอยู่ในความทรงจำกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
เต!!!
เขาคือ เตชิน อัศวเมธี อดีตคนรักของเธอ ใบหน้าคมสันฉายแววแปลกใจที่เห็นเธอมาอยู่ที่นี่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเธอยืนนิ่งราวกับโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ
โรสจรินทร์ รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าลงกลางใจ ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ก่อนที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะรีบก้มเก็บแฟ้มที่กระจายอยู่บริเวณพื้น ก่อนจะแอบเห็นรายละเอียดในแฟ้มดังกล่าวแบบไม่ได้ตั้งใจ ความตื่นตระหนกแล่นพล่านไปทั่วร่าง สิ่งเดียวที่เธอภาวนาคือขอให้เขาจำเธอไม่ได้ แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด
“ไม่ได้เจอกันนาน...สบายดีเหรอ!!!” เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะยื่นแฟ้มที่เก็บเรียบร้อยส่งคืนให้ ดวงตาคู่คมยังคงจับจ้องมองหญิงสาวที่ยืนตะลึงอยู่ตรงหน้า เหมือนกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง ก่อนที่เธอจะได้สติและรีบรับแฟ้มจากในมือของเขาด้วยท่าทางลนลาน ปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับปลายนิ้วของเธออย่างแผ่วเบา ยิ่งทำให้เธอใจเต้นแรงเข้าไปอีกเป็นกอง
“สบายดี” เธอตอบเสียงเบาหวิว พยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น
เตชินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขามองแฟ้มในมือของเธอสลับกับใบหน้าสวยหวาน รอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง รอยยิ้มที่ในอดีตทำให้หัวใจของเธอหลงใหลมาแล้ว
“ทำงานอยู่ที่นี่เหรอ” เตชินหันมาถามหลังจากทั้งสองก้าวเข้ามาในลิฟต์พร้อมๆ กัน ดวงตาคู่คมจ้องมองเธอไม่วางตา
“........” หญิงสาวเอาหูทวนลม และไม่ตอบคำถามของเขา
“ชั้นไหน!!!”
“ชั้น 14 ค่ะ” หญิงสาวตอบตะกุกตะกัก
“ชั้นเดียวกันเลยนี่!!!..” เตชินเอ่ยขึ้น ก่อนจะยืนสำรวจเรือนร่างของเธอ อย่างถือวิสาสะ
“ท่าท่างคุณรีบ ๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า” เตชินพยายามชวนคุยปกติ ทุกอย่างดูเหมือนจะคุ้นเคย แต่บรรยากาศภายในลิฟต์แคบๆ กลายเป็นความประหม่าของหญิงสาวที่เจออดีตคนรักโดยไม่ทันตั้งตัว และวันนี้เธอก็เร่งรีบจนไม่มีเวลาแต่งหน้า โรสจรินทร์รู้สึกได้ถึงสายตาของเตชินที่จับจ้องมาที่เธอเป็นระยะๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่าจนทำตัวไม่ถูก
เช้านี้ช่างเป็นเช้าที่วุ่นวาย...และน่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตของเธอเลยจริงๆ เสียงของลิฟต์ดังขึ้นเพื่อเรียกสติของเธอ
“ไปก่อนนะ” เธอเอ่ยสั้น ๆ เมื่อลิฟต์เปิดออกที่ชั้น 14 ร่างบางที่หอบแฟ้มในมือมั่นพร้อมกระเป๋าสะพายกำลังเตรียมจะเดินจากไป แต่เสียงของเตชินก็รั้งเธอเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ!!!...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“คะ” โรสจรินทร์หันกลับมาอย่างเสียไม่ได้ พลางมองมือหนาที่รั้งแขนเธอเอาไว้
“คุณไม่คิดจะทิ้งเบอร์โทรเอาไว้ให้ผมบ้างเหรอ”
“ฉันต้องรีบไปทำงานค่ะ” โรสจรินทร์พยายามสะบัดแขนที่ถูกเขาจับไว้ แต่เตชินกลับจับแน่นขึ้น ราวกับว่าเธอเป็นสมบัติของเขา
“คุณมาทำงานอยู่ที่นี่เหรอ” เสียงของเขาแฝงความหมายบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกหนาวเยือกไปถึงกระดูก
“ปล่อยค่ะ ฉันจะรีบไปทำงาน” โรสจรินทร์พยายามดึงแขนออกอีกครั้ง ใบหน้าเริ่มขึ้นสีด้วยความหงุดหงิด
“ผมถามดีๆ” เตชินเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ราวกับจะค้นหาคำตอบในอดีตที่ยังค้างคาใจ
“ใช่ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้แสดงออกมากไปกว่านี้
“ทำไมแค่พูดกับผม คำสองคำ กลัวดอกพิกุลจะร่วงหรือยังไง” เขาปล่อยแขนเธอออกช้าๆ แต่สายตายังคงจับจ้องไม่วาง เตชินยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
“ฉันตอบคำถามคุณไปแล้ว ฉันกรุณาปล่อยฉันด้วยค่ะ คุณเตชิน”
“นึกว่าคุณจะจำชื่อผมไม่ได้เสียอีก”
“บังเอิญว่าผมมาติดต่อเรื่องแคมเปญโฆษณาของบริษัท และมันก็อยู่ชั้นเดียวกับคุณพอดี” เขาพูดเหมือนกับรู้ว่าจะต้องเจอกันอีก
“ผลงานในแฟ้มของคุณน่าสนใจไม่น้อยเลยนะ แต่ถ้าอยากให้ราบรื่นละก็ คุณควรจะคุยกับผมดี ๆ ไม่ใช่หยิ่งสโยแบบนี้” เตชินพูดเน้นชื่อเธอชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาคู่คมทอประกายบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกใจหาย เขาจำเธอได้แล้วจริงๆ และที่สำคัญ...เขายังรู้ผลงานในแฟ้มของเธออีกด้วย
ความทรงจำเก่าๆ พรั่งพรูเข้ามาในหัว โรสจรินทร์เคยหนีจากเตชินไปเมื่อห้าปีก่อน หลังจากเข้าใจผิดว่าเขาแอบมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของเธอ และเมื่อความจริงปรากฏว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเข้าใจ แต่เธอกลับไม่ให้โอกาสเขาได้อธิบาย ซึ่งนั่นเป็นเพราะเธอไม่กล้ากลับไปสู้หน้าเขาได้อีก ครอบครัวของเธอล้มละลายกะทันหัน จนต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อชดใช้หนี้
ปัจจุบันพ่อกับแม่เธอเสียชีวิตไปแล้ว เหลือแค่เธอที่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ชีวิตผู้หญิงที่เหลือแต่ตัว คงไม่กล้าไปเสนอหน้ากลับไปคบหากับเขาได้อีก เธอรู้สึกอย่างนั้น แต่สำหรับเตชิน เขากลับคิดว่าเธอไม่มีเหตุผลและตั้งแต่หนีไปเขาก็ได้ยินข่าวว่าเธอมีคนอื่น
ซึ่งตอนที่ครอบครัวของโรสจรินทร์ล้มละลายนั้นเธอยอมรับว่ามีเสี่ยคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วย และเสนอให้เธอนอนกับเขาเพื่อแลกกับการชดใช้หนี้สินให้ แต่สุดท้ายหลังจากพ่อกับแม่เสีย เธอก็ตัดสินใจไม่รับข้อเสนอ แล้วเตชินก็ตามหาเธอจนพบ เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอคบหากับเสี่ยคนนั้น ซึ่งตอนนั้นโรสจรินทร์ไม่มีทางเลือกเธอต้องยอมให้เตชินเข้าใจเธอผิด เพื่อให้เขาตัดใจจากเธอง่ายขึ้น
