แชร์

เริ่มต้น

ผู้เขียน: ปลาเก๋าผัดฉ่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-03 12:18:18

เนื่องจากนาราไม่มีเงินติดตัวสักบาท เธอเลยขอให้สิงหราชออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน นาราตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่ปลูกทุเรียนอย่างเดียว แต่จะปลุกพืชอื่นๆด้วย อย่างเช่น มะละกอ กล้วย เมล่อน  ไม้ผลพวกนี้โตเร็ว เพียงหนึ่งปีก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

            “เป็นยังไงบ้างคะพี่กร” เนื่องจากยังไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ นาราจึงขอตัววิกรมาช่วยด้วย ซึ่งเขาก็ตอบรับเป็นอย่างดี นาราดีใจมากๆที่มีคนเก่งมาร่วมงานแบบนี้

            “น้องนาค” วิกรเงยหน้าจากการดูดินขึ้นมามองหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนยิ้มให้ใกล้ๆ เพียงนารายิ้มออกมาทุกอย่างในไร่ก็ดูสดใสทันควัน เขาไม่แปลกใจเลยที่คนบางคนจะหลงเธอเป็นบ้าเป็นหลัง        

            “ดินดีมากครับ กรดด่างของดินอยู่ระหว่าง 5.5-6.5 กำลังดีเลย” เขาทำการวัดค่ามาแล้วดินอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน พืชที่ดูแลยากและรากเน่าง่าย จะว่าไปเขายังทึ่งในตัวนาราอยู่เหมือนกัน ขณะที่สิงหราชไม่แตะพืชดูแลยากชนิดนี้ เพราะอื่นๆก็มากมายพอแล้ว แต่นารากลับอยากทำ

            “ขอบคุณพี่กรมากนะคะที่มาช่วยนาค” เธอยื่นชาเย็นให้ วิกรรับไปพร้อมกับบอกเบาๆ

            “ไม่เป็นไร พี่เต็มใจช่วย สำหรับน้องนาค พี่ยินดีทั้งนั้น” ยินดีทั้งที่เขาไม่สมหวังก็ตาม

            “แต่พี่แปลกใจจริงๆที่ไอ้สิงยอมให้ที่ดินน้องนาคทำกินแบบนี้ แต่ก่อนมันไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเลย พี่น้องสักคนก็ไม่ให้ บอกว่าถ้าคนพวกนั้นไม่รู้จักการเกษตรดีพอจะทำให้ดินมันเสีย น้องนาคไปขออีท่าไหน มันถึงยอม”

            “อีท่าไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง” เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้นพร้อมกับร่างใหญ่ที่เดินเข้ามากอดคอนารา คนตัวเล็กรีบผลักเขาออก

            “ร้อน”

            “อยู่นิ่งๆ” ไหล่หนากดบนไหล่เล็กเบาๆ ดูท่าสิงหราชคงไม่ยอมปล่อยเธอไปแล้ว ร้อนขนาดนี้ยังกอด

            “ทำๆไปมึงอ่ะ ถามไรเยอะแยะ” พูดกับคนในอ้อมแขนเสร็จก็เอ่ยกับวิศวกรรมเกษตรหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความยียวน อย่างวางมาด

            “หวงก้าง” วิกรเอ่ยพลางส่ายหัวเบาๆ ไม่ว่ากี่ครั้งสิงหราชมักทำแบบนี้กับเขาเสมอ เห็นมาจนชินแล้ว

            “มึงพูดอะไร กูได้ยินนะ” หน้าหนาแล้วยังหูตึงอีก วิกรละยอม ตาคมมองไปที่นารากับไอ้คนข้างๆอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้น

            “รำคาญไปก็ได้” วิกรเดินหนีไปแล้ว ปล่อยให้นาราทำหน้าหงุดหงิดคนที่กำลังเกาะไหล่เธอ วันนี้เธอจะถามความรู้จากวิกรสักหน่อย ทว่าพังหมดเลย เพราะนายหัวเอาแต่ใจนี่!

