LOGIN'ตอนนี้สถานะของเธอ..ก็แค่แฟนเก่า' 'ทินภัทร' หรือ 'ทอย' พี่ชายต่างมารดาของ 'รณกร' ในเรื่อง 'ก็แค่ของแถม' เป็นชายหนุ่มที่เป็นเป็นผู้ชายที่เฟอร์เฟกต์ หน้าตาหล่อเหลา แถมยังเป็นคนเก่ง และที่สำคัญเขาเป็นคนที่เฟรนลี่มาก แต่ภายในใจของเขากลับดูโศกเศร้ากับเรื่องที่ฝังอยู่ในใจที่ไม่มีวันลืม ต้องรัก หรือ ต้อง หญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย เป็นคนยิ้มเก่ง ร่าเริง เธอเคยคบหากับทินภัทรที่ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น แต่อยู่ ๆ ชายหนุ่มคนนั้นก็บอกเลิกกับเธอโดยไม่มีสาเหตุ ทำให้เธอรู้สึกติดใจกับการบอกเลิกของแฟนหนุ่มอย่างไม่มีเหตุผลมาตลอด เพราะในใจลึก ๆ เธอยังคงรักเขาอยู่ และยังคิดว่าแฟนหนุ่มก็ยังรักเธออยู่เช่นกัน
View Moreงานเลี้ยงในโรงแรมหรู..
"ร้อน.." ทำไมร่างกายเราถึงรู้สึกร้อนวูบวาบแบบนี้ จะว่าแพ้แอลกอฮอล์ก็ไม่น่าใช่ เพราะเธอดื่มอยู่บ่อยครั้ง "ไม่ไหวแล้ว" "คุณ?" มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินตามมาเพราะเธอดูน่าเป็นห่วง แต่พอเห็นว่าเธอกำลังจะถอดเสื้อเขารีบถอดเสื้อสูทที่สวมใส่อยู่แล้วนำมันมาคลุมร่างให้เธอไว้ก่อน "ร้อน!" แต่หญิงสาวก็พยายามดึงเสื้อที่เขาคลุมออกไปให้พ้นตัว "ใจเย็นก่อนสิคุณ" ชายหนุ่มมองซ้ายมองขวา แล้วก็พาเธอเข้าห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้แถวนั้นเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน อึบ! แต่พอประตูปิดลงเท่านั้นแหละ คนร่างสูงก็ถูกผลักให้นั่งลงกับเก้าอี้ที่มีอยู่ตัวเดียวในห้อง ที่จริงห้องนี้เป็นห้องเก็บของ แต่ของทุกอย่างถูกนำออกไปใช้ในห้องจัดเลี้ยงก็เลยเป็นห้องโล่ง "คุณครับผมยังไม่พร้อม" เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ดี เพราะเธอเป็นคู่ควงด็อกเตอร์พันไมล์บุตรชายคนเล็กของเจ้าของโรงงานอิทธิพลค้าไม้ และงานเลี้ยงในคืนนี้ก็เป็นงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้าจากต่างประเทศของโรงงานนั้น ริมฝีปากงามที่แต่งแต้มไปด้วยสีสันแนบจูบลงกับผิวกายชายหนุ่มตรงหน้าแบบไม่อายเลย "อะไรวะเนี่ย" ชายหนุ่มที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงงานอิทธิพลค้าไม้รีบเบือนหน้าหลบ แต่เขาจะหลบไปไหนได้ล่ะ ในเมื่อคนตรงหน้าทั้งสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้ หลบแค่พอเป็นพิธีเท่านั้นแหละ เผื่อว่าเธอเปลี่ยนใจตัวเขาเองจะได้ไม่อายมาก