ก่อนที่ครอบครัวของโรสจรินทร์จะล้มละลายกลายเป็นหนี้สิน พ่อกับแม่ของเธอเคยไปกู้เงินนอกระบบมาลงทุนและบริหารผิดพลาดจนกลายเป็นหนี้เป็นสินก้อนโต เธอต้องทำงานหนักและทำเกือบทุกอย่าง แถมยังรับงานฟรีแลนซ์เพื่อช่วยปลดหนี้ให้ครอบครัว เรียกว่าอะไรที่ทำแล้วได้เงินเธอไม่เคยเกี่ยงยกเว้นการขายตัว
สามปีให้หลังโรสจรินทร์ก็ปลดล็อกตัวเองจากหนี้สินได้เกือบหมด และงานนี้ก็คือความหวังเดียวของเธอที่จะกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่า เตชินเปิดบริษัทเครื่องสำอางและทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการส่งออกและขายออนไลน์ทั่วประเทศ
ตอนที่ 35 ตอนจบ ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! “อร๊ายยยย สามี อื้ยยย เมียเสียว อร๊ายยๆๆๆ” โรสจรินทร์ครางออกมาสุดเสียงอย่างไม่อายอีกแล้วเตชินยังคงไม่หยุด เขากระชากเธอขึ้นมากอด แล้วพลางอุ้มร่างเธออัดกระแทกเธอไปทั่วห้องทำงานในท่าลิงอุ้มแตง เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นลั่นห้อง ทำให้โรสจรินทร์มือเรียวบางโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้แน่น เธอทั้งเสียวทั้งอายในที่สุด เตชินก็ปลดปล่อยความสุขออกมาจนเต็มเปี่ยม เตชินจูบซับเหงื่อบนใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะพาแฟนสาวมานั่งที่โซฟา“คุณหึงผมได้ แต่ต้องมีเหตุผล ไม่อย่างนั้น...ผมจะลงโทษคุณแบบนี้อีก” เตชินกระซิบเบาๆ อย่างหยอกล้อข้างหูของเธอ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความทะเล้น“โรสยอมค่า!!! โรสสัญญาว่าจะไม่งอนเตแบบนี้อีกแล้ว” เธอกระซิบตอบกลับอย่างยั่วยวน“ดีมาก..เมียจ๋า!!!” เตชินยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะกอดเธอไว้แน่น“เรารีบกลับกันเถอะค่ะ เดี๋ยวสองทุ่มพี่ยามเบิ้มจะมาตรวจแล้ว” โรสจรินทร์เตือนด้วยน้ำเสียงที่เจือความกังวลเตชินก้มลงไปจูบเธออีกครั้งด้วยความรัก ทั้งสองรีบสวมเสื้อผ้าและพาเธอออกจากห้องทำงานไป วันถ่ายโฆษณาที่กระบี่เสียงคลื่นซัดสาดและแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าตรู่ของจังหวัดกระบี
ตอนที่ 34 โจรขยี้กาม NCเตชินก้มลงจูบเธออย่างดูดดื่ม จูบที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนเร้นได้ เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกอย่างช้าๆ โรสจรินทร์ถึงกับร้องห้าม “อย่าค่ะ เต! โรสยังทำงานไม่เสร็จเลย!”“ทำอย่างอื่นก่อน ผมหิว ชดเชยที่เมื่อคืนคุณไม่ยอมให้ผมไปส่ง” เตชินตอบกลับอย่างไม่ลดละ“ไปทำกับแม่เลขาฯ ของคุณเลย “ โรสจรินทร์ต่อว่าทั้งน้ำตา เมื่อคิดถึงภาพที่เธอเห็น“คุณกำลังเข้าใจผมผิดอยู่นะ...โรส” เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง โรสจรินทร์พยายามเดินหนี แต่เขาก็รีบคว้าข้อมือของเธอไว้“คุณต้องเชื่อผม คืนนั้น นลินทิพย์บอกว่าเธอหน้ามืด ผมก็เลยช่วยประคองเธอ ก็เท่านั้นเอง” โรสจรินทร์ยังคงนิ่งเงียบ เตชินกอดเธอไว้แน่น พลางกระซิบข้างหู“ผมรักคุณนะโรส” คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ ทำให้ความโกรธของโรสจรินทร์เริ่มคลายลง และในที่สุดเธอก็ยอมจำนนต่อความรักของเขาอย่างหมดสิ้น“ฉันจะลองเชื่อคุณอีกครั้ง แต่อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก”“ครับ มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ผมจะระวังตัวเวลาอยู่ใกล้ ๆ นลินทิพย์” เตชินเอ่ยขึ้น พลางดึงเธอเข้ามากอดอย่างแน่นหนาเตชินใช้อีกมือข้างที่เหลือปลดกระดุมเ
