พิมพ์พลอยหอบหัวใจที่บอบช้ำหลับบ้านเกิดเพราะถูกคนรักและเพื่อสนิทหักหลัง เธอกลับไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายจนกกระทั่งได้เจอกับนายหัวธนธรรศ เขาเข้าทำให้หัวใจเธอกลับมาแข็งแรงอีกครั้งด้วยไฟรักและไฟพิศวาสที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน
view moreพิมพ์พลอยหญิงสาววัยสิบสี่ปีขับรถยนต์คันเล็กที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตนกลับเองกลับมาจากงานเลี้ยงสิ้นปีของบริษัทที่เธอแอบออกมาก่อนงานจะเลิกเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดยาวและชลวิทย์แฟนหนุ่มของเธอบอกว่าจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดพรุ่งนี้เช้า
หญิงสาวอยากเอาเครื่องนวดเท้าอัตโนมัติที่ซื้อมาเมื่อหลายวันก่อนเธออยากจะฝากให้เขาเอาไปให้มารดาของเขา
เธอกับชลวิทย์คบหากันมาได้หนึ่งปีแล้ว ช่วงครึ่งปีหลังทั้งสองไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไหร่เพราะเขาออกไปดูไซต์งานที่ต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังโทรศัพท์คุยกันอยู่เกือบทุกวัน
พิมพ์พลอยขับรถมาจอดหน้าคอนโดหรูที่ชลวิทย์เช่าอยู่หญิงสาวเอาคีย์การ์ดที่คนรักของเธอเคยให้ไว้เพื่อเข้าลิฟต์ไปยังห้องของชายหนุ่มที่อยู่ชั้น 19 เธอไม่ได้บอกเขาล่วงหน้าเพราะโทรศัพท์ของเธอแบตหมดตั้งแต่อยู่ในงานเลี้ยงเมื่อช่วงหัวค่ำ
พิมพ์พลอยเปิดประตูห้องเขามาก็ตกใจจนกรี๊ดออกมาจนสุดเสียง หญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงเพราะภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันเกินกว่าเธอจะรับไหว เมื่อชลวิทย์แฟนหนุ่มของเธอที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนเตียงกว้าง
หญิงสาวอยากจะกรี๊ดเป็นครั้งที่สองแต่เสียงก็ถูกกลืนหายไปในลำคอและจุกจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือกัญญาวีร์หรือการ์ตูนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เธอไว้ใจที่สุด เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมันตอกย้ำให้ทุกอย่างชัดเจนว่าทั้งสองคนกำลังทำเรื่องเลวร้ายที่สุดเท่าที่เธอจะจินตนาการถึง
“พี่วิทย์ พี่ทำอะไรลงไป แล้วแก...การ์ตูนแกทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” พิมพ์พลอยตะโกนถามด้วยความโมโห ดวงตาเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ ความเสียใจและผิดหวังเกินจะทนรับไหว น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เพราะไม่คิดว่าคนรักทั้งสองหักหลัง
ชลวิทย์สะดุ้งสุดตัวเขารีบผละออกจากร่างของกัญญาวีร์และดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายเอาไว้ ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“พลอยใจเย็นๆ ก่อนนะ มันไม่ใช่แบบที่พลอยคิดนะ เรื่องนี้พี่อธิบายได้” ชลวิทย์พยายามอธิบายเสียงตะกุกตะกัก สมองกำลังคิดหาวิธีพูดกับคนรัก
“เห็นตำตาแบบนี้พี่วิทย์จะอธิบายว่ายังไงคะ” พิมพ์พลอยหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาราวกับคนเสียสติ
“คือ....”
