Share

บทที่ 9

Author: สายธารสะท้อนเงา
“เหตุใดจึงโบยหงเย้า?” เขาเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง

“นางโบยสาวใช้ของหม่อมฉัน เหตุใดหม่อมฉันจึงโบยเขามิได้เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่งลง รินชาร้อนถ้วยหนึ่ง ใช้เล็บค่อย ๆ หยิบก้านชาออกมา “เพื่อสาวใช้คนหนึ่ง ท่านผู้เป็นท่านอ๋องถึงกับมาทวงความยุติธรรมด้วยองค์เองหรือเพคะ? ช่างน่าซาบซึ้งพระทัยยิ่งนัก”

ตงฟางหลีได้ยินคำเย้ยหยันที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวของนาง ขมวดคิ้ว ใช้น้ำเสียงควบคุมอารมณ์ที่เย็นเยือก “นางเป็นคนที่เสด็จแม่ส่งตัวมา เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่หมายความว่าเยี่ยงไร?”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เท้าคาง “ท่านอ๋องโปรดชี้แจงให้กระจ่างด้วยเพคะ”

“ใช้ศาลเตี้ยลงโทษบ่าวรับใช้ถือเป็นความผิดร้ายแรง แม้ข้ามิคิดหยุมหยิม แต่เจ้าจะอธิบายกับทางเสด็จแม่เช่นไร?”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ครุ่นคิด พยักหน้า “สาวใช้ที่ชื่อว่าหงเย้าผู้นั้นใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกผู้อื่น แอบอ้างพระนามของพระสนมอวิ๋นกับท่านอ๋องกระทำเรื่องที่ไม่สามารถอภัยได้เพคะ เป็นแค่สาวใช้คนหนึ่งคาดไม่ถึงว่าจะใช้ศาลเตี้ยกับคนข้างกายของหม่อมฉัน ถ้าสืบหาความขึ้นมา เป็นความผิดร้ายแรงจริง ๆ เพคะ”

ตงฟางหลีจ้องมองนางด้วยสายตาล้ำลึกแวบหนึ่ง นับเป็นการเถียงข้าง ๆ คู ๆ ที่สมเหตุสมผล ข้อแก้ต่างเหมือนกันกับตอนที่นางต้องเผชิญหน้ากับพี่สาม

เขาแทบจะสามารถแน่ใจได้ว่า

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรงหน้า นางไม่ใช่คนโง่เขลาคนนั้นอีกแล้ว

แต่ นางก็ยังเป็นฉินเหยี่ยนเย่ว์คนเดิม

ในระหว่างนี้ เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นกันแน่?

“ใช่แล้ว หม่อมฉันให้พวกองครักษ์นำความไปให้ท่าน ได้แจ้งหรือไม่เพคะ? ถ้าหากท่านอ๋องเข้าใจความหมายของคำพูดเหล่านั้น ก็จะต้องทรงทราบว่า หงเย้าผู้นั้นไม่กล้าไปฟ้องเอาความต่อหน้าพระพักตร์พระสนมอวิ๋นอย่างเด็ดขาด ท่านวางใจเถิดเพคะ เรื่องที่ท่านกังวลไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ย

ตงฟางหลีมองสำรวจนางอย่างละเอียด

ไม่ว่าเขาจะจ้องมองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างไรนางก็ไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยังคงสง่าผ่าเผยเช่นเดิม

สตรีนางนี้ล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของหงเย้าแล้วจริง ๆ

แม้ไม่รู้ว่านางทราบมาจากที่ใดว่าหงเย้าก็คือหมากที่พี่สามจัดให้มาอยู่ข้างกายของเขา แต่ สิ่งที่สามารถแน่ใจได้ก็คือ นางทราบเรื่อง

ทั้งยัง ใช้โอกาสที่หงเย้ากระทำความผิดครั้งนี้ เอาคืนทุกสิ่งที่นางต้องแบกรับให้แก่พี่สามทั้งหมด

หงเย้าเพื่อให้ได้อยู่ในจวนท่านอ๋องเจ็ดต่อไป ไม่กล้าทำให้เรื่องราวบานปลาย ทำได้แค่เพียงก้มหน้ารับชะตากรรม

การกระทำครั้งนี้ ทั้งอำมหิตทั้งโหดร้าย

“ดูท่าทางของท่านอ๋อง เหมือนกับว่าคิดตกแล้วนะเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองท่าทางที่ไม่ไหวติงของตงฟางหลี จึงวางถ้วยชาลง เลิกคิ้ว “ลงไม้ลงมือกับพระชายาที่อภิเษกอย่างถูกธรรมนองคลองธรรมของท่านเพื่อสาวใช้เพียงคนเดียวไม่คุ้มค่า มา ดื่มชากันเถิดเพคะ”

