ซุนจือหลินเห็นว่าท่านแม่เล็กของนางเศร้าเพราะเป็นห่วงซุนเพ่ยหนิงที่ไม่ส่งข่าวกลับมาที่บ้านบ้าง แต่มองในแง่ดีซุนเพ่ยหนิงนางอาจจะไม่ว่าง แต่หากมองตามอุปนิสัยของซุนเพ่ยหนิงนั้นมีบางอย่างที่แปลกออกไป ซุนเพ่ยหนิงเป็นคนรักครอบครัวไม่มีทางที่นางจะขาดการติดต่อจากครอบครัว
นอกเสียจากนางกำลังเจอเรื่องที่ลำบากใจ เพราะซุนเพ่ยหนิงเป็นคนที่เวลามีเรื่องหรือไม่สบายใจนางจะเก็บไว้คนเดียวและแก้ไขมันด้วยตัวเอง อีกอย่างตอนนี้นางออกเรือนและมีครอบครัวเรื่องภายในครอบครัวหากเกิดปัญหาขึ้นจริงก็ยากที่จะเข้าไปยุ่ง เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าที่ซุนเพ่ยหนิงขาดการติดต่อคือนางอยู่ที่นู่นสุขสบายหรือทุกข์ใจกันแน่
"ท่านแม่เล็กเอาอย่างงี้เดี๋ยวหากมีโอกาสว่างเราไปเยี่ยมซุนเพ่ยหนิงกันดีหรือไม่เจ้าคะ ไปเช้าเย็นกลับนางอยู่อีกหมู่บ้านนี่เองเจ้าค่ะ"
"หากมีโอกาสข้าก็อยากที่จะไปเยี่ยมนางเหมือนกันไม่รู้ว่าปานนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง"ซุนอีเหยียนรู้ว่ามันยากหากจะไปเยี่ยมโดยที่ไม่ค้างคืน ถึงซุนเพ่ยหนิงจะอยู่อีกหมู่บ้านแต่ก็ไม่ใช่ว่าใกล้กันมากเท่าไหร่ต้องใช้เวลาในการเดินทาง นอกเสียจากมีเกวียนที่สามารถไปเช้าเย็นกลับได้
หากเป็นเกวียนรับจ้างกว่าจะเข้าอีกหมู่บ้านนั้นนานและแวะรับชาวบ้านอยู่ตลอดทาง ต่างจากเข้าไปในเมืองที่เป็นเวลาและไม่ได้ใช้เวลาไปและกลับนานเท่าไปกลับต่างหมู่บ้าน
"ท่านแม่เล็กข้าสัญญาว่าจะพาท่านไปหาซุนเพ่ยหนิงให้ได้เจ้าค่ะ"
"ขอบใจเจ้ามากนะซุนจือหลิน"
"ท่านแม่เล็กข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ ไม่ค่อยเจ็บแผลแล้วเจ้าค่ะ"เพราะดื่มน้ำวิเศษที่ท่านผู้มีแสงให้มา ทำให้ร่างกายแข็งแรงมากกว่าก่อนที่ยังไม่ดื่ม พอดื่มแล้วแผลที่โดนกัดก็ดีขึ้นจนน่าตกใจ
"เดี๋ยวข้าดูหน่อยวันนี้ท่านหมอไม่มามีรักษาคนไข้อีกหมู่บ้านน่าจะค้างหลายวัน แต่ท่านหมอให้ยาไว้แผลของเจ้าดูดีกว่าเมื่อวานเสียอีกแผลดีขึ้นมาก ๆ เลยยาท่านหมอดีจริง ๆ"ถึงซุนอีเหยียนจะแปลกใจที่แผลของซุนจือหลินดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อวานยังไม่ดูดีขนาดวันนี้เลย แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีถือว่านางรอดตายแล้วเกิดใหม่รอดจากความตายมาถือว่านางมีบุญล้นฟ้า
