Home / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 52 ตงตงถูกศาลต้าหลี่จับตัวไป (1)

Share

บทที่ 52 ตงตงถูกศาลต้าหลี่จับตัวไป (1)

last update Last Updated: 2025-06-21 17:15:49

บทที่ 52

ตงตงถูกศาลต้าหลี่จับตัวไป (1)

            กินแล้วก็ต้องจ่ายเงินนั่นเป็นกฎของการค้าขาย

            สีหน้าของจางไคเฮ่อบอกเช่นนั้น

            เหล่าเจ้าทุกข์จอมปลอมมองจางไคเฮ่อที่ยืนแผ่รังสีอำมหิตด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ท้ายที่สุด พวกเขาก็ควักเงินวางบนโต๊ะอย่างเร่งรีบ ก่อนจะก้าวฉับๆ ออกจากร้าน

            เมื่อทุกอย่างสงบลง ทุกคนเดินเข้ามาล้อมรอบตัวตงตง ถามเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง

            “ตกใจมากหรือไม่ เมื่อกี้ข้าน่าจะสั่งสอนพวกมันให้เข็ดหลาบ”

            “ช่างเป็นคนน่าไม่อาย มารังแกแม่ครัวน้อยของพวกเราซะได้”

            “นึกแล้วก็โมโห รอประเดี๋ยวนะ ข้าจะส่งพวกมันไปคุยกับรากมะม่วงเดี๋ยวนี้!”

            “ใจเย็นก่อน จ่าวเต๋อ เจ้าคิดจะก็ทำให้แม่ครัวน้อยของพวกเราเดือดร้อนหรือ”

            “พี่เฉินพูดถูก ขืนส่งคนพวกนั้นไปคุยกับรากมะม่วงตอนนี้ คนที่เดือดร้อนจะเป็นแม่ครัวน้อยของเรานะ”

            “เอ๊ะ จริงหรือ?”

            ทุกคนประสานเสียตอบ

            “ก็จริงน่ะสิ!!!”

            เห็นเหล่าพี่ชายเป็นห่วงเป็นใย ตงตงยิ้มด้วยความซาบซึ้ง รีบประสานมือก้มศีรษะแล้วกล่าวขอบคุณ

            ความนอบน้อมและความมีมารยาทของเด็กสาว ชวนให้ทุกคนอดจะเอ็นดูไม่ได้

            เหล่าราชองครักษ์หลวงไม่ได้ถามซอกแซก เพียงแสดงความห่วงใยเท่าที่จำเป็น เนื่องจากไม่อยากทำให้ตงตงลำบากใจ

            พอคุยจบ พวกเขาถึงกลับไปนั่งที่ของตัวเอง กินอาหารเช้ากันต่อ

            กินอิ่มแล้วก็จ่ายเงิน แยกย้ายกันไปทำงาน

            เมื่อลูกค้าทยอยกลับ ภายในร้านก็ค่อยๆ สงบลง

            หยางอี้กับหลงเจียฮุ่ยเป็นลูกค้าชุดสุดท้าย

            ตอนที่เรียกตงตงไปเก็บเงิน หยางอี้กล่าวกำชับด้วยสีหน้าเป็นห่วง

            “ถ้าเกิดอะไรขึ้น ให้รีบไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยของพวกเราทันที เข้าใจหรือไม่”

            “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

            “เมื่อมีคนชื่นชอบอาหารของเจ้า ก็ย่อมมีคนที่อิจฉา คนพวกนั้นคงไม่จบเท่านี้ ไปไหนมาไหนแม่ครัวน้อยต้องระวังตัวด้วยนะ” หลงเจียฮุ่ยว่า

            “พี่ชายเจียฮุ่ย ก่อนหน้านี้ขอบคุณท่านที่โมโหแทนเจ้าค่ะ”

            พอตงตงกล่าวออกมาเช่นนั้น แววตาของหลงเจียฮุ่ยที่มองตงตง ไม่เพียงแสดงความห่วงใย ยังแฝงความกลัดกลุ้มด้วย

            ตงตงกะพริบตาสงสัย

            หยางอี้อธิบายว่า “บ้านของเจียฮุ่ยค้าขายผ้า เขามีน้องสาวคนหนึ่ง อายุพอๆ กับแม่ครัวน้อย นางมีพรสวรรค์ด้านเย็บปัก ผ้าที่นางปักงดงามและประณีตมาก ทำให้ที่ร้านขายดี แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้คนรอบข้างอิจฉา พวกเขาใส่ร้ายนางว่าดัดแปลงลวดลายปักเหล่านั้นมาจากร้านอื่น…ก็เหมือนเหตุการณ์ในวันนี้นั่นละนะ”

            “แบบนี้มัน…”

            ตงตงเข้าใจแล้ว ทำไมหลงเจียฮุ่ยถึงโกรธแทนนางขนาดนั้น เพราะนางคล้ายกับน้องสาวของเขานั่นเอง

            “ดัดแปลงอะไรกัน เลียนแบบอะไรกัน คนพวกนั้นก็เก่งแต่พูดเท่านั้น เพ่ยเอ๋อร์น้องสาวข้าขยัน นางทุ่มเทให้กับงานปักขนาดนั้น จะปักผ้าออกมาสวยกว่าผู้อื่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” หลงเจียฮุ่ยพูดถึงน้องสาวด้วยสีหน้าภูมิใจ เพียงครู่ เขาก็หันมาพูดกับตงตง “เจ้าก็เหมือนเพ่ยเอ๋อร์ ทุ่มเทคิดเมนูใหม่ๆ ถึงคนอื่นไม่เห็น แต่ข้าเห็น”

ตงตงยิ้มให้กับหลงเจียฮุ่ย ทั้งยังรู้สึกว่าเขาเหมือนพี่ชายอย่างไรอย่างนั้น

            …..