แต่พอเห็นว่าเธอเอาจริงชายชาติทหารแบบเขามีหรือที่จะปล่อยไป... "ถ้าคุณยังไม่หยุดผมจะไม่ทนแล้วนะ" ชายหนุ่มเตือนหญิงสาวที่ฝังจูบอยู่ซอกคอของเขาเป็นครั้งสุดท้าย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจคำเตือนนั้นเลย ด้วยฤทธิ์ยาที่ผสมอยู่กับเครื่องดื่มมันทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ยิ่งได้อยู่ใกล้เพศตรงข้ามมันก็ทำให้ยานั้นออกฤทธิ์ได้ดี "ช่วยฉันหน่อยนะคะ" เธอเห็นว่าเขานิ่งมาก ก็เลยออกปากขอร้อง เพราะแค่เธอทำเองมันไม่ได้ช่วยให้ความร้อนรุ่มในร่างกายลดลงได้เลย "ถ้าได้สติมาแล้วคุณจะไม่เสียใจแน่นะ" เขาคิดว่าเธอแค่ดื่มหนักไปเท่านั้น "ไม่ค่ะ" ขณะที่ตอบริมฝีปากงามยังคงสัมผัสกับใบหน้าอันหล่อเหลา มือหนาที่ไขว้หลังอยู่เพราะกลัวห้ามใจตัวเองไม่ให้สัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย..ก็ได้ขยับมาใกล้ผิวกายเนียนๆ นั้น แต่เขาก็ไม่ได้แตะตัวเธอในทีเดียว เผื่อว่าเธอเปลี่ยนใจจะได้หยุดตัวเองทัน เห็นว่าเขาไม่กล้าแตะต้องเนื้อตัว มือเรียวก็เป็นฝ่ายเอื้อมไปจับมือของเขามาวางแนบกับหน้าอกอวบอิ่ม ที่ตอนนี้เสื้อมันได้เปิดลงไปแทบจะเห็นอะไรต่อมิอะไรอยู่แล้ว พอวางมือของเขาแนบกับหน้าอกได้ เธอก็เอื้อมไปแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่ เพราะอยากสัมผัสถึงเนื้อในของเขาเต็มทีแล้ว เธอคงไม่ธรรมดาสินะ มันคือความคิดแว๊บแรกของเขา และเชื่อว่าผู้ชายอีกหลายคนถ้าเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้..ก็คงไม่คิดแตกต่างไปจากนี้แน่ "ซี๊ดดด" เสียงสูดปากสูดคำดังออกมาจากริมฝีปากบางเมื่ออีกฝ่ายสะกิดยอดดอกบัวตูม "ทนไม่ไหวแล้วโว้ย" อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน วันนี้ขอก่อนนะครับคนสวย ..ว่าแล้วมือหนาก็กระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ตัวเองสวมใส่มาร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ให้หลุดออกอย่างง่ายดาย เพราะเธอปลดกระดุมไว้หลายเม็ดแล้ว..ตอนจบ"เธอคิดเราจะไปปั๊มลูกที่ไหนกันดี"พอสิ้นเสียงฉันก็พลิกตัวหันไปที่สามีทันที"พี่หมายความว่าอะไร"ฉันขมวดคิ้วเอ่ยถามสามีสุดหล่อที่ยืนอมยิ้มตรงหน้า"ฮันนีมูนน่ะ..เธออยากไปที่ไหน""แล้วเกี่ยวอะไรกับทำลูก?"พูดจบสามีสุดหล่อก็กลั้วหัวเราะออกมาอย่างมีเลศนัย"เหอะ...ก็พ่อเธออยากอุ้มหลานไม่ใช่เหรอพี่ก็เลยอยากให้ท่านสมหวัง""ชิว์ คนบ้ากาม"ฉันพึมพำแล้วจัดการถอดเครื่องประดับตัวเองต่อ"ให้พี่ช่วยถอดเสื้อผ้าให้ไหม"เสียงทุ้มแฝงเซ็กซี่ดังเข้ามาข้าง ๆ ใบหู"พี่ทอย..