"ท่านแม่เล็กวันนี้ข้าขออาบน้ำได้หรือไม่เจ้าคะ"ซุนจือหลินเหนียวตัวเพราะตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาท่านแม่เล็กก็เช็ดตัวให้ตลอดไม่ได้อาบน้ำเลย แถมนอนเฉย ๆ อยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปรับลมรับอากาศดี ๆ ขนาดห้องแคบขยับตัวมากก็ไม่ได้ทั้งลำบากและหงุดหงิดที่ทำอะไรมากไม่ได้
"เช็ดตัวน่าจะดีกว่าพึ่งจะร่างกายดีขึ้นมาเองเดินเหินบ่อย ๆ จะไม่ดี"
"ท่านแม่เล็กข้าเหนียวตัวมากเลยเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินพยายามส่งดวงตาอ้อนวอนให้ส่งถึงท่านแม่เล็กของนางให้อนุญาตให้นางนั้นได้อาบน้ำ เพราะหากวันนี้ไม่ได้อาบคงจะนอนหลับไม่สนิทแน่นอน
"ก็ได้แต่ห้ามแผลโดนน้ำเด็ดขาด เดี๋ยวข้าจะช่วยพยุงไปที่ห้องอาบน้ำ"ซุนอีเหยียนแพ้ต่อสายตาที่อ้อนวอนอย่างไร้เดียงสาที่ถูกส่งมาจากซุนจือหลิน เด็กน้อยอย่างอาบน้ำเวลาอ้อนเป็นเช่นนี้เองหรือ
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"
"ไหนก็ออกไปอาบน้ำก็อยู่รับลมด้านนอกเลยก็แล้วกัน กินข้าวเย็นพร้อมเลย"
"เจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"ซุนจือหลินเองยังไม่ได้เจอท่านพ่อซุนกวางหวาเลยตั้งแต่นางฟื้นก็ไม่สามารถที่จะออกจากห้องได้เลย และอีกอย่างท่านพ่อก็ไม่สามารถที่จะเดินออกไปไหนได้เพราะเจ็บป่วย ดื่มยาต้มก็จะดีขึ้นแต่เพียงชั่วคราวเท่านั้นต้องดื่มทุกวัน
ซุนอีเหยียนพยุงช่วยซุนจือหลินไปยังห้องอาบน้ำ ที่บ้านซุนมีห้องอาบน้ำเพราะว่าบ้านมีสตรีมากกว่าบุรุษ ส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็มีการทำห้องอาบน้ำไว้ แต่ไม่ได้อยู่ในตัวบ้านบางบ้านอยู่ด้านนอกห่างจากบ้านอยู่ แต่บางบ้านที่ไม่ถือก็อยู่ในตัวบ้านเพื่อความสะดวกสบายหากมีคนแก่ชรา
แต่หากบ้านไหนไม่มีห้องอาบน้ำก็ไปอาบน้ำที่น้ำตกจะเป็นแบ่งเป็นชายและหญิง แต่ต้องไปอาบน้ำก่อนที่จะเย็นเพราะในช่วงเวลานี้จะมีชาวบ้านไปอาบกันเยอะหากหลังจากที่นี้จะอันตราย
"ท่านแม่เล็กวันนี้ทำอะไรเจ้าคะ"
"ข้าวต้มกับผักดอง แต่ของเจ้าข้าใส่ไข่ให้ด้วยคนละฟองกับท่านพ่อของเจ้า"พรุ่งนี้ซุนอีเหยียนนางจะต้องออกไปซื้อของเข้าบ้าน เพราะนางจะซื้อข้าวของเข้าบ้านอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ตอนนี้ข้าวของที่จะทำกินหมดไปหลายอย่างแล้ว
