ซ้อนรักเมียเก็บ เขียนโดย ตงหยาง(ตะวันอ้อมข้าว) การที่เธอเป็นเลขาให้กับเขามันไม่ได้หมายความว่าเธอนั้นอยากที่จะเดินเข้ามาเป็นผู้หญิงที่เรียกว่ามือที่สามของคนอื่น แต่ใครจะไปรู้ว่าการที่เธอ เดินออกมายืนที่ที่เธอคิดว่าเป็นของเธอกลับเป็นที่ที่มีอีกคนยืนอยู่ก่อนแล้ว “ถ้าการที่คุณเอกจะให้ วดีเดินออกไปจากตรงนี้มันคงเป็นสิ่งที่นะคะ” “คนอย่างเธอรู้จักฉันดี เธอคงรู้ว่าฉันทำอะไรได้บาง” “ไปเอามันออก…” “แต่เขาเป็นลูกคุณนะ” “ใช่ลูกฉัน แต่คนที่สามารถจะมีลูกให้ฉันได้มีแต่เอมเท่านั้น เธอไม่มีสิทธิ์” “เมื่อไหร่…เมื่อไหร่จะปล่อยวดีไป” “……” “ผู้หญิงแพศยาแบบเธอนี้เอง…รู้อะไรไหม ถ้าการเดินเข้ามาเป็นเลขาให้เอกแล้วหวังจะขึ้นมาเป็นเมียเขา ฉันว่าเธอคิดผิดนะ ราชาวดี…ผู้หญิงอย่างเธอ เป็นได้แค่อีตัวให้เอกเขาปลดปล่อยเท่านั้นแหละ” “แล้วต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนกันคะที่คุณเอกยอมแต่งงานด้วย แต่ไม่ยอมนอนด้วย” “ราชาวดี…นักแพศยา แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดจากับฉันแบบนี้” “แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันก่อนละคะ”
View Moreガラス越しに外を見れば、薄曇りの空がぼんやりと陽を透かしていた。風はなく、じっとりとした湿気が街を包んでいる。夏の始まりを告げるような、重たい空気だった。志乃はカフェ併設のフラワーアトリエの扉の前で立ち止まり、薄く息を吸った。大学時代の親友が運営している店舗である。
十年ぶりの再会というものに、少しばかりの緊張と、ほんのわずかなときめきが混じっていた。ドアのガラスに映った自分の顔を見て、志乃は小さく姿勢を整えた。肩にかかる髪を撫で、軽くリップを確かめる。こんなふうに誰かに会う前に、鏡を気にするなんて、いつ以来だろうと思った。ドアに手をかけた瞬間、内側から鈴の音が鳴った。
「いらっしゃいませ…あ」
振り返った瑞希の声は、あの頃のままだった。けれど、声の張りが少しだけ丸くなっていた。語尾に柔らかさが増していて、それが不思議と心に残った。志乃は思わず笑みをこぼし、ふたりの間の距離が一気に縮まったように感じた。
「志乃…久しぶり」
「瑞希、変わってないね」
お互いの名を口にした瞬間、学生時代の記憶が一気に甦る。講義の合間にカフェでしゃべり込んだ午後、卒論の締切前に泣きながらプリンタを奪い合った夜、真夜中に無意味に外を歩きながら交わした恋の話。たしかにすべて、あったはずの記憶だった。
アトリエの奥、カフェスペースに案内されて、二人は向かい合って座った。瑞希の頬には自然な紅がさしていて、白いブラウスの襟元からはほのかにラベンダーの香りが漂っていた。志乃は無意識のうちに、瑞希の左手を見た。薬指には、細いゴールドのリングが光っていた。
「素敵な指輪だね」
志乃が言うと、瑞希は照れたように笑って指を隠した。
「ありがとう。もう三年かな。結婚して」
「早いね。大学卒業してから、どんなふうに過ごしてたの?」
「いろいろあったよ。実家に戻った時期もあったし…でも、今はやっと、落ち着いたかな」
志乃は頷いた。瑞希の服の色は、昔よりも淡くなっていた。かつては黒や深い赤を好んでいた彼女が、今日はラベンダーグレーのワンピースを着ている。そういう変化に、年月の流れを思い知る。
「志乃は? 結婚してるって、聞いたけど」
「うん。もう三年目。彼はフリーで建築の仕事してて。わりと自由人だけど、まあ、合ってるのかも」
「へえ。なんか、想像つくな。志乃って昔から、自分の世界を大事にする人だったもんね」
「そう?」
「うん。恋愛でも、相手に飲み込まれるより、ちゃんと対等でいたいって思ってたでしょう?」
志乃は少し笑って、カップに口をつけた。瑞希のそういうところは、昔から変わらない。人の心を読むようにして、でもそれを静かに語る。
「…あの頃のこと、よく覚えてるんだね」
「だって、志乃との時間が、すごく楽しかったから」
そう言われて、志乃はふいに胸の奥があたたかくなった。あの頃の記憶は、懐かしいけれど、どこか夢のように遠い。自分たちは変わってしまった。けれど、それでもまたこうして、向かい合って笑えるのだ。
ふと、瑞希が店内を見回してから言った。
「ねえ、今度さ、旦那さんも一緒に会わない? うちの人も紹介したいし。四人でご飯とか、どう?」
「あ、いいね。夫婦同士で。そういうのって新鮮かも」
「でしょ? たぶん、ふたりとも気が合いそうな気がするんだ」
「うちの人、ちょっと変わってるよ?」
「うちのも変わってるよ。真面目だけど、何考えてるかわかんないところある」
笑い合ったふたりの空気に、どこか安心感が満ちていた。昔と今、そのあいだにあるものを、無理に測ろうとせずにいられる時間。
「じゃあ、来週あたり、予定合わせようか」
「うん。楽しみにしてる」
