แชร์

ตามหาหัวใจ

ผู้เขียน: ปลาเก๋าผัดฉ่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-07 22:13:45

"นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

            "เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา

            "นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป"

            เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว

            แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า

            หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป

            ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป

            [นาคหายไป กูอยากให้มึงช่วยหาหน่อย] ตอนนี้ไกรพบอยู่ในสถานีตำรวจ กำลังสืบสวนคดีที่เข้ามาบ่ายนี้ ทว่าสิ่งที่ได้ยินสั่นไหวหัวใจผู้กำกับหนุ่มไม่น้อย มันเกิดอะไร ทำไมถึงมีเรื่องไม่ดีอีกแล้ว

            [หายไปได้ยังไงวะ] ตอนนั้นเขายังเห็นเธออยู่เลย หรือว่า...

            [กูคิดว่ามีคนจับตัวไป]

            [เชี่ย] นายตำรวจหนุ่มสบถ รีบวิ่งออกจากสถานี ก่อนนั้นก็ไม่ลืมเอาลูกน้องมาด้วย คราวนี้เขาต้องจับพวกมันให้ได้ จะไม่พลาดอีกแล้ว

            สิงหราชขับกระบะของตนมาตามทาง ทว่าเพียงไม่นาน โทรศัพท์มือถือดังขึ้น

            [ว่าไงนายหัว] น้ำเสียงสะใจดังมา ร่างสูงขบกรามแน่น

            [มึงเป็นใคร]

            [พูดไม่เพราะเลย อยากรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร ถามนังนี่ดูสิ]

            [ปล่อย จะทำอะไร] เพียงได้ยินเสียงหวานอันคุ้นเคย พร้อมกับบอกรายละเอียดของอะไรบางอย่าง ความโกรธของนายหัวธรภูมิพุ่งทะลุถึงเพดาน เขาข่มใจเป็นอย่างมากที่จะไม่เหยียบคันเร่งสุดแรง ระบายความโกรธออกไปเหมือนสัตว์ป่าเถื่อน

            นาราคล้ายกับอยู่ในความมืดขนาดใหญ่ รอบข้างเหน็บหนาวจนสั่นสะท้านไหวไปทั้งกาย มองไม่เห็นอะไรเพราะใบหน้าหญิงสาวถูกปิดด้วยผ้าไว้ อีกทั้งมือทั้งสองข้างยังถูกมัดรวบเข้าด้วยกันอีกด้วย

            เหนื่อย

            คือความรู้สึกแรกหลังจากที่โดนจับมา ก่อนที่ความกลัวจะแทรกซึมทั่วขั้วหัวใจ ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะของชายฉกรรจ์ดังเข้ามาด้านใน นารายิ่งรู้สึกหวาดระแวงราวกับจะเป็นบ้า

            "แม่ง วันนี้เหนื่อยว่ะ ถ้างานเสร็จแล้ว ขอนายกินเลี้ยงดีกว่า" เสียงแหบทุ้มกล่าวอย่างอารมณ์ดี ตามปกติแล้วหลังงานสำคัญเสร็จเขาต้องขอเจ้านายหรือผู้ว่าจ้างเฉลิมฉลอง ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

            "อืม อยากกินเหล้าเหมือนกัน อยากตีกะหรี่ด้วย จะเอาให้สบายตัวเลย"

            "มึงก็ กูเอาด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า" พวกมันหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

            นาราพยายามบิดแกะข้อมือออกจากเชือก ทว่าด้วยปมที่มัดอยู่ยากแก่การคลาย เพราะแบบนั้นหญิงสาวเลยพยายามขยิบตาให้เทปที่ปิดบนดวงตาคลายออก ดีที่พวกมันไม่รัดไปรอบหัว เธอชันหัวเข่าขึ้นมา ก่อนจะก้มใบหน้าถูไปมากับหัวเข่าเบาๆ เพื่อให้เทปกาวหลุด

            ความเจ็บแสบเวลาสิ่งเหนียวหนึบถูกแกะออกเล่นงานผิวบอบบางจนแสบยิบ แต่นั่นเท่ากับบอกว่าสิ่งที่พันธนาการดวงตาได้หลุดหายไปแล้ว

            นารากะพริบตาสองสามที แสงสว่างสาดเข้ามาในดวงตางาม เพียงวินาทีความปวดตุบๆบนกระหม่อมเล่นงานเธอ