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"ซุนจือหลินมองความเป็นอยู่บ้านซุนในตอนนี้ถือว่าลำบาก นับตั้งแต่ที่ซุนกวางหวาผู้นำครอบครัวเกิดล้มป่วยด้วยโรคประหลาดที่หาที่มาที่ไปไม่ได้ อาจจะเพราะไม่เจอท่านหมอที่เก่งและมีความสามารถถ้าจะให้ดีต้องไปในเมืองแต่ก็ต้องมีเงินมากทีเดียวในการที่จะหาหมอในเมือง
"เดี๋ยวข้านำข้าวต้มกับยาไปป้อนพ่อของเจ้าก่อนถ้าหิวเจ้าก็กินก่อนไม่ต้องรอข้านะ กินแล้วจะได้กินยา"ซุนอีเหยียนเห็นซุนจือหลินสดใสขึ้นนางก็ดีใจจะได้บอกซุนกวางหวา เพราะอีกฝ่ายก็รอฟังอาการของซุนจือหลินอยู่ว่าดีขึ้นหรือไม่ซุนกวางหวาจะถามไถ่ตลอดเวลาที่นางเข้าไปหา
"ท่านพี่กินข้าวเย็นเจ้าค่ะ"ซุนอีเหยียนจะให้ซุนกวางหวากินข้าวและกินยาก่อนแล้วก่อนที่จะนอนถึงจะเช็ดตัวให้
"ลูกพี่ได้ยินเสียงน้องคุยกับลูกข้างนอก"
"เจ้าค่ะนางขอออกมาอาบน้ำเจ้าค่ะน้องเลยให้นางอยู่กินข้าวเย็นข้างนอก นางดูสดใสขึ้นกว่าเมื่อวานมากเจ้าค่ะแผลก็ดูใกล้จะหายแล้วอีกสองวันแผลของนางคงหายดีเจ้าค่ะ"
"ดีจริงยาท่านหมอดีจริง ๆ"ซุนกวางหวานั้นไม่มีเรี่ยวแรงขาทั้งสองข้างไม่มีแรงเดินหรือขยับตัวไปไหน แขนก็อ่อนแรงไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไรเขาถึงเป็นเช่นนี้
"ถือว่านางโชคดีเจ้าค่ะ"เพราะยาที่ซุนกวางหวากินก็ได้มาจากท่านหมอชาวบ้าน แต่ซุนกวางหวาไม่หายเพียงแต่อาการดีขึ้นยามที่ได้รับยาเท่านั้น ส่วนซุนจือหลินนางจะหายด้วยอะไรก็แล้วแต่ขอเพียงนางรอดเท่านั้น
"จริงพี่ก็คิดเช่นนั้น"ซุนกวางหวาคิดน้อยใจในโชคชะตาเพราะเขาก็กินยาของท่านหมอชาวบ้านแต่ไม่หายจากโรคประหลาดเสียที ท่านหมอบอกไม่ได้ว่าเขานั้นเป็นอะไรเพราะไม่เคยเจอคนที่เป็นโรคเช่นนี้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น
"ท่านพี่อย่าคิดน้อยใจไปเลยเจ้าค่ะน้องเชื่อว่าจะมีสักวันที่ท่านพี่จะหายเจ้าค่ะน้องเชื่อเช่นนั้น"ถึงแม้อนาคตสามีจะเดินไม่ได้ตลอดไปนางก็จะคงดูแลเขาเช่นนี้ตลอดไปจนกว่านางจะตายจากเขา
"อืม พี่เพียงคิดหากวันหนึ่งพี่กลับมาเดินได้ก็คงจะดี แต่พี่เชื่อน้องว่าต้องมีสักวันที่พี่จะหายพี่จะเดินมาหาน้องกับลูกให้ได้"
"น้องจะอยู่กับท่านพี่จะไม่ไปไหนเจ้าค่ะ"
"พี่รักน้องนะซุนอีเหยียน"
"น้องก็เช่นกันเจ้าค่ะ"
.
.
.