“ยังคิดหาคำพูดไม่ถูกเหรอคะ หรือพี่กำลังจะบอกว่าพลอยตาฝาด” เธอพูดแล้วมองไปยังผู้หญิงอีกคนที่นอนเงียบอยู่บนเตียง
“ไม่เอาน่าพลอยมันก็แค่สัมพันธ์ทางกาย” ชลวิทย์พูดด้วยความเห็นแก่ตัวเพราะถ้าต้องเลือกระหว่างผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงกับพิมพ์พลอยเขาก็ตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก
คนหนึ่งเขาได้เธอมาเป็นของเขาแล้วส่วนอีกคนเขายังคงรอคอยให้ถึงวันนั้นและคนอย่างเขาจะไม่ยอมเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เพียงแค่อาจจะใช้เวลารอคอยนานไปหน่อยเท่านั้น
“พี่วิทย์พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรได้ไหมการ์ตูน” ชลวิทย์หันไปทำเสียงดุใส่
“ทำไมถึงห้ามล่ะคะ นั่นเพื่อนสนิทที่สุดของพลอยเลยนะ จะไม่ให้เราทักทายกันหน่อยเหรอ การ์ตูนแกมีอะไรจะพูดกับฉันไหม”
“พลอยแกฟังฉันก่อนนะ ฉันขอโทษ” กัญญาวีร์ไม่คิดมาก่อนว่าพิมพ์พลอยจะรู้เรื่องของเธอกับชลวิทย์นานกว่าที่คิดไว้
“แกจะไม่ต้องพูดคำว่าขอโทษถ้าแกคิดให้ดีก่อนจะหักหลังฉัน มันนานแค่ไหนแล้วที่แกกับพี่วิทย์ทำเรื่องแบบนี้” พิมพ์พลอยพูดออกมาด้วยความเสียใจ กัญญาวีร์เคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพิมพ์พลอยแต่ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุดในสายตาเธอ
กัญญาวีร์ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเพราะสิ่งที่เธอทำลับหลังเพื่อนนั้นมันผิดเกินจะให้อภัยได้
“ฉัน....”
“แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันไม่อยากจะฟังคำแก้ตัว ฉันกับแกจบกันตรงนี้ จากนี้ฉันหวังว่าแกจะคิดได้ว่าไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนนอนกับเพื่อนสนิทของแฟนหรอกนะ”
พูดจบพิมพ์พลอยก็เดินออกจากห้องนอนไปทันที
“เดี๋ยวสิพลอยคุยกับพี่ก่อน” ชลวิทย์ตะโกนไล่หลังเขาลงจากเตียงแล้วคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวก่อนจะรีบวิ่งตามพิมพ์พลอยออกไป
ชายหนุ่มคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้แน่น เขาจะไม่ยอมให้เธอออกไปจาที่นี่ถ้าหากยังคุยกันไม่รู้เรื่อง
“ปล่อยพลอยนะ อย่าเอามือสกปรกมาจับ” เธอหันมาบอกด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“เราต้องคุยกันก่อนนะครับพลอย พี่ขอโทษพี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะยกโทษให้พี่นะครับที่รัก” เขาทำเสียงอ้อนที่มักทำกับเธอเป็นประจำ
“จะต้องคุยอะไรอีกเหรอคะ ก็เห็นกันอยู่แล้วนี่”
“โธ่พลอย ก็อย่างที่บอกไงว่ามันก็แค่สัมพันธ์ทางกายพี่ไม่คิดอะไรกับการ์ตูนเลยนะ เราสองคนก็แค่สนุกกัน ยังไงพลอยก็คือคนที่พี่รักคนเดียวนะครับ”
ชลวิทย์พ่นคำหวานเพราะคิดว่ายังไงพิมพ์พลอยก็ต้องใจอ่อนเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอจับได้ว่าเขามีคนอื่น
“ถ้าคนที่นอนอยู่ในห้องนั้นไม่ใช่การ์ตูนเพื่อนที่สนิทที่สุดของพลอย พลอยอาจจะแกล้งทำเป็นตาบอดหูหนวกก็ได้นะคะ แต่บังเอิญว่ามันไม่เป็นแบบนั้น”
“พี่จะเลิกยุ่งกับการ์ตูนอย่างเด็ดขาด” ชลวิทย์รีบให้สัญญา