そう言いながら、志乃はもう一度、瑞希の手元に目をやった。指輪が、さっきよりも深く光を集めていた。ふたりのあいだには、もう学生時代のような無垢な時間はない。だけど、大人になった今だからこそ、築ける絆もあるのかもしれない。
帰り際、志乃は店を出て、ふと振り返った。ガラス越しに、瑞希が花を包んでいる姿が見える。その肩の丸みに、少しだけ「誰かの生活」が重なって見えた。
瑞希の声は、あの頃のままだったけれど、語尾の柔らかさに、誰かと長く暮らした人の匂いが混じっていた。
สามปีผ่านมา"อคิณ...มาหาแม่มาลูก"ราชาวดีเอ่ยเรียกเด็กชายที่ยังคงวิ่งเข้าไปภายในบริษัทของผู้เป็นพ่ออย่างสนุกสนานต่างจากผู้เป็นแม่ที่ตอนนี้หมดแรงแม้แต่จะเดินแล้ว"คุณแม่ตามสิครับ เร็วๆตามมา"เด็กน้อยวัยสองขวบกว่าเรียกแม่ของตัวเองด้วยเสียงที่สนุกสนาน"ว้า...จับได้แล้ว"ราชาวดีที่เห็นลูกชายถูกยกลอยขึ้นจากพื้นก็อดที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจไม่ได้เพราะถ้าให้เธอวิ่งตามอีกคงได้เป็นลมแน่ๆ"คุณพ่อ" เสียงของเด็กชายเอ่ยออกมาก่อนที่จะโอบคอของทิติเอกพร้อมหอมลงที่ใบหน้าของเขาอย่างคิดถึง"ทำไมแกล้งแม่แบบนี้ครับ" ทิติเอกใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้กับลูกชายก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างเอ็นดูแม่ลูกคู่นี้ ที่ลูกชายเขาไม่รู้ไปได้นิสัยขี้แกล้งมาจากใคร วันๆเอาแต่แกล้งผู้เป็นแม่ให้วิ่งตาม แต่ด้วยนิสัยของราชาวดีไม่เคยจับลูกชายของเธอทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ไม่ได้แกล้งเลย....คุณแม่" อคิณเอ่ยออกมาก่อนที่จะมองไปยังราชาวดีที่ยิ้มให้กับสองพ่อลูกอยู่"แม่น่าจะอุ้มเราไม่ไหวแล้วนะคะครับ" ทิติเอกเอื้อมมือไปหาผู้เป็นแม่เพื่อที่จะให้อุ้มตัวเอง"ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ""ครับ...อคิณครับเดี๋ยวไปกับลุงบดินทร์นะครับ""ไปไหนคะ" รา
"มันจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะคุณอรวี ทิติเอกเป็นทายาทหมื่นล้าน ราชาวดีไม่มีอะไรเลย การที่นายหัวพูดแบบนั้นมันก็ทำให้คุรนักใจที่จะรับเธอมาเป็นสะใภ้ ดิฉันจะยกทรัพย์สินของฉันส่วนหนึ่งให้กับราชาวดี แต่เป็นทั้งหมดที่อยู่ภายในกรุงเทพและบริเวณใกล้เคียงเราคำนวณแล้วก็เทียบเท่ากับทรัพสินย์ของคุณตอนนี้เลย แบบนี้เหมาะสมกันหรือยังคะ"รัตนาเอ่ยออกมาอย่างพยายามจับทางของอรวี"มันไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ ทิติเอกเก็บราชาวดีไว้ ไม่ได้เปิดเผย เธอเสียชื่อเสียงกับทางเราไปมากแล้วนะคะ"อรวีเอ่ยออกมาอย่างพยายามที่จะอธิบาย ด้วยเธอกลัวทิติเอกจะไม่เห็นด้วยเพราะเธอเคยผิดพลาดกับลูกชายของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง"งั้นยิ่งต้องตกลงเลย เพราะผมจะรับผิดชอบเธอ"ทิติเอกเอ่ยออกมาทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดิมหนักใจไม่น้อย กลัวลูกชายเธอจะไม่เห็นด้วยถ้าเธอรับทางโน่นเลย แต่กลับกัน ทิติเอกอยากจะรับผิดชอบราชาวดีมากจนเธอคาดไม่ถึง"ว่ายังไงครับ"สิงหราชเอ่ยถามออกมาอย่าต้องการคำตอบเช่นเดียวกับทุกคนที่นี่"ค่ะ เห็นสมควรกันขนาดนี้ วีไม่กล้าขัดแล้วค่ะ"คำพูดของอรวีที่เอ่ยออกมาทำให้ทิติเอกดีใจไม่น้อย ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือของตัวเองไปจับลงที่มือของคนตัวเล็กที่น
