ตอนที่6
ตกใจ
“วุ้นเย็น!”
เมธัชร้องเสียงดังก่อนจะรีบกระโดดลงไปช่วยเด็กหญิงขึ้นมาจากสระน้ำ โดยมีโสภากับวิชัยวิ่งมาดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ ในตอนนั้นเมธัชก็พาวุ้นเย็นขึ้นมาจากสระน้ำได้พอดี
โสภาถลันเข้าไปหาร่างของลูกสาวที่เปียกโชกไปทั้งตัว
“เป็นอะไรหรือเปล่าลูก”
เด็กหญิงลูบหน้าตัวเอง ก่อนจะตอบผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้ม ดวงตาก็เป็นประกายสดใส ไม่มี ความหวาดกลัวหรือตื่นตกใจอยู่ในตากลมคู่นั้นแม้แต่น้อย
“หนูไม่เป็นไรค่ะ พี่ชายกระโดดลงมาช่วยหนูด้วยค่ะ ดูสิคะเปียกหมดเลย ขอบคุณมากนะคะพี่ชาย”
เมธัชสบตากับดวงตากลมโตสุกใสที่จ้องมองมา แล้วก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะตอนแรกเขายอมรับว่าตกใจมาก รีบกระโดดลงไปช่วยทันที โดยลืมไปว่าเจ้าคนตัวเล็กนี่ก็ได้บอกแล้วว่าวายน้ำเป็น แถมยังไม่มีความตกใจแม้แต่น้อย ช่างไม่หมือนน้องสาวที่เขาจินตนาการเอาไว้เลยสักนิด
“ไม่เป็นไรครับ” เขาตอบเบา ๆ ก่อนจะขอตัวกลับเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
“มาวันแรกก็ซนจนเกิดเรื่องเลยนะเราน่ะ น่าตีนักเชียว คราวหน้าคราวหลังก็ระวังหน่อย แล้วเดินยังไงถึงได้ตกน้ำตกท่าไปได้ละฮึ” โสภาอดไม่ได้ที่จะดุลูกสาว เพราะเกรงใจเมธัชกับวิชัย
“ไม่เอาน่าคุณ ระมัดระวังยังไงอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เสมอน่ะ รีบพาลูกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย ไปกลับเข้าบ้านกันเถอะ”
วิชัยปรามโสภาพร้อมกับทอดสายตามองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยด้วยความเอ็นดู
แต่วุ้นเย็นกลับยิ้มร่าเริงไม่ได้กลัวที่โดนดุแม้แต่น้อย ทั้งยังเล่าเหตุการณ์ก่อนเกิดเรื่องจ๋อย ๆ
“ก็หนูเห็นผีเสื้อนี่คะ ตัวใหญ่มาก สีก็ส้วยสวย เลยวิ่งไล่จับมาจะให้พี่ชาย เลยไม่ทันระวังพลัดตกสระนั่นแหละค่ะ แต่หนูชอบตอนที่พี่เขากระโดดลงไปช่วยหนูมากเลยนะคะ พี่เขาหน้าตื่นดูตกใจมาก คงจะเป็นห่วงหนูมากเลยค่ะ ดีจังต่อไปนี้หนูก็จะมีพี่ชายคอยช่วยเวลาที่หนูหกล้ม ตกต้นไม้หรือว่า..”
