แชร์

บทที่ 3 สกิลแม่ค้า

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 11:45:59

บทที่ 3

สกิลแม่ค้า

            ข้อเสนอที่ตงตงว่ามานั้นถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

            ตงตงไม่เพียงได้คนช่วยงาน เหยียนหลิ่วยังมีสถานที่ฝึกซ้อม ไม่ต้องแอบฝึกในพื้นที่เล็กๆ แคบๆ ซ้ำยังได้จับอาวุธของจริง แม้อาวุธที่ว่าจะเป็นขวานก็เถอะ

            ผ่านมาแล้ว 3 วัน หลังจากที่ได้คุยกับเหยียนหลิ่วครั้งแรก 

            เหยียนหลิ่วมาช่วยตงตงผ่าฟืน ช่วงแรก ตงตงจ่ายค่าแรงให้เขาเป็นซาลาเปาไส้หมูไซส์ใหญ่พิเศษ ต่อมา พอนางเริ่มเปิดร้านและหาเงินได้นิดหน่อย นางจ่ายเขาเป็นเงิน 10 อีแปะแถมด้วยซาลาเปา 

            ตอนแรก เหยียนหลิ่วยืนกรานไม่รับเงิน แต่ตงตงให้เหตุผล ถ้าเขาคิดจะออกไปเป็นทหาร ยังไงก็ต้องมีต้นทุน เขาจึงรับเงินของนางด้วยสีหน้าเกรงใจ

            “ขอโทษทีนะ ช่วงนี้คุณชายอยู่บ้าน ข้าต้องรีบกลับไปรับใช้เขา เลยออกไปช่วยเจ้าเปิดร้านไม่ได้”

            ในขณะกำลังช่วยตงตงเตรียมข้าวของใส่ตะกร้าสะพาย เหยียนหลิ่วเอ่ยประโยคนั้นด้วยสีหน้าลำบากใจ

            ตั้งแต่ทำข้อตกลงกัน เหยียนหลิ่วข้ามกำแพงมาช่วยตงตงเตรียมของตั้งแต่เช้ามืด จากนั้นก็ใช้เวลาที่เหลือฝึกฝนร่างกาย

            ผ่าฟืนเสร็จก็หวดขวานหนึ่งพันครั้ง วิ่งไปรอบๆ หลังบ้าน จากนั้นก็ทำท่าม้าย่อง นับหนึ่งถึงพัน

            ตงตงนับถือความมุ่งมั่นของเขาเป็นอย่างมาก อยากสนับสนุนให้ได้มากที่สุด ให้เขาใช้พื้นที่ฝึกฝนและได้กินอาหารเช้าอย่างเต็มที่

            “แค่ท่านยอมมาช่วยผ่าฟืนให้ ข้าก็ดีใจมากแล้ว ช่วงที่ข้าออกไปเปิดร้าน ท่านใช้บริเวณบ้านข้าได้ตามสบายเลย”

            “อืม” 

            “ซาลาเปาของพี่ชายหลิ่วอยู่ในครัว ส่วนของท่านพ่อ ข้าเอาไปวางให้เขาแล้ว ท่านไม่ต้องห่วงเขา กินส่วนของตัวเองไปนะ” ตงตงพูดพลางสะพายตะกร้าขึ้นหลังโดยมีเหยียนหลิ่วช่วยประคองขึ้นหลัง

            “ของซื้อของขาย ครั้งนี้ข้ากินแบบไม่จ่ายเงินไม่ได้” เหยียนหลิ่วพูดพร้อมกับควักเงินออกมายื่นให้ตงตง 5 อีแปะ

            นางดันมือเขากลับไป “ข้าก็บอกแล้ว ซาลาเปากับเงินเป็นค่าจ้างที่ท่านควรได้รับ”

            “แต่ว่า…”

            “ถ้าพี่ชายหลิ่วไม่สบายใจ ตอนที่ได้เป็นทหาร ก็ค่อยเอาเงินมาจ่ายคืนให้ข้าแล้วกัน”

            “เข้าใจแล้ว ข้าจะพยายามเป็นทหารให้ได้”

            “ข้าไปเปิดร้านก่อนล่ะ”

            “ขอบใจเจ้าอีกครั้ง เจ้าช่างเป็นเด็กดีจริงๆ”

            ไม่พูดเปล่าๆ เหยียนหลิ่วยังลูบศีรษะเล็กๆ ของตงตงด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน 

            ตอนแรกตงตงรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก ถึงร่างกายนี้จะเด็กกว่าเขา แต่วิญญาณที่อยู่ในร่างก็อายุมากกว่าตั้งหลายปี ถึงอย่างนั้นนางก็พูดออกไปไม่ได้ ต้องปล่อยเลยตามเลย

            พอถูกลูบหัวหลายๆ ครั้ง นางก็เลิกถือสา คิดเสียว่าเขาทำเพราะเอ็นนางเหมือนน้องสาว

            “ข้าไปก่อนนะ”

            “ไปดีมาดีล่ะ”

            …..