ต้องเหนื่อย"ฉันรู้เจตนาของสามีว่าเขาต้องการอะไร จึงแย้งทันที"แต่พี่ไม่เหนื่อย พี่ทำให้เธอได้""เฮ้ออออ"ฉันพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่"ให้พี่ถอดให้นะ"ปากว่าแต่มือรูดซิบชุดราตรีที่ด้านหลังลงแล้วคืนเข้าหอ ฉันก็ไม่รอดพ้นน้ำมือพี่ทอย เขาจัดหนักจัดเต็มราวกับคนหิวโหย ปึก ปึก ปึก"อื้ออออ พี่ทอยพอได้แล้ว"ฉันใช้มือผลักหน้าอกแกร่งในขณะที่สามีป้ายแดงกำลังจะสอดท่อนเอ็นเข้ามาอีกครั้ง"อีกรอบเดียว..พอเลย"คนบนร่างพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่า แล้วพอพูดจบ พรวด! ท่อนยักษ์ก็ได้สอดแทรกเข้ามาที่ร่องแคบของฉันแล้ว."อ่า~" ปึก ปึก ปึกเช้าวันต่อมาพี่ทอยพาฉันออกจากโรง
แต่งงานแผลที่ขาฉันดีขึ้นมากแล้ว พี่ทอยที่คอยแวะเวียนมาคอยดูแลฉันอยู่ตลอดหลังจากออกโรงพยาบาล. จึงได้บอกกับพ่อของฉันว่าจะพาพ่อของเขาและน้าเรอามาคุยเรื่องการสู่ขอ ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะหลังมานี้ท่านดูเอ็นดูพี่ทอยขึ้นมามาก และทำท่าอยากจะได้เป็นลูกเขยใจจะขาดวันนี้แหละเป็นวันที่พี่ทอยจะพาครอบครัวมา ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วฉันจะได้ลงเอยกับรักแรก ที่เคยเลิกลากันมาแล้วครั้งหนึ่งก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังมาจากนอกห้องพร้อมกับเสียงเรียกของป้าแม่บ้าน"คุณหนูต้องแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ"ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูทันที"เรียบร้อยแล้วค่ะ""พวกเขามากันแล้วค่ะคุณหนู รีบลงไปกันเถอะ"ฉันคลี่ยิ้มหวานแต่ภายในใจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ก้าวขาเดินตามป้าแม่บ้านลงมาจากห้อง.พอมาถึงที่ห้องรับแขกก็ได้พบกับพ่อพี่ทอยแล้วน้าเรอาจึงรีบยกมือไหว้ ก่อนที่จะนั่งลง.จากนั้นการเจรจาก็เริ่มขึ้น เราปรึกษาหารือกันร่วม ๆ สองชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปว่า งานแต่งของฉันกับพี่ทอยจะเกิดขึ้นภายในสามเดือนข้างหน้า พี่ทอยยิ้มไม่หุบ กุมมือฉันไว้ตลอดเลยหลังจากตกลงกันเรียบร้อย พ่อฉันก็ชวนครอบครัวพี่ทอยทานข้
