Share

บทที่ 13

Author: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อได้ยินเสียง ทุกคนมองไปที่ลั่วชิงยวนที่ประตูด้วยสายตารังเกียจ

ซูโหยวขมวดคิ้วและก้าวไปข้างหน้า และกันไม่ให้นางเข้ามาด้านในอีกครั้ง ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างเฉียบขาด ก่อนจะผลักเขาออกไปแล้วเดินเข้ามา

สายตาที่เฉียบคมเมื่อสักครู่ ทำให้ซูโหยวเกิดความกลัวเล็กน้อย

น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ "เจ้าจะก่อเรื่องอันใดอีก?"

ลั่วชิงยวนมองไปที่ลั่วเยวี่ยอิงอย่างเย็นชา นางหยิบเครื่องประดับปีศาจนั้นออกมา แล้วถามเสียงเย็น "ทำไมเจ้าไม่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุที่ล่อสายฟ้านี้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังหน่อยเล่า"

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกผิดเล็กน้อย และไม่กล้ามองนาง แต่นางก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง "ท่านพี่ถามข้าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ซูโหยวเองก็เห็นว่า ข้าเป็นคนหยิบของชิ้นนั้นออกไป ท่านพี่นำมันกลับมาเพื่อจะพิสูจน์อันใด?”

"นั่นเป็นเพราะข้าเป็นคนขอให้เจ้านำของชิ้นนี้ออกมา แน่นอนว่าเจ้าไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้" ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ

ลั่วเยวี่ยอิงปฏิเสธที่จะยอมรับความจริง นางมองหน้านางด้วยน้ำตาคลอเบ้า และพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร "ท่านพี่พูดอะไรก็ล้วนเป็นเช่นนั้น ท่านพี่เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่เด็กจนโตข้าก็เชื่อฟังท่านมาตลอดะ"

น้ำเสียงและหน้าตาที่น่าสงสารนั้น ทำให้ผู้คนคิดว่า ลั่วชิงยวนรังแกนางตั้งแต่นางยังเด็ก!

สิ่งนี้กระตุ้นให้ฟู่เฉินหวนที่ปกป้องนาง เขาตำหนิลั่วชิงยวนอย่างเย็นชา "ลั่วชิงยวน เจ้าอย่าลืมสิ่งที่ตัวข้าอ๋องผู้นี้เคยเตือนเจ้า! ออกไปซะ!"

ความโกรธพลุ่งพล่านในใจของลั่วชิงยวน นางทุบสิ่งนั้นลงบนพื้นทันที หลังจากที่มันแตกเป็นเสี่ยง ๆ มีเข็มเหล็กแหลมคมซ่อนอยู่ในซากปีศาจนั้น ความหนาเท่าหัวแม่มือ ปกคลุมด้วยลวดลายสายฟ้าและอักษรรูน

“เห็นหรือยัง? สิ่งที่ล่อสายฟ้าไม่ใช่ของประดับนี่ แต่เป็นซากสายฟ้าที่ซ่อนอยู่ด้านใน!”

ทุกคนตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ?

ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงซีดเซียว แต่นางตอบสนองอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยความประหลาดใจ "ท่านพี่ ทำไมท่านถึงนำมันกลับเข้ามา! รีบนำมันออกไปเถิดเจ้าค่ะ! มันจะทำร้ายท่านอ๋องนะเจ้าคะ!"

ฟู่เฉินหวนมองไปที่ซูโหยว และซูโหยวก็เข้ามาหยิบสายล่อฟ้านั่นแล้วโยนออกไปนอกประตูทันที

ลั่วชิงยวนกอดอกและยิ้มอย่างเย็นชา "ซากนี้ไม่สามารถก่อให้เกิดฟ้าผ่าลงมาได้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ล่อสายฟ้าเท่านั้น และในตำหนักอ๋องแห่งนี้มีสิ่งนี้ซ่อนอยู่มากกว่าสิบชิ้น มันจะต้องวางไว้ในทิศทางต่าง ๆ เพื่อสร้างพลังบางอย่างเฉพาะ และเมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนองเท่านั้น ถึงจะสามารถดึงดูดสายฟ้า!"

