แชร์

ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-09 15:57:27

ทางฝั่งของหลงฝูหยางที่ได้บาดเจ็บจากการถูกลอบสังหาร หลังจากฟื้นขึ้นมาก็รีบออกไปจากจวนตระกูลเฟยทันทีเพราะกลัวว่าตนเองจะนำภัยอันตรายมาให้

“ท่านประมุข” จางหลินที่เห็นสภาพของผู้เป็นนายก็ตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองร่างสูงมาที่เตียงทันที

“เกิดอะไรขึ้นขอรับ” จางเฉินที่พึ่งเข้ามาเห็นผู้เป็นนายก็รีบถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“จางเฉิน มาดูท่านประมุขข้าจะไปตามผู้อาวุโสอิน”

จางหลินเอ่ยบอกสหายอย่างร้อนใจ ก่อนะรีบไปตามอินจางเหว่ยทันที ผ่านไปเพียงครู่เดียวเขาก็กลับมาพร้อมชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่มีสีหน้าร้อนใจไม่แพ้กัน

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้” อินจางเหว่ยรีบเข้าไปดูหลานชายทันที

“ข้าไม่เป็นไรมากแล้วขอรับ โชคดีที่ได้คนช่วยเอาไว้”

หลงฝูหยางเอ่ยอย่างอ่อนแรง

“ข้าจะไปเตรียมมาให้ พวกเจ้าดูแลท่านประมุขให้ดี”

อินจางเหว่ยรีบออกไปนำยามาให้ชายหนุ่ม ก่อนจะกลับมาพร้อมยาและผ้าพันแผลมากมาย ทุกคนช่วยกันทำแผลให้ชายหนุ่มอย่างรีบร้อนก่อนที่อินจางเหว่ยจะยืนถ้วยยาให้กับผู้เป็นหลานชาย หลงฝูหยางรับมาดื่มรวดเดียวจนหมดก่อนจะส่งคืนให้ผู้เป็นอา

“ข้าจะช่วยเจ้าปรับกำลังภายใน” อินจางเหว่ยบอกก่อนจะพยุงชายหนุ่มขึ้นโดยมีจางหลินคอยช่วย

“ขอบคุณท่านอามากขอรับ” หลงฝูหยางเอ่ยขอบคุณผู้เป็นอาจากใจจริง

“ไม่เป็นไร อาเต็มใจ” อินจางเหว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มยินดี

 หลังจากนั้นไม่นานในวันที่เก้าของเดือน หลงฝูหยางกลับได้สัมผัสความทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สินสุด ร่างกายร้อนผ่าวราวกับอยู่บนกองเพลิง ทำอย่างไรก็ไม่อาจช่วยบรรเทาลงได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเย็นเพียงใดก็ไม่อาจดับความร้อนที่แสนทรมานนี้

“เป็นไปได้อย่างไร”

อินจางเหว่ยที่เข้ามาตรวจอาการหลงฝูหยางเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ตรวจพบ

“เป็นอย่างไรขอรับ” จางเฉินเอ่ยถามอย่างร้อนใจ เพราะเห็นผู้เป็นนายนั้นทรมานเหลือเกินแม้แต่กำลังภายในก็ไม่อาจจะช่วยลดทอนความเจ็บปวดนี้ลงได้

“ท่านประมุขถูกพิษ” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาด้วยหน้าตาซีดเชียว

“พิษหรือ” จางหลินกับจางเฉินร้องขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เชื่อ

“ใช่ ทั้งยังเป็นพิษที่หาได้ยากยิ่ง”

“อย่างไรขอรับ อึก!”

เสียงแหบอ่อนแรงของคนเจ็บเอ่ยถามขึ้น ร่างกายแกร่งยังคงได้รับความทรมานจากความร้อนที่แผดเผาอยู่ภายใน

“พิษนี้มีชื่อว่า เพลิงผลาญฤทัยเก้าสุริยัน เป็นพิษที่หาได้ยากยิ่งทั้งยังมีฤทธิ์ที่ร้ายกาจมาก ผู้ที่ถูกพิษจะต้องทนทุกข์ทรมานราวกับโดนไฟแผดเผา พิษนี้จะกำเริบทุกวันที่เก้าของเดือนออกฤทธิ์ยาวนานถึงเก้าชั่วยาม และภายในเก้านี้หากยังไม่สามารถหายาถอนพิษมาได้ก็จะสิ้นใจอย่างเจ็บปวดเกินที่คนผู้หนึ่งจะรับไหว” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