ตงฟางหลีเยาะหยัน

สตรีผู้นี้ เตือนให้เราระวังสถานะในตอนที่เขากำลังชักแม่น้ำทั้งห้า

นางไม่โง่เขลาเลยจริง ๆ ในทางกลับกัน ยังกลายเป็นคนกล้าหาญมากอีกด้วย

ฉินเหยี่ยนเย่ว์รินน้ำชาถ้วยหนึ่งยื่นให้เขา “น้ำชารสชาติแย่ถ้วยหนึ่ง หวังว่าท่านอ๋องจะทรงให้อภัย”

ตงฟางหลีจ้องมองถ้วยชาที่ทำขึ้นจากดินเหนียว ด้านในถ้วยชามีก้านชานอนเรียงรายอยู่ เนื่องจากชงนานเกินไป น้ำกลายเป็นสีอำพันเข้ม มองดูแล้วน่าคลื่นเหียน

ใบชาชั้นยอดส่วนมากเป็นยอดอ่อนใบชา

ก้านชา มักเป็นที่นิยมใช้ในครอบครัวที่ยากจน เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทราบว่า ภายในจวนอ๋องยังมีใบชาคุณภาพต่ำเช่นนี้อยู่ด้วย

ใบชาคุณภาพต่ำ ถ่านคุณภาพต่ำ ยังมีอาหารเหลือถูกวางไว้ที่หน้าประตูอย่างจงใจอีก...

คิดว่านางคงจงใจนำออกมาเพื่อให้เขาเห็น

“เจ้ากำลังตำหนิที่ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างโหดร้ายอย่างนั้นรึ?” ตงฟางหลีถาม

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เลิกคิ้ว “อยู่ดี ๆ เหตุใดท่านอ๋องจึงกล่าวถึงเรื่องพวกนี้เพคะ?”

นางจิบชาอึกหนึ่ง แล้วถอนหายใจ “อาหารหนึ่งจาน น้ำหนึ่งขัน มิได้ทำให้ความสุขเปลี่ยนไป ท่านอ๋องอย่าทรงคิดมากไปเลยเพคะ”

“อย่างนั้นรึ?” ตงฟางหลียิ้มเยาะ

“ท่านอ๋องก็เป็นเหมือนกับท่านเทพ มิดื่มกินอาหารของโลกมนุษย์ ย่อมไม่เข้าใจความทุกข์ยากของโลกมนุษย์ สิ่งของบางอย่างที่ท่านอ๋องคิดว่าคุณภาพต่ำ แต่อันที่จริงแล้วล้ำค่ายิ่ง อย่างเช่นน้ำชากานี้อย่างไรล่ะเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชี้ไปที่ถ้วยชา “น้ำร้อนนี้ สาวใช้ของหม่อมฉันเป็นผู้ลากร่างกายที่เจ็บป่วยมานานไปรออยู่หลายชั่วยามถึงจะได้มาเพคะ”

“ตอนที่ท่านอ๋องเดินเข้าประตูมาคงจะมองเห็นอาหารเหลือที่วางอยู่หน้าประตูแล้วเช่นกัน สุนัขภายในจวนอ๋องส่วนมากถูกเลี้ยงอย่างประคบประหงม เมื่อเห็นอาหารพวกนั้นยังคร้านที่จะมาดมเลยเพคะ แต่นั่นเป็นอาหารที่สาวใช้ของหม่อมฉันไปขอร้องอ้อนวอนอยู่นานแสนนานถึงจะได้มา เพื่อให้ได้ทานอาหารร้อน นางถึงกับต้องเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องครัว จนถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย ถูกคนทุบตีจนมีรอยฟกช้ำดำเขียวไปทั่วทั้งตัวเลยเพคะ”

“ของพวกนี้ มีค่าแค่ไม่กี่สตางค์ แต่มันแฝงไปด้วยน้ำใจที่มีค่าที่สุด เป็นของล้ำค่าที่ประเมินค่ามิได้เพคะ”

ตงฟางหลีมองสำรวจนางอย่างละเอียด เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ในเมื่อเจ้าคิดว่านี่เป็นของล้ำค่าที่ประเมินค่ามิได้ ก็ควรต้องเห็นคุณค่าให้มาก วันข้างหน้าก็จงเพิ่มความทะนุถนอมให้มาก ๆ”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตะลึงงันไปทันที

นางคิดไม่ถึงว่าตงฟางหลีจะหน้าทนเช่นนี้ นางอธิบายสถานการณ์ ก็เพียงอยากจะเตือนเขา ให้เขาเข้าใจว่าบ่าวรับใช้ในจวนอ๋องปฏิบัติต่อนางผู้ซึ่งเป็นพระชายาอย่างไรเท่านั้น