"และลั่วเยวี่ยอิง เจ้าไม่เข้าใจข้อเท็จจริงแม้แต่ผิวเผินด้วยซ้ำ! เจ้าจงใจปกปิดความจริง และแอบอ้างความดีความชอบ เจ้ากลัวอะไรกันแน่?"

นางรู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงจะไม่ให้โอกาสนางทำประโยชน์ต่อหน้าฟู่เฉินหวน แม้ว่านางจะไม่ต้องการความดีความชอบนี้ แต่นางก็ไม่สามารถมองดูความเจ้าเล่ห์ของลั่วเยวี่ยอิงได้!

นางแค่ต้องการใช้โอกาสนี้ฉีกหน้ากากความเจ้าเล่ห์ของลั่วเยวี่ยอิงต่อหน้าสาธารณะเท่านั้น!

ลั่วเยวี่ยอิงไม่คาดคิดว่า คนโง่เขลาผู้นี้จะเข้าใจสิ่งเหล่านี้จริง ๆ แถมนางยังพูดอย่างชัดเจน และมีเหตุผล แต่นางกลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ใบหน้านางแดงผาดอย่างรวดเร็ว

"ข้า...ข้าไม่ได้..."

ลั่วเยวี่ยอิงไม่สามารถตอบโต้ได้ ดังนั้นนางจึงหันศีรษะไปทางฟู่เฉินหวน และร้องไห้อย่างเสียใจว่า "ท่านอ๋อง หม่อมฉันมิได้..."

"นอกจากการแสร้งร้องไห้ขอความเห็นใจ เจ้าทำอะไรได้อีก? หากเจ้ามีความสามารถจริงก็จงไปหาสิ่งล่อสายฟ้า และพิสูจน์ความสามารถของเจ้าสิ! พิสูจน์ว่า เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตทุกคนจริง ๆ !" น้ำเสียงของลั่วชิงยวนคมกริบราวกับมีด นางเปิดเผยลั่วเยวี่ยอิงอย่างไม่เกรงใจ

ลั่วเยวี่ยอิงกังวลมาก แต่นางทำได้เพียงร้องไห้

ขณะนั้นสายตาที่ซูโหยวมองลั่วเยวี่ยอิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หากนางเข้าใจสิ่งนี้จริง ๆ นางควรโต้เถียงลั่วชิงยวน แทนที่จะเอาแต่ร้องไห้

ในทางตรงกันข้าม ลั่วชิงยวนพูดถึงสิ่งล่อสายฟ้าได้อย่างชัดเจนและมีเหตุผล แม้ว่ามันจะฟังดูไร้สาระ แต่ก็มีสิ่งที่ล่อสายฟ้าอยู่จริง

และเครื่องประดับนั้น อยู่ที่นั่นก่อนที่ลั่วชิงยวนจะแต่งงานกับท่านอ๋องเข้ามาภายในตำนหนัก ดังนั้นจึงเป็นไปมิได้ที่ลั่วชิงยวนจะเป็นคนวางไว้ที่นั่นเพื่อแสดงละคร

"ท่านอ๋อง หม่อมฉัน... หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ ว่าสิ่งล่อสายฟ้าคืออะไร หม่อมฉันแค่คิดว่ามันน่าจะเป็นชั่วร้าย หม่อมฉันจึงหยิบมันออกไป หม่อมฉันมิเข้าใจเลยว่าสิ่งที่ท่านพี่พูดคืออะไร" ลั่วเยวี่ยอิงเงยหน้าขึ้นอย่างไร้เดียงสา ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักและน่าสงสาร

ลั่วชิงยวนคิดว่า หลักฐานอยู่ตรงหน้าฟู่เฉินหวนขนาดนี้ เขายังคงไม่ฟังความข้างเดียวของลั่วเยวี่ยอิงหรอกกระมัง?

สิ่งที่นางต้องการคือความยุติธรรม

แต่ทว่านางกลับโดนลั่วเยวี่ยอิงขโมยไป!

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้ เขาก็จ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเฉียบคม พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความโกรธ "นอกจากแข่งขันอำนาจ เจ้ายังทำอะได้อีก? ตำแหน่งพระชายาของเจ้าแท้จริงแล้วก็ควรจะเป็นของลั่วเยวี่ยอิง เจ้ายังกล้ามาเรียกร้องอะไรที่นี่อีก!”