“ยาถอนเหล่าขอรับ” จางเฉินถามอินจางเหว่ยอย่างมีความหวัง

“ยาพิษว่าหายากและปรุงลำบากแล้ว ยาถอนพิษนั้นยากยิ่งกว่า”

“ไม่มีทางเลยหรือขอรับ” จางหลินถามขึ้น มองผู้เป็นนายแล้วเขาอยากจะเป็นผู้แบ่งเบาความทุกข์ทรมานนี้เหลือเกิน

“ต้องมีสิ ข้าจะต้องหาทางช่วยท่านประมุขให้ด้วย” อินจางเหว่ยเอ่ยอย่างหนักแน่นจริงจัง

“ท่านประมุขถูกพิษได้อย่างไรขอรับ หรือจะเป็นตอนที่ถูกลอบสังหาร” จางเฉินเอ่ยอย่างสงสัย

“ไม่ใช่ เกรงว่าจะถูกก่อนหน้านั้นแล้ว” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นเสียงเครียด

“ก่อนหน้าหรือขอรับ ข้าจำได้ว่าก่อนที่จะถูกลอบสังหารคราวนี้ จ้าวจางเว่ย สั่งให้คนนำน้ำชามาให้ที่เรือนแต่ข้าไม่ได้ใส่ใจ รู้ตัวอีกทีตอนที่เผลอดื่มเข้าไปแล้ว แต่เห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งข้าถูกลอบสังหาร”

หลงฝูหยางข่มความเจ็บปวดเอาไว้อย่างสุดความสามารถก่อนจะเอ่ยขึ้นทั้งยังหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

“ต้องบอกว่าเป็นโชคดีของเจ้า ที่ตอนนั้นยายังไม่ออกฤทธิ์ ไม่เช่นนั้นเจ้าคงไม่รอดแน่” อินจางเหว่ยเอ่ยอย่างเป็นกังวล

“จริงสิ อาถามได้หรือไม่ใครกันที่เป็นคนยื่นมือเข้าช่วยเจ้า”

“ตระกูลหมอ ตระกูลเฟยขอรับ” หลงฝูหยางเอ่ยตอยอย่างอ่อนแรง ร่างกายยังคงถูกแผดเผาอย่างทรมาน

“ตระกูลเฟย ตระกูลเฟย” อินจางเหว่ยเอ่ยชื่อตระกูลเฟยซ้ำ ๆ จนจางหลินสงสัยจึงเอ่ยถามขึ้น

“ตระกูลเฟยทำไมหรือขอรับ”

“ถ้าจำไม่ผิด ตระกูลเฟยเป็นตระกูลหมอที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก พวกเขาอาจช่วยเราได้” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นอย่างมีความหวัง

“จริงหรือขอรับ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้” จางเฉินเอ่ยขึ้นก่อนจะออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ

“ตระกูลเฟยจะช่วยเราได้จริง ๆ ใช่ไหมขอรับ” จางหลินเอ่ยถามอย่างมีความหวัง

“จริงสิ ต่อให้จะยังหายาถอนพิษไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมีทางช่วยให้อาการไม่แย่ลง หรือพอทุเลาการกำเริบของพิษได้บาง ท่านหมอตระกูลเฟย เฟยอี้ ถือเป็นอัจฉริยะทางด้านการรักษาผู้หนึ่ง เขาย่อมต้องมีวิธี”

ตุบ!

