แสงจันทร์สีเงินสาดส่องลงมาบนโต๊ะไม้ในห้องสมุดเก่าแก่ ม้วนกระดาษที่ได้มาจากสุสานไฮเกตถูกคลี่ออก เผยให้เห็นลายมือที่เขียนด้วยหมึกโบราณ มันไม่ใช่ตัวอักษรธรรมดา แต่เป็น แผนผังดวงดาว ที่ซับซ้อน พร้อมด้วยสัญลักษณ์แปลกๆ บางอย่าง
"นี่มันอะไรกันคะ?" เมรี่ถามด้วยความสับสน เอดิสันหยิบแว่นขยายขึ้นมาส่อง "ดูเหมือนจะเป็นแผนที่ท้องฟ้าจำลองครับ และสัญลักษณ์เหล่านี้ก็น่าจะเป็นตัวแทนของดวงดาวหรือกลุ่มดาวบางอย่าง" อเล็กซานเดอร์ที่ยังคงดูอ่อนล้าจากการผจญภัย แต่แววตายังคงเฉียบคม ก้มลงมองแผนผัง "และนี่...รหัสตัวเลขชุดหนึ่งที่อยู่ด้านล่างสุด" เฟรเดอริคซึ่งเริ่มมีเรี่ยวแรงกลับคืนมาแล้ว พิจารณาแผนผังอย่างละเอียด "มันไม่ใช่แค่แผนที่ดวงดาวธรรมดาหรอกครับ ผมว่ามันเป็น รหัสตำแหน่ง บางอย่าง" มิสซิสเพอร์ซิวัลเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับถ้วยชาอุ่นๆ "ศาสตราจารย์มอร์ริสันเป็นคนที่หลงใหลในดาราศาสตร์มากจ้ะ เขาเชื่อว่าความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักจะถูกซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่มีใครคาดคิด" "ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องถอดรหัสนี้ให้ได้" เมรี่กล่าวอย่างมุ่งมั่น พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพยายามถอดรหัส แผนผังดวงดาวนั้นซับซ้อนเกินกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจได้ในทันที แต่แล้ว เอดิสันก็สังเกตเห็นบางอย่าง "นี่ครับ!" เอดิสันชี้ไปที่จุดสว่างจุดหนึ่งบนแผนผัง "จุดนี้คือ ดาวเหนือ และถ้าเราลากเส้นเชื่อมไปยังกลุ่มดาวที่กำหนดไว้ตามรหัสตัวเลขนี้..." พวกเขาช่วยกันลากเส้นตามที่เอดิสันแนะนำ และในที่สุด เส้นเหล่านั้นก็เชื่อมโยงกันเป็นรูปทรงที่คุ้นตา "มันคือ แผนผังของโรงละครโอเปร่ารอยัล!" เมรี่อุทานด้วยความตื่นเต้น "ใช่ครับ" เอดิสันยืนยัน "และรหัสตัวเลขนี้ก็น่าจะเป็น ตำแหน่งของที่นั่ง บางอย่างภายในโรงละคร" ความตื่นเต้นเบื้องหลังม่าน โรงละครโอเปร่ารอยัลในยามค่ำคืนนั้นโอ่อ่าและงดงาม แสงไฟระยิบระยับจากโคมระย้าคริสตัลส่องประกายไปทั่วห้องโถง เสียงผู้คนพูดคุยจอแจ และกลิ่นหอมของน้ำหอมชั้นดีคละคลุ้งในอากาศ เมรี่ เฟรเดอริค และอเล็กซานเดอร์ สวมชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยกลมกลืนไปกับแขกคนอื่นๆ ส่วนเอดิสันแต่งกายด้วยชุดทักซิโด้ดูภูมิฐาน เขาเดินนำหน้าไปอย่างมั่นใจ "จำไว้นะครับ" เอดิสันกระซิบ "รหัสตำแหน่งที่เราได้มาคือ แถว F ที่นั่ง 13 เราต้องไปที่นั่นให้ได้" พวกเขาค่อยๆ เดินฝ่าฝูงชนไปยังประตูทางเข้าโรงละคร และแสดงตั๋วเข้าชมที่เอดิสันเตรียมไว้ให้ พนักงานต้อนรับมองพวกเขาด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เมื่อเข้ามาในโรงละคร เสียงดนตรีบรรเลงอันไพเราะของวงออร์เคสตราก็ดังต้อนรับ บรรยากาศภายในโรงละครนั้นหรูหราอลังการ ที่นั่งกำมะหยี่สีแดงเข้มเรียงรายเป็นชั้นๆ ขึ้นไป "ไปครับ" อเล็กซานเดอร์นำทาง พวกเขาค่อยๆ เดินเข้าไปในส่วนของที่นั่ง และมองหาแถว F ที่นั่ง 13 เมื่อมาถึงที่นั่งเป้าหมาย พวกเขาก็พบว่าที่นั่งนั้นว่างเปล่า เฟรเดอริคสัมผัสไปที่เบาะที่นั่งอย่างระมัดระวัง "ดูนี่สิครับ!" เฟรเดอริคกระซิบ เขาดึงแผ่นกระดาษเล็กๆ ที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนอยู่ใต้เบาะที่นั่งออกมา "รหัสลับชิ้นที่สอง!" เมรี่อุทานด้วยความตื่นเต้น แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้อ่านรหัสลับนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง "ช่างน่าประทับใจจริงๆ ที่พวกเจ้าสามารถถอดรหัสได้ถึงขนาดนี้" เมรี่และคณะหันขวับ พวกเขาพบกับชายร่างสูงใหญ่สองคนในชุดสูทสีเข้มยืนอยู่ด้านหลัง ชายคนหนึ่งคือ มิสเตอร์คลาร์ก ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเยาะ "มิสเตอร์คลาร์ก!" เมรี่อุทาน "มิสแบล็ควู้ด" มิสเตอร์คลาร์กยิ้มเยาะ "เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"เบาะแสที่ถูกทิ้งไว้เมรี่เดินเข้าไปใกล้ศพของชายผู้นั้น เธอสังเกตเห็นว่าชายคนนั้นกำมือข้างหนึ่งไว้แน่น เมื่อเธอกางนิ้วมือของเขาออก เธอก็พบกับกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ถูกพับไว้อย่างดี"นี่คืออะไรคะ?" เมรี่พึมพำเธอกางกระดาษออก และพบกับสัญลักษณ์แปลกๆ ที่ถูกวาดด้วยหมึกสีแดงเข้ม มันเป็นสัญลักษณ์ที่ดูคล้ายกับนาฬิกาโบราณ แต่มีเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขโรมัน XII และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษสามตัวเขียนอยู่ด้านล่าง: R.E.D."R.E.D. อย่างนั้นหรือ?" เฟรเดอริคพึมพำ "มันหมายความว่าอะไรกันแน่?""มันอาจจะเป็นรหัสลับครับ" เอดิสันกล่าว "หรืออาจจะเป็นชื่อขององค์กรบางอย่าง""หรืออาจจะเป็นเบาะแสที่ผู้ตายทิ้งไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต" เมรี่เสริมทันใดนั้นเอง พนักงานรถไฟก็วิ่งเข้ามาในตู้โดยสารพร้อมกับชายร่างใหญ่สองคนในชุดเครื่องแบบ"เกิดอะไรขึ้นครับ!" พนักงานรถไฟถามด้วยความตกใจ"มีคนตายครับ!" ผู้โดยสารคนหนึ่งตอบ "เขาถูกฆาตกรรม!"พนักงานรถไฟมองไปที่ศพด้วยความตกใจ แล้วเขาก็หันมามองที่เมรี่และทีม"พวกคุณเป็นใครกัน!" พนักงานรถไฟถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด"เราเป็นนักสืบครับ" ปู่ทว
หลังจากที่ปู่ทวดของเมรี่กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ชีวิตของทุกคนก็พลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาย้ายเข้าไปยังบ้านพักลับของปู่ทวดที่ตั้งอยู่ในชนบทอันห่างไกล เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตามล่าจาก 'เงาที่หลงเหลือ' และเตรียมพร้อมรับมือกับ 'สงครามแห่งกาลเวลา' ที่ปู่ทวดกล่าวถึง ภายในบ้านหลังนั้น ปู่ทวดได้เปิดเผยความลับมากมายเกี่ยวกับตระกูลแบล็ควู้ด องค์กร 'กาลเวลา' และบุคคลลึกลับที่ชื่อว่า 'สถาปนิกแห่งหายนะ' รวมถึงวิธีการต่อสู้กับพลังเหนือธรรมชาติบางอย่างที่พวกเขากำลังจะต้องเผชิญ"เราจะต้องไปที่ เอดินบะระ ครับ" ปู่ทวดกล่าวในวันหนึ่ง "มีเบาะแสสำคัญที่นั่น ที่จะนำเราไปสู่ความจริงเกี่ยวกับ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' และ 'สงครามแห่งกาลเวลา' ""เราจะเดินทางอย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ถาม"เราจะไปโดยรถไฟ" ปู่ทวดตอบ "มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้"แม้จะยังคงหวาดระแวงจากเหตุการณ์บนรถไฟครั้งก่อน แต่พวกเขาก็เชื่อใจในการตัดสินใจของปู่ทวด พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เรียบง่าย เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต และขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าสู่เอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ ทันทีที่รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานี ความรู้สึกตื่นเต้นและกังวล
เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่แคบและซับซ้อนของลอนดอน โดยมีเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของผู้คนดังไล่หลังมาอย่างไม่หยุดหย่อน เธอพยายามหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยสำหรับเด็กหญิงในที่สุด เธอก็มาถึงโรงละครเก่าๆ แห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง มันเป็นที่ที่เธอเคยใช้เป็นฐานลับในการสืบสวนคดีต่างๆ ในอดีต"เราปลอดภัยแล้วนะหนู" เมรี่กล่าวพร้อมกับวางเด็กหญิงลง "ไม่ต้องกลัวแล้วนะ"เด็กหญิงยังคงร้องไห้อย่างต่อเนื่อง เมรี่กอดเธอไว้แน่นเพื่อปลอบประโลมในขณะที่เธอกำลังกอดเด็กหญิงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง..."