            …..

            โรงเตี๊ยมของบ้านจางอยู่บนถนนถัดไป ผู้คนพลุกพล่านพอสมควร 

            ถึงจะเป็นเพียงโรงเตี๊ยมเล็กๆ ที่ปิดตัวไปแล้ว แต่เพราะเป็นทำเลดี ประกอบกับที่ท่านแม่มีชื่อเสียงด้านทำอาหาร ถึงท่านแม่จะเสียไปแล้ว หากก็ยังมีลูกค้าเก่าแวะเวียนมาอุดหนุน ซาลาเปาของนาง  

            ระหว่างรอน้ำต้มชาเดือด รอให้ซาลาเปานึ่งจนสุก ตงตงยกโต๊ะเก้าอี้ออกมาวางหน้าร้าน 2 ชุด เช็ดจนสะอาด

            พอเตรียมร้านเสร็จแล้ว ตงตงก็ตะโกนเรียกลูกค้า

            “ซาลาเปาจ้า ซาลาเปาร้อนๆ อร่อยๆ ลูกละ 3 อีแปะเท่านั้น”

            ราวๆ 1 เค่อ(15 นาที) ลุงฉีที่เป็นลูกค้าเก่าของท่านแม่ก็เดินมาหน้าร้าน “ซาลาเปาไส้หมู 1 ลูก น้ำชา 1 กา”

            “เจ้าค่ะ ลุงฉีนั่งรอก่อน เดี๋ยวข้ายกไปที่โต๊ะให้”

            “ตั้งแต่ปิดร้านไปคราวก่อน ซาลาเปาของเจ้าอร่อยขึ้นมาก แอบไปฝึกทำซาลาเปามาหรือ” ลุงฉีพูดพลางเดินไปนั่งที่โต๊ะ

            อันที่จริง เรื่องที่ตงตงนอนป่วยอยู่ในห้องไม่มีใครรู้ พวกเขารู้แค่ว่านางถูกชนตกน้ำเท่านั้น

            ตงตงยิ้มพร้อมกับคีบซาลาเปาวางบนจาน ก่อนจะยกไปเสิร์ฟ

            “เพราะได้ลุงฉีที่มาอุดหนุนและคอยแนะนำเรื่องรสชาติ ข้าเลยรู้ว่าต้องปรับปรุงตรงไหน”

            “เข้าใจพูดเหมือนกุ้ยฉินไม่มีผิด” ลุงฉีกินซาลาเปาพลางดื่มชาด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย สักพักก็เปลี่ยนเรื่องคุย “เจ้าไคเฮ่อยังเก็บตัวอยู่ในห้องอีกหรือ”

            “เจ้าค่ะ”

            ลุงฉีถอนหายใจเฮือก

            “หากไคเฮ่อทำใจได้เร็วเหมือนลูกสาวก็คงดี แต่เจ้าอย่าไปโกรธพ่อเจ้านักเลย เขารักแม่เจ้ามาก” 

            “ข้ารู้เจ้าค่ะ” ตงตงยิ้มจางๆ ในขณะตอบอย่างนั้น 

            จังหวะนั้นเอง ถังเหวินกับซานหลัวเฉินเดินเข้ามาหยุดหน้าร้าน

            เด็กสาวหุบยิ้มทันควัน

            ในความทรงจำของเด็กสาว ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ถังเหวินชอบมาหาเรื่องตงตงเป็นประจำ

            ทั้งที่ไม่มีเหตุผลให้เป็นศัตรูกันเลยแท้ๆ ทำไมถึงต้องตามรังควานกันด้วย หากเป็นตงตงคนก่อนคงคิดแบบนั้น แต่พี่สาวตงตงคนนี้รู้ดี ถังเหวินทำไปเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจ

            “นี่! เมื่อไรจะปิดร้านของเจ้าสักที เห็นแล้วขวางหูขวางตาชะมัด” ถังเหวินพูดจาเหมือนพวกนักเลง

            “เจ้าว่างนักหรือถึงได้เดินมาเรื่องข้าไกลถึงหลายถนน”

            บ้านของถังเหวินขายวัตถุดิบ แต่อยู่ห่างออกไปหลายถนน เหตุผลจริงๆ จึงไม่ใช่แค่ขวางหูขวางตา

