ปกติไข่มุกจะไม่ตื่นมากินอาหารเช้าจนกว่าจะเก้าโมง แต่ช่วงนี้หญิงสาวจงใจอยู่ให้ธามเห็นหน้าตลอดเวลาเพราะอยากก่อกวนทำสงครามประสาทกับเขา ธามรับประทานอาหารเช้าของเขาไปเงียบ ๆ อย่างไม่เร่งรีบเพราะเช้าวันเสาร์เขาไม่มีนัดที่ไหน ไข่มุกก็กรีดกรายใช้มีดตัดเนยทาบนขนมปังที่ตัวเองไม่เคยคิดจะกิน
"รับกาแฟเพิ่มไหมคะธาม..."น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างเอาอกเอาใจ นี่ก็อีกเหมือนกัน แต่งงานกันมาไข่มุกไม่เคยใ่ส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสามี แต่นี่เธอจงใจยวนเขา
"ผมพอแล้ว ขอบคุณ"
ธามตอบกลับอย่างสุภาพและห่างเหิน ไข่มุกขบริมฝีปากตัวเอง ข่มใจที่จะไม่หยิบแก้วน้ำส้มแล้วปาออกไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา...สามีผู้เพียบพร้อมที่เย็นชาจนเธอโมโห
“คุณผู้หญิงคะมีคนมาขอพบค่ะ”
ละออง แม่บ้านค่อนข้างสูงวัยเดินเข้ามาบอกอย่างนอบน้อม อารมณ์หงุดหงิดของหญิงสาวจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่อื่น
“ใคร! ใครที่ไหนบ้ามาหาแต่เช้า”
“เอ่อ เขาบอกว่าชื่อสี...สีลาสีดาอะไรนี่ล่ะค่ะ เป็นน้องชายคนที่ชื่ออะไรสัก ๆ อะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ เอ...เมื่อกี้ป้าก็จำได้นะ แต่ตอนนี้กลับลืมไปเสียได้"
ไข่มุกหันไปสบตาธามทันทีและก็เห็นว่าเขาก็มองเธออยู่เช่นกัน คิ้วเข้มยกขึ้นนิด ๆ เป็นเชิงถาม ไข่มุกกัดกรามแน่น ก่อนจะหันไปสั่งแม่บ้านด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ไล่มันกลับไป! ฉันไม่มีธุระอะไรจะพูดกับคนพวกนั้น”
ละอองสะดุ้งกับน้ำเสียงของผู้เป็นนาย ท่าทีเงอะงะทำให้ไข่มุกหันไปสั่งเด็กรับใช้อีกคนที่อายุน้อยกว่า
"นังก้อย แกไปบอกมันหรือใครก็ตามที่มาหาฉัน ว่าให้ไสหัวไป ฉันไม่ให้ใครมาพบฉันทั้งนั้น แล้วถ้าพวกมันไม่ยอมไป แกก็โทรเรียกตำรวจได้เลย"
"ได้ค่ะคุณผู้หญิง"
ก้อยรีบรับคำอย่างกระตือรือร้น แล้ววิ่งตื๋อออกไปตามคำสั่ง
"คุณรู้หรือว่าใครมาหา ถึงได้บอกว่าไม่มีธุระอะไรกับเขา"
ธามถามเสียงเรียบ ไข่มุกหน้าตึง
"ไม่รู้ และไม่อยากรู้ แล้วคุณก็ไม่ต้องเอาเรื่องพวกนี้มายัดเยียดให้ฉันด้วยนะธาม"
"เรื่องพวกนี้ เรื่องพวกไหน"
"เอ๊ะ! จะมากวนฉันทำไม ฉันยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่"
หญิงสาวเอ่ยเสียงสูง แม้เธอจะสามารถเอาตัวรอดจากคดียักยอกทรัพย์ของศักดิ์สยามได้ แต่ลึก ๆ ในใจก็ยังสะดุ้งสะเทือนตามประสาวัวสันหลังหวะ
ที่ด้านหน้าของตัวบ้าน ก้อยเดินมาแจ้ง 'แขก' ของคุณผู้หญิงตามที่ได้รับบัญชามา
“นี่เธอ คุณผู้หญิงไม่ให้พบ กลับไปได้แล้ว"
“หมายความว่ายังไงคะ ไม่ให้พบ"
“ไม่ให้พบก็แปลว่าไม่ให้พบยังไงล่ะ เข้าใจยากตรงไหน”
