เมื่อเฮดว๊ากสุดโหดของวิศวะ ค้นพบความลับของยายเฉิ่มที่เป็นคู่กัดตนเองเข้าโดยบังเอิญ จึงนำมาเป็นข้ออ้าง พอได้ใกล้ชิดกลับเป็นเขาที่หวั่นไหว
더 보기ท่ามกลางความเงียบสงบในยามเช้า อยู่ ๆ เสียงกดกริ่งก็พลันดังสวนขึ้นมาจนสามารถดึงความสนใจของแม่บ้านที่กำลังทำสวนในยามเช้า เธอเดินออกมาหาเพื่อดูว่าใครคือต้นเสียงดังกล่าว ก่อนจะพบเข้ากับบุรุษไปรษณีย์ที่ยืนรอตรงตู้จดหมายที่อยู่หน้ารั้ว
“จดหมายมาส่งครับ ผมเห็นว่าเป็นมีเอกสารสำคัญด้วยเลยไม่กล้าเหน็บไว้ นี่ครับ” บุรุษไปรษณีย์คนนั้นเอ่ยบอกหญิงสาววัยกลางคนก่อนจะยืนซองเอกสารที่ว่าให้กับอีกฝ่ายหลังจากที่พูดจบอย่างรวดเร็ว
วินาทีนั้นเธอรับจดหมายปึกใหญ่ ๆ มาไว้ในมือ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นชื่อจริงและนามสกุลจริงของคุณหนูปรากฏอยู่บนจดหมายที่บุรุษไปรษณีย์บอกเอาไว้ว่าสำคัญเป็นอย่างมาก
“ขอบใจจ้ะ” เธอเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งปิดประตู หลังจากนั้นก็รีบสาวเท้าเดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังโต เพื่อส่งมอบจดหมายฉบับดังกล่าวให้กับผู้เป็นเจ้าของ
แต่ในขณะที่กำลังจะสาวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน อยู่ ๆ เสียงเรียกของคุณผู้หญิงก็พลันดังสวนขึ้นมาจนเธอชะงักงัน แล้วให้ความสนใจไปยังอีกฝ่ายแทบจะทันที
“ทิพย์ นั่นจดหมายใครเหรอ?” ผู้เป็นนายเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก่อนที่จะเบนสายตามองไปยังจดหมายในมือของทิพย์
“มีเยอะเลยค่ะคุณผู้หญิง แต่เห็นว่ามีเอกสารสำคัญส่งมาถึงคุณหนู ทิพย์ว่าจะเอาขึ้นไปให้บนห้องน่ะค่ะ”
“จดหมายสำคัญอะไร เอามาให้ฉันดูหน่อย”
“นี่ค่ะคุณผู้หญิง” เธอยื่นจดหมายให้กับคุณหญิงอร แล้วจึงค่อย ๆ ถอยหลังออกมาอย่างมีมารยาท
สายตาทั้งสองคู่ไล่อ่านข้อความบนเอกสารแผ่นนั้นด้วยความตั้งใจ ก่อนจะรับรู้ถึงเรื่องราวของลูกสาว ที่เธอไม่เคยได้รับรู้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น ญาณิน ก็ปรากฏตัวขึ้น เธอเดินลงมาจากชั้นบนด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายราวกับว่าไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต อยู่ใต้อาณัติของพ่อกับแม่ไปวัน ๆ เท่านั้น
ทว่าในเวลานั้นเธอไม่ได้ทันสังเกตเห็นว่าผู้เป็นแม่กำลังถือวิสาสะอ่านเอกสารสำคัญของเธออยู่ จึงเดินตรงดิ่งไปยังโต๊ะอาหาร เพื่อดูว่าเช้านี้ ป้าทิพย์เตรียมอะไรไว้ให้เธอบ้าง
“ยายณิน นี่มันอะไร?” คุณหญิงอรเอ่ยถามพร้อมกับยื่นเอกสารแผ่นนั้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าของลูกสาว และต้องการให้เธออธิบายขยายความกับเรื่องราวนี้ให้กระจ่าง
“แม่หมายถึงอะไรคะ ณินไม่เข้าใจ”
“เอกสารนี้เป็นขอลูกไม่ใช่หรือไง จะสอบเข้าสถาปัตย์เนี่ยนะ คิดดีแล้วเหรอ?”
