'พราวนภา’ แม่ม่ายสาวทรงเสน่ห์ที่หย่าขาดจากสามีเก่าไปหลายสิบปี แต่จะเป็นเช่นไร หากพราวนภาโคจรมาพบกันกับสามีเก่าของเธอในวันงานอบรมในวงการน้ำหมึก
ดูเพิ่มเติม“แม่คะ ลัลไปนอนก่อนนะ” ลัลลาวีร์เอ่ยขึ้นขณะลอบมองมารดาของตนเองกำลังง่วนอยู่กับหน้าจอคอม
“ไปสิจ้ะ ลูก” พราวนภาเอ่ยแล้วเงยหน้าขึ้นบอกลูกสาวเสียงหวาน
พราวนภามองจนลัลลาวีร์เดินขึ้นบันไดบ้านหายลับตาไปแล้ว หญิงวัยกลางคนจึงก้มหน้ามามองงานตนเองต่อ
งานของพราวนภาเป็นงานเขียนนวนิยายขนาดยาว แม้จะได้เงินไม่มากนักแต่ก็มากพอที่จะประคองชีวิตเธอกับลูกสาววัยเยาว์ได้
พราวนภาอาศัยอยู่กับลูกสาวสองคน เธอหย่าขาดกับสามีไปตั้งแต่ลัลลาวีร์ยังเป็นวัยรุ่นจวบจนปัจจุบันนี้เธอยังไม่มีใครใหม่แม้ว่าเธอจะเริ่มเหงาบ้างก็ตาม...
นักเขียนสาวใหญ่สะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดไม่เข้าท่าออกไป แล้วเบือนหน้ามาก้มหน้าก้มตาเขียนนวนิยายต่อ
งานเขียนของพราวนภาเป็นงานเขียนนิยายรักโรมานซ์ทั่วไป หากแต่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักอ่าน
ขึ้นติดอันดับหนึ่งในห้าเว็บไซต์ดังหลายเว็บไซต์
พราวนภามักจะใช้ชื่อนามปากกาว่า 'พลอยเพทาย'
สำหรับเขียนนิยายโรมานซ์สิบแปดบวกโดยเฉพาะ
“ตึ๋ง” เสียงข้อความดังขึ้นในกล่องข้อความ gamailที่แม่ม่ายสาวเปิดอยู่
มือเรียวสวยเอื้อมคลิกเมาส์อย่างรวดเร็วในกล่องข้อความเมื่อเห็นเป็นอีเมล์ใหม่
“ใครกันนะ ส่งเมล์มาในเวลานี้” พราวนภาเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยเล็กน้อย
ภาพในหน้าจอคอมปรากฎภาพโปสเตอร์เขียนว่า
ขอแสดงความยินดีด้วย เรื่องสั้นที่คุณพราวนภา สุเวชวัฒนา ผ่านเข้ารอบคัดเลือกเข้าโครงการอบรม
“สานฝัน สืบงานเขียน”
ดวงตาคู่งดงามของแม่ม่ายสาวเบิกกว้างขึ้นยามเมื่อได้อ่านอีเมล์ฉบับนั้น
“เยี่ยม พราวนภามันต้องอย่างนี้” เสียงหวานแหลมเอ่ยขึ้นเเล้วกำหมัดอย่างแรง
ความใฝ่ฝันของพราวนภาคือการได้เฉิดฉายบนวงการน้ำหมึกสักรอบ
พราวนภาลอบมองตนเองในกระจก ภาพที่สะท้อนเบื้องหน้าของแม่ม่ายสาวคือ ใบหน้าผ่องนวลสวย คิ้วโก่งโค้งได้รูปสวย ดวงตาคู่กลมโต หากแต่เปล่งประกายระยับและริมฝีปากอันบางเฉียบ
สาวใหญ่เอื้อมจับริมฝีปากตนเองอย่างเเผ่วเบา
ภาพในอดีตผุดพรายขึ้นมาราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานคืน
“อื้ม” เสียงหวานใสครางลอดออกมาจากใน
ห้องน้ำผับแอนด์บาร์แห่งหนึ่ง
พราวนภาร้องครางเสียงหลงยามเมื่อมือหนาของธนูเอื้อมมาใกล้กับกระโปรงของเธอ
ธนูถลกกระโปรงของพราวนภาขึ้นแล้วบรรจงใช้นิ้วเรียวสอดไปในช่องทางสวรรค์
นิ้วมือเรียวของธนูดั้นเข้าไปอย่างซุกซน พราวนภาสัมผัสได้ราวกับตนกำลังโผผินบินได้ดั่งใจหมาย
พราวนภาครวญกระชั้นยามเมื่อธนูขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ
แววตาคู่นั้นเบิกกว้างกว่าเดิม ยามเมื่อริมฝีปากบางบดขยี้จูบอย่างรุนแรง
หญิงสาวรู้สึกราวกับนกผกผินได้ เมื่ออารมณ์ของเธอเตลิดจนกู่ไม่กลับ
“คุณหลินคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงหวานแหลมเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว“คุณจิล!” หลินเลขาสาวเอ่ยอย่างตระหนกกว่าเดิมภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าคือภาพหญิงสาวสวมชุดเดรสสั้นกุด หญิงสาวตาสวยคนนั้นฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงตัวสวย“จะอะไรได้ล่ะคะ ก็เมื่อกี้ท่านรองออกไปกับคุณพราวนภานะซิคะ” เสียงหวานใสของหลินเอ่ยอย่างแผ่วเบา หากแต่ก็ดังพอที่ธนูจะได้ยินพอดิบพอดี“พี่ชอบที่นี่ไหม...พี่พราว” เสียงเรียกของธนพทำให้พราวนภาที่กำลังเหม่อลอยได้สติขึ้นมา“ค่ะ ก็ดี” พราวนภาตอบอย่างเลื่อนลอย“พี่คิดถึงลูกเหรอ” ธนพเอ่ยถามพราวนภาชะงักมีดที่พร้อมจะหั่นชิ้นเนื้อสเต็กที่กำลังสุกได้ที่“ก็คิดถึงนะ แต่คิดถึงอย่างอื่นมากกว่า” ม่ายสาวตอบเสียงแผ่วเบา“คิดถึงอะไรเหรอครับ” ธนพถามต่อขณะที่พราวนภาม่ายสาวทรงเครื่องกำลังเคี้ยวแก้มป่องเมื่อครู่นี้ ธนพพาหญิงสาวมายังริมหาด พราวนภาสวมชุดแมกซี่เดรสธนพสังเกตเห็นทรวงอกอวบอิ่มซุกซ่อนภายเดรสหวาบหวิว แม้จะไม่เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งชักกระนั้นกลับเรียกสาวตาหนุ่มๆจ้องมองกันเกรียว ‘อุตสาห์เลือกที่มิดชิดแล้วนะนี่’ ชายหนุ่มคิดในใจหนุ่มหล่อสังเกตอากัปกิริยาของอดีตพี่สะใภ้สาว เพียงแค่พราวนภายิ
“อ้า” พราวนภาอดครางไม่ได้ยามเมื่อธนพสอดนิ้วเข้ามายังช่องทางสีสวย ขณะเรือนกายทั้งสองเปลือยเปล่าธนพดันร่างพราวนภาลงบนเตียงหนานุ่มแล้วลอบมองดวงหน้างามอย่างหื่นกระหาย“พี่พราว...ผมอยากลองกับแตงกวากับพี่” มือหนานุ่มเอื้อมหยิบแตงกวาล้านที่ซื้อมาจากตลาดแถวพัทยาก่อนเดินทางเข้ารีสอร์ท“ค่ะ” พราวนภาตอบรับเพียงสั้นๆ หญิงสาวกลืนน้ำลายก้อนเหนียวลงคอตั้งแต่เกิดมาพราวนภาเพิ่งเคยเจอเรื่องตื่นเต้นก็วันนี้ธนพจับเรียวขางามถ่างออกอย่างเชื่องช้า มือหนานุ่มหยิบแตงกวาขนาดเขื่องจ่อเข้าที่ช่องทางสีชมพูหวานอย่างลืมตัวมือเรียวถูไถแตงกวาอยู่อย่างนั้น พราวนภากระตุกวูบ ความหวาบหวามในดวงใจที่ซุกซ่อนเผยขึ้นมาทันทีม่ายสาวรับรู้ได้ถึงแรงปรารถนาที่สุมกายาของเธอ หยาดน้ำเริ่มไหลออกมาด้วยแรงปรารถนาลุ่มลึกธนพดันแตงกวาขนาดเขื่องเข้าไปเชื่องช้าแล้วขยับเข้าออกตามจังหวะ“อ้า...นพ...พี่ไม่ไหวแล้ว” เสียงหวานแหลมดังออกจากริมฝีปากดิรูปสวยธนพบรรจงประกบปากกับเรือนกายที่นอนกระตุกอยู่บนเตียงหนานุ่มขนาดคิงไซส์ในห้องนอนสุดหรูหราที่เขาจองมาเพื่อใช้วันนี้โดยเฉพาะมือหนายังคงควานด้วยแตงเขื่องอย่างนึกสนุก ความดิบเถื่อนเข้าครอบงำแรงอา
