ภาคินมองตาขวางใส่ผู้ชายที่เสนอตัวจะไปส่งอดีตคนรัก เขายืนมองทั้งสองคนยืนคุยกันมาสักพักแล้ว ท่าทางเขินอายของญาดาที่มีให้กับผู้ชายอื่น มันทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก แล้วสายตาของเขามันดูออกว่าไอ้คนนั้นมันคิดอะไรอยู่ ผีเห็นผียังไงล่ะ
เขาดึงแขนญาดาแล้วพาไปที่รถ ท่ามกลางความงุนงงของใครหลายคนที่มองเห็นเหตุการณ์
“คินเดี๋ยวก่อนสิ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมคินต้องลากดามาแบบนี้ด้วย” ญาดาพยายามแกะมือที่กุมแขนเธอเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยแขนเธอและบีบแขนแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
ภาคินพาญาดาเดินมาจนถึงรถตัวเองและดันตัวเธอเข้าไปภายในรถทันที คนที่ถูกดึงตัวมาไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ว่าขัดขืนไปก็เท่านั้น ญาดาจึงเลือกที่จะนั่งเงียบ ๆ ดีกว่า
ตอนนี้รถขับออกมาจากไนต์คลับไกลมากแล้ว ก็ยังไร้เสียงพูดของทั้งสองคน แม้แต่เสียงเพลงก็ยังไม่มี ทำให้ภายในรถมีแต่ความเงียบสงัด
“ไหนว่ามากับเพื่อน แล้วเพื่อนไปไหนหมดทำไมถึงปล่อยให้ดาอยู่กับไอ้หน้าจืดนั่นตามลำพัง”
“...” ญาดาหันหน้ามองข้างทาง ไม่สนใจในสิ่งที่ภาคินถามแม้แต่นิดเดียว
เห็นท่าทีแง่งอนของหญิงสาว ภาคินรู้แล้วว่าตอนนั้นเขาใช้อารมณ์มากไป ชายหนุ่มพยายามถอนหายใจเพื่อระบายอารมณ์ตัวเอง “ดาพักอยู่ไหน เดี๋ยวคินไปส่ง” น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเบาลงจากเดิม
“ไม่ต้อง จอดให้ดาลงข้างหน้าก็พอ” ญาดาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ให้คินไปส่งเถอะ จะได้สบายใจว่าดากลับถึงบ้านแบบปลอดภัย”
“แล้วทำไมคินต้องมาเป็นห่วงอะไรดาด้วย ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”
คำพูดของญาดาทำให้ภาคินตีไฟเลี้ยวนำรถจอดข้างทางทันที
“เมื่อกี้ดาพูดว่าอะไรนะ?”
“ไม่เข้าใจทำไมคินต้องมาวุ่นวายกับเราด้วย ทั้งที่คินเป็นคนตัดความสัมพันธ์เอง และตอนนี้ต่างคนก็ต่างเริ่มต้นใหม่ คินก็มีคนใหม่แล้ว จะมาวุ่นวายทำไมอีก” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตัดพ้อ
ภาคินตบพวงมาลัยรถด้วยความโมโหพร้อมกับพูดน้ำเสียงดุดัน “ใครมันเลิกวะ!”
“คินไง! จำไม่ได้หรือไง คนที่ไล่ดาให้หายไปจากชีวิตก็คือ คิน คิน คินไง!” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง พูดถึงเรื่องในอดีตดวงตางามน้ำตาคลอ เธอพยายามกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อไม่ให้น้ำตาตัวเองไหลต่อหน้าภาคิน
“...” ชายหนุ่มเหมือนถูกใบ้กิน เรื่องในตอนนั้นเขาไล่ญาดาให้ออกไปจากชีวิตจริง ๆ แต่ความจริงเขาไม่ได้อยากไล่เธอไปไหนเลย ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เขาหูเบาเกินไป...
“ดามันเลวเหมือนที่คินเคยด่าไง แล้วคินจะมาตามตอแยทำไมอีก! เปิดประตูดาจะลง!” ญาดาพูดด้วยน้ำตา เธอไม่สามารถห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลได้ พูดจบเธอทำท่าจะเปิดประตูรถ ทว่าถูกภาคินฉุดรั้งเธอเอาไว้พร้อมกับดึงมากอด
“ดา คินขอโทษ... คินรู้ความจริงที่คุณแม่ทำไว้กับดาหมดแล้ว ขอร้องล่ะดา เราเปิดอกคุยกันก่อนได้ไหม...” น้ำเสียงภาคินสั่นเล็กน้อยคล้ายจะร้องไห้ เขากอดญาดาอยู่อย่างนั้นราวกับว่ากลัวเธอจะหายไปจากเขาอีกครั้ง...
