LOGINณัชชาเป็นเพียงคนเดียวที่คอยวิ่งเต้นและมานั่งร้องไห้ไปกับเพื่อนสนิทเพราะตัวเธอเองก็เป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของที่นี่ ก่อนหน้านี้เธอได้รับการแนะนำทนายโดยบังเอิญจากตำรวจที่ทำคดี หญิงสาวติดต่อไปและบอกข้อมูลของเมลานี ซ้ำยังบอกว่าพวกเธอแทบไม่มีเงินเลย ทว่าทนายชื่อดังคนนั้นกลับยืนยันช่วยเหลือว่าความให้ โดยบอกว่าเป็นคดีที่อยากลองดูและเขายินดีทำให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สิ่งที่ทนายความแนะนำคือให้เมลานีให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและยอมรับในความผิดเรื่องของการพกพาปืนไปในที่สาธารณะ หญิงสาวทำผิดครั้งแรก ศาลน่าจะตัดสินจำคุกไม่นานนัก และเมื่อคำตัดสินของศาลชั้นต้นออกมา ก็ให้เมลานียื่นอุทธรณ์เพื่อขอลดโทษให้สั้นลงอีก แต่หญิงสาวกลับบอกทนายความว่าจะเลือกปฏิเสธการอุทธรณ์ และพร้อมยอมรับการลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้จบ ๆ ไป
“มีทางไหนที่ทำให้เมลไม่ต้องติดคุกบ้างคะคุณทนาย” ณัชชาถามอีกครั้ง
“องค์ประกอบความผิดครบถ้วน ถ้าตำรวจทำสำนวนส่งฟ้องก็คงยากจริง ๆ ครับ” ทนายความมองหญิงสาวที่เป็นลูกความอย่างเห็นใจ หากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเมลานีคงติดคุกไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี เด็กสาวที่ดูไร้พิษสงแบบนี้คงแทบตายแน่หากต้องไปอยู่ในเรือนจำ
“หนูเมล ไม่ต้องกลัวนะ ณัชจะมาเยี่ยมหนูเมลทุกอาทิตย์ อดทนเพื่อรอวันออกมานะ” ณัชชาจับมือเพื่อนรักและเป็นฝ่ายปล่อยโฮออกมาเสียอย่างนั้น ในขณะที่เมลานีกลับสงบนิ่งกว่า คล้ายทำใจยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเจออย่างไม่ไหวหวั่น
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะณัช เมลไม่เป็นไรเลย อย่ากังวล เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป”
“ใช่ ณัชจะรอเมล” ณัชชาพยายามกลั้นเสียงสะอื้น ไม่อยากให้เพื่อนใจเสียเพราะคืนนี้เพื่อนต้องถูกฝากขัง
เมลานีใจอ่อนแค่ไหนณัชชารู้ดี แล้วผู้หญิงที่ยอมคนและใจดีให้กับทุกอย่างจะอยู่ในโลกหลังลูกกรงที่มีผู้คนหลากหลายได้อย่างไร เธอจะต้องถูกเอาเปรียบ ถูกรังแก หรืออาจจะนอนร้องไห้เพียงลำพัง ณัชชาเจ็บแค้นจนโพล่งถ้อยคำที่เคยอดกลั้นไว้มาตลอด
“แฟนเมลทำแบบนี้ได้ลงคอ”
“เขาเข้ามาเพื่อทวงคืนในสิ่งที่เคยสูญเสียเพราะเมลกับพี่เมฆ เมลสมควรชดใช้ให้เขา จะได้จบสิ้นกันไป” ตั้งแต่ถูกจับจนเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ที่สถานีตำรวจ เมลานีไม่เคยร้องไห้ ทว่าพอณัชชาพูดถึงชายหนุ่มที่หลอกใช้เธอเพื่อแก้แค้น น้ำตาของเธอก็ซึมหล่นลงมาเงียบ ๆ
“หัวใจเขาคงทำมาจากก้อนหินสินะ ถึงได้โหดเหี้ยมกับคนรักขนาดนี้ เลือดเย็นจนเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน น่าขยะแขยงที่สุด” น้ำตาที่เหือดแห้งของณัชชาปริ่มออกมาอีกครั้งด้วยความคับแค้นแทนเพื่อน