บ้านมู่
มีมู่ต๋ากับมู่ฉวนและสะใภ้ใหญ่ที่เตรียมเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านและจัดเตรียมที่หลับที่นอนเตรียมไว้รอมู่ซงหยวนที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้
"ท่านพ่อขอรับเตียงในห้องเจ้าสามเก่าเกินไปขอรับคงจะต้องเปลี่ยนขอรับ"
"จริง เจ้าค่ะท่านพ่อมีหลายอย่างต้องซื้อ…"มู่เจียอิ่งรู้ดีหากจะต้องซื้ออะไรใหม่หรือเพิ่มจะต้องถามท่านแม่ก่อน เพราะท่านแม่เป็นคนที่ถือเงิน แต่คงจะยากหากจะต้องซื้อทั้งหมดจะเป็นเงินหลายอีแปะท่านแม่ไม่น่าจะให้มากขนาดนั้น
"ท่านพ่ออย่างที่เจียอิ่งพูดก็ถูกขอรับเจ้าสามบาดเจ็บมาพักที่บ้านมีหลายอย่างที่จะต้องปรับเปลี่ยนให้สะดวกแกเจ้าสามขอรับ แต่…"
"เดี๋ยวพ่อจะไปคุยกับแม่เอง เตียงกับพวกที่นั่งที่เก็บของทำเอาก็แล้วกันน่าจะทันอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียเงินมากเท่าไหร่"มู่ต๋าเองก็รู้ว่ามู่ฉวนกับมู่เจียอิ่งคิดเช่นไร เพราะเรื่องเงินต้องผ่านมู่น่าหลิงก่อน
"งั้น พวกเจ้าสองคนร่วงหน้ากันไปตัดไม้ก่อนเดี๋ยวพ่อคุยกับแม่เสร็จจะตามไปทีหลัง"ที่ต้องให้ไปก่อนเพราะตอนนี้ก็ใกล้จะเย็นแล้วกลับถึงบ้านคงจะค่ำ
"ขอรับท่านพ่อ"มู่ฉวนมองดูห้องของน้องชายที่ว่างเปล่าเพราะมู่ซงหยวนไม่ได้อยู่นานหลายปี ข้าวของหลายอย่างเก่าและผุพังตามกาลเวลาจนไม่เหลืออะไรให้เก็บไว้นอกจากเสื้อผ้าที่เก่าเพราะเจ้าของไม่ได้ใส่มันนานจนเนื้อผ้านั้นบางจับเบา ๆ ก็อาจจะขาดได้ ในบ้านเห็นทีว่าจะมีแต่ครอบครัวเจ้ารองกับน้องสาวของเขามู่จิ่วเหมยเท่านั้นที่มีเสื้อผ้าดี ๆ ใส่กัน
ซุนจือหลินไม่คิดที่จะปิดบังความคิดของนาง การทำอาหารนางมีความสุขก็จริง แต่การเปิดร้านอาหารนั้นหนักและเหนื่อยเกินไปถึงจะรู้ว่ามู่ซงหยวนสามารถที่จะเปิดร้านให้ได้ แต่การที่จะทำเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายความพร้อมต่าง ๆ อีกมากมาย"พี่เห็นเจ้าซื้อข้าวของมาเยอะเลย""ข้าขอโทษเจ้าค่ะที่ใช้เงินเยอะ แต่ข้าซื้อแต่ของที่จำเป็นนะเจ้าคะไม่ได้ซื้อของส่วนตัวเลยนะ"ซุนจือหลินกลัวว่ามู่ซงหยวนจะด่านาง เพราะวันนี้นางใช้เงินของเขาไปเยอะจริง ๆ"ไม่ได้ไม่จะดุเงินที่พี่ให้ใช้เท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่เจ้า พี่แค่เห็นเจ้าซื้อข้าวของมามากมายเจ้าคงจะเหนื่อยน่าดูวันนี้""ข้าซื้อเสื้อสำเร็จมาให้พี่ด้วยเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินเอ่ยออกไปอย่างยิ้ม