“พอ ๆ ดูคิดแต่ละอย่างเถอะ พี่เขาไม่ได้มีเวลามาดูแลเด็กซน ๆ ได้ตลอดเวลาหรอกนะ คุณธีต้องเรียนพิเศษ ซ้อมกีฬา ไหนจะต้องตามคุณอาไปศึกษาดูงานที่บริษัทอีก เห็นตัวแค่นี้น่ะวัน ๆ พี่เขาต้องเหนื่อยแค่ไหนรู้หรือเปล่า ไม่ว่างมาเล่นซนไร้สาระอย่างหนูหรอกลูก แล้วก็ห้ามไปกวนพี่เขาด้วยนะเข้าใจไหม”
โสภาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เพื่อที่จะให้ ลูกสาวอยู่ห่าง ๆ เมธัชไว้บ้าง ไม่ใช่เพราะอะไร แค่กลัวจะไปทำให้เมธัชรำคาญหรือไม่พอใจเข้าก็เท่านั้น ถึงเธอจะเป็นแค่แม่เลี้ยงแต่ก็อยากรักษาความรู้สึกของ เมธัชด้วย เธอรักวิชัยและก็รักลูกชายของเขาด้วยเช่นกัน
“โห...พี่เขาต้องทำขนาดนั้นเลยหรือคะ แบบนี้ก็ไม่มีเวลาเล่นกับหนูเลยน่ะซิ ว้า...เสียดายจัง” เด็กหญิงพูดพลางถอนหายใจออกมาดัง ๆ ด้วยความผิดหวัง
วิชัยเดินตามสองแม่ลูกไปฟังคำสนทนาไปด้วยรอยยิ้มปนชื่นชม ที่โสภาสอนลูกได้อย่างดี เขารู้ว่าที่โสภาสอนลูกไปแบบนั้น เพราะต้องการรักษา ความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกของเมธัชด้วย เขาเลือกไม่ผิดคนจริง ๆ
“ถ้าหนูอยากให้พี่เขามีเวลาอยู่กับหนูบ่อย ๆ หนูก็ต้องสอบเข้าโรงเรียนเดียวกันให้ได้ แล้วก็ถ้าอยากเรียนพิเศษด้วยก็ได้นะ” วิชัยบอกด้วยความตั้งใจจริง เขาอยากให้สิ่งดี ๆ แก่วุ้นเส้นเหมือนที่ลูกของเขาได้เช่นกัน
“จริงด้วยค่ะ หนูจะสอบให้ได้และจะตั้งใจเรียนให้เก่งมาก ๆ พอโตขึ้นหนูจะได้เป็นเลขา ช่วยพี่เขาทำงานที่บริษัทด้วยดีไหมคะคุณอา หนูคิดเงินเดือนไม่แพงหรอกนะคะ แค่ได้อยู่ใกล้ ๆ พี่ชายก็พอ”
“พูดจาเบา ๆ หน่อยหนูเป็นผู้หญิงนะลูก” โสภาอดไม่ได้จึงดุเอาอีกรอบ
“ทำไมล่ะคะคุณแม่ พี่ชายเป็นพี่หนูทำไมต้องแยกชายหญิงด้วยล่ะคะ พี่คือพี่ น้องก็คือน้องพี่น้องกันไม่เห็นต้องแบ่งแยกเลยค่ะ”
วุ้นเย็นไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นแม่พูดเลย ในความคิดของเธอนั้นแค่รู้สึกดีใจที่มีเมธัชเป็นพี่ชาย และมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ แค่นั้นเอง ถึงจะอายุสิบสองแล้วแต่ก็ไม่ได้เข้าใจความรู้สึกระหว่างหญิงชายเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะว่าถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี จากยาย แม่แล้วก็น้าชายทั้งสองนั่นเอง
วิชัยทอดสายตามองวุ้นเย็นด้วยความเอ็นดู ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ แต่จริงจัง
“ได้ซิ อาจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เลย”
“เย้! หนูจะเป็นน้องสาวที่เก่งให้สมกับเป็นน้องของพี่เมธัช ให้พี่เขาได้ภูมิใจในตัวหนูเหมือนที่หนูภูมิใจตัวพี่เขาค่ะ”
“ดี ดีมาก อาเชื่อว่าหนูต้องทำได้”
เมื่อเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ แม่บ้านจึงมาพาวุ้นเย็นเดินขึ้นไปชั้นบน จนมาถึงห้องก็เปิดประตูให้พร้อมกับบอกว่า
“นี่เป็นห้องนอนของคุณหนูค่ะป้าให้คนขนเสื้อผ้า มาจัดไว้ในตู้นั้นเรียบร้อยแล้วนะคะ”
วุ้นเย็นพนมมือไหว้ ก่อนจะกล่าวขอบคุณตามนิสัยของเด็กที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี
ตอนที่29 รอผลตรวจ “คุณธัช ยายดาวล่ะคะ ยายดาวเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า โถ่เอ๊ย! แม่บอกว่าไม่ให้พูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนแต่งงานก็ไม่ฟัง เกิดเรื่องจนได้ ฮือ..”ญาดาร้องถามทันทีที่เห็นเมธัชยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งโวยวายตีโพยตีพายด้วยความเป็นห่วงลูก สีหน้าก็ซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกคล้ายจะเป็นลม จนภากรต้องเข้ามาพยุงไว้เมธัชขยับจะพูดแต่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาเสียก่อน ดุจดาวเดินออกมา เมื่อเห็นว่าแม่กำลังร้องไห้และมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมเธอก็ถลาเข้าไปหาทันที “คุณแม่” “ยายดาว ฮือ...เจ็บตรงไหนไหมลูก แม่แทบจะช็อคตายเมื่อรู้ว่าเกิดอุบติเหตุขึ้นกับลูก ฮือ..” ญาดาพูดพลางสังเกตุไปตามเนื้อตัวของลูกสาวไปด้วยดุจดาวจับมือของแม่ไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและอ่อนโยน&nb
ตอนที่28 หากต้องจากกันชั่วนิรันดร์ “ทำไมดาวถึงอนุญาตให้เจ้าของร้านเอารูปไปทำโปสเตอร์ติดหน้าร้านละครับ” เมธัชเอ่ยถาม ระหว่างการเดินทางกลับบ้านดุจดาวแหงนมองเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย “ทำไมคะธัชไม่ชอบหรือ งั้นดาวโทรไปยกเลิกไม่ให้เขาเอารูปไปใช้นะ” พูดพลางล้วงหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อที่จะโทรหาเจ้าของร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเมธัชจะไม่โอเค แต่ข้อมือบางก็ถูกคว้าไว้ด้วยฝ่ามือหนาเสียก่อน “เปล่า ๆ ผมโอเค แต่อยากฟังความคิดของดาวแค่นั้นเอง ผมรู้ว่าทุกอย่างที่ดาวทำจะต้องมีเหตุผล แค่อยากรู้เหตุผลนั้นเองครับ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและจริงใจ ดุจดาวจึงยิ้มหวานออกมา “ธัชแน่ใจนะว่า จะฟังความคิดและเหตุผลของดาวได้ โดยที่ไม่ตกใจ”ถามหยั่งเชิงดูก่อน เพราะความคิดบางอย่างของเธออาจทำให้คนฟังตื่นตกใจได้ ต
ตอนที่27เลือนรางราวหมอกควันเรือนร่างบอบบางที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาว ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากห้อง ผ่านผ้าม่านบาง ๆ ชายหนุ่มมองไล่ขึ้นไปจากเท้าเล็ก ๆ ที่อยู่ในรองเท้าส้นสูงสีเดียวกับชุดผ่านช่วงเอวที่คอดกิ่ว ไปจนถึงผิวเนื้อเหนือเนินอกที่ขาวนวลเนียน ลำคอที่บางระหง แต่พอถึงใบหน้าเรียวเล็ก เขาก็ต้องผงะ นิ่งงันไปชั่วคราวเพราะนั่นไม่ใช่ดุจดาว แต่เป็นใบหน้าของวุ้นเย็นน้องสาวของเขานั่นเอง “ธัชคะ ธัช” ดุจดาวเห็นเมธัชเอาแต่จ้องมอง ด้วยสีหน้าที่แปลก ๆ จึงร้องเรียกขึ้นเบา ๆเสียงหวานทำให้เขาได้สติ ที่แท้ก็แค่เกิดภาพหลอน มองเห็นดุจดาวเป็นวุ้นเย็นไปได้ “เจ้าสาวสวยมากจนเจ้าบ่าวตกตลึง พูดไม่ออกเลยเชียวค่ะ” เจ้าของร้านดีไซเนอร์ชื่อดัง เอ่ยแซวพร้อมกับขยิบตาให้ดุจดาวอย่างมีจริตดุจดาวก้มหน้าลงเล็กน้อย หลบตาคมด้วยความเอียงอาย ถึงแม้เธอกับเขาจะสนิทกันมาก และรู้จักกันมานานแต่เธอก็ไม่เคยกล้าสบตาคม
ตอนที่26 หนูก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นโสภากอดลูกสาว พยายามฝืนกลั้นน้ำตาไว้ภายในอย่างเข้มแข็ง เพราะรู้ว่าลูกกำลังอ่อนแอ เธอจะต้องเป็นหลักให้ลูก “มันก็อยู่ที่ว่าหนูจะรอให้ใครมาปลดปล่อยความรู้สึกนั้น หรือหนูจะปลดปล่อยด้วยตัวเอง มันก็อยู่ที่หนูจะเลือก หัวใจเป็นของหนู หนูจะยอมให้ใครหรืออะไรมากักขังมันไว้ทำไมล่ะ” “แต่หัวใจของหนูมันไม่ดีนี่คะ ทั้งอ่อนแอทั้งขี้เกียจ พร้อมที่จะหยุดทำงานได้ทุกเมื่อ หนูเกลียดหัวใจดวงนี้เหลือเกินค่ะ ทำไมละคะแม่ ในเมื่อให้หนูเกิดมาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้หนูเอาหัวใจที่แข็งแรงเหมือนคนอื่นมาด้วย มันอ่อนแอกับทุกความรู้สึกของหนูเลยค่ะ”เธอรำพึงรำพันด้วยความทุกข์ที่อัดอั้นอยู่ในใจ พร้อมกับซุกใบหน้าเล็กเข้าหาความอบอุ่นจากอกของผู้เป็นแม่ “แม่ถึงบอกให้หนูอยู่กับความเป็นจริงอย่างไรล่ะลูก หากเลือกได้แม่ก็จะเลือกเอาหัวใจของแม่ ให้กับลูก
