All Chapters of 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง: Chapter 11 - Chapter 20

65 Chapters

10

ในขณะที่บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของบ้านหลี่กำลังคุกรุ่นไปด้วยแรงกดดันและคำตำหนิ บนถนนอีกฟากหนึ่งของหมู่บ้านพักคนงาน บรรยากาศกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงยายหลิวพาหลานสาวเดินตรงไปยังร้านอาหารเล็กๆ ตรงหัวมุมถนน ซึ่งเป็นร้านเดียวในละแวกนี้ที่เปิดขายอาหารเช้าให้กับเหล่ากรรมกรที่ไม่สะดวกทำอาหารเอง กลิ่นหอมของซาลาเปานึ่งร้อนๆ และน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่เคี่ยวจนได้ที่ลอยมา ชวนให้น้ำลายสอ"เอาบะหมี่น้ำสองชาม แล้วก็ซาลาเปาไส้หมูอีกสองลูก" ยายหลิวสั่งอาหารกับเถ้าแก่เนี้ยอ ก่อนจะหันมาพูดกับหลานสาวด้วยรอยยิ้ม "ไปหาที่นั่งกันเถอะ"เสี่ยวเหลียนมองรอยยิ้มที่อ่อนโยนของยาย ในใจก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมาอีกครั้ง ท่านเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ เงินทุกเฟินทุกเหมาล้วนมีค่า แต่เพื่อปลอบขวัญเธอ ท่านกลับยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ให้เสมอไม่นานนัก บะหมี่ร้อนๆ ในชามกระเบื้องลายครามก็ถูกนำมาเสิร์ฟ เส้นบะหมี่สีเหลืองนวลเหนียวนุ่มในน้ำซุปกระดูกหมูใสแจ๋ว โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและหมูสามชั้นตุ๋นชิ้นบางๆ สองสามชิ้น มันเป็นอาหารที่เรียบง่าย แต่สำหรับยุคสมัยที่วัตถุดิบทุกอย่างหาได้ยากลำบากเช่นนี้ มันคืออาหารมื้อพิเศษอย
last updateLast Updated : 2025-08-09
Read more

13

สุดท้ายแล้วจ้าวเสี่ยวเหลียนก็ได้เข้ามาในตลาดมืดแห่งนี้ ของบางอย่างวางขายราวกับว่าเป็นตลาดสด ส่วนมากแล้วเป็นของที่ถูกจำกัดทั่วไปไม่มีมีอะไรพิเศษ“สาวน้อย มองหาอะไรอยู่เหรอ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ดูๆ ไปแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอด้วยซ้ำ“สวัสดีค่ะพี่สาว” เสี่ยวเหลียนทักทายอีกฝ่าย เธอกำลังต้องการข้อมูลอยู่พอดี“ฉันเห็นเธอเดินเข้ามาสักพักแล้วแต่ไม่เห็นซื้ออะไร เลยคิดว่าน่าจะยังไม่เจอของที่อยากได้ ว่ายังไงล่ะ หาอะไรอยู่เผื่อว่าฉันจะช่วยหาได้”“ทำไมถึงคิดว่าฉันกำลังหาของอยู่ล่ะ” เสี่ยวเหลียนไม่ตอบคำถาม แต่เป็นฝ่ายถามอีกฝ่ายแทน“ไม่มีใครที่เข้ามาแล้วอยู่นานเท่าเธอแล้วล่ะ ได้ของที่ต้องการแล้วก็รีบออกจากที่นี่กันทั้งนั้น” หญิงสาวตอบเสียงกลั้วหัวเราะ“งั้นเหรอ แบบนี้เองสินะ” เสี่ยวเหลียนพยักหน้าเข้าใจสถานการณ์ตกลงว่าหาอะไรจะได้ช่วยหา คิดว่าน้ำไม่แพงหรอก"“ค่าน้ำ” เสี่ยวเหลียนทวนคำ“ใช่แล้ว ค่าเดินทางน่ะ ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ หรอกนะ อยากได้ก็ต้องยอมจ่าย” อีกฝ่ายมองอย่าประเมินท่าทีคนที่ตัดสินใจเข้ามาในตลาดมืด ส่วนมากแล้วเป็นพวกมีเงินพร้อมจ่าย หรือไม่ก็เป็นพวกพ่อค้าแม่ค้ากันเอง แต่ดูจา
last updateLast Updated : 2025-08-11
Read more