“ออกไปซะ!” ฟู่เฉินหวนโกรธจัด

คิดว่าลั่วชิงยวนเป็นสายลับที่ฟู่อวิ๋นโจวส่งมา จุดประสงค์ของการเรียกร้องความดีความชอบนี้เพื่ออะไรกัน หรือนางต้องการได้รับความไว้วางใจจากทุกคน เพื่อที่จะได้เป็นสายลับที่อยู่เคียงข้างเขา!

เมื่อลั่วชิงยวนถูกตำหนิ นางก็โกรธขึ้นมาทันที

“หม่อมฉันบุ่มบ่ามเองที่ช่วยชีวิตท่านไว้ถึงสองครั้ง! ฟู่เฉินหวน ท่านเป็นหนี้ชีวิตหม่อมฉันสองครั้ง!”

นางหันไปด้วยความโกรธ

เมื่อเห็นฉากนี้ ซูโหยวก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนอาการไม่พอใจของลั่วชิงยวนนั้นเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรม ท่านอ๋องปรักปรำนางเช่นนั้นหรือ?

ด้านนอกฝนยังคงตกหนัก และมีฟ้าร้องคำราม เขาอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับลั่วชิงยวนหรือไม่ เขาจึงรีบออกไป ตั้งใจจะส่งคนสองคนพานางกลับไปที่ห้อง

อย่างไรก็ตาม ลั่วชิงยวนไม่ได้กลับไปที่ห้อง แต่นางเดินมาที่โถงทางเดินด้วยความโกรธ และย้ายหอกนั่นไปที่อื่น

ตัวล่อสายฟ้าอื่น ๆ ยังไม่ถูกเคลื่อนย้าย แม้ว่าตัวล่อในห้องจะถูกโยนเข้าไปในลานแล้ว การย้ายตัวล่อที่นี่ไปยังตำแหน่งอื่น สามารถสร้างพลังล่อสายฟ้าได้

ซูโหยวผู้ซึ่งเพิ่งเดินออกจากห้องและเห็นฉากนี้

วินาทีต่อมาก็มีเสียงดังโครมคราม

ฟ้าผ่าลงมาจากฟากฟ้า!

ฟ้าผ่าลงมาแทบจะในทันที ทำให้หลังคาแตก

“ท่านอ๋อง!” ซูโหยวอุทาน

ทันทีที่ฟ้าผ่าลงมาที่หลังคา ไฟก็ลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป ฝนตกหนักไม่ได้ทำให้ไฟดับในทันที แต่ไฟยังคงลุกลามท่วมเรือนทั้งหลังอย่างบ้าคลั่ง

“ท่านอ๋องระวังเพคะ!” ลั่วเยวี่ยอิงรีบพุ่งตัวใส่ฟู่เฉินหวน

บาดแผลของฟู่เฉินหวนเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขากัดฟันและลุกขึ้น รีบห่มผ้านวมและอุ้มลั่วเยวี่ยอิงออกจากห้อง

"ท่านอ๋อง! ท่านอ๋อง!" ซูโหยวกระวนกระวายจนอยากจะรีบเข้าไปในเรือน แต่ถูกไฟขวางเอาไว้

จู่ ๆ ลานบ้านก็วุ่นวาย เซียวชูพาองครักษ์เข้ามาช่วยผู้คนจำนวนมาก ทุกคนต่างถอดเสื้อผ้าออกแล้วตบเพื่อดับไฟ

ไฟมอดลงบ้างแล้ว แต่ทันใดนั้น สายฟ้าอีกเส้นหนึ่งก็ฟาดลงมา และจุดไฟให้ลุกไหม้ใหญ่กว่าเดิม

ตู้ม…

คานหัก

ในนาทีสุดท้าย ฟู่เฉินหวนรีบออกจากห้องพร้อมกับลั่วเยวี่ยอิงในอ้อมแขน ท่านหมอกู้เองก็รีบตามออกมาเช่นกัน

เมื่อพวกเขาก้าวออกมา เรือนทั้งหลังก็พังทลายลง

ลั่วชิงยวนไม่แปลกใจที่เห็นฉากนี้ นางรู้จักการก่อตัวเหล่านี้ดี และนางสามารถควบคุมทิศทางของสายฟ้าได้อย่างแม่นยำ สายฟ้านี้ไม่ได้เล็งไปที่เตียงของฟู่เฉินหวน นางไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าพวกเขา เพียงแค่ต้องการกำจัดความโกรธในใจ และสอนบทเรียนให้แก่เขาเท่านั้น

