เสียงเอกสารถูกพลิกไปมาในห้องประชุมขนาดใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดัน พนักงานทุกคนกำลังตั้งใจฟังภูวิน เขาเป็นประธานบริษัท รวมถึงมีฐานะเป็นพี่ชายไม่แท้ของน้ำฟ้าด้วย ภูวินกำลังกล่าวถึงโครงการใหม่ของปีนี้
"บริษัทของเรากำลังขยายตลาดไปสู่กลุ่มนักกีฬาเฉพาะทางมากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือ ‘ชุดมวยไทย’"
น้ำฟ้า ดีไซเนอร์สาวตัวเล็กที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ย่นคิ้วเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบท้าทายตัวเองหรอกนะ แต่… ชุดมวยไทย? แค่คิดถึงภาพเวทีมวย เหงื่อไคล และเสียงหมัดกระแทก เธอก็รู้สึกอยากเบือนหน้าหนีแล้ว
เธอเป็นนักออกแบบที่หลงใหลในแฟชั่น รักความสวยงามของเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ดูดี และอินเทรนด์ แต่ให้เธอมาดีไซน์อะไรที่ต้อง "สมบุกสมบัน" แบบนั้น… มันใช่เหรอ?
"ผมจะให้คุณไปดูงานที่ค่ายมวย ‘พยัคฆ์ทอง’"
น้ำฟ้าสะดุ้ง เงยหน้ามองประธานอย่างตกใจ
"อะไรนะคะ?"
"คุณต้องไปศึกษารูปแบบการเคลื่อนไหวของนักมวย ดูว่าพวกเขาต้องการชุดแบบไหน และออกแบบให้เหมาะสม"
น้ำฟ้าอ้าปากค้าง ไม่ใช่ว่าเธอจะปฏิเสธงานนะ แต่…
"ฉันต้องไปดูนักมวยต่อยกันจริง ๆ เหรอคะ?"
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากปลายโต๊ะภูวินพยักหน้า "ใช่ และโชคดีที่เจ้าของค่ายมวยเป็นเพื่อนของผม เขายินดีให้คุณเข้าไปดูงานที่นั่น"
น้ำฟ้าอยากร้องไห้ ทำไมต้องเป็นเธอ? ทำไมเธอถึงต้องไปสถานที่ที่ร้อน เหนียวเหนอะ และเต็มไปด้วยคนกล้ามโตเหงื่อท่วมแบบนั้น?
"ฟ้า… จำเป็นต้องไปจริงๆ เหรอคะ? นี่บอสไม่ได้พูดเล่นใช่มั้ยคะ" ถึงแม้พ่อเธอจะสั่งเสียไว้กับพ่อภูวิน ว่าให้ดูแลเธอ แต่เธอไม่เคยใช้สิทธิ์นั้นเลย เธอไม่เคยเปิดเผยตัวกับใครเลย
"จำเป็น" เขาทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้เธอ และเขารู้ว่าน้ำฟ้าต้องทำมันได้ดี
"..."
วันรุ่งขึ้น น้ำฟ้ายืนอยู่หน้าค่ายมวย พยัคฆ์ทอง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจสุด ๆ
"ให้ตายเถอะ! ทำไมฉันต้องมาอยู่ที่แบบนี้ด้วยเนี่ย"
เธอจ้องป้ายค่ายมวยขนาดใหญ่ที่ดูแข็งแกร่งและดุดัน แล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เธอเอาแต่คิดหาวิธีเบี่ยงเบนภารกิจนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรเวิร์กเลย
"จะให้ดีไซเนอร์มาอยู่กับนักมวยเนี่ยนะ? มันไม่เข้ากันเลยสักนิด!"
ยังไม่ทันที่เธอจะบ่นต่อ เสียงเรียบ ๆ ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
"คุณเป็นคนของบริษัทดีไซน์สินะ?"
น้ำฟ้าหันขวับ แล้วก็ต้องเผลออ้าปากค้าง
ตรงหน้าเธอคือชายหนุ่มร่างสูงที่ดูสุขุมและสมาร์ทสุด ๆ ผิวสีแทนเล็กน้อยบ่งบอกว่าเขาอยู่กับการฝึกซ้อมกลางแดดเป็นประจำ เส้นผมสีดำถูกเซ็ตให้ดูสะอาดตา ดวงตาคมเข้มใต้คิ้วหนาทำให้เขาดูจริงจัง แต่รอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากกลับทำให้เขาดูใจดี
น้ำฟ้าเผลอมองขึ้นไป… ขึ้นไป… โอ้โห สูงไปไหมพ่อคุณ!?