11

ทุกคนเลิกงานกลับมา พบว่าบ้านว่างเปล่า ความหมายในที่นี้คือไม่มีอาหารวางบนโต๊ะเหมือนเมื่อสองวันก่อน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงจนทุกคนตั้งตัวไม่ทัน“อะไรกัน เลิกงานมาเหนื่อยๆ ยังต้องมาหิ้วท้องรออีกเหรอให้ตายเถอะ” สะใภ้รองกลอกตามองบนบ่นอุบ“เอาน่า คุณก็ไปช่วยพี่สะใภ้ทำมื้อเย็นเถอะจะได้เสร็จเร็วๆ” อารองผลักไหล่ภรรยาให้เดินเข้าในในครัว เขาเองก็หิวจนตายลายแล้วเหมือนกันหลิวซือถอนหายใจ แต่คิดว่าลูกสาวคงจะยังไม่หายป่วยเลยไม่ได้พูดอะไร สองสะใภ้ช่วยกันทำมื้อเย็น ส่วนย่าหลี่ก็ไม่ได้พูดอะไร เก็บความไม่พอใจเอาไว้ข้างใน เพราะตอนนี้ภาพในหัวของท่านไม่ว่าจะหลับตาหรือลืมตา ก็นึกถึงเงินก้อนในห่อผ้าเก่าๆ นั้นจนทำให้นอนไม่หลับทางด้านจ้าวเสี่ยวเหลียนตอนนี้กำลังนอนหนุนตักผู้เป็นยาย ฟังท่านเล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง แต่แล้วเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น“ยายคะ พี่ใหญ่ แม่ให้มาตามไปกินข้าวค่ะ”ช่วงนี้ปิดเทอมก็จริง แต่เพราะกำลังจะขึ้นชั้นมัธยม หลี่เฟินผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนอนหนังสือก็มักจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด ไม่ค่อยอยู่บ้าน“หลานไปกินข้าวเถอะ ยายกับพี่เขากินกันมาแล้วล่ะ” ยายหลิวบอกหลานสาวถึงจะเป็นหลานที่ออกมาจากแม
last updateLast Updated : 2025-08-11
Read more

12

ก่อนที่สองยายหลานจะออกจากบ้าน หลิวซือก็เดินมาขวางทางเอาไว้เสียก่อน เธอรู้สึกว่าครั้งนี้ผู้เป็นแม่ทำเกินกว่าเหตุไปสักหน่อย“จะไปไหนกันแต่เช้าคะ”“ไปเดินเล่นน่ะ” ยายหลิวตอบ“ฉันนึกว่าแม่จะไปซื้อตั๋วรถไฟเตรียมกลับบ้านเสียอีก” หลิวซือเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีเรียบเฉย คิดว่าเรื่องที่ท่านเตรียมจะกลับบ้านคงไม่บอกให้ตนรู้เป็นแน่ เลยพูดเรื่องนี้ออกไปเสียเลย เพราะเธอก็รู้สึกอึดอัด“รู้แล้วจะถามทำไม” ยายหลิวไม่แปลกใจที่ลูกสาวรู้ เพราะคิดว่าเจ้าของร้านค้าที่มาตามท่านไปรับโทรศัพท์น่าจะเป็นคนบอก“แม่ ถ้าแม่เป็นคนอื่นฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ แต่นี่แม่เป็นแม่ของฉัน ฉันถามเพราะเป็นห่วง”“แกห่วงอะไรล่ะ ห่วงฉันกับลูก หรือว่าห่วงจะไม่ได้เงิน” ยายหลิวถามเสียงเรียบตั้งแต่ท่านมาถึงลูกสาวก็ถามถึงเงินเยียวยา หลังจากนั้นก็ถามแทบจะทุกวันเกี่ยวกับเงินเยียวยา ทั้งพูดทำนองว่าต้องการจะขอยืมเงินเพื่อไปวางมัดจำบ้าน เนื่องจากว่าบ้านที่อยู่มันค่อนข้างจะคับแคบ อยากเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ทว่าเท่าที่ท่านสัมผัส มันกลับไม่ง่ายเหมือนคำที่ลูกสาวพูด เพราะทุกอย่างล้วนรวมเป็นกองกลาง นั่นหมายความว่าหากครอบครัวของลูกสาวอยากจะย้ายออก พวกหล่อนจะ
last updateLast Updated : 2025-08-11
Read more