“ถ้าพี่คิดจะเลิกกับการ์ตูนแล้วพลอยจะให้อภัย พี่วิทย์คิดผิดค่ะ พลอยคิดว่าระหว่างเรามันคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้วค่ะ โชคดีนะคะ” หญิงสาวยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา เธอถอยออกมาสายตามองชลวิทย์ด้วยความว่างเปล่าหากแต่มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหมือนถูกมีดกรีดลงบนหัวใจ
พิมพ์พลอยไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุดจะสามารถหักหลังเธอได้อย่างเลือดเย็นถึงขนาดนี้ ความทรงจำเก่าๆ ที่เคยมีความสุขผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ทั้งเสียงหัวเราะ คำสัญญาหวานซึ้งทุกอย่างกลายเป็นภาพหลอนที่ตอกย้ำความโง่ของตัวเอง เธอไม่รู้เลยว่าโดนเขาหลอกมานานแค่ไหนแล้ว
หญิงสาวเสียงปิดประตูห้องอย่างแรงและเดินออกมาด้วยความรู้สึกผิดหวังและเสียใจมากกว่าครั้งไหน เธอจะไม่สนใจอะไรอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นเสียงเรียกของชลวิทย์ที่ตามหลังมาหรือสายตาของคนที่เดินผ่านและมองมาด้วยความสงสัย
พิมพ์พลอยกลับมาที่ห้องของตนเองและนอนจมอยู่กับกองน้ำตา เธอไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ความเจ็บปวดนี้มันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่เธอจะรับไหว พิมพ์พลอยได้แต่หวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมานี่จะเป็นเพียงฝันร้าย แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบนั้น
สองวันต่อมาพิมพ์พลอยเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะพนักงานบัญชีที่สวนปาล์มของนายหัวธนธรรศ แม้ว่าตอนนี้จะยังคงมีร่องรอยของความหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่การได้จดจ่ออยู่กับตัวเลขและเอกสารต่างๆ ก็ช่วยให้เธอผ่อนคลายลงได้มากธนธรรศดูแลเธออย่างใกล้ชิด เขาจัดโต๊ะทำงานของเธอในห้องทำงานเดียวกับเขาที่ชั้นล่างของบ้านหลังใหญ่ซึ่งมันคือออฟฟิศขนาดย่อม ซึ่งมีมุมรับแขกเล็กๆ สำหรับคนที่เข้ามาติดต่องาน นายหัวเขาสอนงานในสวนเพิ่มเติมเพราะอยากพิมพ์พลอยเข้าใจภาพรวมทั้งหมดไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานบัญชีอย่างเดียวในวันที่เขาออกไปดูคนงานในส่วนหญิงสาวจะนั่งทำงานคนเดียวแต่นานหัวก็มักจะแวะเวียนเข้ามาให้กำลังใจเธออยู่เสมอ บางครั้งก็แอบหอมแก้มหรือกอดเธอจากด้านหลัง ทำให้พิมพ์พลอยยิ้มได้ การได้อยู่ใกล้ธนธรรศตลอดเวลาทำให้พิมพ์พลอยสบายใจมากขึ้น เขาให้เธอรู้สึกปลอดภัยเสมอเมื่อเวลาผ่านไป พิมพ์พลอยก็เริ่มกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง แม้รอยยิ้มของเธอจะยังไม่สดใสเท่าเดิม แต่เธอก็เริ่มพูดคุยและหัวเราะได้มากขึ้น ธนธรรศรู้สึกดีใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเธอ เขาเชื่อว่าในไม่ช้าพิมพ์พลอยจะต้องกลับมาเข้มแข็งและเป็นพิมพ์พลอยคนเดิมอย่างแน่นอนการได้