ศีตลาหน้าซีดเผือด แต่ยังใจแข็งสูดหายใจลึกก่อนพยายามอย่างสุภาพและเป็นมิตร
“แต่ฉันมีธุระสำคัญจะคุยกับคุณไข่มุก ขอความกรุณาเถอะนะคะ”
“เอ๊ะ! ก็คุณผู้หญิงไม่อยากพบ กลับไปได้แล้วไปไป๊"
“พี่...ไปบอกคุณผู้หญิงของพี่อีกสักครั้งเถอะ มันเรื่องสำคัญจริง ๆ พี่ชายฉันถึงกับผูกคอตายในคุกเลยนะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะพี่”
ก้อยตกใจพูดอะไรไม่ออกไปเล็กน้อย
"ผูกคอตาย ใครตาย แล้ว...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณผู้หญิงของฉันยะ”
“เกี่ยวสิคะ เกี่ยวมากด้วย เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณไข่มุกแน่นอน”
ศีตลาเริ่มเสียงดังทั้งใจเสียและร้อนรนเป็นห่วงเรื่องศักดิ์สยาม
"ถ้าเขาไม่ออกมา ฉันก็จะรออยู่ตรงนี้จนกว่าจะได้คุยกัน"
"อ้าวเธอนี่ พูดอย่างนี้ฉันโทรเรียกตำรวจได้นะ"
"ก็โทรเลยค่ะ ดีเหมือนกันจะได้ให้ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย"
ศีตลาบอกอย่างที่ใจคิด ก้อยอึกอักลังเล ก่อนจะหันไปเห็นคนขับรถที่กำลังเดินตรงมาทางนี้
"ลุงธง ๆ มานี่ที ช่วยมาไล่นังนี่ไปที เป็นใครก็ไม่รู้ ไล่ก็ไม่ไป"
ศีตลาตกใจที่ก้อยพูดแบบนั้น เมื่อหันไปเห็นชายวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดซาฟารีสีเทาเข้มกำลังเดินตรงมาที่เธอ ก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าเป็นไงเป็นกัน วันนี้เธอจะต้องหาคนไปช่วยพี่ชายของเธอให้ได้
"ว้าย! จะไปไหนน่ะ"
ก้อยกรีดร้องเมื่อศีตลาทำท่าจะวิ่งโผเข้าไปในตัวบ้าน ปากก็กรี๊ด ขาก็ขยับ มือก็พยายามไขว่คว้ายื้อยุดฉุดแขนแขกไม่ได้รับเชิญเอาไว้
“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ เข้ามาไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง”
“ไม่กลับ! จนกว่าฉันจะได้พบกับคุณไข่มุก”
“ก็บอกว่าไม่ได้ไง อีบ้า! กรี๊ด! ลุงธงมาช่วยกันเร็ว ใครก็ได้โทรแจ้งตำรวจให้ที คนบ้าจะเข้าบ้าน"
"แจ้งเลย แน่จริงก็โทรเรียกตำรวจเลย!"
ศีตลาร้องออกไประหว่างยื้อยุดกับก้อยเช่นกัน ลุงธงที่เป็นคนขับรถก็พยายามเข้ามาช่วยแต่ยังเก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่กล้าโดนตัวเด็กสาวทั้งสองคน
"ทำบ้าอะไรกัน!"เสียงแหลมปรี๊ดบ่งบอกอารมณ์โกรธจัดของไข่มุกดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหยุดชะงักกันไปทันที ดวงตาไฮโซสาวยามนี้วาวโรจน์ สีหน้าเหมือนจะฆ่าคนได้
“แกเป็นใครฉันไม่สน! แต่ต้องออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้”
แต่นาทีนี้ ศีตลาเป็นห่วงพี่ชายเกินกว่าจะกลัวสิ่งใด
“คุณไข่มุกใช่ไหมคะ ฉันมาเพราะเรื่องพี่ชายฉัน พี่ฉันชื่อศักดิ์สยาม เขาเป็น..."