"เอ่อ… ใช่ค่ะ ฉันน้ำฟ้า นักออกแบบชุดกีฬา"
"ผมธารา เจ้าของค่ายมวย"
น้ำฟ้ากะพริบตาปริบ ๆ มองคนตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
"คุณคือเจ้าของค่าย!?"
ธาราหัวเราะเบา ๆ "ทำไมล่ะ? ดูไม่เหมือนเหรอ?"
"ก็… เอ่อ…" น้ำฟ้ากวาดตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า โอเค… เหมือนสิ เหมือนมากด้วย! แต่เธอคิดว่าเจ้าของค่ายมวยน่าจะเป็นคนดุดัน หน้าดุ พูดเสียงดัง ไม่น่าจะมาในเวอร์ชันอบอุ่นแบบนี้
"ผมได้ยินจากเพื่อนว่าคุณจะมาดูงานที่นี่ ยินดีต้อนรับนะ"
"ค่ะ…" น้ำฟ้ายิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะรีบพูดต่อ "แต่ฉันคงไม่ได้อยู่นานหรอกนะคะ แค่เข้ามาดูบรรยากาศแป๊บเดียวก็พอ"
ธาราเลิกคิ้ว ก่อนพยักหน้าเบา ๆ "งั้นเชิญด้านใน ผมจะพาคุณเดินชมค่าย"
น้ำฟ้าจำใจเดินตามเขาเข้าไป แล้วทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในค่าย เสียงหมัดกระแทกกับเป้าซ้อม เสียงโค้ชตะโกนให้จังหวะ และกลิ่นเหงื่อที่อบอวลก็กระแทกเข้าสู่โสตประสาทของเธอเต็ม ๆ
"… ฉันไม่น่ามาเลยจริง ๆ"
เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่กวาดตามองไปรอบ ๆ
นักมวยแต่ละคนมุ่งมั่นฝึกซ้อมกันอย่างจริงจัง บางคนกำลังซ้อมเตะ บางคนกำลังชกกระสอบทราย และบางคนกำลังกระโดดเชือก อะไร ๆ มันก็ดูน่ากลัวไปหมดสำหรับคนที่ไม่อินกับสายสปอร์ตอย่างเธอ
"ชุดที่คุณจะออกแบบต้องตอบโจทย์พวกเขาให้ได้" ธาราหันมาพูดกับเธอเสียงเรียบ
น้ำฟ้าเบ้ปาก "แต่ฉันไม่ใช่นักมวยนะคะ จะให้เข้าใจพวกเขาได้ยังไง?"
"ก็ลองสัมผัสมันดูสิ"
"ยังไงคะ?"
"ลองฝึกซ้อมดูไง" ธารายิ้มบาง ๆ ก่อนจะยื่นนวมชกมวยให้เธอ
น้ำฟ้าตาโต "ไม่เอาหรอกค่ะ! ฉันแค่ดีไซเนอร์ ไม่ใช่นักกีฬา!"
ธาราหัวเราะน้อย ๆ "ผมไม่ได้บอกให้คุณไปขึ้นชกนะ แค่ลองใส่นวมแล้วลองต่อยดู จะได้เข้าใจว่าชุดที่คุณออกแบบต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง"
น้ำฟ้ากอดอก มองเขาอย่างระแวง
"ให้ฉันใส่นวม? ต่อยมวย?"
"ใช่"
"ไม่เอาอ่ะ! ฉันเกลียดการออกกำลังกาย ที่สุด!"
"แต่คุณต้องออกแบบชุดสำหรับนักกีฬาไม่ใช่เหรอ?" ธารายักไหล่ "ถ้าคุณไม่เข้าใจพวกเขา จะออกแบบชุดที่ดีได้ยังไง?"
"..."
น้ำฟ้าหรี่ตาลงมองเขาอย่างจับผิด อะไรกัน! เธอแค่จะมาเดินดูงานเฉย ๆ ทำไมกลายเป็นว่าเธอต้องมาออกแรงเองด้วย!?
แต่พอเห็นสายตาของธาราที่มองเธออย่างใจเย็น แฝงไปด้วยความขี้เล่น เธอก็รู้สึกเหมือนถูกท้าทาย
"ได้! ฉันจะลองดู! แต่แค่แป๊บเดียวนะ!"
เธอหยิบเอานวมมาสวมอย่างกระฟัดกระเฟียด โดยมีธารายืนมองอยู่ด้วยรอยยิ้มเจือขำ
'ให้ตายเถอะ… ดีไซเนอร์อะไรต้องมาต่อยเป้าแบบนี้ด้วย!?'
