แชร์

บุรุษแซ่หง2

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 17:08:09

เมื่อเหม่ยหลินระลึกได้อย่างนั้นแล้ว นางจึงรีบหันหน้ามามองบุรุษลึกลับผู้นี้แบบเต็มตา แสงสว่างของคบเพลิงภายในห้องแห่งนี้ช่วยสายตาของนางได้ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย

บุรุษลึกลับผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาโฉบเฉี่ยวคมเข้มดุดันคล้ายพญาราชสีห์กระนั้น อาภรณ์ที่เขาใส่ก็ช่างมืดดำทำให้เขาที่มีท่าทางน่าหวาดหวั่นอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความน่าหวาดหวั่นขวัญผวาให้ต้องสั่นสะพรึงขึ้นไปอีก

อันที่จริงมิใช่แค่เพียงอาภรณ์สีเข้มที่ทำให้เขาดูอึมครึมถึงเพียงนั้น แต่เป็นตัวของเขา สายตาของเขา สีหน้าของเขา และกลิ่นอายที่แผ่กำจายออกมาจากเรือนกายสูงใหญ่ของเขา ทั้งหมดล้วนทำให้เขาเป็นบุรุษที่น่ากลัวจนจับขั้วหัวใจ

นางไม่เคยพบเจอใครที่มีท่าทางน่ากลัวน่าเกรงขามน่าหวาดหวั่นสั่นสะพรึงได้ถึงเพียงนี้

เขาเป็นปีศาจหรือไร ไยถึงน่ากลัวยิ่งนัก

แต่...

แต่เขาช่วยนาง เขาถูกงูพิษกัดก็เพราะนาง

เหม่ยหลินนั่งประเมินบุรุษตรงหน้าด้วยท่าทางหวาดหวั่นสั่นเทาผสมปนเปกับสายตาขอบคุณระคนสงสัยทั้งยังเริ่มห่วงใยบุรุษตรงหน้าขึ้นมา

สายตาอย่างนั้นของเหม่ยหลินทำให้บุรุษตรงหน้าเริ่มหรี่ตามองและสงสัย

นางเป็นใคร ไยถึงได้มาอยู่ด้วยกันกับเขา

และเขาเป็นใคร ไยถึงมาอยู่ด้วยกันกับนาง

เมื่อชายหนุ่มคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าคมคายที่ฉายแววน่ากลัวอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความน่าหวาดผวาขึ้นมาอย่างมากมาย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะคิดการสิ่งใดได้มากไปกว่านั้น

“ท่าน...” เสียงแว่วหวานเริ่มเอ่ย “ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”

เหม่ยหลินเอ่ยถามอย่างห่วงใยทั้งๆ ที่นางกำลังหวาดกลัวมากนัก ทั้งยังพยายามมองตรงไปยังบาดแผลของเขาที่ถูกงูกัดเมื่อครู่

“เจ้าเป็นใคร?” เส้นเสียงทุ้มใหญ่เอ่ยออกมาเพียงเบาๆ แต่ทว่ากลับทรงพลังน่ายำเกรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“เอ่อ...ข้า” เหม่ยหลินเริ่มไม่แน่ใจว่าควรเอ่ยคำแนะนำตัวหรือไม่ เขาเป็นบุรุษแปลกหน้า นางไม่ควรไว้ใจเขา

“เจ้ารู้จักกับข้าหรือไม่” เจ้าของสายตาคมดำมืดมิดยิ่งกว่ารัตติกาลเอ่ยออกมาอีกคราด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบห้วนทรงอำนาจเฉกเช่นเดิม

เหม่ยหลินเริ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ท่าทางของเขาช่างน่ากลัวยิ่งนัก ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตา ดูทรงพลังมีอำนาจเสียยิ่งกว่าพระบิดาของนางที่เป็นถึงฮ่องเต้เสียอีก

“ท่ะ ท่าน เอ่อ...ข้า...มิอาจทราบได้” หญิงสาวเริ่มส่งเสียงตะกุกตะกักติดขัดขึ้นมา “ท่านเป็นใคร?” นางโพล่งถาม

ชายหนุ่มเริ่มหรี่ตามองเมื่อได้ยินประโยคคำถามนี้ขึ้นมา

เขาเป็นใครอย่างนั้นหรือ?  

เขาเองก็ไม่แน่ใจ

เหตุใดถึงไปนอนอยู่ตรงนั้น

ทำไมกัน?

ใบหน้าได้รูปคมเข้มของบุรุษตรงหน้าเริ่มฉายแววไม่แน่ใจและสงสัยในอะไรบางอย่าง จนเหม่ยหลินรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่เขาแสดงออกมา เขาจำไม่ได้หรือ?