ๆ อย่างน้อยใช้เงินของอีกฝ่ายไปตั้งเยอะก็ต้องมีอะไรมาเป็นสินบนเสียหน่อย"แล้วของเจ้าล่ะ""เสื้อผ้าข้ายังใส่ได้อยู่เจ้าค่ะ"ซุนจือหลินไม่คิดที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ตอนนี้ถึงบ้านนางจะไม่ได้ร่ำรวย แต่เสื้อผ้าที่ใส่ก็ถือว่าสะอาดไม่ได้ขาดอะไรจนต้องปักเย็บมู่ซงหยวนถอนหายใจเมื่อได้ยินในสิ่งที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก มีสตรีที่ไหนบ้างไม่อยากมีเสื้อผ้าสวย ๆ งาม ๆ ใส่คงจะมีแต่เมียของเขาเท่านั้นแหละที่ไม่คิดจะซ
บ้านมู่ซงหยวน&ซุนจือหลินมู่ซงหยวนไม่เป็นอันทำอะไรเลยเขากระวนกระวายในใจ เขาเป็นห่วงซุนจือหลินนางไปนานแล้วยังไม่กลับมาเลย"พี่ซงหยวนเดี๋ยวพี่สะใภ้ก็มาพี่มากินข้าวเถอะ"อาหานล่ะเหนื่อยใจเพราะพี่ซงหยวนไม่ยอมกินข้าวเที่ยงเลยนี่ก็บ่ายแล้ว รอแต่พี่สะใภ้กลับมาอย่างเดียว"นานแล้วนางยังไม่กลับมาเลย""เดี๋ยวก็กลับมาพี่ซงหยวนไปในเมืองไม่ใช่ใกล้อีกอย่างพี่สะใภ้น่าจะมีธุระที่จะต้องไปทำอาจจะใช้เวลา"อาหานไม่รู้จะสรรหาประโยคไหนมาพูดให้พี่ซงหยวนของเขาจะสบายใจขึ้น"หากครั้งหน้านางจะเข้าเมืองข้าจะไปกับนางด้วยให้ได้"อาหานได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้ว่ายังไงพี่สะใภ้ก็ไม่ให้ไปด้วยอยู่ดี หากพี่ซงหยวนขายังไม่หายเป็นปกติถึงตอนนี้จะดีจนเกือบจะหายแต่ยังไม่ได้หาย หากเดินเยอะก็จะกลับมาอักเสบอีก"พี่ซงหยวนมากันแล้วขอรับ"อาหานที่เห็นว่าพี่สะใภ้กลับมาถือข้าวของกันมามากมายจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที"ซื้อของกันมาเยอะแยะเลยได้ชุดของข้าไหม""ได้ แต่มาช่วยถือของก่อน"เสี่ยวหมิงให้อาหานช่วยพี่สะใภ้ถือของเข้าไปเก็บในครัว เพราะว่าของส่วนใหญ่อยู่ในครัววันนี้พี่สะใภ้จะทำก๋วยเตี๋ยวให้กิน"พี่สะใภ้พี่ซงหยวนไม่ยอมกินข้าวเลยขอรับจะรอแต่พ
หลังจากที่ออกจากร้านขายเครื่องประดับซุนจือหลินก็เดินเข้าตลาดในเมือง เพราะจุดประสงค์ในการมาในครั้งนี้ของนางคือสำรวจการค้าในเมือง"เดี๋ยวหาซื้อของกลับไปทำกับข้าวกันดีกว่า""ก็ดีนะพี่สะใภ้ในตลาดของขายเยอะมาก"เสี่ยวหมิงไม่ได้ตื่นตาตื่นใจมากเท่า แต่ก็แปลกตาเท่านั้นเพราะอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้ออกมาเปิดหูเปิดตานาน"พี่รู้แล้วว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี"ซุนจือหลินมีความอยากกินอะไรร้อน