            …..

            ไม่กี่วันต่อมา ระหว่างที่โรงเตี๊ยมตระกูลจางเปิดขายอาหารตามปกติ

            เจ้าหน้าที่จากศาลต้าหลี่กลุ่มหนึ่งเดินมาหยุดที่หน้าร้าน มองป้ายที่ติดเหนือประตู และกวาดสายตามองเข้ามาในร้าน

            แค่เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้มาถึง ก็เรียกสายตาของผู้คนให้หันมาสนใจไม่น้อย

            เจ้าหน้าที่ทุกคนยังจับดาบที่สะพายข้างเอว หน้าตาขึงขัง เหมือนตั้งใจมาหาจับกุมคนมากกว่ามากินข้าว

            พอเห็นแบบนั้น เหล่าชาวบ้านผู้สอดรู้สอดเห็น ต่างหยุดยืนมองสถานการณ์อยู่ที่ข้างทาง

            จิ่งฝางที่ต้อนรับลูกค้าอยู่ด้านหน้า ถือเป็นด่านแรกที่ต้องเจอกับลูกค้า เขากลืนน้ำลายลงคอความหวาดหวั่น

            แต่หลังจากรวบรวมความกล้าแล้ว จิ่งฝางเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คนด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม

            “ยินดีต้อนรับขอรับ พวกท่านมากันทั้งหมด 5 ท่านใช่หรือไม่ เชิญทา…”

            จิ่งฝางยังพูดไม่ทันจบ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวขัดจังหวะด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

            “พวกเราต้องการพบแม่ครัวของที่นี่”

            ในขณะที่กล่าวเช่นนั้น สายตาของเจ้าหน้าที่จากศาลต้าหลี่กวาดมองจิ่งฝางและทุกคนในร้านด้วยความเหยียดหยาม ราวกับมองมดปลวกแมลง

            จิ่งฝางยังคงฝืนยิ้ม แม้รู้สึกถึงกลิ่นอายไม่ชอบมาพากล

            “รอสักครู่ขอรับ”

            ทันทีที่สาวเท้ามาถถึงหลังร้าน จิ่งฝางพลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นแตกตื่น

            “เถ้าแก่ใหญ่ แย่แล้วขอรับ!”

            ทุกคนหันขวับมองจิ่งฝางเป็นตาเดียว

            “มีอะไร”

            จางไคเฮ่อถามจิ่งฝางด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบ

            “เจ้าหน้าที่จากศาลต้าหลี่มาขอพบตงตง”

            พอได้ยินเช่นนั้น ทุกคนพลันผุดสีหน้าตกใจ

            ตงตงที่ยืนอยู่หน้าเตาย่นหัวคิ้ว ทั้งสงสัยทั้งรู้สึกถึงความผิดปกติ

            ในวันที่เหล่ามิจฉาชีพมาตะโกนป่าวๆ กล่าวหาตงตงว่าขโมยสูตรอาหารของพวกเขามานั้น จางไคเฮ่อและคนอื่นๆ เตรียมพร้อมรับมือ ว่าจะถูกคนพวกนั้นมาละลานที่ร้านอีก

            แต่คิดไม่ถึง พวกนั้นจะไปแจ้งทางการ

            “ทำยังไงดีขอรับ หากตงตงถูกจับล่ะก็ คง…” จิ่งฝางถามจางไคเฮ่ออยากตื่นกลัว

            “ใจเย็นๆ ก่อน อาฝาง” หยูฮูหยินบอกจิ่งฝาง “ไม่มีหลักฐานว่าตงตงขโมยสูตรอาหารมาสักหน่อย เจ้าเองก็อย่าเพิ่งแตกตื่น”

            “จริงด้วย” เด็กๆ ในร้านเห็นด้วยกับหยูฮูหยิน

            “ก็ข้ากลัวนี่นา” จิ่งฝางพูดด้วยสีหน้ากังวล

            “อาฝาง เจ้าทำใจให้นิ่งๆ เสีย ตงตงไม่ได้ทำอะไรผิด สวรรค์ต้องคุ้มครอง” ลุงจิ่งบอกกับลูกชาย

            “ขอรับท่านพ่อ”

            “ถ่วงเวลาไปก็ไม่มีประโยชน์ ข้าจะออกไปพบพวกนั้น” ตงตงวางตะหลิวลง ก่อนจะยกกะทะออกจากเตา

            “ตงตง…”

            ถึงพูดอย่างนั้น ทุกคนก็อดห่วงไม่ได้

            แม้รู้แก่ใจว่าเป็นฝีมือของฉินเฟยอวี่ แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะเลยเถิดไปถึงศาลยุติธรรม

            ทว่า…

            หากโชคดี อาจพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสก็เป็นได้

            คิดแล้ว เท้าทั้งสองข้างของตงตงก้าวออกจากครัว แผ่นหลังตรงแน่ว ไร้ความลังเล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status