มือเรียวเองก็กอดแผ่นหลังแกร่งอย่างแนบแน่นและปล่อยอารมณ์ไปกับเซ็กส์ของชายหนุ่มที่เธอพึ่งเจอได้ไม่นานอีกครั้ง
"อ่าาาาเสียวจัง" ร่างบางเอ่ยเสียงกระเส่าพร้อมกับมองท่อนเอ็นร้อนที่ตอดรูรักอย่างถี่ยิป "อยากลองขย่มมันเองไหม" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่ชายหนุ่มจะถอดท่อนเอ็นร้อนออกจากรูรักและร่างบางเปลี่ยนมาเป็นคร่อมหน้าขาแกร่งเอาไว้ มือหนาจับปลายหัวเห็ดมาเขี่ยร่อยเสียวของหญิงสาวขึ้นลงอย่างปลุกเร้าอารมณ์จนใบหน้าสวยบูดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน "อื้อออ ไม่ไหวแล้ว" ร่างบางเอ่ยก่อนจะแย่งท่อนเอ็นร้อนจากมือแกร่งมาจ่อที่รูรักของเธอพร้อมกับนั่งทับท่อนเอ็นร้อนลงไปจนสุดลำ ส๊วบ!! ทันทีหลังจากให้เสียบท่อนเอ็นร้อนเข้ามายังรุรักเอาไว้ร่างบางก็รีบร่อนสะโพกขย่มใส่ตอรักของชายหนุ่มด้วยจังหวะเสียวจับใจพร้อมกับบีบขยำเต้าอวบอิ่มของตนเองทั้งสองข้างที่กระเพื่อมไปตามแรงกระแทกของเธอ ชายหนุ่มที่มองหญิงสาวบีบขยำหน้าอกตัวเองอยู่นั้นก็ทนไม่ไหวใช้ริมฝีปากดูดเม้นเต้าอวบอิ่มทั้งสองอย่างอย่างหิวกระหายก่อนจะใช้ลิ้นร้อนตวัดเลียยอดปทุมถันทั้งสองข้างของเธอ "อื้อ~ อ้ะๆๆๆๆ" ร่างบางเม้นปากเเน่นและครางออกมาเสียงกระเส่าอย่างรู้สึกเสียวซ่านพร้อมกับเร่งสะโพกตัวเองให้ขย่มท่อนเอ็นร้อนเร็วขึ้นตามอารมณ์กามที่พลุ่งพล่าน "เสียวชิป" ชายหนุ่มสบดออกมาเสียงทุ่มต่ำพร้อมทั้งมองดูร่างบางที่กำลังขึ้นขย่มท่อนเอ็นร้อนของเขาด้วยแววตาเสียวจับใจ ตับ ตับ ตับๆๆๆ "อ้ะๆๆๆ เสียวจัง" ร่างบางเอ่ยเสียงกระเส่าก่อนจะแหงนหน้ามองท้องฟ้า ถ้านับตั้งแต่เกิดมาวันนี้คงเป็นวันที่เธอรู้สึกปลดปล่อยตัวเองมากที่สุดแล้วเพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาของเธอนั้นต้องอยู่ในกรอบของครอบครัวมาตลอด "คิดอะไรอยู่" รันเวย์เอ่ยถามเสียงทุ่มต่ำเมื่อเห็นแววตาคู่สวยกำลังเหม่อลอย "อ้ะๆๆ ปะ..เปล่า เสียวจัง" ร่างบางที่ได้สติอีกครั้งก็รีบเอ่ยขึ้นมาเสียงกระเส่าก่อนจะกัดริมฝีปากล่างแน่นเมื่อถูกนิ้วร้ายของชายหนุ่มกำลังขยี้เม็ดเสียวของเธอ "เอากับฉันอยุ่อย่าคิดเรื่องอื่นสิ" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงทุ่มต่ำพร้อมทั้งเร่งนิ้วร้ายให้ขยี้เม้ดเสียวเร็วขึ้น สายตาคู่คมมองท่อนเอ็นร้อนของตัวเองที่ถูกรูรักของหญิงสาวขย่มขึ้นขย่มลงอย่างเสียวจับใจ "ระ...รู้แล้ว" ร่างบางเอ่ยเสียงกระเส่าอีกครั้งพร้อทกับมองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย เสียงรูรักที่ตอกกรัแทกท่อนเอ็นร้อนยังคงดังอย่างไม่หนุดย่อนราวกับต้องการแข่งกับเสียงคลื่น "เสียวชิป ขย่มแรงอีกมิเชล" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับมองรูรักของเธอที่กำลังขย่มท่อนเอ็นร้อนของเขาด้วยอารมณ์กามที่พลุ่งพล่าน "อ้ะๆๆๆๆ แรงแบบนี้พอไหม" ร่างบางที่เร่งจังหวะการร่อนเอวให้กระแทกท่อนเอ้นร้อนแรงขึ้นเอ่ยถามร่างสูงพร้อมขย่มท่อนเอ็นร้อนขนาดใหญ่ของชายหนุ่มไม่หยุด "อ่าาา แบบนั้นแหละ" เสียงทุ่มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นเมื่อถูกร่างบางขย่มใส่ท่อนเอ็นร้อนอย่างแรงและไม่หยุดย่อนจนเขาเสียวแทบขาดใจ "คัดหน้าอกจัง" ร่างบางเอ่ยพร้อมกับมองชายหนุ่มด้วยสายตาสื่อถึงความต้องการ "และจะให้ทำยังไง" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ร่างบางที่ขย่มท่อนเอ็นร้อนอยู่อย่างเมามันก็ชลอจังหวะให้ช้าลงและจับมือแกร่งทั้งสองข้างของชายหนุ่มให้มาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มของเธอและเปลี่ยนจังหวะการขย่มเป็นหมุนควงท่อนเอ็นร้อนของเขาเป็นวงกลมแทนด้วยจังหวะที่เนิบนาบพร้อมกับเอ่ยขึ้นเสียงกระเส่า "อ้ะๆๆ ขยำแบบนี้ให้หน่อย" "ซี๊ด~ จะแตก ขย่มมาแรงๆ เลย " ร่างแกร่งเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าทรมานก่อนจะบีบขยำหน้าอกเธออย่างแรงจนแทบแตกคามือ "อ้ะๆ ฉันก็ใกล้แล้ว" ร่างบางเอ่ยเสียงกระเส่าเพราะเธอเองก็ใกล้แตะขอบสวรรค์แล้วเช่นกัน "อ่าาาา ขย่มมาแรงๆ ทีก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว" "ทนไม่ไหวแล้วจะทำอะไรหรอ? " ร่างบางแสร้งเอ่ยด้วยใบหน้าไร้เดียวสา "แบบนี้ไง อ่าา " ชายหนุ่มไม่เอ่ยเปล่าใช้มือแกร่งของรั้งเอวบางไว้แน่นพร้อมทั้งตอกกระแทกท่อนเอ็นร้อนสวนรูรักของเธอกลับไปอย่างป่าเถื่อนและถี่ยิป ตับ ตับ ตับ!!!!! "อ้ะๆๆ จะเสร้จ" ร่างบางเอ่ยเสียงกระเส่าอย่างไม่เป็นศัพท์พร้อมกับใช้เรียวเล็บจิกบ่าแกร่งแน่นจนเกิดเป็นรอยแดงเมื่อถูกท่อนเอ็นร้อนกระแทกส่วนมาอย่างแรงเเละเร็วจนตัวเธอแทบทนไม่ไหว "ชอบไหม อ่าา" ร่างแกร่งเอ่ยถามเสียงทุ้มต่ำพร้อมทั้งยังคงเร่งแรงกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่รูรักให้เร็วขึ้น "อ้ะๆๆ อื้มม" ร่างบางเอ่ยตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำก่อนจะใช้มือบางบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มของตนเองและแหงนหน้าขึ้นฟ้าด้วยดวงตาหยาดเยิ้มเมื่อเธอใกล้จะแตะขอบสวรรค์ มือหนาของชายหนุ่มรั้งเอวบ้างไว้แน่นก่อนจะจับตัวเธอกระแทกลงมายังท่อนเอ็นร้อนของเขาอย่างแรงจนเธอรู้สึกจุกไปทั่วท้องน้อย "อ้ะๆๆๆ จุกจัง " "แต่ก็ชอบไม่ใช่รึไง ตอดฉันใหญ่เลย" ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมมองใบหน้าสวยที่บิดเบี้ยวไปด้วยความเสียวซ่านของร่างบาง "อ้ะๆๆๆ อือ~ " ร่างบางครางออกมาเสียงกระเส่าเมื่อร่างแกร่งซอยรูรักของเธอแบบไม่ยั้ง "อยากขย่มเองไหม? " ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นพร้อมทั้งชะลอการตอกกระแทกรูรักของเธอให้ช้าลงเมื่อรู้สึกได้ถึงข้างในโพลงรักของร่างบางที่ตอนนี้เริ่มเกร็งและตอดรัดท่อนเอ็นร้อนของเขา