“หง...” เสียงหวานๆ ของเหม่ยหลินเอ่ยออกมาเพียงบางเบา เมื่อนางนึกถึงหยกสีเข้มหน้าตาแปลกประหลาดที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขา สลักคำว่าหงอยู่บนนั้น

เจ้าของแผ่นหยกที่ห้อยเอวของเขายิ่งหรี่ตาคมเข้มลงพลางทำท่าครุ่นคิด

หง!?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จอมใจจอมมาร   ตามหาตัวตน

    ที่โต๊ะอาหารหนึ่งบนชั้นสองของโรงเตี๊ยมหงซือกวนนั่งนิ่งไม่ไหวติง ในมือคลึงจอกเหล้าอย่างเฉยชา สายตาเย็นเยียบมองผ่านศีรษะของสตรีข้างกายไปทางนอกประตูของโรงเตี๊ยม ท่าทางของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ไม่สนใจใครทั้งสิ้นความรู้สึกอ่อนละมุนบางอย่างเอ่อล้นขึ้นมาบางเบา ความปรารถนาที่มีต่อใครบางคนปกคลุมส่วนลึกของจิตใจชั้นแล้วชั้นเล่า บนใบหน้าเย็นชานั้นปรากฏรอยยิ้มแวบหนึ่งอย่างมิอาจควบคุมเขาทำใครบางคนแง่งอนเสียแล้ว...“อา...ท่านประมุขหง” เสียงหวานของสตรีข้างกายเอ่ยเรียกขานทันใด ยามเห็นรอยยิ้มวูบนั้นของหงซือกวน สายตาเรียวสวยของนางพลันสั่นไหว เรือนร่างพลันสั่นระริกมิคาดว่าจะได้มีโอกาสเห็นรอยยิ้มนี้ เฉินเซียงผู้นี้ตายสักสิบชาติภพก็นับว่าคุ้มค่าแล้วหงซือกวนละสายตาคู่คมออกจากเหม่ยหลินที่กำลังปั้นปึ่งเดินจากไป ท่ามกลางความมืดสลัวที่ยังคงมีแสงโคมสาดส่องไปทั่ว แล้วมองสตรีนามว่าเฉินเซียงนิ่งๆ คงไว้ซึ่งท่าทางเรียบเฉยใบหน้าเย็นชาทันทีที่เขาเดินเข้ามายังโรงเตี๊ยมแห่งนี้ เศษเสี้ยวความทรงจำบอกเขาว่า สตรีตรงหน้าคือคนที่เขาต้องการความมืดดำในแววตาพร้อมสีหน้าเย็นเฉียบปานหิมะของหงซือกวนที่จ้องนิ่ง ทำเอาเฉินเซียงต้อง

  • จอมใจจอมมาร   แง่งอน

    ภายในห้องอาหารของโรงเตี๊ยมหลังจากได้ฟังเรื่องราวถึงสาเหตุที่ตกหน้าผาทำให้เหม่ยหลินต้องระหกระเหินเยี่ยงนี้ เฟิงหลิวก็มีสีหน้าดำคล้ำขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อหยวนจงตบโต๊ะเสียงดังสนั่น ปากก็พูดว่า อย่าให้ข้ารู้เชียวว่าเจ้าต่ำช้าที่ทำข้าตกผานั่นเป็นใคร!เป็นความจริงว่า เฟิงหลิวจะมิให้ใครได้ล่วงรู้แน่นอน...การสนทนาเปลี่ยนเรื่องจึงเกิดขึ้น เมื่อเฟิงหลิวเอ่ยชมบรรยากาศภายในโรงเตี๊ยมว่าดีมาก เหมาะแก่การพักผ่อนเหลือเกิน สาวงามที่ร่ายรำกลางโถงก็ระหงหยาดเยิ้มเหลือเกิน อาหารก็เลิศรสเหลือเกิน ลูกค้าที่เข้ามาก็รูปงามกันเหลือเกิน ทุกอย่างล้วนดีไร้ที่ติทั้งสิ้นฟางหลันนั่งฟังอย่างสงบ ในใจเริ่มรู้สึกว่า เจ้านี่ไม่แนบเนียนเอาเสียเลยในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินอาหารและฟังเฟิงหลิวเอ่ยชมทุกสิ่งของโรงเตี๊ยม สายตาสวยหวานของเหม่ยหลินก็เหลือบไปเห็นใครบางคนบนชั้นสองของโรงเตี๊ยมเข้าพอดีโรงเตี๊ยมแห่งนี้มีเพียงสองชั้น แต่ทั้งสูงทั้งใหญ่และกว้างขวางมาก แบ่งด้านหน้าและด้านหลังชัดเจน พื้นที่ด้านในของด้านหน้ามีลักษณะโอ่อ่าใหญ่โต ชั้นล่างสุดเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เมื่อเงยหน้าแล้วมองขึ้นไป

