LOGINกริชมองดูเอกสารที่ฝ่ายการตลาดทำมาเสนอสำหรับหนึ่งไตรมาส ยอดขายของไพน์มอเตอร์เติบโตเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นในลักษณะของการจำหน่ายให้กับกลุ่มองค์กร แต่จากการว่าจ้างบริษัทวิจัยการตลาดเพื่อเก็บข้อมูลหลังการขายพบว่าจุดอ่อนของไพน์กรุ๊ป คือบริการหลังการขายในส่วนของการรับเรื่องร้องเรียนสำหรับลูกค้ารายบุคคล ดังนั้นเรื่องที่ควรทำคือการหาพนักงานบริการลูกค้าแยกออกมาแต่ในศูนย์
ชายหนุ่มมอบหมายให้ฝ่ายบุคคลจัดการเรื่องเหล่านี้เป็นกรณีเร่งด่วน เริ่มต้นที่ศูนย์ซ่อมหลักก่อนเป็นการนำร่อง ไม่รู้ว่าจัดการเรียบร้อยแล้วหรือยังเพราะเคยสุ่มโทรไปเป็นลูกค้าสอบถามข้อมูลด้วยตนเอง กลายเป็นแม่บ้านที่เป็นคนรับโทรศัพท์ ส่วนเซลส์ก็เลือกแต่รับลูกค้ารายใหญ่จนไม่ยอมปลีกตัวมาให้ข้อมูลลูกค้ารายย่อย สรุปว่าเขาต้องบ่นฝ่ายบุคคลและผู้จัดการโชว์รูมไปยกใหญ่
หากครั้งนี้ยังไม่กระเตื้องเขาคงต้องเด้งใครสักคนออกเพราะเท่ากับว่าทำงานเช้าชามเย็นชามเสียนี่ กริชลองยกหูโทรศัพท์ต่อสายตรงไปยังศูนย์บริการเพื่อทดสอบอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ ไพน์มอเตอร์ ยินดีให้บริการ ไม่ทราบว่าติดต่อเรื่องอะไรคะ” เสียงที่กรอกผ่านสายโทรศัพท์จากอีกฝ่ายทำเอาชายหนุ่มใจกระตุกด้วยความคุ้นเคยบางอย่าง มันคุ้นในความทรงจำเสียจนเขาพูดหรือแม้แต่
เปล่งเสียงไม่ออก“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ทางเรารับใช้ไหมคะ”
“…” หญิงสาวคนนั้นยังคงกรอกเสียงหวานที่บีบคั้นก้อนเนื้อในอกของเขา มือที่ถือโทรศัพท์ก็พลอยสั่นน้อย ๆ ตามไปด้วย
“สวัสดีค่ะ คุณลูกค้ายังอยู่ไหมคะ”
“คุณ…เอ่อ ผมพูดสายกับใคร” แม้จะเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก แต่กริชก็เหมือนที่จะบ้าขึ้นมาจริง ๆ ชายหนุ่มอยากรู้ว่าหญิงสาวคนที่กำลังตั้งคำถามให้ในตอนนี้คือใคร ทำไมเสียงของเธอจึงหวานใสเหมือนผู้หญิงคนนั้น หรือเป็นเขาเองที่เสียสติไปแล้ว พบเจอหรือได้ยินเสียงใครก็พาลให้นึกถึงแต่เมลานี
“ดิฉันเป็นคัสโตเมอร์เซอร์วิสของไพน์ค่ะ คุณลูกค้ามีอะไรให้รับใช้คะ”
“คุณเป็นคัสโตเมอร์เซอร์วิสคนใหม่ใช่ไหม” ชายหนุ่มทวนในสิ่งที่เธอบอกเหมือนคนเลื่อนลอยและเมื่อเธอตอบรับกลับมาว่า “ค่ะ” เขาก็ทำโทรศัพท์หลุดจากมือ
น้ำเสียงอ่อนหวานแบบนี้ที่เคยเรียก ‘พี่กริชคะ พี่กริชขา’ มันเหมือนจนราวกับว่าเป็นคนเดียวกันจริง ๆ ชายหนุ่มรีบคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง
“เมล นั่นใช่เมลานีหรือเปล่า” สัญญาณจากปลายสายของอีกฝั่งถูกตัดไปแล้ว กริชลุกขึ้นจากเก้าอี้ผู้บริหารและวิ่งออกไปอย่างไม่รักษาอาการเป็นครั้งแรกจนเลขาหน้าห้องถึงกับแปลกใจ
เขาวิ่งจากตึกสำนักงานใหญ่มายังอีกฝั่งถนน ระยะทางห้าร้อยเมตรดูไกลลิบกว่าที่เคยเป็นจนน่าโมโห ชายหนุ่มมาหยุดยืนตรงหน้าโชว์รูมที่ตัวเองเป็นเจ้าของ หัวใจเต้นระส่ำบ้าคลั่งจากความตื่นเต้นและคาดหวังจนลืมเหนื่อย พนักงานรักษาความปลอดภัยยกมือทำความเคารพเมื่อเห็นกริช เพราะเขามักแอบมาตรวจโชว์รูมหลังเลิกงานบ่อย ๆ
“มาตรวจศูนย์อีกแล้วเหรอครับ”
“โชว์รูมปิดแล้วใช่ไหมลุงคง” กริชถามเมื่อก้มมองเวลาที่ข้อมือ ความผิดหวังบาง ๆ เกิดขึ้นในหัวใจเขาแบบที่ไม่อาจอธิบายได้เช่นกัน
“ปิดแล้วครับ ท่านประธานจะเข้าไปข้างในไหม”
“คงไม่ วันนี้มีพนักงานมาใหม่หรือเปล่า”
“อ๋อ ใช่ครับ สวยเฉียบไปเลย ลูกค้ามาเจอก็ตาค้าง ช่างในศูนย์ก็เดินวนเดินเวียนมาดูแทบจะตีกันตาย” รปภ.สูงวัยหัวเราะเมื่อนึกถึงท่าทางกระชุ่มกระชวยของบรรดาหนุ่ม ๆ ในโชว์รูมที่มีต่อหญิงสาวสวยจัดที่เพิ่งมาเริ่มงานวันแรก ถ้าเขาหนุ่มกว่านี้สักยี่สิบปีก็คงจะตื่นเต้นตาพราวไปด้วยอีกคน
“ชื่ออะไร”
“อะไรนะครับ ชื่อผมน่ะเหรอ คงคาไงครับ”
“ผมจะถามชื่อลุงคงทำไม หมายถึงพนักงานใหม่สิ”
“เอ่อ จำไม่ค่อยได้ แต่เหมือนคนอื่น ๆ จะเรียกว่าน้องเมหรือไงนี่แหละครับ”
“ไม่ใช่”
“ฮ้า”
“ไม่ใช่เม” ชายหนุ่มบอกกับ รปภ.ที่ยังทำหน้าสงสัย แต่ไม่ทันได้ถามต่อเจ้าของบริษัทก็หมุนตัวออกเดินกลับไปยังตึกสำนักงานใหญ่อีกครั้ง กริชต่อสายโทรศัพท์หาผู้จัดการฝ่ายบุคคลเพื่อขอเอกสารบางอย่างโดยเร่งด่วน
…บางอย่างต่อให้คล้ายแค่ไหนก็ไม่ใช่ แต่บางคนที่ใช่ แม้ไม่เห็นหน้า ได้ยินแค่เสียง เขาก็มั่นใจ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ชื่อเม แต่เป็นเมล เมลานี...
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ
![สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