ดังนั้นนางจึงไม่แปลกใจเลยที่ฟู่เฉินหวนยังมีชีวิตอยู่ และออกมาจากห้องนั้น

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ฟู่เฉินหวนออกมา และมอบลั่วเยวี่ยอิงให้ซูโหยว สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่นางด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1512

    รอยยิ้มหยอกเย้าปรากฏบนริมฝีปากของฉีเฮ่า แววตาจาบจ้วงราวกับมองเห็นสตรีตรงหน้าถูกโยนเข้าไปในหมู่ทหารแล้วในชั่วขณะเดียว แววตาหยาบโลนนั้นก็จุดประกายเพลิงโทสะในใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น“สู้กันบนลานประลองนี้ ผู้ใดถูกผลักตกจากลานประลองก่อน ผู้นั้นแพ้!”จากนั้นลั่วชิงยวนก็ออกคำสั่งให้คนที่อยู่ในที่นั้นถอยออกไปผู้คุ้มกันทั้งหมดพากันถอยไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันออกไปบนลานประลองจึงเหลือเพียงลั่วชิงยวนและฉีเฮ่าสองคนฉีเฮ่ามองสำรวจลั่วชิงยวนด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม “เจ้ากล้าหาญถึงเพียงนี้ ข้าชื่นชมอยู่บ้าง”“เพียงแต่น่าเสียดายที่มิฉลาดนัก”ร่างอันบอบบางเช่นนี้ เขาสามารถชกให้ปลิวได้ในหมัดเดียวเสียด้วยซ้ำนางเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด จึงได้มาเดิมพันครั้งใหญ่กับเขาเช่นนี้?ในขณะนั้นเอง โฉวสือชีและฉีอวี้ก็ปรากฏตัวขึ้นในฝูงชนที่มามุงดูอยู่ แล้วมองเห็นร่างสองร่างบนลานประลองโฉวสือชีเหงื่อตกในใจกังวลว่าลั่วชิงยวนจะวู่วามเกินไปเมื่อฉีอวี้เห็นชายคนนั้นบนแท่นประลอง หัวใจก็เต้นผิดจังหวะฉีเฮ่ามาได้อย่างไร!ฉีอวี้ถอยหลังไปสองก้าวด้วยความกังวลโฉวสือชีสังเกตเห็นจึงหันกลับมามองนาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1511

    “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าได้ล่วงเกินท่านแม่ทัพใหญ่!”เมื่อได้ยินชื่อนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้ว แล้วเลิกคิ้วถาม “ตำแหน่งนี้ใหญ่มากนักหรือ?”“สมควรให้ข้าให้เกียรติด้วยหรือ?”เมื่อสิ้นคำนั้น สีหน้าของคนหลายคนก็พลันเปลี่ยนไปในทันทีอวี๋หลินตวาดว่า “ไร้ความรู้! ทั่วทั้งแคว้นหลีมีเก้าหัวเมือง แม่ทัพใหญ่ค่ายทหารอวิ๋นโจวคือผู้ปกครองสูงสุดของอวิ๋นโจว!”“เจ้ายังมิรีบมอบกระบี่หมื่นทิศอีก! เพื่อขอให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไว้ชีวิตอย่างไรเล่า!”ฉีเฮ่าเผยสีหน้ามิพอใจ ท่าทีสูงส่งราวกับกำลังรอให้ลั่วชิงยวนคุกเข่าขออภัยแล้วมอบกระบี่หมื่นทิศให้ผู้คนโดยรอบต่างอุทานด้วยความตกใจ“แม่ทัพใหญ่ค่ายอวิ๋นโจวหรือ? ถึงกับมาตลาดมืดเลยหรือนี่”“ได้ยินมาว่า ค่ายอวิ๋นโจวคือค่ายที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเก้าหัวเมือง มิใช่เพียงทหารที่แข็งแกร่ง แม่ทัพก็ยังแข็งแกร่งยิ่งนัก!”“หากตลาดมืดกล้าล่วงเกินพวกเขา เมืองป้านกุ่ยคงจะต้องถูกทำลายมิใช่หรือ?”ฉีเฮ่าฟังคำพูดเหล่านั้นแล้วยิ่งพึงพอใจตลาดมืดเล็ก ๆ นี้จะกล้าล่วงเกินค่ายอวิ๋นโจวได้อย่างไร?ทว่าลั่วชิงยวนกลับยังคงมีสีหน้าสงบ มิได้แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อยนางกลับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1510