คำพูดก่อนหน้าภาคินแค่ต้องการประชดเท่านั้น เพราะความขาดสติ เขายังเรียบเรียงอารมณ์ไม่ถูกว่าตอนที่ได้เจอหน้ากันจะทำยังไง ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง หรือเสียใจที่ไม่ได้พูดว่า ขอโทษ ขอโทษที่เข้าใจเธอผิด
ภาคินรู้จักนิสัยญาดาดี เธอไม่มีวันทำร้ายเขา ไม่มีวันนอกใจเขาไปหาผู้ชายคนอื่นเหมือนอย่างที่เขาเข้าใจ แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะแม่ของเขาเอง...
สามเดือนต่อมางานแต่งระหว่างพศวัฒน์กับลลิตาได้ถูกจัดขึ้น ณ ริมชายหาดแห่งหนึ่ง เพราะพวกเขาอยากได้ความเป็นส่วนตัวจึงมีแขกที่ได้รับเชิญมาร่วมงานแต่งครั้งนี้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น บรรยากาศโดยรอบตกแต่งไปด้วยสีขาวและมีดอกไม้ประดับต่างจุดต่าง ๆ ทุกคนที่มาร่วมงานต่างพากันตั้งหน้าตั้งตารอเจ้าสาวที่กำลังเดินเข้ามา คนที่ตื่นเต้นสุดเลยคงไม่พ้นเจ้าบ่าวของงานที่ยืนรอเธออยู่แล้วคุณกัมปนาทจูงมือบุตรสาวเดินไปยังทางเดินที่ได้จัดเตรียมไว้ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกตื้นตันใจจนเขาน้ำตาคลอ ในที่สุดก็มีวันนี้วันที่ลูกสาวเขาสมหวังกับความรักส่วนคนที่ร้องไห้หนักสุดคงไม่พ้นคุณวิภพ จนทุกคนพากันสงสัยสรุปว่าเขาดีใจหรือเสียใจกันแน่สองพ่อลูกเดินไปจนถึงจุดที่เจ้าบ่าวยืนรอพวกตน มือชายชราที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลาจับมือลูกสาวตัวเองส่งให้กับฝ่ามืออีกพศวัฒน์ที่ยื่นรอรับพวกเขาอยู่แล้ว“ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าลูกสาวพ่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ หรือมีเรื่องผิดใจต่อกัน ขอร้องว่าอย่าทำร้ายลูกสาวพ่อนะ และถ้าหมดรักลูกสาวพ่อแล้ว อย่าได้ทิ้งขว้าง อย่าปล่อยให้ยัยอ้ายอยู่คนเดียวตามลำพัง ถึงวันนั้นได้โปรด... ได้โปรดส่งลูกสาวคืนให้พ่อนะ” น้ำเสียงคุ
ตกเย็นขณะที่ลลิตากับพศวัฒน์กำลังนั่งดูหนังด้วยกัน เป็นฉากบอกรักอย่างหวานแหววของตัวเอกในละคร เธอฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงได้เอ่ยถามคนข้างกาย“พี่ไนต์ชอบอ้ายตั้งแต่ตอนไหนเหรอคะ? แล้วทำไมถึงมาชอบอ้ายคะ?” ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย เอาตามจริงตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ เธอยังงงอยู่เลยว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหนถึงได้มาลงเอยด้วยกันแบบนี้พศวัฒน์หันหน้ามามองคนที่กำลังจ้องเขาตาแป๋ว จนเขาอดไม่ไหวที่จะพรมจูบไปยังหน้าผากมนด้านคนที่โดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวถึงกับใบหน้าแดงด้วยความเขินอาย พศวัฒน์สามารถอ่านกินเธอได้ตลอดเวลาจริง ๆชายหนุ่มโอบกอดตัวเธอ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “พี่ชอบอ้ายตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกแล้ว”“ตอนไหนคะ? อย่าบอกนะว่าตั้งแต่ที่เราเดินชนกัน” คิ้วงามขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย“ครับ ตั้งแต่วันนั้นเลย”“ไม่เชื่อพี่ไนต์หรอกค่ะ ใครมันจะไปตกหลุมรักแต่แรกเห็น อ้ายไม่เชื่อ” ลลิตากอดอกราวกับเด็กน้อย ชายหนุ่มยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู“ถ้าเอาความจริงเลย พี่อยากจูบอ้ายตั้งแต่ตอนนั้นด้วยซ้ำ แต่กลัวอ้ายจะหาว่าพี่เป็นพวกโรคจิต อ้ายไม่รู้หรอกว่าพี่ต้องเก็บอารมณ์ตัวเองขนาดไหน ขนา