14

อาสามได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มค้าง ส่วนหลิวซือนั้นได้แต่นั่งนิ่งพูดไม่ออก เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะดูดีขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าเป็นชนชั้นแรงงานเหมือนกันเสียอีก“ไอหยาคุณนายอย่าเพิ่งใจร้อนไปสิคะ ทำความรู้จักกันก่อน” อาสามพูดแก้สถานการณ์ เห็นการแต่งตัวของอีกฝ่ายแล้วไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าเป็นคนมีเงิน เพราะแบบนี้ถึงได้บอกให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ“เย็นไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ เสียงพูดถึงหนูเสี่ยวเหลียนดังเข้าหูมาทุกวัน กว่าที่ฉันจะติดต่อพวกคุณได้ไม่ใช่ง่าย” คนที่แนะนำตัวว่าเป็นหยางเถาฮวาพูดขึ้นเธอเห็นหน้าว่าที่ลูกสะใภ้แล้วก็พยักหน้าพอใจ ก่อนหน้าที่ลูกชายจะไปทำงานได้บอกแล้วว่าไปล่วงเกินสาวคนหนึ่งเข้า ไม่รู้ว่าทางนั้นจะมาเอาเรื่องหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็รับปากรับผิดชอบไป เพราะตนล่วงเกินอีกฝ่ายจริง“เดี๋ยวก่อนนะคะ ตกลงว่านี่มันเรื่องอะไรกัน” เสี่ยวเหลียนได้กลิ่นไม่ดีเลยถามออกไปอย่างงุนงง“เสี่ยวเหลียนจ๊ะ ผู้ใหญ่คุยกันเด็กอย่าเพิ่งพูดแทรก เดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าเรื่องอะไร” คำพูดของอาสามทำเอาหยางเถาฮวาที่กำลังจะอ้าปากอธิบายต้องกลืนคำพูดลงท้องของตัวเองไป“นั่นสิ รอให้อาสามพูดจบก่อน” หลิวซือพยักหน้าเห็นด้วยกับน้องส
last updateLast Updated : 2025-08-12
Read more

15

หลังจากที่แยกกับหยางเถาฮวา อาสามก็ไม่ได้รีบกลับบ้านของตัวเอง แต่กลับไปบ้านหลี่แทน อยู่รอจนกระทั่งย่าหลี่กลับจากทำงานถึงได้เล่าเรื่องวันนี้ให้กับผู้เป็นแม่ฟัง“โชคดีขนาดนั้นเชียวเหรอ” ย่าหลี่ไม่อยากจะเชื่อ ผู้พันที่ไหนจะมาแต่งงานกับชนชั้นแรงงาน อย่างน้อยก็ต้องแต่งกับลูกหลานทหารด้วยกัน หรือไม่ก็ลูกสาวนายพลถึงจะเหมาะสม“นั่นสิคะ ทีแรกที่ติดต่อมาฉันก็นึกว่าเป็นลูกหลานขอคนแถวนี้เสียอีก แม่คะเราจะทำยังไงกันดีละคะ” อาสามถามผู้เป็นแม่ด้วยความกลัดกลุ้ม“จะทำยังไงล่ะ ในเมื่อทางนั้นพูดออกมาแล้วว่าจะรับผิดชอบ เราก็มีหน้าที่เรียกสินสอดให้คุ้มกับที่เจ้าใหญ่เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ” ย่าหลี่นึกถึงสินสอดที่จะได้รับแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“ได้ยังไงละคะแม่ อย่าเห็นแก่เงินน้อยนิดสิคะ นึกถึงผลที่จะเกิดขึ้นระยะยาว แค่นี้พี่สะใภ้ก็คอยื่นคอยาว ถ้าเกิดว่าหล่อนได้เป็นแม่ยายผู้พันจริงๆ คิดเหรอว่าต่อไปหล่อนจะยอมก้มหัวให้กับพวกเรา”“อืม ที่แกพูดมาก็มีเหตุผล” ย่าหลี่คิดตามคำพูดของลูกสาวที่ผ่านมาท่านพอใจกับลูกสะใภ้คนนี้มาก พูดง่าย แล้วก็ไม่เคยทำเรื่องให้ลำบากใจ เรียกได้ว่าชี้นกเป็นนก ไม่มีปากมีเสียง ลูกชายของท่านตาถ
last updateLast Updated : 2025-08-12
Read more

16

ช่วงเย็นจ้าวเสี่ยวเหลียนตั้งแต่มาถึงก็ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง คิดหาวิธีเอาตัวรอดกับงานแต่งงานในครั้งนี้ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออก ติดต่อยายหลิวตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะท่านเพิ่งจะไปได้แค่วันเดียว อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 4-5 วัน แบบนี้คงไม่ทันการณ์เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ตามด้วยเสียงใสของน้องสาวที่ดังอยู่ข้างนอก ทำให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง“เข้ามาสิ”“พี่ แม่ให้มาตามไปกินข้าว” หลี่เฟินเดินมาหยุดตรงหน้าพี่สาว“เฟินเอ๋อร์ไปกินเถอะ บอกแม่ว่าพี่ไม่หิว”“พี่ แม่บอกมาแล้วว่ายังไงก็ต้องออกไปกินข้าว ถ้าพี่ไม่ไปฉันก็ห้ามกินข้าว” หลี่เฟินพูดด้วยน้ำเสียงแกมอ้อนวอนเด็กสาวไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพียงแต่คิดว่าถ้าอาสามมาที่บ้านส่วนมากแล้วก็จะมีเรื่องทุกที ยิ่งมาเห็นท่าทางกลัดกลุ้มของพี่สาวก็ยิ่งมั่นใจว่าตนเองสันนิษฐานไม่ผิด“ไม่มีอะไรหรอกแค่เป็นห่วงยายน่ะ ถ้างั้นพวกเราออกไปกินข้าวกันเถอะ”เห็นน้องสาวทำสายตาอ้อนวอนก็อดที่จะสงสารไม่ไหว แม้ว่าคนในครอบครัวจะไม่หวังดีกับเธอ แต่ก็รับรู้ได้ว่าน้องสาวแตกต่าง เป็นธรรมดาที่ทั้งสองคนไม่สนิทกัน เพราะพี่น้องเพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่นาน แต่คำว
last updateLast Updated : 2025-08-13
Read more

17

 1 กันยายน 1975วันนี้เป็นวันที่จ้าวเสี่ยวเหลียนต้องไปสอบเลือกห้อง เพราะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ นักเรียนบางคนเข้าเรียนได้เพราะเป็นคนในเขตพื้นที่ และได้โควตาพิเศษ อีกส่วนหนึ่งคือสอบเข้าเหมือนกับเสี่ยวเหลียน เลยทำให้ต้องสอบคัดเลือกอีกทีหนึ่งผู้ปกครองมาให้กำลังใจลูกหลานตัวเองเป็นจำนวนมาก รวมถึงอาสามของบ้านหลี่ด้วยที่มาเฝ้าลูกสาว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ” เสี่ยวเหลียนหยุดทักทาย เพราะหากจะเดินผ่านหน้าไปเลยก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่“อือ” อาสามพยักหน้าแบบขอไปที เพราะจุดที่ตนนั่งนั้นยังมีเพื่อนอีกหลายคน“นั่นใครเหรอ” เพื่อนบ้านคนหนึ่งสะกิดถาม“ลูกสาวคนโตพี่ใหญ่น่ะ” อาสามตอบ ถึงจะไม่ชอบหน้า แต่เวลาอยู่ข้างนอกก็ยังต้องให้เกียรติพี่ชายเรื่องที่พี่ชายแต่งงานกับผู้หญิงหม้ายลูกติดคนแถวนี
last updateLast Updated : 2025-08-13
Read more