    อวี๋หลินหวาดกลัวและตื่นตระหนก เขาตะโกนลั่น “อย่า ๆ! พูดจากันดี ๆ ก่อนเถิด!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มเย็นชา “นี่มิใช่ว่าเจ้าเป็นคนเดิมพันเองหรอกรึ? เจ้ามิได้ต้องการให้ข้าเป็นอนุของเจ้าหรอกหรือไร?”“หามิได้ ๆ” อวี๋หลินกลืนน้ำลายอย่างตื่นตระหนก“สายไปแล้ว” ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง ในดวงตาฉายแววมุ่งสังหารยกมือขึ้นเงื้อกระบี่ฟันเข้าที่แขนของอวี๋หลินอย่างแรงเมื่อสัมผัสได้ถึงคมกระบี่อันแหลมคม อวี๋หลินก็กรีดร้องออกมาแต่ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็ร่วงลงมาจากฟ้ากระบี่บินพุ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนรีบยกกระบี่ขึ้นปัดป้องร่างนั้นฉวยโอกาสกระโจนเข้ามาช่วยอวี๋หลินหนีไปได้ระยะห่างถูกขยายกว้างออกไปลั่วชิงยวนมองคนที่ช่วยอวี๋หลินไป เห็นอวี๋หลินกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณ จูลั่ว”เมื่อกล่าวจบ อวี๋หลินก็เช็ดเหงื่อ มือยังคงสั่นเทาเขาเกือบจะเสียแขนไปแล้วลั่วชิงยวนได้ยินชื่อนี้แล้วก็ประหลาดใจเล็กน้อยจูลั่ว หนึ่งในสิบปรมาจารย์กระบี่ผู้เก่งกาจ เขาอยู่อันดับที่สองถึงแม้จะรองจากฝูเหมิ่ง แต่ชื่อเสียงกลับมิได้โด่งดังเท่าฝูเหมิ่ง เพราะฝูเหมิ่งสามารถบรรลุถึงขั้นที่คนกับกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่งได้แต่จูลั่วทำมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1509

    เงินทองมากมายถึงเพียงนั้น ต่อให้พวกเขาต้องรวบรวมจากทั่วทั้งตลาดมืดก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วยามคราวนี้ลั่วชิงยวนจะแก้สถานการณ์อย่างไร!หนนี้หากนางก่อเรื่องใหญ่ ท่านอาของเขาต้องมิปล่อยนางไว้แน่ขอเพียงนางจากไป ว่าที่เจ้าเมืองแห่งเมืองป้านกุ่ยก็จะต้องเป็นเขา!บรรยากาศในลานประมูลเริ่มควบคุมมิได้มากขึ้นทันใดนั้นเอง เงาร่างที่สะท้อนอยู่บนม่านหน้าต่างก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วเดินมายังริมหน้าต่างมือเรียวยกม่านขึ้นจากนั้นเสียงใสก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเช่นนั้นเราเปลี่ยนสถานที่กันเถิด เพื่อให้เจ้าได้เห็นว่าข้าประมูลกระบี่หมื่นทิศมาได้ด้วยเงินหนึ่งล้านตำลึงได้อย่างไร”อวี๋หลินตกใจ พลางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกัดฟันกล่าว “ย่อมได้! ข้าจะดูว่าเจ้าจะใช้กลอุบายอันใดอีก!”ดังนั้นพวกเขาจึงมายังลานประลองด้านหลังลานประมูลค่ำคืนนี้ไม่มีใครใช้ลานประลอง ที่นี่กว้างขวาง เหมาะสำหรับวางเงินผู้คนในลานประมูลต่างพากันตามมาดูข่าวแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ดึงดูดผู้คนให้มาชมมากขึ้นเรื่อย ๆอวี๋หลินรีบให้คนยกเงินสดมา แล้วหัวเราะเยาะเสียงเย็น “ข้ามิเชื่อว่าเจ้าจะนำเงินมากมายถึงเพียงนั้นมาได้”จากนั้นก็ให้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1508