ยอมรับ"แฟนเก่าแก่น่ะ"ฉันได้ยินที่พ่อบอกก็หลุดหัวเราะออกมา"คิกคิก""จะให้เข้ามาไหม"จากนั้นพ่อก็ถามกลับมา"ให้เข้ามาสิคะ"ฉันพูดพร้อมกับฉีกยิ้มหลังจากที่พ่อรู้ว่าพี่ทอยไม่ได้เป็นคนที่ทำให้ลูกชายของท่านเสียชีวิต จึงลดทิฐิลงยอมเปิดใจรับฟังเรื่องราวพี่ทอยจากปากฉัน ซึ่งฉันก็รู้สึกดีใจและเล่าเรื่องของฉันกับพี่ทอยให้พ่อฟัง.ว่าเจอกันยังไง ใครจีบใครก่อน จนกระทั่งตอนที่เขาบอกเลิกโดยที่ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหตุผล คอยไปดักเจอเขาจนเสียการเรียน ก็เป็นสาเหตุที่พ่อส่งฉันไปเรียนเมืองนอก พอฉันกลับมาก็ได้เจอเขาอีกครั้ง แต่ไม่ได้เล่าถึงความร้ายกาจที่พี่ทอยทำกับฉันนะ กลัวพ่อจะเกลียดเขา และกลัวว่าจะไม่ยอมให้เราคบกัน ถึงแม้ฉันก็ยังมาความแค้นใจอยู่บ้างตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามา ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มให้ฉันแบบเจื่อน ๆ"มีธุระอะไร"พี่ทอยหันขวับกลับไปที่คนถาม."เอ่อ..คือผมอยากมาเยี่ยมน้องอ่ะครับ"น้ำเสียงนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความประหม่า ฉันนั่งมองแฟนหนุ่มแล้วคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเขาดูเกร็ง ๆ พออยู่ต่อหน้าพ่อของฉัน"...."พ่อฉันไม่พูดอะไรเลือกที่จะส่ายหน้าแล้วเดินไปนั่งที่โซฟามุมห้อง พี่ทอยยืนมอ
ความจริง 2TOYตกเย็นผมก็รีบเก็บของเตรียมตัวไปหาไอ้กั้งทันที วันนี้ในหัวผมคิดแต่เรื่องที่มันพูด ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องทำงาน ก็สวนเข้ากับรณ น้องชายต่างมารดาของผมเข้า"ดูรีบร้อน..จะไปไหน"มันถามด้วยสีหน้านิ่งเรียบ"ไปหาไอ้กั้ง"ผมตอบกลับพร้อมกับจะก้าวขาเดิน แต่น้องชายต่างมารดาก็คว้าแขนผมไว้"มันออกมาแล้ว?"ผมผงกหัวรับ"ใครพามันออกมา ได้ยินว่าอามัน...""ไม่รู้เหมือนกัน ก็จะไปถามมันอยู่นี่ไง"ผมพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะตอนนี้ผมอยากจะไปเจอกับเพื่อนเก่าที่เคยร่วมชั้นเรียนแล้ว."ฉันไปด้วย"พูดจบ ไอ้น้องชายหน้านิ่งก็เดินนำหน้าผมไป"เฮ้อ"ผมพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้วจำยอมให้มันไปด้วย"มันพูดอะไรบ้าง"ระหว่างที่ผมขับรถน้องชายหน้านิ่งก็เอ่ยถามขึ้นมา"มันจะบอกความจริงเรื่องการตายของไอ้ตั้ง"พูดจบรณก็หันขวับมาที่ผม"การตายของไอ้ตั้ง?"แล้วพึมพำเบา ๆ"อืม..มันต้องรู้อะไรแน่"สิ้นเสียงผมก็รีบเหยียบคันเร่งทันทีเพื่อจะไปให้ถึงเร็วที่สุดพอมาถึงผมกับรณก็รีบลงจากรถแล้วเดินขึ้นบันไดหนีไฟไปยังชั้นดาดฟ้า"แฮ่ก ๆ"กว่าจะถึงผมกับรณก็ยืนหอบกันใหญ่"แก่แล้วก็งี้แหละ"ผมหันไปบอกกับน้องชายหน้านิ่ง."ฉันยังไม่แก่"พู