  • จอมใจจอมมาร   โรงเตี๊ยมหมื่นลี้

    โรงเตี๊ยมสูงตระหง่านหลังใหญ่แห่งหนึ่งมีชื่อว่าโรงเตี๊ยมหมื่นลี้ที่มีนามนี้ก็เพราะว่ามันตั้งอยู่ห่างจากเมืองรอบทิศทางไกลเหลือเกิน และที่สำคัญ ยังเป็นสถานที่สำหรับยอดฝีมือจากแปดทิศทั่วแดนมักจะได้มีโอกาสมาพบเจอกัน ได้สนทนากันตามวิสัยแห่งชาวยุทธ์ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ หากแต่ไม่ว่าผู้ใดได้ผ่านมา ล้วนต้องผ่านทางเข้าประตูของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ทั้งสิ้นโดยด้านหลังของโรงเตี๊ยมมีลานกว้างและปราการทรงพลัง คล้ายเวทีการประลองขนาดใหญ่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องต่างสำนัก ใช้สำหรับปะทะฝีมือวัดพลังเพื่อข่มขวัญและเพิ่มมิตรมาช้านานทั้งนี้ ถึงแม้จะมีการปะทะกันเป็นประจำ หากแต่ทุกฝ่ายกลับมิได้กระทำการด้วยแค้นเคือง ต่อให้ประลองพ่ายแพ้ก็แค่กลับมาแก้ตัวใหม่ในรอบหน้า การมีปัญหากันระหว่างชาวยุทธ์จึงไม่เกิดขึ้น เพราะการผูกใจเจ็บต่อกันยามประมือ ย่อมหมายถึงปัญหาระหว่างสำนักและอาจลากยาวไปถึงการพาสำนักล่มสลายก็เป็นได้ประโยคที่ว่า ท่านช่างเก่งกล้า ข้ามิอาจต้านทาน และ ขอบคุณที่ออมมือ จึงเกิดขึ้นเป็นเนืองนิตย์ เพียงแต่สลับฝ่ายยามเจอกันแต่ละคราก็เท่านั้นบนทางเดินที่มีฝุ่นดินปลิวว่อนยามสายลมเคลื่อนผ่าน เรือนร่างสูงโปร

  • จอมใจจอมมาร   หายตัวไป

    ชั่วพริบตาเดียว หญิงสาวรีบเรียกสติของตนโดยละความคิดฟุ้งซ่านให้ออกไป นางลุกขึ้นยืนตัวตรง พยายามสลัดภาพหงซือกวนออกจากจิตใจ ปากก็กล่าวเสียงเรียบออกไปว่า “ท่านแม่ทัพโปรดสำรวม”“...”เสียงเรียบเรื่อยเย็นเยียบดุจผืนน้ำแข็งแผ่นบาง พาให้รู้สึกเย็นชาห่างเหินหยวนจงนิ่งชะงักทันใด ฝ่ามือแข็งค้างกลางอากาศเหม่ยหลินเอ่ยออกมาอย่างเย่อหยิ่งถือตัวและเว้นระยะห่าง นางทำเช่นนี้เพราะกำลังแง่งอนหงซือกวน ทุกกิริยาล้วนแสดงออกถึงหงซือกวนผ่านหยวนจงหากนางเจอพี่หงอีกครา นางจะทำเช่นนี้กับเขาหญิงสาวเชิดหน้าปรายสายตามองหยวนจงเช่นสตรีสูงส่งมองบ่าวไพร่แล้วเดินออกไปด้วยท่าทางดั่งนางพญานี่คือตัวตนอีกด้านหนึ่งของเหม่ยหลินยามนางอยู่ในพระราชวัง หรือต่อหน้าธารกำนัล นางล้วนต้องรักษากิริยาและท่วงท่างามสง่าอยู่เนืองนิตย์ มิอาจปล่อยตัวได้ตามสบาย นางต้องปกปิดความอ่อนแอด้วยกิริยาเว้นระยะห่างเหิน มิให้ใครได้เข้าใกล้มีเพียงได้อยู่กับใครบางคนเท่านั้น ที่นางไม่เคยคิดจะถอยห่าง ทั้งยังไม่ต้องการอยู่ไกลจากเขาแต่เรื่องนั้นช่างเถิด ในเมื่อทุกอย่างต้องเป็นเช่นนี้ อย่างมิอาจทำสิ่งใดใด้ไปกว่านี้เหม่ยหลินคิดได้ในใจ ยามเยื้องย่างพากาย