หลังจากการเดินทางมาที่บ้านของทิติเอกอีกครั้ง หลังจากที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมา เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเดินทางกลับมาที่นี่อีก จนแม่ของเขาให้เข้ามาคุยธุระอย่างวันนี้และพ่อของราชาวดีและรัตนาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับแม่ของเขาในวันนี้ ชายหนุ่มก็ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรออกมาได้นอกจากทำตามที่อรวีต้องการเท่านั้น"เอกมาแล้วหรอลูก"อรวีที่อยากจะเอ่ยคำขอโทษลูกชายของเธออย่างนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องขึ้นมาจนถึงตอนนี้สายตาของอรวีประทะเข้ากับร่างของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแต่เมื่อเธอได้เห็นว่าอรวีได้หันมามองที่เธอ"สวัสดีค่ะคุณหญิงอรวี"ราชาวดีเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่เต็มสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะเอ่ยออกไป เพราะถ้าไม่เอ่ย ก็เท่ากับว่าเธอเสียมารยาท"เข้าบ้านก่อน"อรวีเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินนำทั้งสองเข้าไป ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มเกร็งตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีในตอนนี้ แต่มือหนาของชายข้างกายเธอกลับบีบที่ข้อมือของเธอย้ำๆทำให้หญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักให้กับเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในบ้านของทิติเอกตามที่ชายหนุ่มได้จับมือเธอเดินเข้าไปภายในบ้าน"เดี๋
ราชาวดีที่เพิ่งทานอาหารจากที่ทิติเอกเป็นคนค่อยป้อนให้เธอเสร็จ หญิงสาวก็ได้มานั่งจับจ้องที่ทีวี และเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่ 1 อาทิตย์เพื่อที่หมอจะได้แน่ใจว่าเธอจะไม่กลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง"ดูอะไร"ทิติเอกที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียงนอนก็เอ่ยถามออกมาเมื่อหญิงสาวยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่คิดที่จะสนใจอย่างอื่น"ข่าวทั่วไปค่ะ แล้วไปไหนมาคะไม่ไปทำงานหรอ"ราชาวดีอดที่จะเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัยไม่ได้ เพราะเธอเห็นว่าทิติเอกแต่งตัวด้วยชุกลำรองนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ไปทำงาน"ไม่อ่ะ...นักข่าวเยอะรำคาญ....ปวดหัวมากเลยเป็นอะไรไม่รู้"ทิตเอกเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆก่อนที่จะซบแขนของคนตัวเล็ก เขาเพิ่งรู้ว่าการอยู่ใกล้ราชาวดีมันทำให้เขานั้นรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"ให้วดีเรียกหมอให้ไหมคะ...""ไม่เอา อยู่แค่นี้ก็หายแล้ว"คนตัวโตเอ่ยออกมาพร้มจับมือของเธอมาซบเอาไว้ โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ว่าอะไรพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาหาทิติเอก"ข่าววันนี้เป็นข่าวที่น่าตกใจมากเลยนะคะ ไฮโซสาวอย่างคุณแพรไพลินที่เป็นลูกสาวของรัฐมนตรีมีข่าวออกมาว่าเธอท้อง แต่ฝ่ายชายไม่รับ คุณแพรพรรณลายเลยจับให้เธอแต่งงานกับคุณทิติเอกเม