            ทว่าหญิงสาวต้องเก็บอารมณ์ไว้ เพื่อหาทางออกให้เร็วที่สุด คาดคะเนดูแล้วว่าตอนนี้นาราน่าจะอยู่ในกระท่อมกลางป่าเธอได้ยินเสียงน้ำไหล เสียงแมลง เสียงนก แล้วทันใดนั้นเองดวงตาก็ต้องเบิกตากว้างเพราะชายข้างนอกเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน

            มันทำหน้าไม่ชอบใจเมื่อเห็นเทปกาวหลุดจากใบหน้าเธอ

            "แกะยังไง" ชายชุดดำยกมือจะตบเธอด้วยโทสะ นาราเบี่ยงหน้าหลบทันควัน จังหวะนั้นเป็นจังหวะกับที่ชายอีกคนเดินเข้ามาพอดี ทำให้มือคนที่กำลังจะทำร้ายเธออีกครั้งชะงักค้างกลางอากาศ

            "อะไรพี่" โจรรุ่นน้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะเห็นว่าสิ่งที่ใช้ปิดบังใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นเหยื่อได้หลุดไปแล้ว พอมองจากตรงนี้พบว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก สวยจนเขามองด้วยความตะลึง ได้ยินมาว่าเธอเป็นเมียเก็บของสิงหราช ไม่รู้เท็จจริงประการใด

            "มันแกะที่ปิดตาออกน่ะสิ ดีนะ ไม่แกะเชือกออกด้วย" โจรรุ่นใหญ่เอ่ยเสียงเฉียว เพราะถ้ามันหนีไปได้ ได้บรรลัยกัลป์ทั้งหมดนี่แน่

            "แต่ก็ดี กูจะได้เริ่มงานเลย มึงเอาโทรศัพท์มา" ใช่ โจรอย่างเขาวางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้ว จะเริ่มขั้นแรกเลยแล้วกัน

            "โทรไปหามัน" เพียงสิ้นสุดคำสั่งโจรรุ่นน้องก็กดโทรศัพท์ตามที่บอกทันที รอสายได้ไม่นานก็มีคนกดรับ

            [ใคร] เสียงทุ้มต่ำตามมา โจรร้ายแสยะยิ้ม

            [ว่าไงนายหัว]

            [มึงเป็นใคร]

            [พูดไม่เพราะเลย อยากรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร ถามนังนี่ดูสิ] โทรศัพท์เครื่องบางถูกยื่นมาทางนารา เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูเขาจึงกระตุกกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวที่ใส่อยู่จนมันกระเด็นออกมา นาราสะบัดตัวหนีทว่าโจรร้ายก็ยังตรึงหญิงสาวให้หันไปทางกล้อง

            [ปล่อย จะทำอะไร!] การแตะเนื้อต้องตัวจากคนที่ไม่อยากให้แตะ มือหยาบกร้านที่บีบตรงหัวไหล่เธอ น่ารังเกียจจนนาราตัวสั่นไปหมด กระทั่งมันบอกกับนายหัวของไร่ธรภูมิว่าเธออยู่ที่ไหนเพื่อบอกให้เขามาหาเธอ

            นาราไม่เชื่อว่าสิงหราชจะมา เพราะเขาไม่ได้รักเธอ เห็นเป็นเพียงนางบำเรอไว้แก้เหงาเท่านั้น

            ทว่าโจรร้ายด้านหน้ากลับดูมั่นใจเหลือเกินพวกมันแสยะยิ้มราวกับได้ดั่งใจทุกอย่าง ก่อนจะปรายตามองเธอแล้วเดินออกไป

            นารารู้ว่าแม้ตอนนี้พวกนั้นไม่ได้ปิดปากเธอ แต่ถ้าร้องออกมา ผู้หญิงตัวคนเดียวที่อยู่ในกระท่อมกลางป่ามีสิทธิ์โดนทำร้ายแน่ๆ จึงต้องคิดหาวิธีใหม่เพื่อให้เอาตัวรอดออกจากที่นี่

            สมองประมวลผลอย่างหนัก คิดว่าวิธีทางออกที่จะออกไปโดยไม่ต้องปะทะ อย่างน้อยต้องหาอาวุธเพื่อต่อสู้กับคนร้าย ทว่าวิธีแรกที่เธอคิดได้คือหนีออกไปโดยการแอบ ด้วยแรงของเธอการจะสู้กับผู้ชายสองคนนั้นไม่ง่ายเลย เพราะแบบนั้นนาราจะใช้อีกวิธีหนึ่ง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status