ความจริงเช้าวันต่อมาประธานบริษัทใหญ่ เดินทางมายังที่โรงพักซึ่งเป็นสถานที่กักคุมเพื่อนของลูกชาย การมาของเขาครั้งนี้ก็เพราะมายื่นประกันตัวชายหนุ่มรุ่นลูกด้วยความสงสาร และเห็นใจ โดยเขาได้ให้ตำรวจเปลี่ยนสำนวนคดีจากการพยายามฆ่า เป็นแค่ทำร้ายร่างกายเท่านั้น จากนั้นก็ให้ทนายยื่นประกันตัวคดี ฉ้อโกง รวมถึงการทำร้ายร่างกายเขาและลูกสาวหลังจากที่ประกันตัวเรียบร้อย กั้งก็ได้เดินออกมาด้วยสีหน้าเศร้า ดวงตาแดงก่ำ วิโรจที่รู้สึกรักและเอ็นดูลูกชายของเจ้านายก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ"ขอบคุณนะครับอาโรจ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น และรู้สึกเสียใจ ที่พอได้รู้ความจริงทุกอย่างจากปากคนสนิทของพ่อตัวเอง.ว่าโดนอาแท้ ๆ หลอกใช้ ยังรู้อีกว่าเขายังมีส่วนร่วมในการตายของพ่อแม่อีกด้วย"คนที่คุณกั้งควรจะขอบคุณก็คือคุณต้อ"วิโรจบอกพร้อมกับหันไปที่ประธานบริษัทใหญ่ จากนั้นชายหนุ่มรุ่นลูกก็เดินไป แล้วคุกเข่า"จะทำอะไร..."ประธานวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยสีหน้าตกใจ แต่ชะงักอึ้ง เมื่อชายหนุ่มรุ่นลูกก้มกราบเท้าของเขา"ผมขอโทษ...ฮึก"ชายหนุ่มรุ่นลูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมกับกลั้นร้องไห้ แต่น้ำตาก็ยังไหลออกมา เงยมองหน้าพ่อของเพื
อยากมีลูก"ถ้าอายงั้นให้พี่อาบเป็นเพื่อนไหม"โอ๊ย ฉันเขินจะบ้าอยู่แล้ว ทำไมมีทอยของฉันแพรวพราวแบบนี้นะ"อย่ามาหื่น! ต้องเจ็บอยู่นะ"ฉันเอ็ดเขาแล้วก้มมองไปยังแผลที่อยู่ยิงมาตรงขา"แค่อาบน้ำเป็นเพื่อนไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย"คนตัวโตพูดขึ้นพร้อมกับไหวไหล่ราวกับว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องปกติ"ออกไปได้แล้ว..ต้องจะอาบน้ำเอง""แต่พี่อยากอาบน้ำให้"พี่ทอยสวนกลับมาทันที"เฮ้อ"ฉันพ่นลมหายใจหนักใส่เขา"นะครับ"เขาส่งน้ำเสียงที่ออดอ้อน"ก็ได้"สุดท้ายฉันก็ใจอ่อน เพราะรักเขาแหละพี่ทอยปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉันจนถึงชิ้นสุดท้ายที่เป็นกางเกงชั้นใน ฉันเขินนะแต่พยายามทำให้ตัวปกติ เพราะอยากจะอาบน้ำให้มันเสร็จไว ๆ"อีกหน่อยพอเราแต่งงานกัน..."แฟนหนุ่มพูดในขณะที่ถอดกางเกงชั้นในฉันออกจากขาซึ่งต้องทำอย่างเบามือเพราะมีแผล."...พี่จะอาบน้ำกับเธอทุกวันเลย""ตลกล่ะ"ฉันสบถออกมาเบา ๆ"ไม่ตลกพี่จริงจัง พออาบน้ำเสร็จก็เอากันต่อ"เพียะ! ฉันตีเขาที่แขนทันที"เหอะ ๆ"พี่ทอยกลั้วหัวเราะด้วยสีหน้าแสดงออกว่าเขาชอบใจที่ทำให้ฉันเขินแฟนหนุ่มอาบน้ำให้ฉันอย่างระมัดระวัง เขาบีบเจลอาบน้ำใส่มือแล้วถูตัวฉันเบา ๆ"สระผมด้วยไหม...."เสียงทุ้มเอ่
Comments