หลังจากที่มีเรื่องวุ่นวายที่มหาวิทยาลัย วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ญาณินไม่มีเรียน จึงตื่นสายกว่าปกติ แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว สิ่งแรกที่เธอทำก็คือการเช็กโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ก่อนที่จะได้รับข้อความจากเพื่อนสนิทสมัยมัธยม เธอจึงรีบต่อสายตรงกลับไปเพื่อถามรายละเอียดเพิ่มเติมทันที
“ฮัลโหล เก้า เราเห็นข้อความที่แกส่งมาแล้วนะ คือยังไงเหรอ?”
“ขอบคุณนะญาที่ติดต่อกลับมา พอดีตอนนี้เรากำลังต้องการคนมาช่วยเป็นดีเจให้ที่ร้านแทนคนเก่าวันหนึ่งน่ะ เรานึกไม่ออกแล้วว่าจะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่แก”
เพื่อนสนิทคนนั้นตอบรายละเอียดต่าง ๆ กลับมาจนญาณินเริ่มเข้าใจเจตนาที่อีกฝ่ายติดต่อมา ซึ่งเธอเองก็ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะตอบตกลงหรือว่าปฏิเสธออกไปดี
“หาคนอื่นแล้วไม่ได้จริง ๆ เหรอ”
“ใช่ แต่ถ้าแกไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ เราเองก็เกรงใจเหมือนกัน”
“ไม่เป็นไร ๆ แค่วันเดียวเอง เดี๋ยวแกส่งโลเคชันร้านมาไว้เลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป”
“ขอบคุณนะญา ไว้เจอกันนะ เดี๋ยวเราส่งโลฯ แล้วก็เวลาที่ขึ้นโชว์ให้”
“โอเค เจอกัน”
เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สายก็ถูกตัดไป วินาทีนั้นญาณินถึงกับเอนหลังลงไปนอนอีกครั้ง แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมที่คอยช่วยเหลือกันมาตลอด เธอก็คงจะเอ่ยปากปฏิเสธไปแล้ว
ซึ่งเวลาที่เก้าส่งมาให้กับญาณินก็คือช่วงเวลาประมาณสามถึงสี่ทุ่ม ระหว่างวันเธอจึงจัดการทำความสะอาดห้อง ทั้งปัดกวาดเช็ดถูจนเสร็จสรรพ รู้ตัวอีกทีก็มืดค่ำเสียแล้ว
ขณะนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งโดยประมาณ ญาณินรีบอาบน้ำตั้งแต่หัววันก็จริง แต่ทว่าดันมาเสียเวลากับการแต่งตัวอยู่พักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว
“หาว่าฉันเป็นยายเฉิ่มใช่ไหม คอยดูเลย...”
หญิงสาวบ่นพึมพำอยู่กับตัวเองก่อนที่จะหยิบเสื้อผ้าแนวเซ็กซี่ออกมาเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่บนเตียงนอนเพื่อเลือกดูว่าวันนี้เธอควรจะใส่ตัวไหนไปออกงานดี
เธอใช้เวลาอยู่นานสองนานกว่าที่จะได้ชุดที่ถูกใจ วันนี้ญาณิน เลือกใส่เป็นเสื้อครอปเอวลอยควบคู่ด้วยกระโปรงตัวสั้นที่ไม่เคยได้มีโอกาสสวมใส่มาก่อนเลยสักครั้ง เธอเห็นว่ามันดูเข้ากับการเป็นดีเจจึงตัดสินใจเลือกมาใส่
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ญาณินก็รีบไปตามนัดหมายที่เก้าได้แจ้งเอาไว้ในข้อความทันที
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปยังผับใจกลางตัวเมือง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่สักเท่าไรนัก ระยะเวลาที่ใช้จึงไม่ได้ยาวนานเหมือนอย่างที่คาดคะเนเอาไว้
“ญา ทางนี้!”
ต้นเสียงดังกล่าวลอยแว่วมาถึงหูของญาณินทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามายังตัวผับที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงและผู้คนมากมาย และเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนสนิทเธอก็รีบตรงดิ่งไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“โห...วันนี้แต่งตัวแซ่บไม่เบาเลยนะ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแนวแล้วเหรอ”
ถ้อยคำทักทายแรกของการพบเจอกันในรอบหลายเดือนแน่นอนว่าหนีไม่พ้นรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ โดยปกติแล้วญาณินไม่ค่อยได้แต่งตัวทำนองนี้เท่าไรนัก เธอมักจะแต่งตัวมิดชิดทั้งยังมีแว่นที่คอยปกปิดตัวตนลึก ๆ ของเธอเอาไว้อีกทีหนึ่ง
“เปล่าสักหน่อย แกจะให้ฉันแต่งตัวมิดชิดมาเป็นดีเจหรือไงเล่า ก็ต้องนิดหนึ่งแหละ”
“โอเค ๆ เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวไปเตรียมตัวข้างหลังกัน อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงคิวแกแล้ว”
“อื้ม แกนำทางฉันไปหน่อยสิ”
“ได้ ตามฉันมาเลย” จากนั้นทั้งสองก็พากันเข้าไปเตรียมตัวที่หลังผับตามที่ได้ตกลงกันไว้ทันที
เก้าพาญาณินเข้าไปเตรียมตัวรอทางด้านหลัง ก่อนจะปล่อยเธอเอาไว้คนเดียวเพราะมีความจำเป็นจะต้องออกไปทำหน้าที่ของตนเอง ซึ่งญาณินเองก็ไม่ได้มีข้อกังขาใด ๆ เธอเข้าใจและปล่อยให้อีกฝ่ายไปรับผิดชอบงานแต่โดยดี
ระหว่างที่นั่งรอเวลา หญิงสาวเจ้าของรูปร่างเพรียวก็หยัดกายขึ้นยืนทั้งยังเดินวนไปวนมาด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าในอดีตจะพอมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาบ้าง แต่ปัจจุบันเธอก็แทบจะไม่ได้จับงานดีเจเลยด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกเลยถ้าหากว่าจะมีอาการเหล่านั้นผุดขึ้นมา
“คิวต่อไปสแตนด์บายรอข้างเวทีได้เลยนะครับ”
“อ๋อ โอเคค่ะ สักครู่นะคะ”
ญาณินตอบกลับทีมงาน ก่อนที่จะหยิบกระจกที่พกติดตัวขึ้นมาเช็กดูความพร้อมของใบหน้า เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เธอก็รีบเดินตามหลังของทีมงานไปอย่างรวดเร็ว
หน้าที่การเป็นดีเจประจำผับในวันนี้สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเวทีได้เป็นอย่างดี ทั้งรูปร่างหน้าตาและโชว์ของญาณินทำเอาทั้งลูกค้าขาประจำและขาจรต่างก็ติดใจไปตาม ๆ กัน
แสงสีเสียงในผับส่งเสริมให้ดีเจสุดแซ่บเป็นจุดสนใจจากทุกคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอรู้ดีว่าการทำงานในสายอาชีพนี้ไม่สามารถเป็นยายเฉิ่มเหมือนที่คนอื่นกล่าวหาเธอเอาไว้ได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้เธอถึงเลือกที่จะสลัดคราบสาวเฉิ่มเชยก่อนหน้านี้ทิ้งออกไปอย่างไม่คิดลังเล...
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