“นั้นใคร” จางหลินรีบวิ่งออกไปดูนอกเรือนทันทีเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง แต่เมื่อออกแล้วกลับไม่พบรองรอยอันใด แต่นั้นกลับยิ่งน่ากังวลมากกว่าคือเรื่องที่พวกเขาคุยกันมีใครได้ยินหรือไม่

“เจอตัวหรือไม่” อินจางเหว่ยถามขึ้นน้ำเสียงเป็นกังวลอย่างยิ่ง

“ไม่เลยขอรับ” จางหลินส่ายหน้าก่อนจะตอบเสียงเครียดไม่แพ้กัน

ผ่านไปหนึ่งวันอาการของหลงฝูหยางก็ดีขึ้นเมื่อผ่านความทรมานได้เก้าชั่วชามแล้ว

“เหตุใดจางเฉินถึงไปนานนัก” อินจางเหว่ยกล่าวขึ้นอย่างเป็นกังวล แววตาที่มองร่างสูงบนเตียงเต็มไปด้วยความเศร้าหม่อง

“ผู้อาวุโสอินขอรับ” จางหลินเอ่ยเรียกอินจางเหว่ยเสียงเบาก่อนจะยื่นถ้วยน้ำชาให้

“ขอบใจ” มือหนารับมาแต่ก็ไม่ดื่มในทันที แววตายังคงทอดมองคนบนเตียงอยู่อย่างนั้น

“…..”

“เฮ้อ สวรรค์ก็ช่างใจร้ายเสียเหลือเกิน เขาสูญเสียมามากพอแล้ว หยุดทำร้ายเขาเถอะ”

อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วนความสงสาร เวทนา และเห็นใจ

“ท่านประมุขต้องผ่านมันไปได้ขอรับ ข้าเชื่อเช่นนั้น” จางหลินเอ่ยอย่างนักแน่น

“อืม ข้าเองก็ทำได้เพียงคอยอยู่ข้างเขาอย่างนี้”

“ผู้อาวุโสขอรับ” จางเฉินเดินเข้ามาในห้องด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลจนอินจางเหว่ยกับจางหลินตื่นตระหนก

“เกิดอันใดขึ้น” อินจางเหว่ยรีบเข้าไปหาจางเฉินทันทีพร้อมกับเอ่ยถามความ

“ข้าถูกกลุ่มคนชุดดำจำนวนหนึ่งไล่ล่าขอรับ ก็สามารถสลัดจนหลุดไปได้ แต่ว่า…”

“แต่ว่าอันไร” อินจางเหว่ยยืนนิ่งรอคำตอบอย่างจดจ่อ

“ท่านหมอเฟยอี้ ถูกฆ่าตายแล้วขอรับ” จางเฉินเอ่ยขึ้น เขาเห็นหลุมศพของท่านหมอเฟยอี้และคนในตระกูลอยู่ห่างจากจวนตระกูลเฟยออกมาไม่ไกลนัก คิดว่าจะไปดูที่จวนเสียหน่อยแต่กลับพบกลุ่มนักฆ่าเข้าจึงถอนออกมาก่อนเพราะด้วยร่างกายตนเองตอนนั้นไม่มีแม้แรงจะถือกระบี่แล้ว แต่เขาก็หวังว่าจะยังมีคนรอดชีวิตไปได้

“ได้อย่างไร” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นอย่างหมดแรงเมื่อความหวังที่มีอยู่พังทะลายลง

“เจ้าเห็นกับตาหรือ” จางหลินเอ่ยถามสหายด้วยความหวัง

“อืม ข้าเจอหลุมฝังศพของตระกูลเฟยที่พึ่งฝังเสร็จ หน้าป้ายระบุชื่อเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นของผู้ใด” จางเฉินกล่าวอย่างอ่อนแรง

“เพราะข้าหรือ ที่นำพาความตายไปให้เขา” เสียงโรยแรงของคนบนเตียงเอ่ยขึ้น

“ท่านประมุข”

“ไม่ใช่ความผิดเจ้า ไม่เป็นไร ข้าจะทำทุกทางเพื่อหายาถอนพิษมาให้ได้ ข้าสัญญา”

อินจางเหว่ยเอ่ยสัญญากับหลานชายอย่างหนักแน่นก่อนจะจากไปราวกับร่างไร้วิญญาณของคนที่พึ่งสูญเสียความหวังไป

“จางหลิน” หลงฝูหยางเอ่ยเรียกคนสนิทเสียงเรียบแต่กลับแฝงไปด้วยความเจ็บปวดไม่ยินยอม

“ขอรับ”

“สืบเรื่องนี้มา ว่าใครเป็นคนทำ”

“ขอรับ” จางหลินรับคำสั่งอย่างนักแน่น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ตอนพิเศษส่งท้าย (End)