18

ทางด้านเสี่ยวเหลียนเองก็ยิ้มมุมปากขณะที่เดินออกมาจากอาคารสอบ เธอไม่คิดว่าหวังหลินจะหลงตัวเองถึงขั้นเข้าใจผิด คิดว่าผู้ชายรอหน้าห้อง ทั้งที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนไปถึงจุดนัดหมายก็เห็นว่าอาสามนั่งคุยกับคุณนายจางอยู่ ทันทีที่เห็นหน้าหลานสาวอาสามก็รีบเดินเข้ามาจับแขนแสดงความห่วงใยทันที“เป็นยังไงบ้าง เสี่ยวเหลียนทำได้หรือเปล่า ไม่ต้องคิดมากไปหรอกนะ ก็แค่สอบเลือกห้องเท่านั้น รอให้หลานเรียนไปสักพัก พอขึ้นปีสองก็จะมีการคัดเลือกห้องใหม่ ไว้ค่อยไปสู้เอาตอนนั้นก็ยังไม่สายหรอก”คำพูดของอาสาม ทำเอาป้าหลานมองหน้ากันไปมา ในขณะที่เสี่ยวเหลียนทำเพียงยิ้มน้อยๆ พยักหน้าเห็นด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องโอ้อวดตัวเอง รอวัดกันที่ผลสอบจะดีกว่า“ไหนๆ ก็มากันครบแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ อ่อแล้วก็ขอยืมตัวหนูเสี่ยวเหลียนสักพัก เอาไว้ฉันจะไปส่งที่บ้านด้วยตัวเอง” คุณนายจางพูดก่อนหน้าที่เจอกันรู้สึกไม่ถูกชะตาทั้งคำพูดและการกระทำ แต่ครั้งนี้ท่านั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องไม่ชอบลูกสะใภ้ของท่านเป็นแน่ แต่ก็คงจะไม่แปลกอะไรเพราะเป็นแค่ลูกเลี้ยง ถึงยังไงก็ต้องถูกมองว่าเป็นคนนอก ยิ่งเห็นแบบนี้ท่านก็ยิ่งเอ็นดูจ้าวเสี่
last updateLast Updated : 2025-08-16
Read more

19

 5 กันยายน 1975วันนี้เป็นวันประกาศผลคัดเลือกห้อง จ้าวเสี่ยวเหลียนยังไม่ทันได้ไปดูประกาศด้วยซ้ำ ก็มีผู้หวังดีมาบอกถึงบ้านว่าเธอได้อยู่ห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องเด็กนักเรียนระดับหัวกะทิ ส่วนหวังหลินนั้นอยู่ห้องห้า“ความจริงหลินหลินน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่วันนั้นแกบอกว่าอ่านหนังสือดึกเกินไปเลยปวดหัว สงสัยจะตื่นเต้นน่ะค่ะ” อาสามพูดขึ้น“ดีแล้วๆ ห้องไหนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก” ย่าหลี่พยักหน้ายิ้มๆ แม้จะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง เพราะหลานชายอย่างหลี่เทียนก็อยู่ห้องเดียวกันกับเสี่ยวเหลียน เพราะเขาได้รับโควตามา หรือแม้แต่หลี่เฟินเองก็ได้อยู่ห้องหนึ่งแม้จะเป็นมัธยมต้นก็เถอะ“ขอบคุณอาสามนะคะที่อุตส่าห์มาบอก” เสี่ยวเหลียนพูดขอบคุณ เพราะเธอก็เตรียมที่จะไปดูประกาศเหมือนกัน“ไม่เป็นไร” อาสามฝืนยิ้มความจริงที่มาเพราะต้องการมาแก้ต่างให้ลูก
last updateLast Updated : 2025-08-17
Read more
PREV
1234567
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status