"ฉันไม่สน! พี่แกจะเป็นใครก็ไม่ต้องสาระแนมาบอกฉัน นายธง ลากยัยบ้านี่ออกไปแล้วนังก้อยแกโทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้"
"ค่ะคุณผู้หญิง"
ก้อยสะบัดแขนออกจากมือของศีตลา รีบจัดแต่งผมที่กระเซอะกระเซิงและกำลังจะวิ่งไปโทรศัพท์ แต่ศีตลาโพล่งขึ้นมาก่อนด้วยเสียงไม่เบาเลย
"พี่ฉันกับคุณมีอะไรกันไม่ใช่หรือคุณไข่มุก คุณจะไม่ช่วยเขาเลยสักนิดเหรอ"
สีสันบนใบหน้าของไฮโซสาวเผือดหายไปทันที วินาทีต่อมามันก็แดงก่ำเช่นเดียวกับดวงตาที่ลุกวาบเหมือนมีใครราดน้ำมันใส่กองไฟ
"ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ออกไป๊"
“ฉันไม่ไป ฉันจะพูด พี่ชายฉันกับคุณเป็นชู้กัน และเรื่องที่พี่ยักยอกเงินก็เพราะ..."
เด็กสาวพูดยังไม่ทันจบตอนที่ไข่มุกโผมาถึงตัวและตบหน้าเธออย่างแรงชนิดไม่ให้ทันตั้งตัว
ศีตลาถึงกับเซหน้าหัน น้ำตาไหลพรากออกมาทันทีทั้งเจ็บและโกรธ เมื่อตั้งหลักได้กางมือขึ้นหมายจะพุ่งไปเอาคืนแต่ก็ต้องอุทานเมื่อมีมือที่แข็งแรงกว่ายุดข้อมือเธอไว้ได้ก่อน
ศีตลาร้องด้วยความเจ็บ ดิ้นรนตามสัญชาติญาณและเงยหน้ามองเจ้าของมืออุ่น เขาสูงกว่าที่เธอคิดไว้มาก ผู้ชายตัวสูง ผิวขาว ตัดกับเรือนผมสีดำ ดวงตาสีดำ คนที่เธอเคยเห็นเขาบ่อย ๆ ในสื่อต่าง ๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบตัวจริงของเขา
คุณธาม ธนกิจ...เจ้านายของพี่ชายเธอนั่นเอง
ชายหนุ่มชาวสวนนิ่งไปตอนที่ธามเกริ่นให้ฟังว่าเขากับไข่มุกมีความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันเรื่องลูก ธามจึงจะหาทางออกด้วยการหาคนมาอุ้มบุญ"...แต่คุณเพิร์ลก็ไม่ยอมให้แกทำอย่างนั้นเช่นกัน""ใช่""ถ้าอย่างนั้น ทางออกตรงกลางมันคืออะไรวะนั่น"ปีขาลถึงกับเกาหัว เขาเองก็ยังโสด ไม่มีประสบการณ์ที่ซับซ้อนเรื่องความรักความสัมพันธ์"นั่นล่ะปัญหาใหญ่ ระหว่างฉันกับเพิร์ล เราหาตรงกลางไม่ได้ สำหรับเพิร์ล ฉันก็คือผู้ชายเห็นแก่ตัวที่จะเอาให้ได้ทุกอย่างในชีวิตนี้ ผู้หญิงบริสุทธิ์ก็จะเอา แม่ของลูกก็จะเอา เมียที่คอยปรนเปรอบนเตียงก็จะเอา..."ธามทวนประโยคที่เพิ่งโดนไข่มุกบริภาษมาอย่างครบถ้วน"และเขาจะฉันไม่ยอมให้ฉันสมหวังอะไรเลยสักอย่างเดียว เขาว่าอย่างนั้น"หนุ่มเจ้าของไร่อ้าปากค้าง ขณะที่ธามสีหน้าชาเฉย... "นี่แกโดนเมียด่าจนด้านชาไปแล้วสินะ ไอ้ธาม""ก็ไม่เชิง ฉันแค่ยอมรับว่าที่เพิร์ลพูดมามันถูกต้องแล้ว ฉันเห็นแก่ตัวจริง ๆ แต่ไม่ว่าเขาจะว่ายังไง ฉันก็ยังยืนยันความต้องการของฉัน ต่อให้เพิร์ลไม่ร่วมมือ ฉันก็จะหาทางมีลูกของฉันเอง""...นั่นแปลว่าแกต้องฟ้องหย่า"ปีขาลคาดเดาทางออกของเพื่อนสนิท และธามก็พยักหน้า"ถูกต้อง เ
ห้องนอนของธามกับไข่มุกนั้นแยกกันตั้งแต่ตอนแต่งงาน แต่จะมีประตูเชื่อมให้เดินไปมาหากันได้ ตั้งแต่ธามจับได้ว่าภรรยานอกกายไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ประตูเชื่อมระหว่างสองห้องก็ปิดตาย...คืนนี้เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปหาไข่มุก หญิงสาวที่กำลังนั่งทาครีมอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง จึงหันกลับมามองเขาอย่างแปลกใจแกมยิ้มเยาะ“ตายแล้ว สงสัยบุญของคุณแม่จะได้ผลเร็วทันใจ ถึงกับทำให้พระอภัยมณีที่แสนใจร้าย ยอมเปิดห้องมาหานางยักษ์...”“ผมมีเรื่องจะคุย...จริงจัง”ธามไม่มีแก่ใจจะล้อเล่น ไข่มุกหัวเราะเบา ๆ ก่อนหันไปสนใจกระปุกครีมตรงหน้าต่อ“ก็ว่าไปสิ”“เรื่องลูก...ผมอยากถามคุณอีกครั้ง ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม...”“ไม่ได้! ถ้าคุณจะถามว่าฉันจะยอมตั้งท้อง หรือยอมให้ใครมาอุ้มท้องแทนหรือไม่ ฉันยืนยันคำเดิมว่าไม่ ถ้าคุณอยากมีลูกใจจะขาด ก็ต้องรอให้ฉันตายเท่านั้นแหละ”“เพิร์ล คุณทำแบบนี้ไปทำไม...”น้ำเสียงของเขาท้อแท้สิ้นหวังมากกว่าจะเย็นชาห่างเหินเหมือนอย่างเคย“ผมทำอะไรให้คุณโกรธถึงขนาดนั้นเลยหรือเพิร์ล คุณถึงได้ทำเหมือนจงใจแกล้งผมให้ไม่มีทางออกทางไหนเลย”ไข่มุกนิ่งไปนิด ก่อนหันกลับมา แววตาหยอกล้อหายไปกลายเป็นค
“ของคุณหญิงรับแค่สลัดก็พอนะน้า ตอนอยู่วัดท่านถือศีลแปด งดกินอาหารหลังเที่ยงมาเป็นเดือนจนเริ่มจะชินแล้ว กลับมากินอะไรเบา ๆ ก่อนก็พอ”“ได้ค่ะคุณวีณา”รำพึงรับคำเมื่อผู้ช่วยส่วนตัวของคุณหญิงธัญญาเดินมาสั่ง วีณาทำงานกับคุณหญิงมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีด้วยทุนของมูลนิธิธนกิจการศึกษาจนตอนนี้เธอก็อายุ 35 ปีแล้ว ถ้าเป็นงานของบริษัท คุณหญิงธัญญาในฐานะประธานกรรมการของธามเอนเตอร์ไพรซ์จะมีจำรัสเป็นเลขานุการและทีมผู้ช่วยอีกสามคนแต่ถ้าเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ คนเดียวที่รับจบก็คือวีณาคนนี้ เรียกได้ว่าเป็นคนที่รู้ใจและได้รับความไว้วางใจจากคุณหญิงธัญญามากที่สุด แม้แต่การไปปฏิบัติปีละครั้งก็ยังต้องให้วีณาตามไปด้วย“แต่ว่าอาหารอย่างอื่นของคุณธามกับคุณเพิร์ล ก็จัดเหมือนเดิมเลยนะ เคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น”“ค่ะคุณวีณา”“อืม...” หญิงสาวมองไปรอบ ๆ พลางนึกไปด้วยว่ายังมีอะไรที่หล่อนต้องกำชับอีกหรือไม่ ห้องครัวในบ้านธนกิจมีถึงสามห้อง แบ่งเป็นครัวไทย ครัวฝรั่ง และครัวเบเกอรี่ แต่ละห้องมีอุปกรณ์ทำอาหารเพียบพร้อมไม่ต่างจากครัวของโรงแรมใหญ่ ๆ วันดีคืนดีก็จะจ้างเชฟนานาชาติมาทำอาหารให้ แต่ปกติลำ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ แวน รุ่นสปรินเตอร์ 419 สีดำเป็นมันเงาแล่นผ่านลานน้ำพุมาจอดหน้ามุขประตูบ้านธนกิจ เหล่าแม่บ้าน คนครัว คนสวน คนรับใช้ เกือบสิบชีวิต มายืนออรอรับผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพรียง ประตูรถแวนเลื่อนออกอย่างอัตโนมัติ ที่ก้าวลงมาโดยมีผู้ช่วยคนสนิทยื่นมือให้ช่วยจับคือหญิงวัยประมาณ 60 เศษ ๆ ที่ยังแข็งแรง บุคลิกงามสง่า หน้าสะสวยอ่อนกว่าวัยเสื้อและผ้านุ่งสีขาวทั้งชุดนั้นดูเรียบง่ายแต่เป็นคนที่มีความรู้ด้านแฟชั่นจะรู้ว่าทั้งเนื้อผ้าและการตัดเย็บไม่ธรรมดา อย่างน้อยต้องมาจากห้องเสื้อชั้นสูงของไทยไม่แบรนด์ใดก็แบรนด์หนึ่ง“เป็นยังไงกันบ้าง ฉันไม่อยู่ตั้งเป็นเดือน ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”คุณหญิงธัญญา ธนกิจ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด ละอองที่มีอาวุโสที่สุดเป็นคนตอบ“ปกติเรียบร้อยดีค่ะคุณท่าน พวกอิฉันขอกราบอนุโมทนาสาธุด้วยนะคะคุณท่าน กลับจากปฏิบัติธรรมหนนี้ หน้าตาคุณท่านอิ่มเอิบผ่องใสมากเลยค่ะคุณท่าน”“ขอบใจ ตอนอยู่ที่วัดฉันก็อธิษฐานทำบุญเผื่อพวกเราทุกคนเหมือนกัน...”“ขอบพระคุณมากค่าคุณท่าน” แม่บ้านและเหล่าคนงานพร้อมใจกันยกมือไหว้สาธุ คนรถประจำตัวเปิดประตูด้านหลังรถแวนพลางเรียกให้ทุกคนไปรับขอ
คุณหญิงพลอยสีไม่ได้พูดเล่นตอนที่บอกว่าให้แม่ครัวทำอาหารไว้หลายจานทั้งแกงทั้งผัดจนเต็มโต๊ะรับประทานอาหาร หลายจานเป็นอาหารที่ธามโปรดปรานเป็นพิเศษ ไข่มุกอดค่อนไม่ได้“กินกันแค่สี่คนจริง ๆ หรือคะ หรือว่าพวกพี่ ๆ จะมาด้วย”“วันนี้ก็แค่สี่คนนี่แหละ พวกพี่ ๆ แกติดราชการกันทั้งสามคน ถ้ามาได้แม่คงให้ทำไว้เยอะกว่านี้ โดยเฉพาะพวกขนมนมเนย พวกหลาน ๆ แกน่ะกินทีอย่างกับพายุบุแคม”“ไม่มาน่ะดีแล้ว วิ่งโวยวายกันเป็นลิงเป็นค่าง น่ารำคาญ”หญิงสาวบ่นเบา ๆ แต่ก็ดังพอจะให้คุณหญิงพลอยสีหน้าตึง“นี่หรือเปล่าแกถึงไม่ยอมมีลูกให้ธามเขาสักที เพราะแกเกลียดเด็กหรือยังไง”คนเป็นลูกสาวที่กำลังยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบ ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นแต่แววตาแข็งกระด้าง“คุณแม่อยากรู้เหตุผลจริง ๆ ที่เพิร์ลไม่อยากมีลูกหรือเปล่าล่ะคะ เพิร์ลจะได้บอกว่า...ทำไม”คุณหญิงพลอยสีหน้าตึงทันที ธามเองก็ยังรู้สึกแปลกใจพล.อ.เขมราชรีบเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเข้ม“พอเถอะคุณหญิง มาพูดเรื่องเครียด ๆ ตอนนี้ อาหารจะไม่อร่อยกันพอดี... กินข้าวกันดีกว่า ธาม...คุณหญิงแม่เขาสั่งให้ทำยำถั่วพูไว้ให้ ถั่วพูพ่อปลูกเองอยู่ในสวนข้างบ้านน
ตอนที่ 13 ลูกณ บ้านศศินทร์เดชาคุณหญิงพลอยสีท่าทางดีอกดีใจที่วันนี้ลูกสาวคนเล็กมาหาพร้อมกับลูกเขย นางรีบเดินเข้าไปทักทายธาม แต่กลับแทบไม่ปรายตาไปยังลูกสาวที่มาด้วยกัน“ธาม...เป็นอย่างไรบ้างลูก ทำไมหมู่นี้ไม่ค่อยมาหาแม่เลย”“ผมขออภัยครับ”ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ อย่างสุภาพ เขาไม่อธิบายเพราะไม่อยากจะโกหก... ปล่อยให้แม่ยายเข้าใจไปเองว่าลูกเขยงานยุ่งมากจนไม่มีเวลามาเที่ยวหาไข่มุกปรายตามองอย่างหมั่นไส้แต่ไม่เอ่ยอะไร... เมื่อกลับมาบ้าน บ้านที่มีพ่อกับแม่ของหล่อนอยู่ ดูเหมือนไข่มุกคนเจ้าอารมณ์ก็กลายเป็นผู้เป็นคนเหมือนคนปกติขึ้นมาได้บ้าง“คุณพ่ออยู่ไหมครับ”“อยู่สิจ๊ะ เข้ามาเถอะ พ่อเขารอเจอธามอยู่ที่ห้องหนังสือแน่ะ”“รอเจอแค่ลูกเขยหรือคะ แล้วลูกสาวไม่อยากเจอด้วยหรือไง”ทั้งที่บอกตัวเองว่าจะไม่พูด แต่ไข่มุกก็พูดออกไปจนได้คุณหญิงพลอยสีจึงหันมามอง ทั้งสายตาและวิธีที่มองจิกก็ยังเหมือนกันสมกับเป็นแม่เป็นลูก แต่ไม่รู้ทำไมจึงพูดจากันดี ๆ ไม่ค่อยได้“เธอน่ะฉันจะเจอเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เหมือนนายธาม... ลูกเขยของฉันเป็นถึงนักธุรกิจใหญ่ นาน ๆ จะปลีกตัวมาหาฉันได้ฉันก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา”ไข่มุกเบ้ปาก ธามจับมือแม
ตอนที่ 12 คำตอบถ้าคนของธามไปช้าอีกนิดเดียว ในห้องที่ศักดิ์สยามพักรักษาตัวอยู่ตอนนั้นคงจะเกิดการนองเลือด เพราะไข่มุกกรีดร้องคลุ้มคลั่งพุ่งใส่ชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวว่ากำลังอยู่ในโรงพยาบาล ศักดิ์สยามยกมือปัดป้องเป็นพัลวันแต่กระนั้นเขาก็ได้รอยเล็บจนเลือดซิบมาหลายแผล ต้องใช้บุรุษพยาบาลกับลูกน้องของธามรวมเป็นสามคนจึงจะรวบมือเท้าแขนขาของไข่มุกเอาไว้ได้เพื่อจะให้พยาบาลใช้เข็มฉีดยาปักเข้าเส้นเลือด ให้เธอสงบและหลับไปภายในเวลาไม่ถึงนาทีเมื่อธามรีบตามมาถึง จึงพบว่าภรรยาของเขานอนหลับไปแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน มีผ้ารัดข้อมือของเธอติดไว้กับราวขอบเตียงทั้งสองข้าง“เป็นยังไงบ้าง... ศักดิ์สยาม”แปลกที่ชายหนุ่มกลับดูจะเป็นห่วงศักดิ์สยามมากกว่าภรรยาตัวเอง ดูเขาไม่ตกใจเลยที่ได้ยินเลขาฯ บอกว่าเมื่อชั่วโมงก่อนไข่มุกมีอาการเช่นไร...ศักดิ์สยามเองเสียอีกที่ยังช็อกไม่หาย“ผม...ผมไม่เป็นไรครับ”“แต่ดูท่านายจะได้แผลเยอะเลยนี่”ธามหมายถึงรอยแผลสดเลือดซิบที่ถูกทายาไปทั่วตัว นักบัญชีหนุ่มฝืนยิ้ม“แค่แมวข่วนน่ะครับ ไกลหัวใจ... แต่ว่า... ผมไม่เคยเห็นคุณเพิร์ลเธอเป็นอย่างนี้เลย เธอคงจะโกรธผมมาก”“เพิร์ลไม่เ