เพียงแค่ตงฟางหลียังพอมีเกียรติอยู่บ้าง ก็ควรจะทำอะไรบ้าง ยกระดับค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหารและเสื้อผ้า นางค่อยฉวยโอกาสทวงคืนสิทธิและประโยชน์บางส่วนที่พระชายาพึงมี ให้เฟ่ยชุ่ยทรมานน้อยลงบ้าง

ผู้ชายคนนี้ตอกคำนางกลับด้วยท่าทีสบาย ๆ

“ท่านอ๋องมิต้องเตือน หม่อมฉันก็เห็นคุณค่าอยู่แล้วเพคะ อันที่จริงหม่อมฉันก็มิได้คิดเล็กคิดน้อย เกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายของอาหารและเสื้อผ้าเช่นนี้มากนัก กินอิ่มท้องมีเสื้อผ้าอุ่น ๆ ให้ใส่ก็เพียงพอแล้ว แต่ ถ้าหากมีบางคนรังแกกันมากเกินไป บีบบังคับหม่อมฉัน ไม่แน่ว่าหม่อมฉันอาจจะทำเรื่องอะไรบ้า ๆ ขึ้นมาก็ได้เพคะ”

“อย่างเช่น เหตุการณ์นองเลือดส่วนด้านหลังของจวนอ๋อง ท่านอ๋องจะต้องสั่งสอนพวกเขาให้ดี ๆ ชีวิตของคนมีเพียงชีวิตเดียวเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เลียนแบบท่าทางของเขา ใช้น้ำเสียงที่เย็นชาแต่ท่าทีสบาย ๆ

“เจ้ากำลังข่มขู่ข้าอย่างนั้นรึ?”

“มิบังอาจเพคะ”

นัยน์ตาของตงฟางหลีเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ หวังว่าเจ้าจะเข้าใจตำแหน่งและสถานการณ์ของตนเองอย่างชัดแจ้ง อยู่ในจวนอ๋องแห่งนี้ อย่าได้ทำเรื่องที่เลยเถิดมากเกินไป”

สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์เย็นชา “ตงฟางหลี เรื่องสมัยก่อนเป็นข้าที่ทำผิดต่อท่าน ลากท่านเข้ามาในบ่อโคลน กลายเป็นตัวตลกของเมืองหลวง ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านถูกบังคับแต่งงานกับหม่อมฉันเพื่อรักษาชื่อเสียงของราชวงศ์ หม่อมฉันรู้สถานการณ์และสถานะของตนเองดี แต่ นี่มิใช่เหตุผลที่หม่อมฉันจะต้องได้รับการข่มเหงรังแกตอนอยู่ในจวนอ๋อง”

เป็นครั้งแรกที่ตงฟางหลีได้ยินนางเป็นฝ่ายเอ่ยถึงเรื่องนั้น ภายในใจสั่นสะท้านทันที สีหน้าแย่ลงเล็กน้อย

“ไม่ว่าจะพูดจากด้านใด พวกเราล้วนเป็นเหยื่อ หลังจากที่หม่อมฉันทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนงานเลี้ยงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์เป็นฝีมือของฉินเสวี่ยเย่ว์ หม่อมฉันได้ไปตามหาตัวนางเพื่อคิดบัญชีที่จวนท่านอ๋องสามด้วยความโกรธแค้น แต่ถูกสาวใช้ของนางกดน้ำจนจมน้ำตาย อาจจะเป็นเพราะดวงของหม่อมฉันยังไม่ถึงฆาต ยมบาลจึงไม่กล้ารับตัวไป หม่อมฉันจึงได้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เป็นความโชคดีในความโชคร้าย หม่อมฉันเริ่มมีสติ และสมองปลอดโปร่งชัดเจนขึ้นแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวทีเล่นทีจริง

“หม่อมฉันติดค้างบุญคุณของท่านอ๋องหนึ่งครั้ง บุญคุณครั้งนี้ หม่อมฉันจะชดใช้ให้แน่นอนเพคะ” นางกล่าว

“ชดใช้อย่างนั้นรึ?” ตงฟางหลียิ้มเยาะ เขาหลุบตาลง ขนตายาวสั่นเครือ มีความโศกเศร้าที่ขัดกับบุคลิคของเขาเอ่อล้นมาจากบนตัว “เจ้าจะชดใช้อย่างไร?”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์กัดริมฝีปาก “รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม หม่อมฉันจะขอหย่าเพคะ”

นางจ้องตาของตงฟางหลี “หม่อมฉันจะเตรียมการเป็นอย่างดี ไม่มีทางทำให้ท่านต้องอับอายแม้แต่น้อยอีก หลังจากที่หย่ากับหม่อมฉัน ท่านสามารถแต่งงานกับ...”