นายหัวธนธรรศหันไปมองตามที่พิมพ์พลอยชี้ ใบหน้าของเขายิ่งซีดเผือดลงไปอีกเมื่อเห็นภาพนั้น เขากอดพิมพ์พลอยแน่นขึ้น พยายามส่งผ่านความอบอุ่นและความเข้มแข็งให้เธอ“ไม่เป็นไรนะครับ ไม่เป็นไร ผมอยู่ตรงนี้แล้ว พลอยเข้าไปนั่งในบ้านก่อนนะ ผมจัดการเองครับไม่ต้องห่วงนะ” เขาพูดปลอบโยน พลางลูบผมเธอเบาๆเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น ธนธรรศจึงผละจากพิมพ์พลอยไปให้ข้อมูลกับตำรวจ เขารายงานว่าเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์โดยตรง แต่พิมพ์พลอยเป็นคนเห็นเหตุการณ์และเป็นเจ้าของร้านที่ถูกชนธนธรรศหันมามองพิมพ์พลอยที่ยังคงยืนสั่นอยู่ข้างน้าอัมพร เขาส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยไปให้ ก่อนจะหันกลับไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างละเอียดเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกปากคำและตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พลางสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์คนอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้น ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุอย่างเงียบๆหลังจากที่เจ้าหน้าที่จัดการเก็บหลักฐานและเคลื่อนย้ายทุกอย่างออกไปแล้ว ความเงียบก็เข้ามาแทนที่ความวุ่นวายเมื่อครู่ หน้าร้านของพิมพ์พลอยเหลือเพียงซากปรักหักพัง กระจกแตกล
ชีวิตในอ่าวลึกหวนคืนสู่จังหวะที่คุ้นเคยอีกครั้งสำหรับพิมพ์พลอย เธอกลับมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสุขที่ร้านขายของชำเล็กๆ แม้ถนนหนทางจะยังไม่เรียบร้อยนัก แต่ลูกค้าเก่าๆ ก็ทยอยกลับมาอุดหนุน ทำให้ร้านพอมีรายได้อยู่บ้างนายหัวธนธรรศยังคงทุ่มเทให้กับการดูแลสวนปาล์มผืนใหญ่ที่เปรียบเสมือนลมหายใจของเขาในช่วงเวลากลางวันที่ร้านไม่ค่อยมีลูกค้า พิมพ์พลอยจะนำงานบัญชีของนายหัวกลับมาทำที่ร้าน เธอจัดการเอกสาร ตรวจสอบรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดนายหัวธนธรรศวางใจในความสามารถของเธออย่างเต็มที่ และมักจะแวะเวียนเข้ามาดูเธอทำงานเสมอ บางครั้งก็แอบหอมแก้มหรือกอดเธอจากด้านหลัง สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทั้งคู่ความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินไปอย่างมั่นคงและลึกซึ้งขึ้นทุกวัน แม้จะยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการแต่งงานอย่างจริงจัง เพราะทั้งคู่ต่างต้องการเวลาเพื่อมั่นใจในกันและกันให้มากกว่านี้ แต่ความรักและความผูกพันที่พวกเขามีให้กันนั้นก็ชัดเจนเกินกว่าคำพูดใดๆ“พลอยครับ เย็นนี้ไปในเมืองกันนะ”“นายหัวจะไปทำธุระหรือไปเที่ยวคะ” เธอเงยหน้าจากหน้าจอโน้ตบุ๊กเพื่อถามเพราะจะได้แต่งตัวให้ถูกกับกาลเทศะ“ไปเที่
พิมพ์พลอยหลับตาลงช้าๆ ภาพของนายหัวธนธรรศผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ใบหน้าคมเข้ม นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความรัก รอยยิ้มอบอุ่น และสัมผัสที่เร่าร้อนทุกอย่างยังคงชัดเจนในความทรงจำ เธอคิดถึงเขาเหลือเกิน และคำพูดของศิริขวัญก็ราวกับเป็นประตูบานใหม่ที่เปิดออก สู่ทางเลือกที่เธอเองก็ปรารถนาอยู่ลึกๆเธอรู้ว่าการทำงานกับนายหัวอาจมีความเสี่ยงในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ความรู้สึกคิดถึงที่มันบีบคั้นหัวใจอยู่ทุกวันนั้น มันหนักอึ้งเกินกว่าที่เธอจะทนได้อีกต่อไป“พลอยตัดสินใจแล้วขวัญ พลอยจะกลับไปกระบี่ พลอยจะไปทำงานกับนายหัว” พิมพ์พลอยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง“ดีใจด้วยนะ ในที่สุดพลอยก็เลือกในสิ่งที่ใจอยาก” ศิริขวัญยิ้มกว้างโผเข้ากอดเพื่อนด้วยความดีใจที่เพื่อนตัดสินใจไปทำงานกับคนรักเพราะรู้ว่าการอยู่ห่างกันมันทรมานมากแต่ไหน“แล้วพลอยจะไปวันไหนล่ะ”“พลอยจะกลับไปพรุ่งนี้เลย” พิมพ์พลอยตอบอย่างรวดเร็ว เธอแทบรอไม่ไหวที่จะได้กลับไปหาเขา“พลอยจะบอกนานหัวไหม”“ไม่ล่ะ พลอยอยากกลับไปเซอร์ไพรส์เขาน่ะ”“แต่ขับรถไปคนเดียวมันอันตรายนะ”“ไม่หรอกน่า พลอยเคยขับบ่อยแล้ว”“นายหัวบอกขวัญว่าถ้าพลอยจะกลับให้โทรบอกเขาด้วย เขาจะมาเป็น
นายหัวธนธรรศกลับไปกระบี่ได้สองวันแล้วระหว่างนี้พิมพ์พลอยก็ส่งใบสมัครงานไปยังบริษัทต่างๆ หลายที่แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์เลยศิริขวัญสังเกตว่าเพื่อนไม่ได้จริงจังกับการหางานทำเท่าไหร่หญิงสาวมักนั่งเหม่ออยู่ที่หน้าจอแท็บเล็ตและสีหน้าจะมีความสุขทุกครั้งที่นายหัวธนธรรศโทรมา“ไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์เลยเหรอพลอย” ศิริขวัญถามด้วยความเห็นใจ“ไม่มีเลยขวัญ พลอยก็ยื่นไปหลายที่นะหรือว่าเงินเดือนที่พลอยเรียกมันจะสูงไปหรือเปล่า” เธอหันมาปรึกษาเพื่อน“ไม่หรอกนะ ประสบการณ์อย่างพลอยเรียกเงินเดือนขนาดนี้ก็เหมาะสมแล้ว”“พลอยชักท้อแล้วล่ะ” พิมพ์พลอยท้อที่ไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์และก็รู้สึกคิดถึงคนรักจนจิตห่อเหี่ยว“อย่าพึ่งหมดหวังสิพลอย คนเก่งๆ อย่างพลอยเดี๋ยวก็มีงานเข้ามาเองนะ” ศิริขวัญพูดอย่างให้กำลังใจ“พลอย ขวัญขอถามอะไรพี่หน่อยสิ พลอยคิดจะสมัครงานและทำงานที่กรุงเทพจริงๆ ใช่ไหม”“จริงสิ ทำไมขวัญถึงถามแบบนั้นล่ะ”“ก็ขวัญสังเกตว่าพลอยไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลย พลอยกำลังคิดถึงนายหัวใช่ไหม”“คนเป็นแฟนกันก็ต้องคิดถึงกันสิขวัญก็คิดถึงแฟนไม่ใช่เหรอ” พิมพ์พลอยถามกลับเพราะเห็น
นายหัวธนธรรศลุกขึ้นแล้วจับให้คนรักนอนราบไปกับเตียงนอนนุ่ม ใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงนิดดวงตาสองคู่สบประสานส่งผ่านความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความต้องการ ทั้งเขาและเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์พิศวาสที่ไม่มีทีท่าลดน้อยลงเลยสักนิดริมฝีปากร้อนจุมพิตลงบนเรียวปากอิ่มอีกครั้งหญิงสาวใจเต้นแรงสองมือยกขึ้นโอบรอบลำคอก่อนจิกปลายนิ้วลงบนผิวเนื้อเมื่อฝ่ามือร้อนหยอกเย้าอยู่กับทรวงอกอิ่ม ริมฝีปากคลอเคลียไม่ยอมห่างปลายลิ้นหยอกล้ออย่างหวานล้ำพิมพ์พลอยรู้สึกถึงความแข็งร้อนที่ดันหน้าท้องยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านเมื่อนึกไปถึงคราวที่มันจะเข้าไปอยู่ในกายของตนเอง อารมณ์ของเธอพลุ่งพล่านเมื่อคิดถึงความสุขสมที่จะได้รับจากคนรักชายหนุ่มยังคงจูบไม่ยอมผละออกขณะที่มือก็จับเรียวขาให้แยกออกแล้วใช้ปลายหยักกรีดกลางร่องสวาทขึ้นลงสร้างความเสียวซ่านจนหญิงสาวสั่นสะท้าน“นายหัว.....”ลมหายใจหญิงสาวขาดช่วงเมื่อเขาใช้ปลายหยักกดลงบนเกสรเสียว เธอครางสะท้านแอ่นกายเข้าหาอย่างไม่อาจห้ามได้ ร่างกายเธอกำลังต้องการให้เขาเข้ามาเติมเต็มอย่างที่สุด“พลอยจ๋า อย่าเกร็งนะ”คลื่นความปรารถนากำลังโหมกระหน่ำอย่างหนัก นายหัวธนธรรศกดแก่นกายเข้าหาช
Mga Comments