ด้วยความสงสัยพราวนภาเดินไปดูหน้าบ้าน แม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์กวาดสายตา ไปบริเวณหน้าบ้านภาพที่ปรากฏ ตรงหน้าอดทำให้พราวนภาตะลึงไม่ได้“เป็นเขานั่นเอง” ธนพ ทายาทเพียงคนเดียว ของ ตระกูลดิเรกสิงหะ กำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านคฤหาสน์ที่แยกตัวจากถนนเหตุการณ์เมื่อวานยังคงติดตรึงในใจของพราวนภาดวงหน้าหวานแต้มสีเรื่อจางๆคิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด แม่ม่ายสาวอย่างพราวนภารู้สึกถึงความปั่นป่วนในห้วงใจ ของหล่อนเองเวลานี้เธอจะให้ลัลลาวีร์รู้เรื่องนี้ไม่ได้นะ คิดสิ พราวนภาคิดในใจ หากแต่เวลานี้พราวนภาสาวเท้าออกไปเพื่อเปิดประตูมาเพื่อให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของพราวนภาไม่สงสัย ว่ามารดาของเธอหายไปไหนมาทั้งคืนพราวนภาแม่ม่ายสาว เดินออกไป ม่ายสาวสวมรองเท้าแตะคีบสีดำตัดกับปลายเท้าสะอาดขาวผ่องของเธอ พราวนภาสืบเท้าออกไป ใกล้ประตูรั้วบ้าน สายลมเย็นเวลานี้พัดกรีดผิวของหญิงสาว “มาทำไมรึ” พราวนภาเอ่ยถามอย่างตระหนกเล็กน้อย “อ้าวพี่พราว” ธนพเอ่ยขึ้น พลางชูกระเป๋าสะพาย ของพราวนภาขึ้นมา“พอดีผมเอากระเป๋ามาคืนครับ” ธนพเอ่ยอย่างเป็นต่อ“ขอบคุณค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้น แล้วกุลีกุจอ เปิดประตูรั้วบ้านให้กับเขา
“พราวผมส่งแค่นี้นะ” ธนูเอ่ยขึ้นขณะจอดรถใกล้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่พราวนภาอาศัยอยู่“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างเลื่อนลอยมือเรียวสวยเอื้อมเปิดประตูรถสปอร์ตแล้วก้าวลงมาจากรถอย่างรวดเร็วพราวนภาสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอดินหลังฝนตกหมาดๆเธอค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยพราวนภาเดินออกไปจากบริเวณเดิมนานแล้ว หากแต่ธนูยังคงจับจ้องมองยังเรียวขาขาวนวลอย่างเผลอไผลเรือนกายขาวผ่องที่เขาแตะต้องเธอเพียงไม่กี่ครั้งยังคงติดตราตรึงเข้าไปในโสตประสาทของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธนูยกมือขึ้นลูบคางอย่างใช้ความคิด คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิดเพียงเสี้ยววินาทีเดียวที่หนุ่มใหญ่คิดออก เขาถอยรถออกจากบริเวณบ้านของพราวนภาออกไปในทันที“แม่คะ หายไปไหนมา” ลัลลาวีร์ในวัยมัธยมต้นวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหามารดา“พอดีแม่เจอเพื่อนเก่านิดหน่อย เลยแวะทักทายเขานานไปหน่อย” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างรู้สึกผิด“ไม่เป็นไรค่ะ ลัลหิวข้าวแล้ว” เด็กสาวยกมือขึ้นลูบท้องอย่างเคยชินพราวนภาอดน้ำตาซึมไม่ได้ในฐานะคนเป็นแม่ ม่ายสาวจูงมือลูกสาวเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีสายตาของธนพแอบมองตามลัลลาวีร์ไม่วางตาธนพที่ซ่อนตัวแอบดูพฤติกรรมของพี่สะใภ้สาว