    พิเศษส่งท้ายเช้าอันสดใสมาเยือน หลงฝูหยางตื่นมาด้วยหน้าตาสดใสทั้งยังอารมณ์ดีไม่น้อย มองคนที่นอนทับตนเองอยู่ก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข“เพ่ยเพ่ย” เสียงทุ่มเข้มเอ่ยเรียกร่างบางเสียงเบาราวกับกำลังหยอกล้อ“อืม” จางหยวนเพ่ยที่ถูกรบกวนส่ายหน้าไปมากับอกของหลงฝูหยางก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง“หึหึ” เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูนี้คงมีแต่จางหยวนเพ่ยเท่านั้นที่ได้รับมัน เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมตื่นง่าย ๆ หลงฝูหยางก็ไม่คิดจะก่อกวนต่อ แขนแกร่งโอบคนบนตัวเอาไว้หลวม ๆ มือหนาลูบแผ่นหลังบางเป็นการกล่อมไปด้วย“อืม” เสียงครางแผ่วอย่างพอใจดังขึ้นให้ได้ยินจนอดเอ็นดูไม่ได้ ริมฝีปากหนาจึงกดจูบเบา ๆ ที่กลุ่มผมดำนุ่มนั้นหนึ่งทีในช่วงสายของวัน หลี่อิงกับเฟยเทียนจึงแวะมาดูอาการหลงฝูหยางอีกครั้งหลังจากที่ตอนแรกตั้งใจจะมาตั้งแต่เช้าแล้วแต่กลับถูกห้ามเอาไว้เสียก่อน ในตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พอมาเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็อยากจะเดินกลับเรือนเสียเดี๋ยวนั้น“นี้ใจคอพวกท่านไม่คิดจะลุกขึ้นมาต้อนรับแขกหน่อยหรือเจ้าคะ”หลี่อิงเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเดินเข้ามาภายในเรือนแล้วพบว่าทั้งสองคนยังนอนกอดกันกลมไม่ปล่อ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 33

    งานเทศกาลหยวนเซียวที่คึกคักไปด้วยผู้คน สองร่างในชุดสีแดงดำเดินเคียงกันอย่างมีความสุข สองมือผสานกันเอาไว้แน่นอย่างไม่เกรงสายตาใคร หนึ่งงดงามหนึ่งคมคายเป็นเป้าสายตาของผู้คนเสียเหลือเกินแต่ก็มิได้รู้สึกแปลกตาแต่อย่างไรเพราะก็มีแบบนี้ให้เห็นอยู่เนื่อง ๆ อีกทั้งขุนนางบางคนยังมีฮูหยินรองหรืออนุที่เป็นบุรุษด้วย“เจ้าเคยมาเดินงานเทศกาลหยวนเซียวบ้างหรือไม่” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามคนที่จับจูงมือกันอยู่“ไม่เคย” หลงฝูหยางส่ายหน้าก่อนจะหันมาตอบร่างเพรียวบางด้านข้าง“แล้วมาที่นี่บ่อยหรือไม่ จำได้ว่าตอนนั้นที่เจอกันก็เป็นที่ต้าถงนี้” จางหยวนเพ่ยยังคงถามอีกต่อเรื่อย ๆ“ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอยู่ที่พรรคเป็นหลักหรือไม่ก็ไปที่อื่นเสียมากกว่าที่ต้าถง แต่เมื่อสองปีก่อนปรากฎสมุนไพรหายากขึ้นเลยเข้ามาที่นี่บ่อยขึ้น”“หืม”“โรงประมูลชิงหลงนั้นอย่างไร” หลงฝูหยางเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อเห็นสีหน้าฉงนของจางหยวนเพ่ย“เอ๋ ของเจ้าหรือ” ร่างบางเอี้ยงคอถามอย่างน่ามอง ดวงตาใสแวววาวอย่างตื่นเต้น“ใช่ ให้เว่ยเหลียงเป็นคนดูแล” หลงฝูหยางไขข้อกระจ่างให้ร่างบาง“ถ้านังหนูหลี่อิงรู้ว่าท่านเป็นเจ้าของคงโดนป่วนแน่” จางหยวนเพ่ยเอ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 32