แต่เธอจะไม่ยอมแพ้หรอก!
หลังจากที่เธอเข้าไปสัมผัสบรรยากาศในครั้งนั้น เธอสัญญา ว่าจะไม่ไปเหยียบมันอีกเลย
"คุณต้องไปอยู่ที่ค่ายมวยอย่างน้อยสองเดือน ผมให้คุณเข้าบริษัทได้เดือนละสามครั้ง "
น้ำฟ้าสำลักน้ำเปล่าที่เพิ่งดื่มเข้าไปแทบจะทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของบอส
"ขอโทษค่ะ!? ไปอยู่ที่นั่น!? พี่คิดอะไรอยู่" แต่ได้แค่กระซิบ เพราะกลัวว่าคนในบริษัทจะรู้ตัวตนเธอ
ภูวินพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่สายตานั้นเต็มไปด้วยความจริงจัง
"ใช่ คุณต้องไปศึกษาสภาพแวดล้อมจริง จะได้ออกแบบชุดกีฬาที่เหมาะสมกับนักกีฬาอาชีพ เรามีโปรเจกต์ใหญ่กับค่ายมวย พยัคฆ์ทอง คุณต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าพวกเขาต้องการอะไร"
น้ำฟ้าอ้าปากค้าง พยายามหาข้ออ้างสุดชีวิต
"แต่ฟ้าไม่ถนัดงานแบบนี้นะคะ! ฟ้าออกแบบชุดแฟชั่นกีฬาสายสตรีทมากกว่าชุดสำหรับนักมวย อีกอย่าง—"
"ไม่มีข้ออ้าง" บอสตัดบทเสียงเรียบ "คุณคือดีไซเนอร์ คุณต้องเข้าใจลูกค้าให้ได้"
"แต่…"
"และผมจัดการให้หมดแล้ว ที่พัก อาหาร ทุกอย่างมีพร้อม เจ้าของค่ายเป็นเพื่อนของผมเอง เขาจะดูแลคุณ"
น้ำฟ้าห่อไหล่ สายตาหรี่ลงอย่างคนไม่พอใจสุด ๆ
"ทำไมต้องเป็นฉัน…ละคะบอส"
"เพราะคุณเป็นคนที่ผมเลือก"
แย่แล้ว… แย่มากๆ!
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลัง ทำให้น้ำฟ้าชะงัก หันไปมองธาราที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ สายตาของเขามีแววบางอย่างที่อ่านไม่ออก"พูดเรื่องอะไรคะ?" เธอถามกลับ รู้ดีว่าเขาน่าจะได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วธาราไม่ตอบ แต่กลับเดินเข้ามาใกล้จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง"เธอรู้ไหมว่าเด็กในค่ายเชียร์เธอกันขนาดไหน?" เขาพูดเสียงต่ำ จ้องเธอราวกับจะจับผิดน้ำฟ้ายักไหล่ "พวกเขาไม่ชอบโมนาของคุณไงคะ"ธาราหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะปลายคางเธออย่างถือสิทธิ์ "แล้วเธอล่ะ?""อะไรคะ?""หงุดหงิดที่ผู้หญิงคนนั้นมายุ่งกับฉันเหรอ?"น้ำฟ้าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าหนี "เปล่าค่ะ ฉันแค่รำคาญ"ธารายิ้มมุมปาก เขารู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีกว่าที่เธอคิด"งั้นเหรอ?" เขาโน้มหน้าเข้าใกล้เธอมากขึ้น เสียงของเขาแผ่วต่ำจนน้ำฟ้ารู้สึกเหมือนมันสะกิดเข้าไปในหัวใจ"ไม่หึงเลย?"น้ำฟ้ากำมือแน่น พยายามคุมสีหน้าให้เป็นปกติ "คุณไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่มีสิทธิ์หึงหรอกค่ะ"ธาราหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกระซิบใกล้หูเธอ "งั้นคืนนี้ฉันจะทำให้เธอรู้เองว่าเธอมีสิทธิ์แค่ไหน"หัวใจของน้ำฟ้าเต้นกระหน่ำทันที แต่เธอก็ยังคงเชิดหน้าไม่ยอมแพ้"มั่นใจเกินไปแล้วค่ะ""ลองด