  • จอมใจจอมมาร   ออกตามหาท่านประมุข

    หากแต่ซุนตี้ก็มิอาจคิดการณ์แทนท่านประมุขแต่อย่างใดเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนแต่มิใช่ตัวแทน เป็นลูกน้องแต่มิใช่ลูกน้อง หรือเป็นคนสนิทก็ยังมิกล้าคิดบังอาจ“ท่านหัวหน้าซุนเชื่อข้าหรือไม่เล่า ว่าท่านประมุขกำลังตามหารักแท้” ชายชุดสีแดงเพลิงคนเดิมเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางภาคภูมิใจมาก ที่ท่านหงซือกวนผู้เคารพรักจักมีภรรยาในเร็ววันได้พบพานก่อเกิดรักจนบังตา พาใจถวิลหาทุกสรรพสิ่งล้วนไร้ความหมายได้เดินทางตามรักแท้ยืนยง เป็นชายกล้าที่มั่นคง ไม่ไหวเอน...บทกลอนนี้ชายชุดแดงแต่งให้ท่านประมุขหงโดยเฉพาะ เขาไม่สนใจเลยสักนิดว่ามันจะไพเราะหรือไม่“เจ้าแน่ใจหรือฟ่านเจิง ว่าท่านประมุขตกเหวลงไป” ซุนตี้เอ่ยถามเสียงเรียบไปทางชายชุดแดงที่มีนามว่าฟ่านเจิงฟ่านเจิงตอบเสียงดัง มั่นใจมาก “ตกเหวหรือไม่หาได้สำคัญไปกว่าท่านประมุขมีคนรัก” เขาไม่มีทางหลงประเด็นเด็ดขาด! ความคิดว่าท่านประมุขตกผาตายไม่เคยมี ในหัวใจล้วนมีแต่สีชมพูแห่งลมวสันต์ของท่านประมุขกล่าวจบก็หันไปมองสมุนคนอื่นๆ ด้วยสายตาคู่เรียวที่ทอประกายวาววับ จนสมุนทุกคนต้องพยักหน้าหนักแน่นเห็นด้วยทุกประการ พวกเขาพากันเชื่อเช่นนั้น ทั้งยังมั่นใจมากซุนตี้เพียงหรี่ตามองด้วยส

  • จอมใจจอมมาร   จดหมายเตือนภัย

    “เป็นได้หรือไม่ว่ามีการแอบอ้างนามของเขา” สมุนคนหนึ่งเอ่ยกับหรงชางหลังจากวิเคราะห์อยู่เป็นนาน “เพื่อปั่นหัวพวกเรา”หรงชางหรี่ตาสีหน้านิ่งเรียบแล้วกล่าวแทรกเสียงเครียด “นามของผู้นี้ ใช่ว่าจะแอบอ้างได้โดยง่าย”“เช่นนั้นเรื่องนี้หมายความว่าอย่างไรขอรับ” สมุนอีกคนถามขึ้นหรงชางทำท่าครุ่นคิดหนักหน่วงจนปวดหัวไปหมด เมื่อคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เขาจึงพลิกร่างสูงขึ้นรถม้าแล้วเข้าไปด้านในหายเงียบไป ปล่อยให้สมุนพากันมองหน้าไปมาอย่างงุนงง“มีอะไรหรือ?” เหม่ยฮว๋าถามขึ้นเมื่อเห็นหรงชางเข้ามานั่งในรถม้า “ข่าวการตายของน้องสาวข้ากลับมาถึงท่านแล้วใช่หรือไม่” นางถามพร้อมรอยยิ้มหวานหยดแฝงความสาแก่ใจ “พาข้าไปดูศพของมันหน่อยเถิด”หรงชางหาได้ตอบคำแต่กลับถามกลับเสียงเย็น “เจ้ากับน้องสาวมีความแค้นอันใดต่อกัน?”เหม่ยฮว๋าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วกอดอกเอนหลังพิงผนังรถม้าในท่วงท่าเย่อหยิ่ง “ทำไม? อย่าบอกนะว่าท่านแค่เห็นภาพของมันก็นึกพึงใจจนตัดใจสังหารไม่ลงเสียแล้ว” นางหึงหวงบุรุษทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสามีคนใด“เจ้าแค่ตอบมา”“ก็แค่ปัญหาทั่วไปของสตรี ท่านจะถามให้มากความทำไม” วังหลังที่นางเติบใหญ่ขึ้นมานั้น ปัญหาอิจฉาริษยา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status