    รุ่งเช้ามาเยือนเหล่าศิษย์ทั้งหลายผู้เป็นเด็กดีทำตัวเป็นห่วงอาจารย์ผู้เป็นที่รักยิ่งมายืนรออยู่หน้าเรือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคนจนกระทั่ง“ข้าง่วง พวกเจ้ากลับไปเลยไม่ต้องมาก่อกวนข้า” เสียงทุ้มนุ่มลอยออกมาจากในเรือนไม้แต่กลับไม่เห็นตัวคนจนเหล่าเอ่ยแซวกันเป็นแถบ“แม้อาจารย์ ผู้ชายมาเยือนเรือนลูกศิษย์ถึงกับไม่มีความหมายเลยหรือขอรับ” หวังเลี่ยงรุ่ยเอ่ยน้ำเสียงหยอกเย้าผู้เป็นอาจารย์จากนอกเรือน“ไปไกล ๆ เลยเจ้าเด็กพวกนี้”“หึหึ ขอท่านประมุขอย่าหนักมือนักเล่า” หลิวหยางเอ่ยขึ้นกั่วเสียงหัวเราะชอบใจก่อนจะพากันสลายตัวไปทำหน้าที่ของตนเองกลับมาภายในเรือนตอนนี้ร่างเพรียวบางของจางหยวนเพ่ยกำลังนอนทับอกของหลงฝูหยางอยู่ใบหน้าคมสวนงอง้ำอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อถูกก่อกวนตั้งแต่เช้าทั้งที่พึ่งได้นอนไปเพียงนิดเดียว“ถ้าง่วงก็หลับต่ออีกหน่อยเถอะ” หลงฝูหยางเอ่ยเสียงนุ่มทั้งยังลูบแผ่นหลังเนียนเป็นการกล่อมอีกคน“ไม่เอา ข้าอยากคุยกับเจ้ามากกว่า” จางหยวนเพ่ยเอ่ยเสียงอ่อยนิ้วเรียวลูบไล้ไปบนแผ่นอกชายหนุ่มเล่นอย่างไม่รู้จะทำอันไร“เรื่องของเราหรือ” หลงฝูหยางก้มหน้าลงมาถามเสียงแผ่ว“อืม”“ว่ามาเถอะ ข้าเชื่อฟังท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 31

    หนึ่งเดือนต่อมาเรื่องที่อินจางเหว่ยได้ก่อเอาไว้ถูกชำระความเรียบร้อยแล้ว จ้าวจางเว่ยและหลงจ้าวอินจบชีวิตตนเองลงในหอลงทัณฑ์ ส่วนอินจางเหว่ยนั้นหลงฝูหยางไม่ยอมให้อีกคนตายง่ายดายถึงเพื่อนั้น เขาถูกขังเอาไว้ในส่วนพิเศษในหอลงทัณฑ์ตรึงร่างด้วยโซ่ตรวนไม่ให้คิดฆ่าตัวตาย ให้ทดทุกข์ทรมานกับพิษที่ได้รับรวมถึงพิษที่เจ้าตัวปรุงขึ้นอย่างเพลิงผลาญฤทัยเก้าสุริยันจนกว่าจะตายจากมันไปข้างหนึ่งเรื่องที่ต้องสะสางก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ที่นี่ก็คงเหลือในเรื่องของหัวใจที่ยังไม่มีความกระจ่างอะไรเลย และตอนนี้บรรยากาศภายในเรือนพักของหลงฝูหยางนั้น ช่างชวนให้คนที่อยู่ด้วย อยากจะหนีออกไปเสียจริง แต่ก็ทำไม่ได้“เอ่อ ท่านประมุขขอรับ ข้าว่าถ้าไม่มีใจจะอ่าน ไป ไป ที่นี่อยากไปดีหรือไม่ขอรับ” จางเฉินเอ่ยขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะได้รับสายตาคมที่ตะวัดมองมาจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง“ข้าเห็นด้วยกับจางเฉินนะขอรับ ไปหาสักหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นอะไรไม่ใช่หรือ ดีกว่านั่งจมอยู่อย่างนี้แล้วตนเองไม่มีความสุขนะขอรับ” จางหลินเองก็เห็นด้วยกับความคิดของจางเฉิน ตั้งแต่ที่อีกคนกลับไปหลังจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ผู้เป็นนายของพวกเขาก็เอาแต่นั้งท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 30

