แชร์

โลภ

ผู้เขียน: ปลาเก๋าผัดฉ่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-03 12:19:16

            “แม่สวัสดีจ้ะ” วันหยุดนาราถึงได้มีเวลากลับมาบ้าน หญิงสาวไม่ลืมเอาผลผลิตที่ไร่มาด้วย ทั้งพืชผักสวนครัว สตรอว์เบอร์รี่ เชอรี่ และแตงโม

            “อ้าวลูก” ได้ยินเสียงอ่อนหวาน ประพาจึงเงยหน้าจากการทำอาหารเย็นมามองลูกสาว

            “พ่อล่ะจ๊ะ” ตาสวยสอดส่องมองหาบิดาที่น่าจะอยู่แถวนี้ ทว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลย

            “พ่อไปหาเพื่อนในเมืองน่ะลูก ตอนค่ำๆน่าจะกลับ”

            “หนูเอาผักสวยๆจากไร่มาฝากจ้ะ มีไข่ไก่ด้วยนะจ๊ะแม่” เมื่อรู้ว่าพ่อไม่อยู่นาราก็เดินไปหาผู้เป็นแม่ วางของที่ขนมาด้วยรถสกู๊ปปี้ตัวเก่าลงบนโต๊ะ

            “ทำไมมันเยอะแยะขนาดนี้ล่ะลูก” ประพาตะลึงกับของที่ลูกสาวเอามา ตกใจจนคิดว่าเอามาทั้งสวนเลยหรือเปล่า อันเก่ายังกินไม่หมดเลย

            “หนูดูแลเองจ้ะ ก็เลยขอเขามา” นารายิ้มร่า ปีนี้เธอมีส่วนช่วยในการดูแลผลไม้พวกนี้ ไม่อยากจะบอกเธอเรียนรู้สูตรปุ๋ยจนชำนาญแล้ว สามารถสั่งการคนงานได้เลย

            “คุณสิงใจดีขนาดนั้นเลยเหรอลูก ทำไมถึงเอาของเขามาขนาดนี้” ของมากมาย ซื้อเป็นเงินก็คงราคาหลายบาท ในสายตาประพาสิงหราชเป็นคนดุมาก คนงานก็พากันพูดว่านายหัวดุและเด็ดขาดไม่มีใครเกิน

             เธอรู้ว่าลูกสาวมีความสัมพันธ์อะไรกับนายหัว แต่ไม่คิดว่าจะปล่อยให้ลูกสาวเอาของมาจากไร่เยอะแยะ แถมยังเอามาทุกอาทิตย์ แทบจะเป็นปีที่สามแล้วที่นาราขนมา มันเยอะขึ้นทุกปี...

            “เขาให้เอามาอยู่จ้ะ” นารายิ้มให้ผู้เป็นแม่ แต่เหมือนมารดาจะยังไม่วางใจ

            “แล้วคนอื่นล่ะ”

            คนตัวเล็กขมวดคิ้ว ทำไมแม่เธอดูกังวลใจจัง “เขาก็ให้บ้างจ้ะแม่ แต่ส่วนดีๆ เขาจะเก็บไว้ขายจ้ะ”

            แต่ถ้าผลผลิตเหลือจากการขาย ส่วนมากจะทิ้ง เพราะถ้าแจกจ่ายคน แล้วเขาเอาไปพูดว่าของไม่ดีมาจากไร่ จะทำให้เกิดความเสียหายได้ นอกจากจะเหลือเยอะจริงๆ แต่ส่วนมากทุกอย่างจะขายหมด แต่ที่เธอเอามาได้นั้น ก็เพราะทุกอย่างในไร่เธอมีส่วนดูแลเองไง อีกอย่างเธอไม่ได้รับเงินเดือน เลยเอาผักมาแทนซะเลย

            “อ้อ อย่างงั้นเหรอ” ประพาเอ่ยเสียงเรียบเหมือนไม่ได้คิดอะไร แม้อยากถามอะไรที่มากกว่านั้น แต่คนเป็นลูกไม่บอกก็ไม่ควรไปก้าวก่าย ลูกไม่ใช่ของเธอ ที่จะได้เป็นเจ้าของกระทั่งความคิด