“ว่ายังไงนะ นี่ลูกจะเข้าคณะสถาปัตย์เหรอ”
ในเวลาเดียวกันอยู่ ๆ ผู้เป็นพ่อก็ดันเดินลงมาจากชั้นบน ได้ยินบทสนทนาของแม่ลูกเข้าได้อย่างพอดิบพอดี ซึ่งเขาเองก็มีความเห็นเช่นเดียวกันกับภรรยา จึงรีบเอ่ยประโยคสมทบเธอในทันที
ทว่าทั้งหมดทั้งมวลนั่นก็เพราะว่าพวกท่านต่างก็เป็นห่วงลูกสาว ถึงขนาดแค่เห็นคณะที่ญาณินเลือกเรียนด้วยตัวเองก็ตัดสินกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วว่าเธอไม่มีทางเรียนไหวเป็นแน่
“ไหวไม่ไหวมันก็เป็นเรื่องของอนาคตนี่คะ พ่อกับแม่จะมากดดันณินเพื่ออะไร อีกอย่างทางของณิน ณินจะเลือกเอง”
หญิงสาวโต้กลับด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ญาณินเพียงแค่ไม่ชอบให้พ่อกับแม่ของเธอเป็นแบบนี้...ก็เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเธอพยายามทำตามคำสั่งของพวกท่านมาโดยตลอด แต่มันก็พิสูจน์ให้เธอเห็นว่าเธอไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่พ่อแม่เลือกให้เลยสักนิดเดียว
“พ่อว่าลูกไม่ไหวหรอก เลือกคณะที่มันเรียนง่าย ๆ จะดีกว่า อย่าทำอะไรที่มันเกินตัวจนเกินไป ไม่อย่างนั้นวันหนึ่งไม่ไหวขึ้นมา มันจะเสียเวลาเอาเปล่า ๆ นะ” คำพูดดังกล่าวส่งผลให้ญาณินถึงกับหยุดชะงักอยู่กับที่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่พ่อของเธอแทบจะทันที
“พรุ่งนี้ณินย้ายไปอยู่หอ ส่วนเรื่องเรียนให้มันเป็นเรื่องของอนาคตนะคะ ได้ไม่ได้ ณินก็ไม่เสียใจหรอก เพราะณินเลือกมันเอง ขอตัวขึ้นไปเก็บของก่อนนะคะ”
“ลูกจะไปได้ยังไง กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนเดี๋ยวนี้เลยนะ ยายณิน!!” เมื่อเห็นว่าลูกสาวเดินกลับขึ้นไป ผู้เป็นแม่ก็ได้แต่ตะโกนตามหลังของลูกสาวตัวดีไปอย่างหมดความหวัง
แต่ก่อนญาณินเองก็อยู่ภายใต้คำสั่งของพ่อกับแม่เสมอมา แต่พักหลัง ๆ เมื่อเธอเริ่มรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นก็อยากที่จะมีความคิด และได้ตัดสินใจบางสิ่งบางอย่างด้วยตัวเอง
อีกอย่างการได้ไปอยู่หอคนเดียวก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะส่งเสริมให้เธอกลายเป็นเด็กคนหนึ่งที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม แต่ก็ดีกว่าที่ต้องมาคอยทำตามคำสั่งของพ่อกับแม่ไปวัน ๆ อยู่ดี...
หลังจากที่ปะทะคารมกับพ่อแม่อยู่สักพัก ญาณินขึ้นมาเก็บของบนห้องนอน เธอโน้มตัวลงนอนบนเตียง ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาด้วยความหนักใจอย่างถึงที่สุด
อันที่จริงเธอเองก็แอบใจหายที่ต้องจากบ้านไปอยู่หอเพียงตัวคนเดียว หากแต่ลึก ๆ ก็รู้สึกดีที่จะได้ออกไปใช้ชีวิตเหมือนอย่างวัยรุ่นคนอื่น ๆ บ้าง เธอดักดานมานานเกินพอแล้ว
เมื่อคิดได้แบบนั้น เธอก็รีบลุกขึ้นมาเก็บสัมภาระต่าง ๆ เข้ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่อย่างไว ทั้งเสื้อผ้าข้าวของที่เคยใช้เธอเก็บไปจนหมด เธอเสียดาย เพราะคิดว่าคงไม่ได้กลับมาพักที่บ้านบ่อย ๆ คงอยู่หอจนหนำใจกันไปข้างหนึ่งแน่นอน
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ
ตอนที่ 98หลายสัปดาห์ต่อมา...“ญา วันนี้ไปเที่ยวกันไหม?” นอร์ทเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แฟนสาว ก่อนที่จะเอ่ยถามความเห็นของเธอ หลังจากที่ได้ไอเดียดี ๆ มาจากเพื่อนรัก“ไปเที่ยวที่ไหนคะ เดี๋ยวอีกสองวัน ก็จะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนี่คะ”“ก็ช่วงนี้มันน่าเบื่อ เราไปเที่ยวในกรุงเทพฯ กันก่อนก็ได้ อีกอย่างวันนี้หนูก็ไม่มีเรียน พี่อยากพาไปที่ที่หนึ่ง”“ไปได้ค่ะ ว่าแต่ที่ไหนเหรอคะ”“สวนสนุก”เมื่อความต้องการของนอร์ทเป็นเช่นนั้น มีหรือที่ญาณินจะขัด ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากมาเที่ยวเป็นเพื่อนตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ก็ไม่คิดเลยว่าสถานที่ที่นอร์ทพาเธอมา จะสวยแล้วก็ดูมีอะไรให้น่าทำเยอะแยะเต็มไปหมด“เป็นไงบ้าง? ชอบไหม?”“พี่พาญามาทั้งทีก็ต้องชอบสิคะ ว่าแต่พี่ไปรู้ที่ดี ๆ แบบนี้มาจากไหน ทำไมญาไม่คุ้นตามาก่อนเลย”“ที่นี่เป็นสวนสนุกเปิดใหม่ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คนก็เลยยังน้อย แต่เพื่อนพี่บอกกันมาปากต่อปากว่าที่นี่เหมาะแก่การสารภาพสุด ๆ”วันนี้เป็นอีกวันที่นอร์ทชาร์ตพลังมาเต็มร้อย เขาพยายามทำให้แฟนสาวประทับใจในการมาเที่ยวผ่อนคลายครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ญาณินจึงเห็นเขายิ้มแย้มและดูสดใสร่าเริงต
ตอนที่ 97นับจากวันที่เข้าไปปรึกษากับพ่อและแม่จนถึงปัจจุบัน เวลาผ่านมาเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเต็ม ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องงานหมั้นหมาย เนื่องจากว่าครอบครอวของทั้งคู่มีชื่อเสียงดังนั้นหมั้นกันทั้งทีก็ต้องป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ในส่วนของสถานที่พิธีการก็ต้องยิ่งใหญ่เหมาะสมกับฐานะทางบ้านของทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เรื่องนี้คุณหญิงอรเป็นคนจัดการดูแลให้ทั้งหมด ไม่มีปัญหาใด ๆ ระหว่างการเตรียมการเลยก็ว่าได้จนกระทั่งระยะเวลาเดินทางมาถึงวันงาน ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็ปลื้มปริ่มกับบรรยากาศภายในงาน คุณหญิงอรสะดวกจัดงานเช้า จึงจำเป็นจะต้องมีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมากและกั้นประตู หลังจากนั้นจึงจะเป็นพิธีสวมแหวนต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายชายและหญิงสวมแหวนให้กันเรียบร้อย ก็ต่อด้วยพิธีรับไหว้ทันทีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกคนสนิทของทั้งสองฝ่าย เพื่อนสนิทของนอร์ทและญาณินก็ไม่พลาดที่จะมาเก็บภาพบรรยากาศให้กับเพื่อนรัก พวกเขาทุกคนต่างก็เห็นจุดเริ่มต้นของสองคนมาตลอด มีทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เรื่องนั้นเพื่อน ๆ ในกลุ่มจำได้
ตอนที่ 96หลังจากวันนั้น นอร์ทก็คิดมาเสมอว่าควรจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และให้เกียรติทางฝั่งของญาณิน เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ทางบ้านของนอร์ทนัดทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอร์ทตัดสินใจแล้วว่าจะไปบอกเรื่องสำคัญกับพวกท่านตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น นอร์ทเดินมานั่งรอพ่อและแม่ที่บริเวณโต๊ะอาหารก่อนเป็นคนแรก ระหว่างที่พวกท่านกำลังเดินเข้ามาร่วมโต๊ะ มือไม้ของชายหนุ่มกลับอยู่ไม่เป็นสุข เขาประหม่าจนทำตัวไม่ถูกทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าคนกันเองทั้งนั้นแต่เขากลับรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิม คงเป็นเพราะความในใจที่เขาอยากจะบอกกับทุกคน เป็นเรื่องที่ใหญ่อยู่พอสมควร“เป็นยังไงบ้างลูก เห็นว่าช่วงนี้เรียนหนักแถมยังติดหนูญาอีกต่างหาก ลืมที่บ้านไปแล้วหรือยัง” ผู้เป็นแม่เอ่ยทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแซวเขาที่พักหลังมานี้ติดแฟนเสียยิ่งกว่าอะไร“ก็เรื่อย ๆ นะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่ก็คงจะไปหนักช่วงใกล้จบมากกว่า ตอนนี้ยังไหวอยู่ครับแม่”“งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่หนูญาล่ะเป็นยังไงบ้าง เธอสบายดีใช่ไหม”“สบายดีครับ ช่วงนี้น้องเรียนหนัก เพราะว่าจะได้ขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ มีเรื่องให้ต้องเต็มไปหมด วันนี้ก็เ
댓글