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเป็นความตั้งใจของญาดา ที่เธอกลับมาหาภาคินในครั้งนี้ เพราะเธอตั้งใจดึงภาคินและทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องลงนรกไปด้วยกัน เธอไม่ต้องการให้คนของตระกูลวัชรโยธินมีความสุข ทั้งที่เธอต้องแบกรับความทุกข์ ความเจ็บปวดไว้คนเดียวเธอต้องการแก้แค้นที่ทุกคนพรากลูก พรากความรักไปจากเธอ!ญาดารู้ดีว่าพ่อกับแม่ของภาคินมีตรรกะความคิดป่วยขนาดไหน เธอไม่ต้องการให้ลลิตามาเจอชะตากรรมเดียวกันกับเธอ คนอย่างลลิตาควรไปเจอใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ครอบครัวนี้หญิงสาวรู้ว่าภาคินรักเธอขนาดไหน เธอทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภาคินรักและหลงเธอคนเดียว จึงได้พยายามดึงภาคินออกมาจากลลิตา เพราะผู้หญิงคนนั้นไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวอะไรเลยแต่พอนานไปความรักที่ภาคินมอบให้เธอ ความต้องการแก้แค้นมันค่อย ๆ ลดจางหายไปทีละนิด และแปรเปลี่ยนเป็นหึงหวงคนรัก จนหลายต่อหลายครั้งที่เธอเกือบทำร้ายคนที่ไม่รู้เรื่องไปด้วยทุกครั้งที่นอนมองหน้าเขา เรื่องในวันนั้นก็ลอยขึ้นมา ยังไงเธอก็ให้อภัยเขาไม่ลง แม้รักมากขนาดไหน แต่ภาคินคือต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องสูญเสียลูกไป แบบตลอดกาล...หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ภาพในวันวานผุดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา วั
“บางทีฉันก็อยากผ่าสมองพวกแกมาดูว่าทำไมคิดแต่เรื่องใต้สะดือกันนัก หรือเป็นปมของพวกแกกันแน่!”ภาคินได้ยินอย่างนั้นเขาถึงกับขึ้นเสียงใส่มารดา “คุณแม่!”ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามารดาหมายถึงอะไร คำนั้นมันจี้จุดเขาขนาดไหน ลลิตาย้ำคำนั้นกับเขาแล้ว ยังต้องมาเจอผู้ให้กำเนิดย้ำเตือนอีก“พอ! ไม่ต้องพูดอะไร จากนี้พวกแกจะทำอะไรก็ทำ ฉันจะไม่บ้าจี้ตามพวกแกอีกต่อไป แค่นี้หน้าฉันก็แตกยับไม่เหลือชิ้นดีแล้ว!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายคุณหญิงวิไลลักษณ์เดินขึ้นรถกลับบ้านตัวเองทันที ไม่ได้สนใจภาคินเลยสักนิดว่าจะกลับหรือมีความรู้สึกยังไงภาคินมองดูมารดานั่งรถไปจากเขา ชายหนุ่มเอาเท้าเตะพื้นดินพร้อมกับสบถออกมาอย่างหัวเสีย “โธ่เว้ย-!”วันเวลาผ่านไป...หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นจบลง ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ ชีวิตแต่ละคนต่างดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาลลิตามานั่งดื่มกาแฟตรงร้านที่อยู่ด้านล่างของบริษัท ในขณะที่เธอกำลังสูดดมกับกลิ่นกาแฟอยู่นั้น เก้าอี้ด้านหน้าของเธอก็มีคนคนหนึ่งนั่งลง“มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย หญิงสาวไม่คิดจะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ เธอยังคงสูดดมรับกลิ่นหอมของกาแฟต่อไป“