            “ข้าแค่หวังดี อยากเตือนให้เจ้าเก็บเศษเงินเอาไว้ซื้อข้าว ดีกว่าเอามาลงทุนแล้วต้องเจ๊ง”

            ตงตงเดือดในใจ แต่เพราะเป็นคนค้าขาย ต้องเก็บอารมณ์เอาไว้

            พอแอบสูดหายใจลึกๆ หลายที นางก็เปลี่ยนมายิ้มอย่างมืออาชีพ “ไหนๆ พี่ชายเหวินก็มาถึงร้านข้าแล้ว ไม่อุดหนุนข้าหน่อยหรือ”

            “ทำไมข้าต้องอุดหนุนซาลาเปาห่วยๆ ด้วย”

            “พี่ชายเหวินลองกินซาลาเปาของจ้าแล้วหรือ ถึงรู้ว่ารสชาติห่วย”

            “ข้า…”

            “ท่านมาตั้งไกล เดินเหนื่อยๆ อุดหนุนชาร้านข้าสักหน่อยก็ได้ 1 อีแปะเอง”

            พอจู่ๆ นางก็พูดจาดีด้วย ถังเหวินถึงกับไปไม่เป็น

            ตงตงตีเหล็กตอนร้อน รีบใช้โอกาสนี้เชียร์ลูกค้าต่อ

            “พี่ชาย ‘ช่วย’ อุดหนุนน้ำชากับซาลาเปาหน่อยสิ”

            ถังเหวินตะลึงและทำหน้ามึนงง ไม่คิดว่าตงตงคนคนนั้นจะกล้าพูดกับเขา สักครู่ผ่านไป เขาถึงถามนางว่า “ซาลาเปา 1 ลูก 3 อีแปะใช่หรือไม่”

            “ใช่แล้ว กินซาลาเปาก็ต้องมีน้ำชา ชาร้านข้า 1 กา ราคา 1 อีแปะ”

            เพราะเป็นใบชาราคาถูก นางจึงขายราคานี้

            “งั้นเอามาอย่างละ 1”

            จังหวะที่ถังเหวินก้มหยิบเงิน ซานหลัวเฉินที่เงียบมาตลอดก็ท้วงขึ้น

            “พี่เหวิน ท่านกำลังถูกนางหลอกขาย”

            “เจ้าโง่ เจ้าไม่เห็นหรือว่านางกำลังขอร้องข้า”

            ซานหลัวเฉินถึงกับร้อง “หา!?”

            นั่นไม่ใช่การขอร้อง แต่นางกำลังหลอกขายต่างหาก

            “ดูสิ นางทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อขอร้องข้าเชียวนะ” ถังเหวินพูดพลางชี้ไปที่ตงตงด้วยสีหน้าภูมิใจ

            เด็กสาวกะพริบตาปริบๆ ยิ้มอย่างขอร้องให้กับเด็กหนุ่มทั้งสอง

            “พี่เฉินก็อุดหนุนข้าด้วยสิ”

            “อะ เอ่อ…”

            “พี่เหวิน พี่เฉิน ถ้าท่านซื้อซาลาเปา 2 ลูกตอนนี้ ข้าจะลดราคาเหลือลูกละ 2 อีแปะ ปกติข้าขาย 3 อีแปะเลยนะ” ไม่พูดเปล่า เด็กสาวหยิบซาลาเปาขึ้นมาและแบ่งครึ่ง “พวกท่านดู ข้างในอัดแน่นไปด้วยเนื้อ ตอนกินเข้าไปให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำเพราะมีไขมันหมูแทรกด้วย ไม่ฝืนคอเลยสักนิด”

            สองหนุ่มมองซาลาเปามือของเด็กสาวพร้อมกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก  

            “งะ งั้นข้าเอาซาลาเปาเอา 1 ลูก”

            จู่ๆ ซานหลัวเฉินก็ทำหน้าเขินอาย แต่ก็ยอมสั่งซาลาเปา 1 ลูก

            ตงตงยิ้มแย้ม คีบซาลาเปาใส่จาน พร้อมกับยกชาไปเสิร์ฟให้กับเด็กหนุ่มทั้งสอง

            ลุงฉีที่นั่งกินซาลาเปาหมดแล้ว เห็นวิธีการนางค้าขายของนางก็พยักหน้ายิ้มอย่างชื่นชม

            ไม่คิดว่าตงตงคนนั้นจะมีลูกไม้แบบนี้ ไม่เพียงโน้มน้าวด้วยการลดราคา นางยังยิ้มประจบพวกเขา ช่างเจ้าเล่ห์เสียจริง!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status