"คุณเอกไม่รักวดี วดีไม่ว่านะคะ ไม่ว่าเรืื่องลูกหรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่อย่าผลักวดีให้กับคนอื่นได้ไหม วดีของแค่นี้ได้ไหม"ราชาวดีเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทิติเอกตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมาเขาขยับตัวเองเข้าไปหาคนตัวเล็กด้วยความเร็วพร้อมกับการดึงเธอเข้ามาภายในอ้อมกอด"หมอบอกว่าอย่าเครียดไงวดี....ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปฉันจะไม่แต่งงานกลับเธอ"หญิงสาวที่อยู่ภายในอ้อมกอดของชายหนุ่มนิ่งลงพร้อมกับการขยับตัวเองออกมาจากอกแกร่งของอีกคน"หมายความว่าไงคะ""เธอต้องแต่งงาน แล้วคนที่ต้องแต่งด้วยคือฉัน""แล้วคุณแพรละคะ""แพรไพลินท้องนั้นก็เท่ากับว่าเธอคบกับคนอื่นเพียงแค่จะให้ฉันรับผิดชอบแต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่เคยมีความสัมผัสกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว"ทิติเอกเอ่ยออกมาพยายามที่จะอธิบายให้กับคนตัวเล้กได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น"อ๋อค่ะ...""แค่นี่หรอ""ค่ะ....ต้องให้วดีพูดอะไรคะ"ท่าทางที่ไร้เดียงสาของหญิงสาวทำให้ทิติเอกนักใจมากกว่าจะรู้สึกดีที่เธอไม่ทันคน"บดินทร์บอกว่าเธอทะเลาะกับแพรไพลินหรอ""ก็เขาว่าวดีก่อนทำไม"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมท่าทางที่เรียกว่าทั้งโกระแค้นทั้งไม่พอใจ จนคนท่เ
"ไม่ทราบว่าคุณหญิงอรวีมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ทิติเอกเอ่ยออกมายังประชดประชันผู้เป็นมารดา"เรื่องที่ลูกพูดหมายความว่ายังไง ผู้หญิงของลูกเป็นลูกสาวคนหญิงรัตนา"อรวีไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกชายตัวเองเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินตามมาถามความให้รู้เรื่อง"ลูกสาวคุณหญิงรัตนาที่เธอตามหา มาตลอดนะครับ"น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วปกติ แต่แววตาตากับเจ็บปวดของที่ทิติเอก อดทำให้ผู้เป็นแม่ของเขาเป็นห่วงไม่ได้"ลูกรู้เรื่องนานหรือยัง""ทำไม ถ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นลูกสาวของคุณหญิงรัตนา คุณแม่จะจับเธอให้ผมหรอครับ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าเธอไม่คู่ควรอะไรกับผมเลย""แม่จะให้ลูกอยู่ห่างเธอมากกว่านี้ต่างหาก""ทำไมผมไม่เข้าใจ"ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยกับสิ่งที่แม่ของเขาเอ่ยออกมา ทำให้ชายหนุ่มกับหนักใจในเรื่องนี้มากกว่าเดิม"คุณหญิงรัตนา เธอไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าไปเอื้อมถึงลูกสาวหรือลูกชายของเธอ ต่อให้เป็นเราก็ตามเธอ ไม่มีทาง ที่เธอจะยอมยกลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอให้ แล้วยิ่งพ่อนะ ถ้ารู้ว่าเอกกับลูกสาวเขาคบกันในที่ลับแบบนี้ แม่ไม่อยากจะคิดเลย""เรื่องนี้ผมรู้ว่าผมผิด ที่ไม่เคยให้ความชัดเจนเธอตั้งแต่แร
Comments