    “ข้าจะรับเอาไว้เอง และจะให้เขาชดใช้อย่างสาสม” หลงฝูหยางกล่าวให้คำมั่น หวังเลี่ยงรุ่ยจึงหันไปมองศิษย์น้องของตนเองเมื่อเห็นแววตาของทุกคนแล้ว เขาจึงหันกลับมาหาหลงฝูหยาง“ได้ พวกข้าจะให้ท่านเป็นคนจัดการ”ปึ้ง!ร่างของอินจางเหว่ยถูกเหวี่ยงไปที่ปลายเท้าของหลงฝูหยางทันทีด้วยน้ำมือของจางหยวนเพ่ย นั้นยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายของอินจางเหว่ยมากยิ่งขึ้น“พวกเจ้าอยากรู้ใช่หรือไม่ ว่าข้าเป็นใคร นามของข้าคือ หยวนเพ่ย แช่ จาง ผู้ที่เคยท่องไปทุกที่แล้วในยุทธภพนี้ ชื่อเสียงมากมายที่ข้าได้รับ ข้าล้วนไม่เคยหลงในอำนาจของมัน แล้วเจ้าเป็นใคร อินจางเหว่ย ถึงได้คิดจะขึ้นเป็นใหญ่ควบคุมทั้งยุทธภพได้” สายตาคมสวยปรายมองอินจางเหว่ยก่อน จะเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งราวกับมองมดปลวกก็มิปาน“เป็นไปไม่ได้ คนผู้นั้นเป็นใคร ใช่คนที่เจ้าจะเอามาล่อเล่นได้หรือ”อินจางเหว่ยกล่าวอย่างเหยียดหยัน ที่อีกคนกล้ายกตนขึ้นเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงดังคนผู้นั้น“ข้าเป็นพยานได้ นั้นคือ จางหยวนเพ่ย ตัวจริงไม่ผิดแน่” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นแต่กลับไม่เห็นตัวคนพูด กำลังภายในมากมายที่กดทับอยู่เหนือบริเวณนี้ บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นผู้มีกำลังภายใ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 29

    ในขณะที่พวกเขากำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ตรงหน้า คนกลุ่มหนึ่งก็ได้ทำการเก็บกวาดศัตรูอย่างเงียบเชียบก่อนจะส่งคนของตนเองเข้ามาแทนจนที่สุดทุกอย่างก็พร้อมแล้วจางหยวนเพ่ยได้รับสัญญาณจากเหล่าลูกศิษย์แล้วจึงมองสบตากับหลงฝูหยางที่เล่นถ่วงเวลาอยู่กับหลงจ้าวอิน ร่างสูงรับรู้ได้ทันทีก่อนจะปิดจบฉากการต่อสู้นี้ปลายกระบี่แหลมคมชี้ไปที่ร่างสูงโปร่งของหลงจ้าวอินก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะวัดครึ้งวงกลมแฝงกำลังภายในเต็มเปี่ยม อินจางเหว่ยที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้าช่วยบุตรชายทันที แต่ก็ยังต้านพลังของหลงฝูหยางเอาไม่ไม่อยู่สองพ่อลูกกระเด็นไถลไปกับพื้นก่อนจะกระอักเลือดออกมา อาการบาดเจ็บของอินจางเหว่ยนั้นไม่หนักหนานักเพราะก็เป็นผู้ที่มีกำลังภายในสูงส่งผู้หนึ่ง จึงพอป้องกันตนเองเอาไว้ได้ แต่กับหลงจ้าวอินนั้นไม่ใช่ร่างกายที่แสนเจ็บปวดรวดราวบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บที่ทำลายลึกถึงตันเถียน ร่างสูงโปร่งนอนงอตัวกอดตนเองแน่นแค่ขยับเพียงนิดก็เจ็บปวดทรมานเกินจะทานทน เสียงคำรามต่ำในลำคอนั้นแฝงความมายินยอมอยู่ด้วยหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในขณะเดี๋ยวไป๋ซีหมิงก็สลัดออกจากการควบคุ้มมาได้อย่างง่ายดาย“เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะมีกำลังภายในถึงเพียง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status