ซึ่งไม่ต่างจากท่อนเอ็นร้อนของเขาเองที่กระตุกเกร็งอย่างใกล้จะเสร็จแล้วเช่นกัน ร่างบางไม่เอ่ยตอบเธอเพียงแค่จับบ่าแกร่งไว้แน่นพร้อมกับเริ่มจังหวะการร่อนเอวรูดรูรักขึ้นลงท่อนเอ็นร้อนให้เร็วและถี่ขึ้น "เสียวหัวชิป" ชายหนุ่มสบดออกมาอย่างเสียวจับใจพร้อมกับมองดูลำเอ็นร้อนของตนเองที่หายเข้าไปยังรูรักของเธอ "อ้ะๆๆๆ จะเสร็จ" ร่างบางครางออกมาเสียงกระเส่าเมื่อเธอรู้สึกได้ว่าภายในโพลงรักของเธอนั้นกระตุกเกร็งก่อนจะเร่งจังหวะการขย่มให้เร็วขึ้น "ฉันก็จะเสร็จแล้ว ซี๊ดด~ " ร่างแกร่งเอ่ยพร้อมกับใช้นิ้วร้ายเลื่อนมาขยี้เม็ดเสียวของเธอเร็วและถี่เพื่อช่วยส่งร่างบางไปแตะขอบสวรรค์ได้เร็วขึ้น "อ้ะๆๆ อื้อออ เสียวจะเสร็จ" ร่างบางครางออกมาเสียงกระเส่าและขย่มท่อนเอ็นร้อนของร่างแกร่งเร็วและไวขึ้นตามแรงขยี้ของชายหนุ่มของชายหนุ่ม ยิ่งเขาขยี้เม็ดเสียวของเธอถี่เท่าไหร่เธอก็กระแทกรูรักใส่ท่อนเอ็นร้อนแรงขึ้นเท่านั้น สายตาคู่สวยมองท่อนเอ็นร้อนของชายหนุ่มที่ถูกรูรักของเธอตอกกระแทก อย่างเสียวจับใจจนโพรงรักของเธอกระตุกถี่มากกว่าเดิม "ใกล้แล้ว อ่าาา" ร่างแกร่งเอ่ยเมื่อท่อนเอ็นร้อนของเข้าเริ่มกระตุกเกร็งพร้อมกับขยี้เม้ดเสียวเธอเร็วขึ้น "อื้อ~ ฉันก็จะไม่ไหวแล้ว" ร่างบางครางออกมาเสียงกระเส่าพร้อมทั้งเร่งจังหวะการร่อนเอวให้เร็วขึ้นเมื่อเธอใกล้แตะขอบสวรรค์ ตับ ตับ ตับๆๆๆ !!!!!! เสียงรูรักกระแทกใส่ท่อนเอ็นร้อนพร้อมกับเสียงครางของร่างบางดังสนั่นไปทั่วจนในที่สุด..... "อร๊ายยยยยยย/อ่าาาาา" เสียงกรีดร้องและเสียงคำรามของทั้งคู่ก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อทั้งคู่ไปแตะขอบสวรรค์ "เห่อๆ ~ " เสียงหอบเหนื่อยของทั้งคู่ดังผสานกันท่ามกลางผืนทรายในยามราตรี "ยังแข็งอยู่เลยขออีกครั้งนะ" ชายหนุ่มเอ่ยกระซิบข้างหูของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า "ไม่ไหวแล้ว" ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอย "งั้นเธอก็นอนเฉยๆ เดียวฉันทำต่อเอง" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับใช้มือหนาลูบแก้มขาวด้วยแววตาอ่อนโยน ....แต่เพียงไม่นานแววตาอ่อนโยนนั้นก็การเป็นดุดันเมื่อเขาเริ่มบทรักที่แสนเร่าร้อนกับเธออีกครั้งและอีกครั้งจนรุ่งสรางเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งอย่างอ่อนโยน แสงอาทิตย์สีทองส่องประกายระยิบระยับเหนือผืนน้ำทะเลสีคราม หาดทรายขาวเนียนละเอียดถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ซุ้มดอกไม้ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล รอคอยการมาถึงของคู่บ่าวสาวมิเชลอยู่ในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ ปักลายลูกไม้สวยงาม ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างประณีต เผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานที่แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เธอเดินเคียงข้างคุณชาญศักดิ์ผู้เป็นพ่อ ที่จูงมือเธออย่างทะนุถนอม มุ่งหน้าไปยังซุ้มดอกไม้ที่แดนดินยืนรออยู่แดนดินอยู่ในชุดสูทสีขาวสง่างาม ดวงตาคมของเขาจับจ้องอยู่ที่มิเชลเพียงคนเดียว เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้ หัวใจของเขาก็เต็มตื้นไปด้วยความรักและความสุขบาทหลวงกล่าวเริ่มต้นพิธีด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น ก่อนจะถึงช่วงเวลาที่คู่บ่าวสาวจะกล่าวคำสาบานรักแดนดิน: "มิเชล... ตั้งแต่วันที่เราพบกันที่นี่ ทะเลแห่งนี้ก็กลายเป็นพยานรักของเรา เธอเข้ามาในชีวิตของฉันเหมือนแสงสว่างในความมืดมิด เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุด คนรักที่ฉันปรารถนา และอนาคตที่ฉันใฝ่ฝัน ฉันสัญญาว่าจะรักเธอ ดูแลเธอ ซื่อสัตย์ต่อเธอ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ จะเป็นกำลังใจให้เธ
แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องกระทบผืนน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ รถสปอร์ตคันหรูของแดนดินแล่นไปบนถนนเลียบชายฝั่งอย่างนุ่มนวล ข้างกายเขามีมิเชลนั่งอยู่ด้วยรอยยิ้มหวานบนใบหน้า ตลอดการเดินทาง ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างออกรสถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา เสียงหัวเราะคละเคล้าไปกับเสียงคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งเป็นระยะในที่สุด รถก็จอดสนิทที่ลานจอดรถเล็กๆ ใกล้กับชายหาดที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง มิเชลจำได้ทันทีว่าที่นี่คือทะเลที่เธอและแดนดินได้พบกันครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ความทรงจำอันแสนหวานไหลบ่าเข้ามาในความรู้สึก"ที่นี่..." มิเชลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข "ยังคงเหมือนเดิมเลยนะ"แดนดินหันมายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน "ฉันตั้งใจพาเธอมาที่นี่ ที่ที่เราเริ่มต้นทุกอย่าง"ทั้งคู่จูงมือกันเดินเล่นไปตามริมหาด ทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า ความทรงจำในวันแรกที่พวกเขาชนกันโดยบังเอิญผุดขึ้นมาในความคิด"จำได้ไหม วันนั้นฉันเดินเหม่อมากแทบไม่มองทางเลย" มิเชลหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงวันแรกที่เจอกัน"จำได้สิ" แดนดินหัวเราะตาม "ฉันเองก็มัวแต่คิดเรื่องงานจนไม่ได้มองทางเหมือนกัน โชคชะตานำพาจริงๆ""ใช่เลย" มิเชลพยักหน้า "ตอนนั้นฉันไม่