ตอนที่นางเอ่ยชื่อนั้นออกมา สีหน้าของตงฟางหลีเปลี่ยนไปทันที

ท่าทางที่สบาย ๆ มลายหายไป แทนที่ด้วยความโมโหโกรธเกรี้ยว

เพลิงโกรธแผ่ซ่าน เต็มไปทั่วทั้งภายในห้องทันที

ไม่รอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ปฏิกิริยาตอบโต้ นิ้วที่เรียวยาวของเขาก็บีบที่บริเวณลำคอของนางทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1670

    ตงฟางอิงส่งเสียงอ๊ากสองครั้ง หันไปมองหน้าไป๋หลินยวน พลันทำหน้ามุ่ยทันที “อาจารย์ ท่านทำอะไรน่ะ?”“จู่ ๆ ท่านก็ยกคนขึ้นมา ตกใจหมดเลย”“หมดเวลาตามที่ตกลงกันไว้แล้ว เจ้ายังทำอะไรอยู่ที่นี่อีก?” ไป๋หลินยวนพูดอย่างเย็นชา“อ้อ ข้าลืมไปเลย” ตงฟางอิงมองด้วยสีหน้าสำนึกผิด “อาจารย์ อย่าโกรธไปเลย”“ท่านวางข้าล

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1669

    พวกเขาไม่ละอายกันบ้างหรือ? ไม่รู้หรือว่าที่นี่คือพระราชวัง? พวกเขาจะทำตัวไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร?“พี่แปด ท่านมีอคติต่อพี่สะใภ้เจ็ด” ตงฟางอิงพูดไม่ออก “พี่สะใภ้เจ็ดเป็นคนดีขนาดนี้ ไยท่านชอบจับผิดนางอยู่เรื่อยเลยเล่า?”“นางต้องให้ข้าจับผิดนางด้วยหรือ? เห็นได้ชัดเลยว่านางเต็มไปด้วยปัญหา” องค์ชายแปด

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1668

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้วเข้าหากันหลี่ซินเอ๋อร์ผู้นี้ไร้เหตุผลยิ่งกว่าที่คิดเสียอีก โกรธจัดเพราะอับอายจนเอาหัวโขกเสาอย่างนั้นหรือ?นางไม่แม้แต่จะมองเลยด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ใด!ยังไม่น่าอับอายพอหรือ?ตงฟางหลีโกรธเล็กน้อยความตั้งใจเดิมของเขาคือ ให้เจ้าเก้ากลับคืนสู่สกุลตงฟางอย่างเป็นทางการในวันนี้ เส

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1667

    หากจะโทษใครก็ต้องโทษหลี่ซินเอ๋อร์ หน้าตาน่าเกลียดปานนั้น ทว่ายังอยากเข้าใกล้จวนอ๋องของเขา สาวใช้ที่ทำความสะอาดถังมูลในจวนอ๋องยังหน้าตาสะสวยกว่านางเสียอีก“หากไม่มีอุปกรณ์ประกอบฉากของหม่อมฉัน ท่านจะแตะต้องนางหรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ทำหน้ามุ่ย“ไม่หรอก ข้าเตรียมเชือกไว้แล้ว” ตงฟางหลีหยิบเชือกออกมา “ต

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1666

    “พวกท่านสมคบคิดกันหลอกลวงหม่อมฉัน! กลั่นแกล้งหม่อมฉัน! นี่ต้องเป็นแผนการที่พวกท่านเตรียมเอาไว้แล้ว!” ทั่วร่างของหลี่ซินเอ๋อร์ตัวสั่นเทา นัยน์ตาแดงก่ำคล้ายกับสตรีบ้า “นี่คือกับดัก...กับดัก! หม่อมฉันถูกพวกท่านหลอกลวงแล้ว! เป็นพวกท่านที่ใช้อำนาจข่มเหงรังแกผู้น้อย ถึงได้ใช้วิธีการต่ำช้ามาทำลายหม่อมฉัน

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1665

    “ไม่...ไม่ใช่อย่างนั้น” หลี่ซินเอ๋อร์มิคิดเลยว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์จะสังเกตเห็นรอยขาดเล็ก ๆ เพียงนิดเดียวได้“หม่อมฉันหาได้รู้ไม่ว่ามีรอยขาดอยู่ตรงนี้ พระชายาอ๋องเจ็ดเพคะ ทุกคำที่หม่อมฉันกล่าวออกไปล้วนแต่เป็นความจริง เหตุการณ์ในวันนี้เป็นความผิดของหม่อมฉันเอง หม่อมฉันก็ไม่รู้เช่นกันว่า เหตุใดจึงเป็นเช่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status