    “เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเผยรอยยิ้มนางสัมผัสได้ถึงความรักที่พ่อบุญธรรมมีให้นางอย่างแท้จริง ความรู้สึกที่ถูกดูแลประคบประหงมราวกับเด็กน้อยนี้ มิเคยได้รับอีกเลยนับตั้งแต่ท่านอาจารย์ลั่วกับท่านอาลั่วหรงจากไป......สามวันต่อมา ในที่สุดกระบี่หมื่นทิศเล่มนั้นก็ถูกนำมาจัดแสดงที่ลานประมูลทองคำแต่ก่อนหน้านั้น ลั่วชิงยวนได้ไปพบชายผู้นั้นเป็นการส่วนตัวเพื่อหารือเรื่องราวบางอย่าง และได้ตกลงความร่วมมือกันบางประการแล้วการประมูลเริ่มต้นขึ้น ค่ำคืนนี้ในลานประมูลมีผู้คนแน่นขนัด เกือบทั้งหมดล้วนมาเพื่อกระบี่หมื่นทิศเมื่อกระบี่หมื่นทิศถูกนำออกมา เห็นได้ชัดว่ามีเสียงฮือฮาดังขึ้นจากทุกห้องเสียงของอวี๋หลินดังขึ้นเป็นเสียงแรก “หนึ่งแสนตำลึง!”ราคานี้ตัดความหวังของคนมากมายไปทันทีโฉวสือชีเสนอราคา “สามแสนตำลึง”อวี๋หลินหมอบอยู่นอกหน้าต่าง เหลือบมองมาทางแวบหนึ่ง จากนั้นก็กัดฟันคำราม “ห้าแสนตำลึง!”การเดิมพันครั้งนี้เป็นการเดิมพันกันอย่างเปิดเผย แท้จริงแล้วก็คือการประลองว่าใครมีเงินมากกว่ากันประลองกันว่าใครสามารถนำเงินสดมาได้มากกว่าหลังจากอวี๋หลินตะโกนราคาห้าแสนตำลึงแล้วมิได้ยินเสียงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1507

    “เจ้าต้องการจะประลองอย่างยุติธรรมเช่นไร?”อวี๋หลินเกรงว่าตนเองจะถูกขับไล่แล้วจะพลาดกระบี่หมื่นทิศไปเขาจึงรีบกล่าว “ประมูล! เราจะประลองกันอย่างยุติธรรม ใครให้เงินมากกว่า คนนั้นก็จะได้กระบี่หมื่นทิศไป!”“ต้องเป็นเงินสดเท่านั้น!”อวี๋หลินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเขาดูเหมือนจะมั่นใจว่าในตลาดมืดไม่มีเงินสดมากมายถึงเพียงนั้นเงินสดทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ที่นี่เป็นเงินที่ใช้ในการค้าขายอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ตลาดมืดจะหักส่วนแบ่ง แต่ก็มิมาก อีกทั้งยังต้องเลี้ยงดูคนในตลาดมืดมากมายถึงเพียงนี้ เงินสดที่หมุนเวียนจึงมิสามารถนำมาใช้ได้อวี๋หลินเคยอยู่ที่นี่มาก่อน เขาจึงเข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีลั่วชิงยวนยกยิ้ม “ดีสิ เช่นนั้นก็ประมูลกันอย่างยุติธรรม”นางมิได้สนใจกระบี่หมื่นทิศนี้เลย เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในบรรดากระบี่ที่ฝูเหมิ่งสร้างขึ้น กระบี่หมื่นทิศก็มิได้จัดอยู่ในอันดับต้น ๆเพียงแต่เห็นอวี๋หลินหมายมั่นปั้นมือที่จะได้ของสิ่งนี้ นางก็พลันอยากจะแกล้งเขาดูว่า เขาจะยอมทุ่มเทให้กระบี่เล่มนี้มากเพียงใดอวี๋หลินจึงกล่าวคำท้า “ดี! เช่นนั้นเพิ่มเดิมพันอีกอย่างดีหรือไม่?”“เดิมพันกระไร?”“หากเจ้าแพ้ เจ้าต้อง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status