เช้าวันต่อมา.... ณ บริษัท"ไปไหนมาทำไมถึงไม่กลับบ้าน" เสียงดุของคุณหญิงเขมจิราเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นลูกสาวของตนเดินเข้ามาภายในห้องประชุม"เมื่อคืนมิเชลมีปาร์ตี้กับเพื่อนขับรถกลับไม่ไหวเลยนอนคอนโดค่ะ" มิเชลเอ่ยตอบอย่างพยายามข่มเสียงไม่ให้ประมาทเอาไว้ก่อนจะนั่งลงข้างพี่ชายของตนที่มารออยู่ก่อนแล้ว"งั้นหรอ?""ค่ะ""ดีอย่าให้ฉันรู้นะว่าแกใฝ่ต่ำไปเอาไอบาร์โฮสนั้นอีก" หลังจากผู้เป็นแม่เอ่ยจบผู้บริหารและผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยกันเข้ามานั่งในห้องประชุมวันนี้เป็นวันนัดหมายสำคัญของบริษัทเพราะว่าจะมีนักลงทุนรายใหญ่จะเข้ามาสนับสนุนเรื่องสปอนเซอร์ให้แก่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เพราะอย่างงั้นเล่าเหล่าผู้บริหารทุกคนต่างมารวมตะวกันเพื่อต้อนรับสปอนเซอร์รายใหญ่คนนี้....แล้วไม่ใช่แค่เพียงพวกเขาอยากมาต้อนรับเท่านั้น แต่พวกเขายังอยากจะเห็นหน้าตาของเจ้าของบริษัทสื่อโฆษณาที่กำลังมาแรงอย่างมากในตลาดนี่ด้วยทั้งที่บริษัทพึ่งจดทะเบียนได้เพียงแค่ 2 ปีเศษๆ เท่านั้นกับทำกำไรได้มากมายหลายพันล้านในเวลาไม่นานที่สำคัญบริษัทสื่อโฆษณานี้จดทะเบียนบริษัทที่ต่างประเทศและเจ้าของบริษัทยังไม่ชอบออกหน้าออกตาให้สื่อได้เห็น
หลายวันผ่านไป...หลังจากกลับมาจากทริปทะเลครั้งนั้น มิเชลก็กลับมาใช้ชีวิตภายใต้ความกดดันของครอบครัวเช่นเดิม ....แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือหัวใจของเธอไม่ได้ว่างเปล่าอีกต่อไปตอนนี้หัวใจของเธอกับพองโตและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เธอและแดนดินหลังจากกลับมาก็คงยังติดต่อกันอย่างลับๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ และแอบเจอกันบ้างเป็นครั้งคราวเมื่อมีโอกาสเหมือนกับในครั้งนี้....."ฉันต้องไปแล้วนะ" มิเชลเอ่ยขณะนอนเปลือยเปล่าอยู่ในอ้อมอกของแดนดินวันนี้เธอและเขานัดเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัดซึ่งอยู่ติดกับกรุงเทพและใช้เวลาเดินทางกลับไม่นานมาก"แต่ฉันยังไม่หายคิดถึงเลยนะ" แดนดินเอ่ยพร้อมกับใช้สันจมูกซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างคลอเคลีย"นายก็รู้ว่าที่บ้านฉันเป็นยังไง ขืนทำตัวมีพิรุธอีกคราวนี้ไม่มีทางมีอิสระอีกแน่" มิเชลเอ่ยด้วยแววตาที่เศร้าหมอง"ฉันจะทำให้เธอเป็นอิสระเอง" แดนดินเอ่ยก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างบางเอาไว้"นายจะทำยังไง ลักพาตัวฉันหรอ? " มิเชลเอ่ยอย่างขบขันเพราะเธอคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเธอจะหลุดพ้นจากครอบครัวตนเองไปได้ยังไง"เดียวเธอก็รู้เอง...แต่ตอนนี้อยู่กับฉันก่อนนะ" แดนดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร
"ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ฮึก~ " มิเชลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับเอื้อมมือสัมผัสใบหน้าคมคายเบาๆ ราวกับอยากจะรู้ว่านี่คือความฝันหรือความจริงก่อนที่น้ำตาที่กลั้นไว้จะไหลออกมา"จะร้องทำไม ร้องไห้เดียวก็ไม่สวยหรอก" แดนดินเอ่ยอย่าลเอ็นดูพร้อมกับใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้เธอ"นายหายไปไหนมา รู้ไหมฉันคิดถึงนายแค่ไหน" มิเชลเอ่ยพร้อมกับใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบที่อกแกร่ง"โอ่ๆๆๆ ฉันกลับมาแล้วนี่ไงต่อไปนี้จะไม่ไปไหนอีกแล้ว""พูดแล้วนะ" มิเชลเอ่ยพร้อมกับซุกหน้ากับอกแกร่งทั้งคู่สบสายตากันอีกครั้งโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ แดนดินค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา ริมฝีปากของเขาทาบทับลงบนริมฝีปากของมิเชลอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จูบนั้นจะค่อยๆ ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้น ด้วยความโหยหาที่สะสมมาตลอด 3 ปี ผ่านจูบที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและความปรารถนาสองมือเรียวของมิเชลยกขึ้นมาคล้องคอร่างสูงเอาไว้หลวมๆ ขณะที่มือแกร่งของแดนดินเองก็เริ่มลูบไล้เรือนร่างบองเธอผ่านชุดเดรสตัวสวยสองร่างค่อยๆ เอนตัวลงบนผืนทรายขณะที่ริมฝีปากร้อนยังคงเกี่ยวพันกันอยู่อย่างดูดดื่มอย่างไม่มีใครยอมใครพร้อมกับที่ทั้งคู่เริ่มปลดเปลือยเสื้อผ้าให้กันและกันอย่างรีบร้อนสอ
3 ปีผ่านไป...นับตั้งแต่วันที่ถูกพากลับคฤหาสน์ศิริพันธ์ ชีวิตของมิเชลก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อิสระที่เคยมีถูกจำกัดทันทีเมื่อเธอเหยียบเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าเธอจะขยับตัวไปทางไหนก็มีแต่ลูกน้องของผู้เป็นแม่คอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลาเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาทำงานที่บริษัทของครอบครัวและสวมบทบาททายาทบริษัทอย่างเต็มตัว ภายใต้การจับตามองของผู้เป็นแม่อย่างเข้มงวด ราวกับว่าคุณหญิงเขมจิราหวาดกลัวว่าลูกสาวคนเล็กจะหวนกลับไปสู่ "ทางเดินที่ผิด" อีกครั้งยิ่งเมื่อผู้เป็นแม่ไปสืบมาว่าแดนดินเป็นหนุ่มบาร์โฮส์มันก็แทบทำให้ผู้เป็นแม่ลมจับขึ้นมาทันทีการติดต่อกับแดนดินก็กลายเป็นศูนย์เช่นกัน มิเชลพยายามส่งข้อความ โทรศัพท์ หาแดนดินเพื่อถรมไถ่แต่ทุกช่องทางก็ถูกตัดขาด ราวกับว่าแดนดินได้หายตัวไปจากโลกของเธออย่างสิ้นเชิง ความคิดถึงประดังเข้ามาในใจเธอในทุกวัน โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่ความเหงาเกาะกินหัวใจเธอนึกถึงแต่เพียงใบหน้าและแววตาที่อ่อนโยนของเขาจนกระทั่งวันนี้...ในที่สุด ผู้เป็นแม่ก็ได้ยกเลอกให้ลูกน้องเลิกติดตามเธอและยอมให้เธอไปเที่ยวพักผ่อนได้ต่มลำพัง เพราะคิดว่าเวลาที่ผ่านมานานถึง 3 ปี คงจะทำให้ความสัมพันธ์