ส่วนคนกลางอย่างลลิตาได้แต่ปลงตกที่เห็นพ่อลูกฟาดฟันกันแค่เพราะอยากประมูลให้เธอขณะที่หญิงสาวกำลังพูดปลอบใจพศวัฒน์อยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงพูดแซะขึ้นมาจากโต๊ะข้าง ๆ“ไหนว่ามีเงินพันล้าน? แต่ไม่เห็นประมูลได้สักชิ้น ทั้งที่ของในงานรวมกันทั้งหมดยังไม่ถึงแปดร้อยล้านเลยมั้ง” คุณหญิงวิไลลักษณ์ป้องปากหัวเราะกับบรรดาเพื่อน ๆ เธออย่างสะใจแน่นอนว่าเรื่องที่พศวัฒน์พูดโอ้อวดใส่เธอกับลูกว่ามีเงินเป็นพันล้าน หญิงสูงวัยได้เล่าให้คนในสมาคมฟังหมดแล้วลลิตามองดูสองแม่ลูกและคนอื่น ๆ ที่พากันดูถูกพศวัฒน์ เธอก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด ไม่ใช่เพราะรู้สึกอับอาย แต่เพราะโกรธตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้ชายหนุ่มโดนดูถูก หากไม่ใช่เพราะเธอห้ามไม่ให้เขาประมูลแข่งกับบิดา คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้พศวัฒน์มองคนข้างกายที่นั่งก้มหน้า เขาเอื้อมไปกุมมือเธอเพื่อเป็นการปลอบโยน “อ้ายไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ พี่ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้ลลิตาอย่างอ่อนโยน ทว่าในใจเขาคาดโทษบิดาไว้เรียบร้อยขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งฟังเสียงของคนที่พูดแซะพวกเธออยู่นั้น พิธีกรบนเวทีก็ได้เอ่ยถามเจ้าของที่ครอบครองเพชรมากที่สุดในค่ำคืนนี้“ทางเราขออนุญาตสอบถามเหต
หลังจากสองแม่ลูกเดินจากไป ลลิตาหันมาพูดกับชายหนุ่มด้วยใบหน้าอมยิ้ม“ร้ายจังเลยนะคะ”“ร้ายตรงไหนครับ พี่ก็แค่พูดความจริง ว่าแต่อ้ายอยากได้ทั้งหมดจริง ๆ เหรอ”“จะบ้าเหรอพี่ไนต์” หญิงสาวทำหน้าดุใส่เขา “เอาแค่ที่ชอบก็พอค่ะ”เธอรู้ว่าพศวัฒน์สามารถซื้อทั้งหมดได้สบาย แต่วันนี้เธอตั้งใจมาดูสักเซตสองเซตก็พอ เพราะมันไม่ใช่สิ่งจำเป็นขนาดนั้น ที่บ้านเธอก็เยอะมากพอแล้ว แล้วไหนจะของหมั้นที่คุณวิภพมอบให้เธออีกตอนนี้ทุกคนล้วนนั่งชมเครื่องเพชรที่เหล่านางแบบใส่ประชันโฉมกัน แต่ละชุดล้วนมีความสวยงามแตกต่างกันไป จนกระทั่งนางแบบใส่เพชรชุดหนึ่งเดินออกมา“ชุดนี้อ้ายว่าสวยดีนะคะ เหมาะกับคุณแม่พอดีเลย” ลลิตาชี้ให้ชายหนุ่มดูชุดเครื่องประดับที่ลลิตาสนใจ เป็นพลอยทับทิมสีแดงล้อมรอบด้วยเพชรเม็ดงามทั้งชุด ทั้งต่างหู สร้อยคอ กำไล หรือแม้แต่แหวน ก็ล้วนเป็นลวดลายเดียวกันทั้งเซตขณะนั้นเองพิธีกรประมูลก็ได้เสนอราคาเพชรชุดนี้ให้กับผู้ที่สนใจ“ราคาชุดนี้เริ่มต้นที่ห้าล้าน...”“สิบล้าน” พศวัฒน์ชูป้ายพร้อมกับบอกราคาประมูลอย่างไม่รีรอ“สิบสองล้าน” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา เป็นภาคินที่ประมูลแข่งกับเขาพศวัฒน์ชูป้ายพร้อมกั