            “งั้นหนูเอาส่วนที่เหลือไปให้ยายนะจ๊ะ” หญิงสาวขอตัว เพราะทุกครั้งที่เอาของจากไร่มา เธอจะเอาไปฝากยายของตนเสมอ

            “จ้ะลูก ไปเถอะ” ประพาดีใจกับความน่ารักของลูก และเห็นความสดใสจากนาราขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่อย่างนั้นก็รู้ดีว่าตนมีส่วนที่ทำให้ลูกสาวเจ็บปวดและลำบากเจียนตายมาก่อน กระทั่งตอนนี้ความรู้สึกผิดนั้นก็ยังไม่ลบล้าง

            “แม่ขอโทษนะลูก ขอโทษที่ทำให้ชีวิตหนูพังแบบนี้” เป็นเพราะเธอเอง เป็นเพราะเธอคนเดียว

           

            “ยายไม่อยู่หรอก วันนี้ไปหาหมอที่เมืองกับแม่” เดินเข้ามาในบริเวณบ้านหลังใหญ่ คนที่นั่งอยู่บนเรือนไทยขนาดเล็กที่มีไว้พักผ่อนดังขึ้นมา นาราหันไปมอง

            “พี่เหมียว” อ้อ วันนี้เป็นวันหยุด พี่สาวญาติของเธอต้องหยุดงานอยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่ามัลลิกาจะอยู่บ้านกับเขาเป็น

            “สวัสดีค่ะ” คนเด็กกว่ายกมือไหว้ตามมารยาท ความจริงเธอไม่สนิทกับเหมียวเลย นาราไปเรียนกรุงเทพตั้งแต่เด็ก เพราะสมัยนั้นแม่และพ่ออาศัยอยู่ที่นั่น ส่วนมัลลิกาเรียนในตัวเมือง เลยไม่มีโอกาสได้เจอกันเท่าไหร่

            “อืม แล้วนี่เอาอะไรมาตั้งเยอะแยะ” มัลลิกามองของในมือนาราด้วยความสงสัยใคร่รู้

            “ผักที่ไร่น่ะจ้ะ เอามาฝาก”

            “นายหัวสิงใจดีขนาดนี้เลยเหรอ” ใครต่างก็บอกว่าเขาดุมาก ใช่สิ คงใช้สิทธิพิเศษทางร่างกายแลกมาสินะ ไปอยู่กับเขาจนชิน จนขนาดขนข้าวขนของมาขนาดนี้ มัลลิกานึกดูแคลนนาราในใจ  อยู่ๆเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พอดี

            “เอ่อ วันนั้นพี่โทรไปหาทำไมไม่รับ พี่อยากพาเพื่อนไปชมไร่หน่อยน่ะ”

            “ชมไร่?” นาราขมวดคิ้ว

            “ใช่” มัลลิกาอธิบาย “เราสนิทกับคุณสิงหราชไม่ใช่เหรอ ถ้าพี่พาคนอื่นเข้าไปเขาคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง”

            นาราตอบเสียงนิ่งทันที “ว่าจ้ะ คุณสิงด่าทุกคนที่ไม่ต้อนรับ”

            “แหม คงไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ละปีเขาเปิดให้เด็กไปเที่ยวชมอยู่ไม่ใช่เหรอ เขาคงไม่ใจจืดใจดำไล่คนบ้านเดียวกันหรอก” เหมียวแก้ตัวพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง

            ส่วนนารายืนไม่ขยับ ก็ลองเข้าไปสิ ถ้าไม่อยากโดนลูกปืน คนนั้นเขาพูดจริงทำจริง ยังจำตอนที่สิงหราชยิงปืนใส่กรงนกราคาหลายแสนได้อยู่เลย