ชายหนุ่มที่ยืนพิงหลังแนบสนิทไปกับมุมผนังเย็นเฉียบ ค่อยหลับตาลงช้า ๆ เมื่อได้ยินทุกคำพูดของหญิงสาวทั้งคู่
กริชอยากให้หัวใจของเขาทำจากก้อนหินแบบที่หญิงสาวคนนั้นด่าแทนที่จะเป็นเพียงก้อนเนื้ออ่อนนุ่ม มันจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นบีบเค้นจนแทบกระอักออกมาเป็นเลือด
เขาอาจจะเลือดเย็นจนเหมือนสัตว์เดรัจฉานแบบณัชชาด่า แต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าในค่ำคืนก่อนเกิดเหตุ เขายอมแพ้ให้กับเมลานี ยอมจำนนแล้วจริง ๆ ให้กับความผูกพันอันเสแสร้ง แต่ดันถลำใจไปลึกซึ้งจนเผลอรู้สึกเข้าเต็มเปา กุญแจรถที่เขวี้ยงออกไปไม่ได้ทำเพราะจะแกล้งหรือรังแก เขาแค่ไม่ต้องการให้เธอใช้รถคันนั้นในวันรุ่งขึ้น ตั้งใจว่าจะแอบเอาปืนที่ยัดไว้ออกมาก่อนแล้วค่อยปล่อยหญิงสาวไป
แต่เหตุการณ์กลับดำเนินไปทางเดิม เมลานีตื่นก่อนและใช้กุญแจสำรองขับรถคันนั้นกลับไปในที่สุด
กริชทุบกำปั้นลงกับผนังปูนซ้ำ ๆ จนหลังมือแตกยับ เขาผ่านมันมาก่อน ปลายทางของกระบวนการยุติธรรม เมลานีจะต้องถูกพาไปขึ้นรถนักโทษแล้วเข้าสู่เรือนจำ ดินแดนที่ไร้ซึ่งอิสรภาพและเต็มไปด้วยความหม่นหมอง
ในนั้นหญิงสาวจะได้เจอผู้คนทุกชนชั้น ตั้งแต่พ่ายแพ้ โดนยัดข้อหา จนถึงอาชญากรที่เป็นเดนคน ความเศร้าโศกกัดกินหัวใจของกริชเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเศษธุลี นี่หรือคือสิ่งที่เขาพยายามมาตลอด เขาได้อะไรคืนกลับมาบ้าง เปล่าเลย…กลับยิ่งสูญเสีย ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังของทุกคน
“ไอ้กริชหยุด” เจตน์เห็นรถของทนายความกับเพื่อนของเมลานีออกไปแล้ว เพื่อนหนุ่มที่แอบมาดูผลงานการแก้แค้นของตนเองก็ยังไม่กลับมาที่รถ เดินมาดูจึงเห็นภาพที่กริชใช้กำปั้นทุบกำแพงจนเลือดสาด คอตกอย่างหมดท่า
“ผู้หญิงคนนั้นจะยอมรับทุกอย่าง ไม่ประกัน ไม่ยื่นอุทธรณ์” ชายหนุ่มที่เคยไหล่ตั้งตระหง่านกลับลู่ลงราวคนแก่ชรา ความกระเหี้ยนกระหือรือในการเอาคืนคงไม่เหลือ เหมือนหมดแรงใจเอาดื้อ ๆ
“น้องเขาเลือกแล้ว มึงก็อย่าโทษตัวเอง” เจตน์ปลอบเพื่อนที่ดูสับสนจนผิดปกตินิสัย
“กูจะโทษตัวเองทำไม กูเขียนมาให้เป็นแบบนี้ เด็กนั่นจะได้เข้าใจว่าการถูกยัดเยียดความผิดให้มันเป็นยังไง ก็สาสมแล้ว สาสมดี” กริชพูดไปเรื่อย พยายามตอกย้ำกับตนเองถึงสาเหตุที่ทำให้ทุกอย่างมาถึงจุดนี้ ตอกย้ำลงไปว่าเมลานีควรลองลิ้มชิมรสชาติของคนคุกแบบเขาดูบ้าง
“มึงโอเคไหมเนี่ย” เจตน์นึกห่วงกริชมากกว่าตอนที่มันติดคุกเสียอีก
“กูจะไปเมืองจีนซักปีสองปี ไปหาช่องทางทำตลาดใหม่ ๆ แล้วก็หาโรงงานผลิตชิ้นส่วนประดับยนต์ส่งมาทางนี้”
“ไอ้กริช” เจตน์มองหน้าเพื่อนที่เอาแต่หลบตา กริชกำลังจะหนีจากความเจ็บปวดชัด ๆ แต่จะหนีได้หรือในเมื่อใจของเขายังคงรู้สึกรู้สา ความผิดทางใจครั้งนี้จะพันธนาการ เป็นโซ่ที่พันคล้องจองจำกริชไว้ด้วยความรู้สึกผิดไปตลอดแน่ ๆ
“กูฝากงานทางนี้ด้วย พอลงตัวแล้วกูจะติดต่อกลับมา”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