แม่ม่ายทรงเครื่องสัมผัสได้ว่า ธนูแทรกตัวผ่านช่องทางสวรรค์ของเธออย่างไม่ปรานี กระนั้นในโพรงปากกับมีแท่งไอติมเขื่องธนพคาอยู่ธนพจับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างแผ่วเบาที่สุด หากแต่พราวนภากลับรู้สึกพึงใจต่อเหตุการณ์เช่นนี้อย่างถึงที่สุดตั้งแต่เกิดมา พราวนภาไม่เคยรู้สึกราวกับผกผินได้เช่นนี้มาก่อน ม่ายสาวรู้สึกนี่คือสวรรค์รำไรของเธอขณะที่พราวนภาตกอยู่ในภวังค์ห้วงวสุข ธนูเองก็ขยับเข้าออกช่องทางสวาทของเธออย่างเป็นจังหวะบทบรรเลงเกมกามารมณ์เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดธนพเองก็จับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างไม่หยุดหย่อนดวงหน้าคมคายคล้ายธนูแหงนขึ้นอย่างกระสันต์ถึงที่สุดเฉกเช่นเดียวกับพราวนภา ธนพอดร้องครางออกมาราวกับสิงห์คำรามไม่ได้เช่นเดียวกันกับธนูหนุ่มใหญ่อดรู้สึกไม่ได้เลยว่าเขาชอบบทเพลงรักที่แสนจะดุเดือดแบบนี้มากเพียงใด ยิ่งยามเห็นแววตาของพราวนภาที่แสดงออกถึงความสุขที่เธอไม่เคยได้รับทำให้เขายิ่งกระแทกเธอแรงกระชั้นขึ้นกว่าเดิมธนูอดรู้สึกดีไม่ได้ เขามักจะแข็งตัวทุกครั้งที่เห็นฝ่ายหญิงเป็นหมากเบี้ยล่างอย่างนี้ ยิ่งยามนี้ได้เห็นภรรยาเก่าของเขาสุขสันต์ยิ่งสร้างความกระหายให้เขาอย่างหาที่สุดไม่ได้ลม
พราวนภาอดตอบรับสัมผัสนั้นไม่ได้ ม่ายสาวแอ่นเรือนกายขาวผ่องตอบสนองต่อแรงปรารถนานั้นทันที “อ๊า” พราวนภาครวญเสียงหวานอย่างเผลอไผลธนูลอบสังเกตอย่างเงียบกริบ หนุ่มใหญ่อดรู้สึกหวามใจไม่ได้ ดวงตาคู่คมเปล่งประกายระยับกว่าเดิมหนุ่มใหญ่ไม่รอช้าถลันเข้าหาหุบเขาแห่งมวลหมู่ดอกไม้ที่เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมทันที“อ๊าย” พราวนภาร้องครางเสียงหลง ยามเมื่อทายาทอันดับแรกดอมดมกลีบดอกไม้ของเธอ ขณะเดียวกันกับที่ธนพยังคงเล้าโลมเธอด้วยริมฝีปากอย่างยั่วเย้าหนุ่มใหญ่สะบัดลิ้นไปมาอย่างกระสันต์เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธนพบดจูบขยี้ริมฝีปากของพราวนภาพราวนภารู้สึกราวกับนี่คือภาพฝัน ม่ายสาวทรงเครื่องอย่างเธอกลับถูกพี่น้องสองคนรุมเร้าด้วยแรงปรารถนาอย่างสุขสันต์...นี่ซิความสุขอย่างแท้จริงสาวใหญ่เริ่มปลดปล่อยอารมณ์ให้เตลิดราวกับดอกบัวพลิ้วเอนไหวไปตามแรงลม “พี่พราวชอบไหมครับ” ธนพเอ่ยดวงดวงหน้าแดงระเรื่อ ขณะมือยังคงเคล้นคลึงทรวงอกอิ่มได้รูปสวยอย่างมันส์มือ“อื้ม” พราวนภาตอบรับเพียงสั้นๆ“พราวเราสองคนพี่น้องชอบคุณมานานแล้ว แต่ธนพไม่กล้าที่จะบอกออกไป” ธนูเอ่ยขึ้นดวงหน้าคมคายของเขาแต้มรอยยิ้มจริงใจที่สุดเท่าที่พราวนภาเคย
ความคิดเห็น