ธารายืนมองเธอที่กอดอกแน่น สายตาแข็งกร้าวราวกับปิดกั้นทุกความรู้สึกที่เขาพยายามค้นหา"สองวันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ฉันแค่กลับมาจัดการธุระ งานฉันยังไม่เสร็จ อีกอย่าง..." น้ำฟ้าสูดหายใจเข้า ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "คุณยังไม่ตกลงเรื่องชุดที่ฉันเสนอ"ธารายังคงนิ่ง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอที่ดูจะตั้งใจพูดให้ชัดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มีผลอะไรกับงาน"เรื่องแค่นี้ ฉันไม่เอามาทำให้เสียงานหรอกนะ"คำพูดนั้นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างประหลาดเธอคิดว่าเรื่องระหว่างพวกเขาเป็นแค่ "เรื่องเล็กๆ" งั้นเหรอ?ธาราหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ขึ้น น้ำฟ้าถอยหลังไปเพียงก้าวเดียว ก่อนจะหยุด ราวกับไม่อยากแสดงให้เห็นว่าเธอหวั่นไหว"งั้นเหรอ?" เขาถามเสียงต่ำ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ"ใช่ค่ะ" น้ำฟ้ายืนยัน ดวงตาไหววูบไปวินาทีหนึ่ง แต่เธอยังคงเชิดหน้าขึ้นธาราเลื่อนมือไปแตะปลายคางเธอเบาๆ สัมผัสนั้นทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี"ถ้างั้น..." เขาหรี่ตาลง "ฉันควรถือว่าเธอไม่ได้หนีฉันใช่ไหม?"น้ำฟ้ากำมือแน่น ก่อนจะตวัดสายตามองเขา "ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่กลับมาอยู่ในที่ของฉัน"ธารายิ้มมุ
น้ำฟ้ายืนนิ่งอยู่หน้าประตู มือที่ถือแฟ้มเริ่มกำแน่นขึ้น เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร—หรือจริงๆ แล้วเธอรู้… แต่เธอแค่ไม่อยากยอมรับมันธาราไม่ได้ดึงมือกลับ ไม่ได้ผละออกจากโมนาทันที นั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอกระตุกแรงที่สุดเธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะก้าวเข้าไปวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะเบาๆ"นี่ค่ะ ตัวอย่างงาน ฉันเอามาให้คุณตรวจสอบ" น้ำเสียงของเธอราบเรียบจนน่าตกใจธาราหันขวับมาทันทีเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าเธออยู่ที่นี่ ดวงตาของเขามีแววผิดแปลกไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร น้ำฟ้าก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน"ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ"เธอไม่แม้แต่จะรอให้เขาตอบกลับ เดินออกไปโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย…เพราะเธอกลัวว่าถ้ามอง เธออาจจะไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไปน้ำฟ้าขับรถ กลับไปคอนโดเธอช่วงดึกคืนนั้น โดยเอารถที่เขาให้เธอไว้ใช้ไป แค่ไปสงบสติตัวเอง ระยะทางเกือบเจ็ดสิบกิโล (บนถนน – เวลาห้าทุ่มกว่า)เสียงเครื่องยนต์ดังแผ่วเบา ขับเคลื่อนไปตามถนนที่ทอดยาวไร้รถสวน น้ำฟ้านั่งหลังพวงมาลัย สายตาจดจ่ออยู่กับเส้นทางข้างหน้า แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพเหตุกา
ปลายนิ้วร้อนลากไล้ผ่านแนวกรอบหน้าลงมายังลำคอ น้ำฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสแผ่วเบานั้นไล่ต่ำลงไปถึงแผ่นหลังเปลือยที่โชว์ผ่านลูกไม้บางบอดี้สูทสีดำที่เธอใส่ เป็นเหมือนคำท้าทายสำหรับเขาน้ำฟ้าเม้มปาก พยายามเก็บเสียงหายใจที่เริ่มติดขัด“คุณ... เดี๋ยว...”