ตอนที่ 33 เสร็จโจร NCวันรุ่งขึ้นเตชินมาหาโรสจรินทร์ถึงที่ทำงานแต่เช้า แต่เธอก็รีบหลบหน้าเขาทันที ก่อนจะให้คุณลูกตาลหัวหน้าของเธอออกมาต้อนรับเขาแทน จนคุณลูกตาลเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ช่วงพักกลางวัน คุณลูกตาลตัดสินใจไปทานอาหารกลางวันใกล้ๆ บริษัทของเตชิน ก่อนจะถือโอกาสแวะเข้าไปหาเขาที่ออฟฟิศเพื่อคุยเรื่องโปรเจกต์ เธอเป็นห่วงว่าหากเตชินและ โรสจรินทร์ ยังคงไม่เข้าใจกันอยู่แบบนี้ อาจจะเกิดปัญหาในการทำงานได้ และถือโอกาสสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอย่างตรงไปตรงมา“คุณเตชิน...พี่ขอถามตรงๆ นะ ระหว่างคุณกับน้องโรส มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” คุณลูกตาลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เตชินถอนหายใจยาว ก่อนจะเล่าความจริงทั้งหมดให้คุณลูกตาลฟัง“ตอนนี้ผมกับนลินทิพย์ เราเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง แล้วเมื่อคืนนี้ เธอบอกว่าหน้ามืดครับ ผมก็เลยช่วยประคองเธอ” เขาเล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ผมขอให้พี่ลูกตาลช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมครับ”“ได้สิ จะให้พี่ช่วยอะไรล่ะ” คุณลูกตาลมองเตชินอย่างเห็นใจ“ก็แผนง้อโรสเค้านั่นแหละครับ”“ก็ได้” เมื่อคุณลูกตาลตกลง เตชินจึงเล่าแผนการณ์ให้เธอฟังหลังจากกลับมาที่ออฟฟิศแล้ว
ตอนที่ 32 ขี่ม้าให้ห้องคาราโอเกะ NCทั้งสองร้องเพลงคาราโอเกะกัน นลินทิพย์เลือกเพลงรักหวานซึ้งที่เคยร้องกับเตชินมาขับกล่อมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แววตาของเธอสับสนวุ่นวาย เมื่อนึกถึงเตชินและสิ่งที่เธอกำลังจะทำ ส่วนเสี่ยอ้วนก็เลือกเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิตมาร้องตามอารมณ์ที่สุขสมในใจ“หนู...เสี่ยถอดชั้นในออกแล้วขึ้นมานั่งให้เสี่ยหน่อยสิ” เสี่ยอ้วนกระซิบเสียงแหบพร่าข้างหูของเธอ แต่นลินทิพย์ไม่ได้ยิน เพราะมัวแต่ร้องเพลงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“พอแล้วหนู! ไม่ต้องร้องแล้วเพลงนี้มันเศร้า!” เสี่ยอ้วนตะโกนลั่นเพื่อให้เธอได้ยินในสิ่งที่เขาต้องการ พร้อมกับงัดแท่งรักขึ้นมาอวดสายตานลินทิพย์อีกครั้ง“มานั่งตักเสี่ยดีกว่า!” นลินทิพย์พยายามฝืนยิ้ม ก่อนจะยอมตามใจของเสี่ยอีกครั้ง มือเรียวบางพลางดึงชั้นในจีสตริงลายลูกไม้ออกแล้วขยับไปนั่งบนตักของเสี่ยอ้วน ก่อนจะขยับสะโพกกลมกลึงเอาแท่งรักของเสี่ยยัดเข้าร่องสวาทด้วยตนเองอย่างช้า ๆ เสี่ยโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง เต้านมอวบเต่งตึงถูกบีบคั้นจนแทบจะแหลกเหลวคามือ ก่อนที่ชุดเดรสเกาะอกจะถูกเลื่อนลงไป เพื่อให้เต้านมอวบเป็นอิสระ“อร๊ายยย เสี่ยขา หนูเสียว อื้มมมม!!!!” นลินทิพย์ร