น่าประทับใจจริงๆ ที่เจ้ายังจำที่แห่งนี้ได้"เมรี่หันขวับ และพบกับชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยแววตาที่เฉลียวฉลาด และแววตาที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ"คุณเป็นใครคะ!" เมรี่ถามด้วยความสงสัยชายชราคนนั้นยิ้ม "ข้าคือคนที่เฝ้ารอเจ้ามานานแล้ว"เขาก้าวเข้ามาใกล้เมรี่ แล้วยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเธอ เมรี่รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าบางอย่างที่ไหลผ่านร่างกายของเธอ"เจ้าคือความหวังสุดท้ายของข้า" ชา
สองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่การล่มสลายของ 'กาลเวลา' องค์กรลับที่เคยบงการโลกเบื้องหลังฉาก เมรี่และทีมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้งในลอนดอน แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมอเจเน็ตยังคงดูแลคลินิกใต้ดินของเธอ มิสเตอร์คลาร์กได้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้จัดการสำนักพิมพ์ที่ซื่อสัตย์ ส่วนนักสืบโธมัสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการตำรวจเช้าวันหนึ่งที่สดใส เมรี่กับเฟรเดอริคตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ตลาดนัดคอเวนต์การ์เดน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงดนตรีจากนักแสดงข้างถนนดังคลอเคลียกับเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"นี่แหละชีวิตที่แท้จริง!" เฟรเดอริคกล่าวพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ "ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวาย ไม่ต้องมีองค์กรลับมาตามล่า"เมรี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยกับพี่ชายอย่างเต็มที่ แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง...ราวกับว่าชีวิตที่ไร้ความตื่นเต้นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาอีกต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเลือกซื้อดอกไม้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงระเ
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่วศูนย์บัญชาการลับขององค์กร 'กาลเวลา' แสงไฟสีแดงกะพริบไปมา สร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและอันตรายยิ่งกว่าเดิม เมรี่และทีมต้องเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดวิลเลียมส์และเหล่า 'ยมทูต' ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง"พวกแกไม่มีทางทำลาย 'แกนกลาง' ของข้าได้หรอก!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำราม "ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว!"เขากดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของเขา และทันใดนั้นเอง กำแพงเหล็กขนาดใหญ่ก็เลื่อนลงมาปิดกั้นทางเข้าออกทุกทาง ทำให้พวกเขาติดอยู่ในห้องควบคุมแห่งนี้"ไม่นะ!" เฟรเดอริคอุทาน "เราติดกับแล้ว!""ไม่ต้องห่วงครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ผมรู้ทางออกครับ!"เขาชี้ไปที่ช่องระบายอากาศขนาดเล็กที่อยู่บนเพดาน "เราต้องเข้าไปในนั้น!"แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ท่านลอร์ดวิลเลียมส์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขามีพละกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเสริม"แกจะต้องเป็นคนแรกที่ตาย!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำรามใส่เมรี่เมรี่หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เธอใช้มีดสั้นป้องกันตัวเองจากคมมีดของท่านลอร์ดวิลเลียมส์ที่พุ่งเ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข