แชร์

2. นางผู้อัปลักษณ์

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-28 20:50:07

ณ ตลาดทาสนคร ‘วาเซต’

... ... ... ...

เสียงกลองและพิณจากพื้นเมืองไอยคุปต์ดังคลอไปทั่วนครวาเซต เมืองหลวงเก่าแก่แห่งแคว้นบนของอียิปต์ ซึ่งตั้งอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำไนล์ พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ รัศมีสีทองอ่อนเริ่มแต่งแต้มแนวเสาศิลาแห่งวิหารเพธา และกลิ่นกำยานลอยฟุ้งขจายไปในอากาศราวกับเป็นฤกษ์ยินดีได้ต้อนรับผู้มาใหม่

อัมพุชินีอยู่ในกลุ่มทาสชั้นสูงที่รอคอยการนำขึ้นประมูลในลานกลางของตลาด นครวาเซต นั้นขึ้นชื่อว่าเป็น นครแห่งการค้าขาย ทั้งทองคำ ไข่มุก เครื่องหอม และชีวิตมนุษย์

เหล่าทาสจากดินแดนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนูเบีย ลิเบีย ชาวฮิตไทต์ หรือ ชาวเปอร์เซีย ต่างก็ถูกจัดแบ่งโดยผู้ดูแลตลาดตามคุณลักษณะพิเศษ

อัมพุชินีมิใช่เพียงหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ หากแต่กายเปล่งประกายด้วยความสง่างามที่ไม่อาจปฏิเสธ เส้นผมยาวดำขลับ ริมฝีปากชมพูอ่อนระเรื่อดั่งธรรมชาติ และเรียวดวงตาประดุจกลีบบัวบาน จึงมิอาจหลีกเลี่ยงสายตาของนายตลาดผู้มากอำนาจ

“นางคือ 'บรรณาการจากอารยัน' ใช่หรือไม่” เสียงชายวัยกลางคนกล่าวขึ้นพลางเดินสำรวจ

“ถูกแล้ว ขอรับ” เสียงผู้ดูแลคาราวานตอบ “ธิดาแห่งกัมโพชน์”

“จงอย่าทำร้ายผิวของนาง อย่าให้มีรอยช้ำแม้เพียงปลายนิ้ว” ชายผู้นั้นกล่าวอย่างเร่งร้อน

“นางจักขึ้นกลางลานในยามบ่าย แดดยามนั้นงามขับกับสีผิวนาง”

เหล่าทาสถูกแบ่งเข้าสู่คอกเล็กคอกน้อย อัมพุชินีถูกพาไปยังกระโจมประดับผ้ากรองแสงซึ่งใช้สำหรับการแต่งองค์ทรงเครื่อง เธอมิได้ขัดขืน หากแต่เพียงนิ่งเงียบขณะข้าหลวงรับใช้ชาวกัมโพชน์ต์สองคน กำลังล้างหน้าและจัดทรงผมให้อย่างเบามือ แต่เธอขอร้องให้ทั้งสองนางปกปิดรูปโฉมของใบหน้าอันงดงามด้วยปานดำจากดินหม้อ ขณะนี้เธอต้องการเข้ามาอยู่ในดินแดนแห่งนี้โดยปราศจากตัวตนแท้จริง

“อันใดจึงหลอกพระองค์เองด้วย” หญิงรับใช้กระซิบถามเบา ๆ ขณะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้อัมพุชินีกลายเป็นคนธรรมดาสามัญ แถมยังมีใบหน้าไม่น่ามองอีก

“หากฝ่าบาททรงทอดพระเนตรเห็นพระองค์ในวันนี้ บางที...” อีกคนหนึ่งกล่าวยังไม่ทันจบ

พระธิดามิได้ตอบกลับ ได้แต่เหม่อมองออกไปยังเบื้องนอก ผ่านผ้าขาวบางที่พลิ้วไหวจากแรงลมทะเลทราย

ลานกลางตลาดเริ่มเต็มไปด้วยกลุ่มชนชั้นสูง พ่อค้า คหบดี และขุนนางต่างพากันจับจองที่นั่ง เพื่อประมูลทาสพิเศษประจำรอบวาระ จันทราเต็มดวง เสียงของนักบรรยายดังแว่วมาจากเวทีไม้ยกพื้นสูง

“...นางทาสผู้นี้ จากแดนฟากฝั่งตะวันออกไกล แม้ใบหน้าอัปลักษณ์ แต่มีความรู้สมุนไพร ศิลปะ และภาษาบูรพา นางยังสามารถจำแนกเสียงของ สายลม และกลิ่นของดอกไม้ เพียงแค่หลับตา...”

ท่ามกลางเสียงฮือฮาดังขึ้นในหมู่ผู้ชม ณ มุมสูงของอัฒจันทร์ ฟาโรห์เมเรนคาเรประทับอยู่ภายใต้ฉัตรทองคำ พระพักตร์ยังคงเคร่งขรึม ดวงเนตรจับจ้องเวทีเบื้องล่างเป็นระยะ

และในวินาทีนั้นเอง...เมื่อม่านไหมสีฟ้าถูกเปิดออก ร่างของอัมพุชินีปรากฏในแสงตะวันอ่อนยามบ่าย เสื้อผ้าเรียบง่ายมิได้มีอันใดที่จะเน้นความงามจับตาของพระธิดาจากแดนไกล ผ้าโพกศีรษะประดับด้วยดอกบัวอบแห้ง ผ้าสไบผืนโตสีอิฐหม่นคลุมชุดส่าหรีไว้ข้างใน กำลังพลิ้วไหวตามสายลมเอื่อยๆ ยามบ่าย

ทั้งตลาดเงียบกริบ แม้เสียงเบาๆ ยังมิอาจดังเล็ดลอดออกมา แม้สายลมก็ยังมิกล้าพัดแรง พระเนตรคมวาวของ ฟาโรห์ใจหิน… กำลังทอดทัศนาลงมาอย่างไม่ลดละ แล้วเสียงเริ่มประมูลก็ดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบนั้น...

“สิบแท่งทองคำ”

“สิบสอง”

“สิบห้า กับแก้วผลึกจากฟินิเชีย”

เสียงประมูลกำลังดังเซ็งแซ่ทั่วทั้งลาน แต่แล้ว...เสียงหนึ่งจากเบื้องบนก็ผุดดังกังวานเหนือเสียงใดใด...

“หยุดประมูล!!!”

ทุกสายตาหันขึ้นไปยังเบื้องบน ฟาโรห์เมเรนคาเร ลุกประทับยืน พระหัตถ์ยกขึ้น พระพักตร์สงบนิ่ง

“ด้วยอำนาจของเราแต่เพียงผู้เดียว!!! นางผู้นี้จะถูกส่งไปยังตำหนักบูรพา”

เสียงอุทานดังครางในหมู่ฝูงชน แต่ไม่มีผู้ใดกล้าคัดค้าน นักบรรยายคุกเข่าทันที

“นางจะถูกนำทูลถวายฝ่าพระบาทตามพระราชประสงค์...พระเจ้าข้า”

... ... ... ...

เสียงกระซิบท่ามกลางหมู่นางทาสภายในบริเวณตำหนักหลวงประจำทิศตะวันออก อัมพุชินีก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบพร้อมนางเฒ่าและสาวน้อยวัยสิบหกปี ที่ตามมาคอยปรนนิบัติรับใช้เจ้านาย

กลุ่มนางทาสในเรือนพักท้ายสุดภายในบริเวณตำหนักหลวงแห่งนี้ พากันเล่าขานว่า พระราชวังทองคำ แห่งนี้ดั่งฮาเร็มของเหล่านางสนมจากทั่วทุกมุมของทวีป ฐานะของพวกนางเหล่านั้นมีทั้งเป็น บรรณาการ ของกำนัล หรือ แม้แต่เป็นเชลยจากอาณาจักรที่พ่ายแพ้

สำหรับอัมพุชินีนั้นถูกจัดอยู่ในกลุ่มนางทาสถูกประมูลจากตลาดกลางนครวาเซต จึงถูกกำหนดให้เข้าพักอาศัยที่เรือนพักภายในตำหนักเย็น ด้านหลังพระราชวังทองคำ ตำหนักเย็นแห่งนี้จัดไว้เป็นที่พักสำหรับเหล่าสนมที่ถูกลงโทษ นางทาสในที่แห่งนี้ทุกคนจึงถูกจัดให้มีหน้าที่รับใช้บรรดาสนมต้องโทษทั้งหลาย

ภารกิจแม้ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่อัมพุชินีกลายเป็นเป้าสายตาของบรรดาสนมที่ต้องการจับผิดเหล่านั้น

“นางทาสคนนั้น ทำไมจึงมีคนติดตาม” สนมนางหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย

“ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าถาม” สนมอีกนางที่เป็นพวกพ้องถามอย่างลังเล

“นางต้องเป็นหญิงสูงศักดิ์” นางคนแรกคาดเดาจากสายตาที่เห็น

“ได้ยินนางทาสที่ถูกประมูลมา... เล่าว่า นางปฏิเสธเป็น บรรณาการ ช่างเขลายิ่งนัก!!! ไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธเช่นนี้” นางคนต่อมาเอ่ยขึ้นอย่างเย้ยหยัน

... ... ... ...

ค่ำวันนั้น ภายในตำหนักหลวงประจำทิศตะวันออก เสียงน้ำไหลจากลำธารประสานเสียงใบไม้ร่วงหล่นลงพื้นเบาๆ ท่ามกลางความเงียบสงัด อัมพุชินียืนอยู่ตรงกอบัวศักดิ์สิทธิ์ ร่างของเธอค์สวมชุดผ้าฝ้ายสีขาวเรียบ ผมปล่อยทอดยาว ร่างสูงโปร่งบอบบางกำลังรอผู้ยิ่งใหญ่ของตำหนักแห่งนี้

ประตูตำหนักเปิดออกอย่างช้า ๆ ฟาโรห์เมเรนคาเรก้าวเข้ามาเพียงลำพัง ไม่มีข้าราชบริพาร ไม่มีสนม หรือผู้ติดตาม พระเนตรสีอำพันของพระองค์จ้องมองอัมพุชินีอย่างสงบนิ่ง ความรู้สึกเย็นชาของกษัตริย์หนุ่มผู้นี้แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูภายในตำหนัก

นางทาสเช่นเธอถูกเรียกหาให้เข้าเฝ้าเพื่อรับใช้พระองค์ เป็นคืนแรกที่พระธิดาพลัดถิ่นกลายมาเป็นทาสต่ำต้อยภายใต้เงาของพระราชวังอันใหญ่โตแห่งนี้

“ใช่...พระองค์ที่ประมูลข้ามา เพราะเหตุอันใดกัน!!!” อัมพุชินีพึมพำอย่างใจเย็น

“ในโถงท้องพระโรงเมื่อวันวาน พระเนตรของพระองค์ที่จ้องข้า...น่าจะมีความลับปิดบังไม่ให้ผู้ใดรับรู้”

อัมพุชินีย้อนนึกถึงเรื่องราวตั้งแต่เธอถูกประมูล มาจนถึงวันวานที่ถูกเรียกให้เธอเงยหน้าขึ้นกลางท้องพระโรง แล้วรับสั่งให้นางทาสเช่นเธอเข้ามารับใช้พระองค์ถึงตำหนักบรรทมชั้นใน

นางทาสที่มีรูปหน้าอัปลักษณ์เช่นเธอ ไม่น่าจะได้รับสิทธิ์อันใดเลย แต่กลับถูกเรียกให้มารับใช้ ท่ามกลางเสียงซุบซิบกล่าวอ้างว่า ฟาโรห์หัวใจหิน พระองค์นี้ไม่เคยให้โอกาสนางทาสคนใดได้เข้าใกล้...แม้เพียงปลายพระบาทมาก่อน แต่เพราะเหตุใดนางทาสอัปลักษณ์เช่นนางผู้นี้ จึงได้รับโอกาส ณ ราตรีจันทราเต็มดวงในคืนนี้

“ฝ่าพระบาท…เพคะ” เสียงของอัมพุชินีบางเบาราวสายลม หัวใจของเธอสั่นไหวหวาดหวั่น

“เหตุใด เจ้าจึงไปอยู่ที่ตลาดประมูลนั่น” ฟาโรห์หนุ่มเชยคางเธอขึ้นเพื่อสบพระเนตรสีอำพันของพระองค์ ความจริงจะต้องถูกเปิดเผยจากปากของเธอเอง พระองค์จะไม่บังคับ

“ข้า... ข้า อัปลักษณ์เช่นนี้ พระองค์จะยอมรับให้ข้าอยู่ตำหนักสนม...รึ!!!” น้ำเสียงตะกุกตะกักตอบไม่เต็มคำ

“ข้ามิได้มองเพียงรูปลักษณ์ แม้เจ้าจักอัปลักษณ์เพียงใด แต่ข้าอยากให้เจ้าช่วย” พระสุรเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขอร้องเรียบเฉย ไม่มีทีท่าต้องการเธอให้มาสนองอารมณ์แต่ประการใด

“ฝ่าพระบาท ให้ข้าช่วยอันใด... หากมิได้เกินพละกำลังของข้า” อัมพุชินีเหลือบเห็นดวงเนตรเต็มไปด้วยความอยากรู้บางอย่าง

“เจ้ารู้จักวาดภาพ ใช่หรือไม่ ข้าสนใจลายเส้นบนแผ่นภาพ” พระพักตร์สีน้ำผึ้งมีสีเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าในใจของพระองค์กำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่ากำลังอยากได้ความรู้ใหม่จากสาวดินแดนตะวันออก

“ข้าสนใจวาดภาพมาตั้งแต่เล็ก หากพระองค์อยากให้ข้าช่วย ข้ายินดีรับใช้...เพคะ” ขณะตอบดวงตาของสาวน้อยหลุบต่ำมองพื้นห้องหินอ่อนสีเทาหม่นดั่งฟ้าเยี่ยมยามโพล้เพล้

“เอ่อ...ข้ายังมิได้รู้ชื่อแท้จริงของเจ้าเลย” คำถามนี้ทำเอาเธอสะดุ้ง แล้วที่ตลาดประมูลนั่นเธอได้ยินประกาศชื่อนั้น... เป็นนามแฝงที่เธอจงใจ อัมพุชินีกำลังลังเลว่าจะยอมให้พระองค์เรียกเธอเช่นไรดี หรือว่า ... ทูลพระองค์ไปตามตรง

“พระองค์ เรียกชื่อข้าตามที่ประกาศกลางการประมูลนั่นเถิด...เพคะ”

“ข้าจักเรียกเจ้า... อัมพุ นับแต่คืนนี้ ข้าจักให้เจ้ามาที่ห้องบรรทมทุกคืน เว้นเสียแต่ว่า...” ฟาโรห์ร่างสูงโปร่งกำยำกำลังนึกไปถึงอะไรบางอย่าง

“อันใดรึ... ที่พระองค์ทรงห้ามข้า...” เธอยังต้องการข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมให้จบความในประโยคนั้น

“เว้นแต่... คืนที่ข้าหลับตั้งแต่ยามแรก” พระองค์มองปฏิกิริยาของหญิงสาวที่ก้มหน้าเพื่อรอคำรับสั่ง

“เพคะ... ข้ายินดีรับใช้ หากให้ข้ามาสอนวาดภาพ ข้าจักต้องไปหากระดาษและสี จากแห่งใด”

“ข้าจักหาให้เจ้าเอง” พระองค์ยังไม่ได้ไขปัญหาที่อยู่เบื้องลึกในใจ

“พระองค์มีปัญหาบรรทมไม่หลับ ใช่หรือไม่” เป็นคำถามที่ทำให้พระองค์นิ่ง ก่อน ตัดสินใจกล่าวอะไรออกมาบางอย่าง

“นี่คือความลับของข้า...” สีพระพักตร์ดูเจื่อนไป

“วางพระทัยเถิด... ข้าจักสอนพระองค์วาดภาพ เพื่อให้พระทัยได้พักผ่อน…เพคะ”

และในราตรีอันยาวนาน ณ ตำหนักทิศตะวันออกของฟาโรห์ แสงโคมน้ำมันสะท้อนผนังที่มีภาพของดอกบัว ภูเขา และจันทรา

สตรีผู้เคยเป็นพระธิดาแห่งแคว้นที่ล่มสลาย…

จะเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะ นางทาสผู้วาดฝันขององค์ราชัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อัมพุชินี จอมใจไอยคุปต์   10. ความทรงจำฟาโรห์

    สองคืนต่อมา ฟาโรห์เมเรนคาเรทรงรับสั่งให้อัมพุชินี ต้มโอสถสมุนไพรถวายที่ภายในห้องทรงบรรทม หลังจากทรงวาดภาพกับเธอช่วงก่อนอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามใกล้พลบค่ำเป็นเวลาแห่งสายลมพัดเอื่อยอ้อยสร้อยจากผืนทรายโดยรอบ โชยเอาลมหายใจแห่งชีวิตตามลำน้ำไนล์ หอบกระแสความอบอุ่นผ่านลอดเข้าบานประตูสลักหินโบราณ คลื่นแห่งชีวิตภายนอกกำแพงพระราชวัง คือหมุดหมายของเหล่าราษฎร ที่ดำรงชีพอย่างเรียบง่าย สงบสุข และปราศจากภัยร้าย ด้วยเพราะบารมีขององค์ฟาโรห์พระองค์นี้ ทว่าสำหรับตัวตนของพระองค์แล้วกลับหาความสงบภายในยากยิ่งเหลือเกิน แม้จะทรงประทับอยู่ภายในพระราชวังใหญ่โตอวดโฉมงดงามแม้แต่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว...ในหทัยนั้นมิได้มีอารมณ์ที่เรียกว่า สงบสุข มีแต่เรื่องให้ทรงทุกข์กังวล ไม่ว่าจากงานราชการเมือง การปกป้องนคร นโยบายดูแลเหล่าผู้คนภายใต้พระราชอำนาจ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องวุ่นวายจากความอิจฉาริษยาจากทุกซอกทุกมุมภายในราชสำนัก ตั้งแต่สนม ข้าในราชสำนัก ไปจนถึงเหล่าเสนาบดีทุกระดับชั้นราชกิจขององค์ฟาโรห์มิใช่การทำหน้าที่แค่ประทับอยู่บนบัลลังก์แล้วสั่งการเท่านั้น แต่พระองค์ยังต้องส่งเหล่าทหารลับออกไปสอดส่อง เพื่อเป็นหูเป็นตาช่วยพ

  • อัมพุชินี จอมใจไอยคุปต์   9. ศิลปะบำบัดอาการ

    ใจที่เคยแข็งดั่งหินผา กลับละลายเมื่อสบตา ... หทัยไยโหยหาแต่นาง”... ... ... ...บรรยากาศยามพลบค่ำ ณ ห้องทรงงานส่วนพระองค์ม่านสีงาช้างบางเบาปลิวไหวพลิ้วตามสายลมเอื่อยอ่อนจากลำน้ำไนล์ เสียงพิณบรรเลงแผ่วแว่วประสานร้อยเรียงตามจังหวะของเส้นสายจากมุมตำหนัก แสงตะเกียงน้ำมันทาทาบลงบนพระพักตร์องค์ฟาโรห์เมเรนคาเร พระเนตรยังไม่ห่างจากภาพวาดบนผืนผ้าเบื้องหน้าภาพนั้น คือ ดอกบัวหลวงสีฟ้า แซมด้วยสีทอง วาดด้วยมือของ จิตรกรหลวง เดิมนางคือหญิงทาสจากแดนกัมโพชน์ นามว่า...อัมพุชินี“เหตุใดเจ้าจึงเลือกวาดดอกไม้ดอกนี้” ฟาโรห์ตรัสถามโดยยังไม่ละสายตาจากภาพหญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเนิบช้า“เพราะดอกบัว... คือสิ่งเดียวที่งอกงามแม้อยู่ในโคลนตม ... ข้ากระหม่อมเพียงวาดสิ่งที่คล้ายหัวใจของพระองค์เพคะ” ฟาโรห์นิ่งไปครู่หนึ่ง... ก่อนเอื้อมพระหัตถ์รับพู่กันอีกด้ามจากเธอยามราตรี เป็นเวลาที่ฟาโรห์พระองค์นี้พยายามใช้บำบัดอาการลึกลับของพระองค์มาตลอด ไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนว่า พระองค์มีอาการอะไร แม้บรรดาสนมทั้งหลายยังไม่เคยได้ใกล้ชิดกับพระองค์ก่อนทรงบรรทม แต่ก็มีเสียงกระซิบในวังหลวงเล่าลือถึงอาการสุดพิสดารพระองค์เองก็เค

  • อัมพุชินี จอมใจไอยคุปต์   8. ผู้ร้าย (ยัง) ลอยนวล

    ในเงามืดของวังหลวง มิตรอาจเป็นศัตรู และศัตรู… อาจคือ คนที่ชิดใกล้... ... ... ...เงาราตรีครอบคลุมวังหลวงแห่งไอยคุปต์อีกครั้ง สายลมจากแม่น้ำไนล์พัดผ่านม่านบางเบาในตำหนักหลวง แต่หทัยของฟาโรห์เมเรนคาเรยังมืดมน...ไร้ทางออกใคร… กันแน่ที่บงการอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารอัมพุชินีภายในห้องขังใต้พระราชวังหลวงนาเยรี สนมคนโปรดที่เคยถวายงานพัด บัดนี้ถูกนำตัวมาเบื้องหน้าฟาโรห์อีกครั้ง ดวงตาของนางแดงก่ำ ร่างกายสั่นระริกหวั่นโทษทัณฑ์ถึงแก่ชีวิต"เจ้ารู้...ใช่หรือไม่ฮะ!!! ว่าข้าอาจประหารเจ้าทั้งที่ยังไม่ทันถามเหตุผล"สุรเสียงของฟาโรห์นิ่งเย็นยะเยียบ แต่แววพระเนตรที่กำลังจ้องนางกลับเปี่ยมไปด้วยพายุอารมณ์ เมื่อทรงรับฟังคำยืนยันนั้นอีกครั้ง"ข้ากระหม่อม... ไม่ได้ลอบวางยาพิษ เพคะ... ข้าเพียงทำตามคำสั่ง""ของใคร!!!" ฟาโรห์ตวาดลั่นนาเยรีสะดุ้งสุดตัว ก่อนกล่าวเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน..."พระมารดาเงา เพคะ...!!!" นางยังยืนยันคำพูดเดิมทันทีที่นางเอ่ยนามนั้น บรรยากาศในห้องขังหยุดนิ่ง เหล่าทหารเวรยามไม่กล้าแม้แต่กะพริบตาแต่ในขณะนี้ดวงเนตรของฟาโรห์เมเรนคาเรกลับนิ่งสงบ...ทรงหรี่พระเนตรลงราวกับกำลังตรึกตรองอย่างถ

  • อัมพุชินี จอมใจไอยคุปต์   7. ปริศนายาพิษ

    “คมมีดนั้นคือเพียงปลายทาง แต่ยาพิษ… ซึมซาบถึงใจกลางวิญญาณ”... ... ... ...กลิ่นคาวโลหิตที่คละคลุ้งในลมหายใจแห่งรัตติกาลนั้น ยังติดอยู่ในนาสิกของฟาโรห์เมเรนคาเร…เวลาล่วงมาหลายชั่วยาม ร่างของอัมพุชินีหญิงงามผู้เคยเปล่งปลั่งดั่งบัวหลวงในยามรุ่งอรุณ บัดนี้...ไม่ดีขึ้น แต่กลับนอนนิ่งไร้เสียงอยู่ภายใต้ผ้าห่มขลิบทองบนแท่นบรรทมภายในห้องรับรองข้างห้องบรรทมของฟาโรห์ สีหน้าซีดเซียวบนดวงหน้างามผ่อง ขณะนี้ดุจวิหคถูกแรงลมร้ายกำลังพัดมา...พรากเอาดวงวิญญาณของเธอไปโลหิตหล่อเลี้ยงทั่วหทัยของพระองค์เย็นวาบด้วยปริวิตกอย่างยิ่งยวดย้อนคืนสู่เหตุการณ์ก่อนหน้า…เสียงกรีดร้องของอัมพุชินีที่กำลังขอความช่วยเหลือ ขณะนักฆ่าในชุดผ้าคลุมดำจู่โจมเธออีกครั้ง หลังจากมีดสั้นแค่เฉียดหัวไหล่ฉีกผิวบริเวณนั้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ด้วยยาพิษที่ชโลมไว้ตรงปลายแหลมนั้นที่ทำให้เธอทรุดหนัก หลังจากแพทย์หลวงได้รักษาบาดแผลได้เพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นหลังคาภายในราชวังหลวงราวกับสั่นสะเทือน แผ่กระแสความวุ่นวายปกคลุมไปทั่วทุกตำหนัก“นางจิตรกรหลวงได้รับบาดเจ็บ!!! มีดอาบยาพิษ!!!”ย้อนรอยนาทีแห่งมัจจุราช ... ซึ่งฟาโรห์ในขณะนั้นเสด็จอ

  • อัมพุชินี จอมใจไอยคุปต์   6. สงครามเงาแห่งตำหนักใน

    แผนร้าย ลอบสังหาร และเพลิงริษยาที่แผดเผา...ลงตรงกลางตำหนักจิตรกรหลวง... ... ... ...กลางค่ำคืนที่กระแสลมร้อนแห้งแล้งพัดเอื่อยอ้อยสร้อยแผ่วผ่านเงาแห่งแสงจันทรา ที่ค่อยๆ ทอดผ่านม่านผ้าไหมสีทองบางเบาภายในตำหนักของจิตรกรหลวง อัมพุชินีนั่งวาดภาพอยูในห้องของตนอย่างเงียบๆ สีน้ำจากกลีบบัวหยดแต้มลงบนผืนผ้าอย่างบางเบา ดวงตาของเธอยังคงเปล่งประกายแห่งความฝัน แม้หัวใจจะรู้ดีว่าโลกเบื้องหลังม่านผ้าสีงามนั้นไม่เคยอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อยเพียงไม่กี่วัน นางทาสจากกัมโพชน์กลับกลายมาเป็น ‘จิตรกรหลวง’ และผู้ถวายงานอย่างใกล้ชิดแด่ฟาโรห์เมเรนคาเร นามของเธอเริ่มกระซิบผ่านจากปากต่อปากในหมู่สนมชั้นสูง สะกิดความรู้สึกให้เกิดแรงกระเพื่อมขยายจากวงเล็กกลายเป็นวงกว้างของบรรดาหญิงงามผู้อยู่ในวังมานานนับสิบปี“ข้าจะไม่ยอมให้หญิงทาสไร้รากเหง้าเช่นนาง ลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อไป!!!” เสียงเย็นเยียบของ ‘เมเรตา’ สนมรองต้นผู้มากด้วยอำนาจยิ่งกว่าสนมเอกเนเฟรตารี ดังสะท้อนก้องในห้องประชุมลับกลางค่ำคืน หญิงงามจากราชวงศ์แห่งธีบส์ผู้ถูกขนานนามว่า ‘นกยางขาวแห่งลุ่มน้ำไนล์’ กลับกลายเป็นสตรีที่ขุ่นมัวด้วยแรงริษยาสูงยิ่งกว่านางผู้ใด“พระองค

  • อัมพุชินี จอมใจไอยคุปต์   5. ภารกิจแรก (ซ่อนนัยยะ)

    ค่ำคืนนี้ พระราชวังหลวงแห่งไอยคุปต์เรืองรองทอประกายแสงแห่งดวงตาเทพรา พระจันทร์ทรงกลดฉาบแสงเงินบนหลังคาทองคำของตำหนักทุกหลัง และในท่ามกลางอุทยานหลวงที่เงียบสงบ ท้องฟ้าดูเหมือนจะเฝ้ามองการเริ่มต้นของบริบทที่สำคัญยิ่ง ...ที่มีเพียงหัวใจสองดวงเท่านั้นที่เข้าใจความหมายในท่วงทำนองความเป็นไปอัมพุชินี ยืนอยู่หน้าตำหนักขนาดย่อมติดสวนบัวหลวง ที่เพิ่งได้รับพระราชทานจากฟาโรห์เมเรนคาเร พร้อมตราตำแหน่ง "จิตรกรหลวงแห่งไอยคุปต์" เธอเป็นหญิงทาสคนแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของพระราชวังทองคำแห่งนี้คำกล่าวขานนี้ไม่ใช่เพียงชื่อเรียก หากคือ 'เกียรติยศ' ที่ไม่มีนางทาสนางใดในไอยคุปต์เคยได้ครอบครองมาก่อนพื้นที่ทำงานภายในตำหนักที่นางได้รับนั้นไม่ได้กว้างใหญ่ แต่ทว่าเต็มไปด้วยแสงเทียน กลิ่นบัวหลวง และพู่กันที่จัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะหินมีผืนผ้าเปลือกไม้จากแคว้นอียาเทป รอให้ศิลปะจากปลายนิ้วเรียวของเธอมอบชีวิตให้อย่างมีสีสัน“ตำแหน่งนี้...หาใช่เพื่อข้าแต่ผู้เดียว...”อัมพุชินีพึมพำ...“หากเพื่อแคว้นที่ล่มสลาย เพื่อพระบิดา เพื่อความทรงจำที่มิอาจถูกลบเลือน”ในขณะเดียวกัน ฟาโรห์เมเรนคาเร เสด็จกลับสู่ตำหนักปร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status