แต่ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากร้อนแตะลงที่ซอกคอ ไล้ไปตามผิวเนียนที่เขาอดใจไม่แตะต้องมาทั้งคืนน้ำฟ้าหลับตาแน่น ฝ่ามืออุ่นสอดเข้าที่ช่วงเอว ลูบไล้ผ่านเนื้อผ้า ราวกับต้องการให้แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ใต้ชุดนั้นจะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเธอรู้ดีว่าเขากำลังพยายามอดทน แต่สัมผัสที่ร้อนจัดและลมหายใจที่แผ่วกระทบผิวบอกชัดว่า... ความอดทนนั้นคงเหลือไม่มากแล้วค่ำคืนนี้... คงไม่มีใครได้นอนง่าย ๆ แสงแดดยามบ่ายส่องลงมาเต็มที่ อากาศร้อนอบอ้าวจนทำให้พื้นปูนหน้าค่ายมวยแผ่ไอร้อน แต่สิ่งที่ร้อนยิ่งกว่านั้นคือสายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังประตูบ้านพักของธาราเมื่อคืนนี้ไม่มีใครเห็นน้ำฟ้ากลับเข้าห้องของตัวเอง และจนถึงตอนนี้... บ่ายแล้ว คนทั้งค่ายก็ยังไม่เห็นเธอออกมาจนกระทั่งเสียงประตูเปิดออกทุกสายตาหันขวับไปทางเดียวกันน้ำฟ้าเดินนำออกมาก
หลังจากคืนนั้น ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ น้ำฟ้ายังคงทำหน้าที่ของเธอ ศึกษาการออกแบบชุดกีฬาตามที่ได้รับมอบหมายจากภูวิน ส่วนธาราก็ยังคงเป็นเจ้าของค่ายมวยที่จริงจังกับงานของตัวเองไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ไม่มีคำว่ารัก ไม่มีคำสัญญา ทุกอย่างเป็นไปอย่างเงียบงันที่ทั้งสองต่างก็ยินยอมรับมันโดยไม่ต้องเอ่ยปากแต่กระนั้น… ก็ไม่เคยมีครั้งเดียวทุกครั้งที่สายตาสบกัน ทุกครั้งที่มือสัมผัสกันโดยบังเอิญ มีบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้ความเงียบงันนั้น บางครั้งระหว่างที่น้ำฟ้ายืนร่างแบบเงียบๆ ธาราก็จะเดินเข้ามาใกล้ มองเธอด้วยสายตาที่เธอรู้ดีว่าหมายถึงอะไรบางคืน หลังจากที่ทั้งสองต่างแยกย้ายกันไปทำงานมาทั้งวัน น้ำฟ้าก็จะพบว่าตัวเองถูกตรึงอยู่กับผนังห้อง ซุกอยู่ในอ้อมแขนของธารา ลมหายใจร้อนกระซิบอยู่ข้างใบหู ริมฝีปากคุ้นเคยแนบลงมาโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความและเมื่อความต้องการถูกเติมเต็ม เขาก็จะถอยออกไปอย่างเงียบๆไม่มีการถามหาความหมาย ไม่มีข้อผูกมัด มีเพียงแรงดึงดูดที่รุนแรงเกินกว่าที่ทั้งคู่จะต้านทานได้กลางวันพวกเขาคือคนรู้จักที่ร่วมงานกัน กลางคืนพวกเขาคือสิ่งที่ไม่มีชื่อเรียก...น้ำฟ้ารู้ด
ธารากำหมัดแน่นแนบข้างตัว พยายามสะกดอารมณ์ที่เริ่มปั่นป่วนเพราะท่าทีของเธอ หญิงสาวไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการยืนอยู่ตรงหน้าเขาในชุดนี้ ทำให้เขารู้สึกอยากฉีกทึ้งการควบคุมตัวเองแค่ไหน"กลับขึ้นไปเปลี่ยนชุดซะ" เขาสั่งเสียงแข็ง พยายามทำให้ตัวเองดูดุเข้าไว้แต่แทนที่น้ำฟ้าจะเชื่อฟัง เธอกลับหัวเราะเบาๆ พลางเอนตัวพิงตู้เย็น "ฉันใส่ชุดนอนของฉันในที่ของฉัน ฉันไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน"ธาราขบกรามแน่น จ้องเธออย่างไม่พอใจ "มันผิดตรงที่เธอทำให้ฉันอดใจไม่ไหว"คำพูดนั้นทำให้น้ำฟ้าชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดตรงขนาดนี้ ดวงตาคู่นั้นของเขามีบางอย่างที่ทำให้เธอต้องเม้มปากแน่น สับสนไปชั่วขณะบรรยากาศรอบตัวเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่เริ่มไม่เป็นจังหวะ...มีเพียงเสียงลมหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่เบาๆ ธารายืนจ้องน้ำฟ้า ดวงตาคมเข้มของเขามืดลงด้วยอารมณ์บางอย่างที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ห้ามไม่อยู่ร่างของเธออยู่ตรงหน้า ชุดนอนบางเบานั้นแทบจะไม่ได้ช่วยปิดบังอะไรเลย ยิ่งแสงไฟสลัวสะท้อนผิวเนียนละเอียดของเธอ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังทดสอบความอดทนของตัวเอง"กลับขึ้นไปเปลี่