“โดนตบไปแล้วครั้งนึงยังไม่เข็ดใช่ไหมอีนังเด็กนี่” “ก็ลองเข้ามาอีกทีสิ วันนี้ไม่มีผัวป้าคอยห้าม รับรองว่าฉันไม่ยอมให้โดนตบฟรีอีกแน่” ศักดิ์สยามที่ยังตกตะลึง มองหน้าน้องสาวกับอดีตชู้รักสลับไปมา ลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปทันที “เดี๋ยว! นี่อะไรกัน ตาลเคยเจอคุณเพิร์ลแล้วเหรอ” ศีตลาไม่ยอมตอบ อีกฝ่ายจึงตอบแทน “แกแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ๆ นายต้น” “ผม...ผมต้องรู้เรื่องอะไร” “ก็เรื่องที่น้องสาวแกคนนี้มันแร่ดเอาตัวไปเสนอให้ธามถึงบ้าน เพื่อแลกกับการยอมความ ให้แกไม่ต้องติดคุกไง” ศักดิ์สยามหันกลับมามองหน้าน้องสาว ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ ผู้หญิงใจดำอย่างไข่มุกย่อมจะพูดอะไรก็ได้... แต่ศีตลากลับไม่ยอมสบตาเขา เธอเอาแต่มองไปทางอื่น... “ตาล ลูกตาล...” “จะอ้ำอึ้งทำไมนังเด็กแร่ด ยอมรับไปสิว่าแกจะขายตัวเพื่อแลกกับการยอมความจริง ๆ” “หนูเปล่าขายตัว อย่าพูดอะไรมั่ว ๆ นะป้า” “ขืนเรียกฉันว่าป้าอีกคำเดียว ฉันจะเอาแกหน้าแหกแน่” ไฮโซสาวลูกสาวนายพลลืมกิริยาผู้ดีไปสิ้น กางมือร่าเตรียมจะโผเข้าหาเด็กสาวที่ยืนตั้งรับอยู่อีกฟากของห้อง แต่ทนายกับผู้ช่วยสาวที่มาด้วยกันนั้นรีบสะกิดห้ามไว้เสียก่อน “เอ่อ คุณเ
ศีตลาตื่นแต่เช้า แต่งตัวชุดนักศึกษาแล้วก็สะพายกระเป๋าออกจากหอ แต่สถานที่ที่จะไปยังไม่ใช่วิทยาลัย เด็กสาวพิมพ์ส่งข้อความไปบอกลลิตาทางแชตไลน์ - วันนี้จะไปสาย คาบแรกฝากลาอาจารย์ด้วย –ไม่ถึงสามวินาที ลลิตาก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมา เป็นตัวการ์ตูนชูนิ้วว่า - OK- นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ศีตลาคบหาเป็นเพื่อนกับลลิตาหรือลิลลี่ได้ยาวนานมาเกินเกือบสิบปี เพราะเพื่อนคนนี้ไม่ใช่คนชอบซักไซ้ซอกแซก นอกจากไม่ใช่คนชอบจับผิด ลลิตาก็ยังเป็นคนสดใส ใจกว้าง เธอจึงสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆศีตลาโดดเรียนวิชาแรกของเช้านี้ เพราะจะไปหาศักดิ์สยามที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง...ทนายความของธามโทรศัพท์มาบอกเธอตั้งแต่เมื่อวานว่าย้ายโรงพยาบาลให้พี่ชายของเธอ และเพื่อความปลอดภัยของเขา ก็ห้ามเธอไม่ให้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ โดยเฉพาะคุณไข่มุกถ้าไม่เพราะโดนฝ่ามือของนางปีศาจนั่นมาแล้วรอบนึง ศีตลาก็คงนึกไม่ออกเลยว่าผู้หญิงสวยสง่า ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไข่มุก เนื้อแท้จะเป็นคนโหดร้ายใจดำได้ขนาดไหน ก็คงไม่แปลกที่แม้แต่ทนายความฝั่งสามียังไม่อยากเปิดเผยที่อยู่ของศักดิ์สยามให้นางรู้ คงกลัวพี่ชายของเธอจะไม่ปลอดภัยเสียล่ะกระม