ๆ และอะไรก็ได้ที่เป็นเส้น ๆ ก๋วยเตี๋ยวก็เป็นความคิดที่ดี ในเมืองก็มีก๋วยเตี๋ยวขายเหมือนกัน แต่หน้าตาแตกต่างกันออกไปตามสูตรของแต่ละร้าน"พี่สะใภ้จะทำอะไรหรือขอรับ""ก๋วยเตี๋ยวน่ะไปซื้อของกันดีกว่า เดี๋ยวต้องไปอีกหลายที่"ยังเหลือร้านขายเมล็ดพันธ์ุผักกับร้านขายเสื้อผ้านางเองก็อยากจะซื้อชุดสักชุดไปให้มู่ซงหยวนเหมือนกัน"ท่านป้ามีผักแค่นี้หรือเจ้าคะ""ใช่ มีไม่กี่อย่างช่วงนี้ดินไม่ดีเลยปลูกอะไรก็โตยาก ปลูกได้แต่ผักเดิม ๆ แต่ถ้าแม่นางอยากได้ผักหลาย ๆ อย่าง ก็ไปอีกสักหน่อยจะมีร้านขายผักขนาดใหญ่ แต่ราคาจะสูงหน่อยเพราะผักบางชนิดที่ปลูกยากก็นำส่งมา""ขอบคุณเจ้าค่ะท่านป้า งั้นข้าช่วยอุดหนุนท่านป้าฟักทองนี่ข้าเอาหนึ่งลูกเจ้าค่ะ""ได
ยามเฉิน(07.00-08.59 น.)ซุนจือหลินเลือกที่จะออกเดินทางแต่เช้า เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ในเมืองนานแค่ไหน "พี่ซงหยวนข้าไปแล้วนะ อาหานฝากกับข้าวไปบ้านซุนด้วยนะ""ขอรับพี่สะใภ้""เสี่ยวหมิง เจี้ยนโป พวกเจ้าทั้งสองต้องดูแลนางแทนข้าให้ดีและรีบไปจะได้รีบกลับกัน"มู่ซงหยวนรีบเอ่ยไล่เพราะกลัวใจจะกลับคำไม่อนุญาตให้ไปกัน เพราะวันนี้ต้องห่างซุนจือหลินเป็นวันแรกที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน"พี่ซงหยวนเข้าเมืองจะให้รีบกลับคงจะไม่ได้หรอก"อาหานรู้สึกถึงสายตาและพลังงานบางอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขาที่แรงกล้าจนขนหัวลุก"จริงอย่างที่อาหานบอก พี่ก็อยู่บ้านไม่ต้องไปไหน""พี่จะไม่ไปไหนจะรอเจ้ากลับมา"มู่ซงหยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเฉกเช่นที่ซุนจือหลินเอ่ยกับเขาเมื่อวานนี้ จนทำให้สหายทั้งสามต่างพากันยืนนิ่งหลังตรง ใบหน้ามองกันอย่างซีดเซียวแปลก ๆ และขนลุกจนไม่มีอารมณ์ขบขันใด ๆซุนจือหลินเองก็ไม่ต่างจากอาหาน เสี่ยวหมิง เจี้ยนโป เพราะความขนลุกมันเกิดขึ้นมาจากมู่ซงหยวนที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนที่นางเอ่ยกับเขาเมื่อวาน แต่ต่างตรงที่มู่ซงหยวนเอ่ยออกมาน้ำเสียงไม่ได้หวานหูแถมใบหน้ายังนิ่งและเหมือนไม่มีความรู้สึกอีกด้วยบนเกวีย
ซุนจือหลินหลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จนางเองก็สังเกตเห็นเหมือนว่าต้นกล้วยมันโตเร็วผิดปกติ มู่ซงหยวนเองก็คงคิดเช่นนาง แต่เขาคงจะไม่ถามเพราะน่าจะคิดว่าดินดีน้ำดีเท่านั้น"พี่ซงหยวนข้าอยากเข้าเมือง แต่พี่คงไปกับข้าไม่ได้""เจ้าจะอยู่ติดบ้านสักวันให้พี่ได้อุ่นใจบ้างไม่ได้หรือ ไปในเมืองโดยไม่มีพี่แบบนี้""พี่ซงหยวนเจ้าขาให้ข้าไปในเมืองเถอะน่ะ ข้าสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี นะพี่ซงหยวนเจ้าขา"ซุนจือหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและเป็นครั้งแรกที่นางใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับมู่ซงหยวน"ก็ได้ แต่พี่จะให้เสี่ยวหมิงกับเจี้ยนโปไปเป็นเพื่อนด้วย"มู่ซงหยวนเจองานยากที่เขานั้นจะปฏิเสธน้ำเสียงหวานออดอ้อนที่ได้ยินเป็นครั้งแรกเช่นนี้ แล้วเช่นนี้เขาจะไปไหนรอดได้ตายคาอกของนางอย่างแน่นอน"ขอบคุณเจ้าค่ะ""แล้วพี่อนุญาตเช่นนี้เจ้าไม่มีสิ่งใดที่จะตกรางวัลให้พี่บ้างหรือ"มู่ซงหยวนคาดหวังในการกระทำของซุนจือหลินเป็นอย่างมาก เพราะมันมีผลต่อการใช้ชีวิตของเขา"รางวัลหรือเจ้าคะ"ซุนจือหลินฉุกคิดรางวัลที่มู่ซงหยวนร้องของ นางคิดเป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้นอกจากภารกิจอันที่สองของนาง จะง่ายขนาดนี้เชียวหรือ 100 อีแปะ จ๊ารอข้าก่อนนะจ๊ะ"งั้น
มู่ซงหยวนที่นั่งอยู่หลังบ้านเขามองและสังเกตเจ้าต้นกล้วยที่ซุนจือหลินนำมาให้เจ้าพวกนั้นปลูกให้ ว่ามันโตเร็วผิดปกติหรือเปล่าจากหน่อกล้วยต้นเล็กที่พึ่งปลูกลงดินได้ไม่นาน แต่ทำไมถึงได้โตเร็วขนาดนี้"พี่ซงหยวนแม่พี่กับสะใภ้รองกลับไปแล้วขอรับ"อาหานเอ่ย"พวกเขามานานหรือยัง""ก็พี่ไปได้สักพักแล้วดีที่ข้าออกมานอกบ้าน เห็นว่าทั้งสองคนกำลังพยายามที่จะเข้าไปในบ้านดีที่พี่สะใภ้ล็อกบ้านไว้ ไม่งั้นบ้านพี่ไม่เหลือของดีแน่ ๆ"เสี่ยวหมิงรู้สึกปวดฉี่เพราะพึ่งจะกินข้าวเช้าที่พี่สะใภ้ทำและดื่มน้ำเยอะไปจึงได้ปวดฉี่ แต่ตอนที่กำลังจะฉี่นั้นสายตาก็มองไปที่บ้านพี่ซงหยวนและเห็นคนทั้งสองพยายามจะเข้าบ้านทำให้เขาตะโกนเรียกอาหานและเจี้ยนโปออกมา จนตัวเขานั้นฉี่ไม่ออกเพราะเป็นกังวลพี่สะใภ้ฝากให้ดูแลบ้านให้ด้วย"ทำดีมากอย่าให้ใครเข้าไปในบ้านตอนที่ข้ากับนางไม่อยู่นอกจากท่านพ่อมู่ พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่หรือท่านพ่อท่านแม่ซุน เพราะต่อไปพี่สะใภ้ของพวกเจ้าจะไปบ้านซุนบ่อยหรือไม่ก็ไปทุกวันและข้าก็จะต้องไปด้วยบ้านจึงจะไม่มีคนอยู่ในช่วงเช้า ๆ ถึงสาย ๆ"มู่ซงหยวนไม่คิดที่จะให้ซุนจือหลินไปที่บ้านซุนทุกวัน แต่ช่วงนี้ต้องตามใจนางไปก่อน