            “ทำไมไม่ขึ้นไปกินข้าว” สิงหราชไม่สนใจหน้าตาเง้างอด เป็นปลาทูหน้างอคอหักของคนตัวเล็ก เขาเชยปลายคางมนให้หันมามองกัน

            “ก็ฉันยังไม่หิว” เสียงเอ่ยติดรำคาญ ก็ไม่ให้รำคาญได้ไง ก็เล่นไปที่ไหน เขาเล่นตามไปด้วย มีเธอก็เหมือนมีเขาที่นั่น ทุกวันนี้คนยกมือไหว้เธอหมดแล้ว คิดว่าเธอเป็นเขากระมัง

            “อยากดูเขาไถกำจัดวัชพืชก่อน” แต่ช่างเถอะ ใช่ว่าจะโกรธอะไรนัก

            “ขยันจริงรึเปล่า” มือใหญ่ยังคลึงปลายคางเล็ก แววตาคมคายฉายแววอ่อนโยนออกมา เขาไม่คิดว่านาราจะขะมักเขม้นขนาดนี้ หญิงสาวตื่นตั้งแต่ตีห้าทุกวันเพื่อเข้าไร่

            “ก็จริงสิ ฉันจริงจังมากนะ” เธอตั้งใจมากจริงๆ อยากให้ทุกอย่างออกมาดี ถึงจะแย่ทีหลังแต่เธอจะไม่เสียใจเพราะทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจแล้ว หยาดเหงื่อแต่ละเม็ดที่เสียไปจะได้คุ้มค่า

            “งั้นต้องให้รางวัลเด็กดีสักหน่อยแล้ว” สิงหราชยิ้มพราย ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้

            “คุณ! คนงานยังอยู่นะ” นารายันใบหน้าหล่อเหลาออก รีบมองไปที่คนงานที่กำลังไถดินอยู่

            “มันไถดินอยู่ไม่เห็นหรอก” คนตัวใหญ่ยังไม่ยอม ขยับหน้าเข้าไปรุกรานริมฝีปากอวบอิ่มจนได้

            “อื้อ คนบ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย” นาราตีไหล่หนาแรงๆหลังจากเขาผละออก ริมฝีปากสีชมพูยังมีความมันวาวจากการจุมพิตเมื่อครู่ แล้วเธอต้องครางในลำคออีกครั้ง เมื่อเขาโน้มลงมาจูบใหม่

            “อื้อ”

            มือใหญ่ที่ตอนนี้เหงื่อซึมเล็กน้อยด้วยอากาศร้อนลูบไล้ไปทั่วส่วนเว้าสวนโค้งของคนตัวบาง ไม่สนใจอากาศระอุในยามบ่ายเลยสักนิด ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากอุ้มเธอเข้าห้องตอนนี้

            “โอ๊ย ยัยแม่มด!” ทว่าเคลิ้มฝันได้ไม่นาน ก็ถูกทำลายไม่มีชิ้นดี เมื่อนารากระทืบเท้าลงกับเท้าของเขา ผลักออก เดินสะบัดหน้าออกไป

            “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สิงหราชอดหัวเราะไม่ได้ เขาไม่ได้ตามเธอไป แต่เดินเข้าไปหาคนไถดิน และเพียงคนงานที่อยู่บนรถแทกเตอร์เห็นนายหัวใหญ่ก็หยุดรถทันที

            “ไถดีๆละมึง เอาให้เรียบ หญ้าจะได้ไม่เกิดเร็ว” นายหัวของธรภูมิสั่งอย่างดุดัน ต่างจากอาการขี้เล่นเมื่อครู่ คนงานหนุ่มก้มหัวรับคำ ทำงานอย่างดี

            “ครับนาย”

            “อืม” นายหัวสิงหราชเดินออกไป ด้วยใจเบิกบานที่ได้แกล้งใครบางคน เขาคงเสียสติไปแล้ว เสียสติที่ต้องทำให้เธอคนนั้นด่าทุกวัน แทนที่จะโกรธ กลับชอบใจอย่างไม่มีเบื่อ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status