ตอนที่25ความรู้สึกผิดกักขังหัวใจคนวุ้นเย็นพยักหน้าอย่างดีใจ เพราะเธอเป็นคนที่ชอบกินน้ำส้มคั้นสดมาก ๆ โสภารีบเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วเอาไปส่งให้ลูกสาว วุ้นเย็นรับมาก่อนจะดื่มอึก ๆ ไปครึ่งแก้ว “ค่อย ๆ ดื่มซิลูก เดี๋ยวก็สำลักเอาหรอก” โสภาพูดไม่ทันขาดคำ วุ้นเย็นก็สำลักจนน้ำตาไหล “เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าให้ค่อย ๆ ดื่ม สำลักจนหน้าแดงแล้ว แม่ออกไปเรียกหมอดีกว่า”โสภาพูดขึ้นด้วยความกังวล พลางหมุนตัวจะออกไปเรียกหมอ แต่วุ้นเย็นคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่ไว้เสียก่อน “แค่ก ไม่ต้อง ๆ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” “แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเหนื่อยก็รีบบอกนะลูก” โสภายังไม่คลายกังวล “หนูหายแล้วจริง ๆ ค่ะ นี่ไงไม่สำลักแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาที่จู่ ๆ เราจามหรือว่าสำลักแสดงว่ามีคนคิดถึง นี่ก็แสดงว่ามีคนคิดถึงหนูแน่ ๆ เลยค่ะ” วุ้นเย็นพูดติดตลกเพียงเพื่อไม่ให้แม่กังวลมากเกินไปโสภาส่ายหน้าก่อนจะบีบที่ปลายจมูกโด่งรั้นของลูกสาวเบา ๆ “คิดถึงจนทำให้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้แม่ว่าอย่าคิดถึงเลยดีกว่า” โสภาพูดกลั้วหัวเราะวุ้นเย็นยิ้มบาง ๆ ตากลมหรุบมองแก้วน้ำส้มในมือ
ตอนที่24 ซ้อมตาย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วน่าคุณ หายตกใจได้แล้วมั้ง”ภากรปลอบภรรยา ที่ยังหน้าซีดตัวสั่นไม่หาย พร้อมทั้งส่งยาดมยาหอมให้อีกด้วย “โอ๊ย จะไม่ให้ตกใจได้ไงละคุณ นี่ถ้าหากฉันไม่ฟังลูก แล้วหลบงูตามรถคันนั้นไป จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดีเลยค่ะ แถมวันนี้หลวงพ่อก็พูดแปลก ๆ ประมาณว่าไม่ให้ยึดติด ให้ปล่อยวางอะไรแบบนั้นด้วยนะคะ ฉันว่าท่านคงรู้อะไรล่วงหน้าแน่ ๆ เลยค่ะคุณ” ญาดาพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือดุดาวส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ “คุณแม่คะ สิ่งที่หลวงตาพูด นั่นเป็นเรื่องของสัจจะความจริงที่คนเราต้องพึงระลึกไว้เสมอ เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และหากถึงวาระสุดท้าย ก็จะได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบอย่างไรล่ะคะ หลวงตาท่านไม่ได้รู้เห็นอะไรล่วงหน้าหรอกค่ะ เป็นบุญของพวกเรามากกว่า ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงตา”ดุจดาวพูดด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ไม่ได้ตระหนกต่อสิ่งใดเพราะเชื่อว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ต่างกับญาดาผู้เป็นแม่ ที่รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของลูกสาวเอาเสียเลย “วารงวาระสุดท้ายอะไร จะแต่งงานแล้วห้ามพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลนะลูก โบราณเขาถือรู้ห