            “ทำไมล่ะ เราก็สนิทกันกับเขา พูดให้พี่ไม่ได้เหรอ” มัลลิกายังไม่ยอมแพ้ พูดตามตรงว่าเธออยากเข้าไปชมไร่สิงหราชมาก เพราะไร่แห่งนี้ไม่มักเปิดให้คนนอกเข้าไป เธอไม่รู้จะทำยังไง เห็นว่านารามีความสนิทสนมกับที่นั่น เธอจึงอยากขอร้องบ้าง ไม่คิดว่าญาติผู้น้องจะปฏิเสธออกมาตรงๆอย่างไม่ไว้หน้า

            กลัวเธอไปอ่อยนายหัวสิงหรือไง สำหรับมัลลิกาเพียงชายตามอง นายหัวคนนั้นค้านจะเข้าหา เธอสวยที่สุดในหมู่บ้านทุกคนรู้ดี

            “ไม่ได้หรอกค่ะ” นารายังปฏิเสธ “นาคไม่มีสิทธิ์อะไรในไร่ทั้งนั้นเป็นแค่คนงานธรรมดา” เธอพูดจริง ไม่ได้โกหกแม้เพียงนิดเดียว ทว่ามีหรือมัลลิกาจะเชื่อ ข่าวสะพัดขนาดนั้น

            ตอแหล อ้าขาให้เขาเอา บอกเป็นแค่คนงานในไร่ นางบำเรอสิไม่ว่า ถ้าเธอคิดว่าจะเป็นอย่างนี้นะ สู้ไปแทนนาราเสียยังดีกว่า

            “เอาผักไว้ตรงนี้นะ เดี๋ยวนาคกลับก่อน” ขี้เกียจจะคุย นาราจึงอยากกลับแล้ว เธอขึ้นไปบนเรือนไทยที่ผู้เป็นพี่นั่งอยู่วางของลงไป ไม่วายยิ้มให้ รีบหันหลังเดินออกมา

            “เดี๋ยว ยัยนาค” ทว่ามัลลิกาเรียกไว้ เธอยังพูดไม่จบ

            “มีอะไรเหรอคะ”

            “ที่ดินคุณสิงมีเยอะ แล้วมีเยอะมั้ยที่เขาไม่ได้ใช้แล้วน่ะ พี่ถามเผื่อดู เพื่อนพี่อยากทำเกษตรเล็กๆแถวนี้ เผื่อคุณสิงจะใจดี แบ่งที่ให้เช่าบ้าง” เธออยากรู้ เพราะคนถามเธอมามากมาย เดี๋ยวนี้คนหาอาชีพรองกันแล้ว ไม่น้อยเลยที่สนใจการเกษตร

            “ก็มี” นารามองตาพี่สาว “เขาที่เยอะจะตาย แต่ไม่ค่อยปล่อยให้คนเช่า” สิงหราชไม่ชอบให้คนอื่นเข้าไปรุ่มร่าม รวยแบบเขาคงไม่ต้องการเงินอีก อีกอย่างมากคนก็มากความ จึงปล่อยไว้ดีกว่า เพราะยังไงต้องมีวิจัยพันธุ์พืชทุกปีอยู่แล้ว กล้าใหม่ก็จะถูกนำไปลองปลูกตรงที่ดินรกร้างอยู่ดี

            เมื่อได้ฟังผู้พี่ก็พยักหน้าเบาๆ ไม่ได้คิดไปเองว่านารามีท่าทางตึงๆใส่เธอ

            “อ้อ พี่ก็ถามไว้เฉยๆ ถ้าเขาปล่อยให้เช่า บอกพี่ด้วยนะ” เธอละเกลียดใบหน้านิ่งเฉยของนาราจริงๆเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพูดดีด้วย เพราะผลประโยชน์

            “ค่ะ” นารารับคำเดินออกมา

            “จ้ะ”

            มัลลิกาปรายหางตามองญาติผู้น้อง ในความคิดเธอไม่มีวันที่นาราจะเสมอเทียบเธอได้หรอก ชะตากรรมนาราก็คงไม่ต่างจากมารดาที่เป็นคนไร่คนสวนจนๆ ไม่เหมือนเธอที่ทำงานข้าราชการมีหน้ามีตาทั้งบ้าน!

           

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status