วันต่อมา
วันนี้ทั้งสามคนออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด ใช้รถตู้คันหรูสีดำเป็นยานพาหนะในการเดินทางจากกรุงเทพลงใต้ โดยเตชินท์กับศิลาผลัดเปลี่ยนกันมาขับรถ ส่วนซีเซียก็นั่งอยู่เบาะหลัง พูดคุยกับคนรักและอาของเธอน้ำเสียงเจื้อยแจ้วไปเรื่อย
"อาเตพวกเราถึงไหนกันแล้วคะ อีกนานไหมกว่าจะถึงบ้านตากับยาย" แม้ซีเซียจะรู้ดีว่าบ้านตากับยายของเธออยู่จังหวัดไหนและเขตไหนของภาคใต้ แต่เพราะเธอไม่รู้เส้นทาง เธอจึงถามคนเป็นอาออกไปแบบนั้น
"เข้าเขตภาคใต้มาไกลแล้วครับ อีกประมาณสองชั่วโมงก็น่าจะถึงแล้ว" เตชินท์เอ่ยตอบขณะที่ดวงตาคู่คมมองยังถนนเบื้องหน้า ก่อนจะเอ่ยถามหลานสาวกลับบ้างในสิ่งที่เขาอยากรู้เต็มประดาถึงเรื่องที่เคยตกลงกันไว้
"แล้วตกลงน้องเซียจะบอกอาได้ยังครับ ว่าจะช่วยอาจีบหนูพั้นซ์ยังไง"
ได้ยินเช่นนั้นซีเซียก็รีบหยัดตัวขึ้นมาเกาะเบาะคนขับจากด้านหลังที่คนเป็นอานั่งอยู่แล้วเอ่ยตอบออกไป
"ถ้าอาเตอยากได้พั้นซ์ อาเตก็ต้องทำให้พั้นซ์มาอยู่กับพวกเราก่อนค่ะ เพราะถ้ายังอยู่ห่างไกลกันแบบนี้แล้วอาเตจะจีบพั้นซ์ยังไงล่ะคะ จริงไหม"
"แล้วอาต้องทำยังไงให้หนูพั้นซ์มาอยู่บ้านเรา แล้วตากับยายน้องเซียจะยอมให้หนูพั้นซ์มาอยู่กับพวกเราเหรอ" เตชินท์ถามต่อโดยที่สายตายังคงมองถนนเบื้องหน้า เสมือนกำลังตั้งอกตั้งใจกับการขับรถ ทว่าในหัวกลับคิดแต่เรื่องของน้ำพั้นซ์
"ไม่ยากค่ะ ก็แค่เปลี่ยนปัญหาตอนนี้ให้เป็นโอกาสซะเลย ตอนนี้พั้นซ์โดนตาคาดโทษอยู่ แต่หนูรู้จักพั้นซ์ดีค่ะ คนอย่างน้ำพั้นซ์ดื้อขนาดนั้นไม่มีทางหลาบจำหรอกค่ะ ยังไงพั้่นซ์ก็ต้องแอบหนีไปเล่นปลากัดอีกแน่" ด้วยความที่ซีเซียอยู่กับน้ำพั้นซ์มาหลายปีตอนที่เธอหนีศิลามาอยู่บ้านตากับยาย เธอจึงรู้ดีว่าน้ำพั้นซ์เป็นคนยังไง เธอที่ถูกมองว่าเป็นคนดื้อรั้น ยังดื้อไม่เท่าครึ่งของน้ำพั้นซ์เลย เพราะรายนั้่นทั้งดื้อทั้งแสบซน ไม่ฟังใครและไม่ยอมคนด้วย
"ว่าแต่คนอื่นดื้อ ตัวเองไม่ดื้อเลยเนอะ" ศิลาที่ฟังอยู่ อดไม่ได้ที่จะหันมาว่าเมียเด็กของตัวเองอย่างไม่จริงจัง เชิงหยอกเย้าเธอ
"อาศิอย่าขัดสิคะ หนูกำลังคุยกับอาเตอยู่ อีกอย่างถึงหนูจะดื้อแต่ก็ดื้อไม่เท่าพั้นซ์หรอกค่ะ รายนั้นแสบจะตาย เดี๋ยวพวกอาๆได้เห็นก็รู้เอง ถ้าเทียบกับหนูแล้ว หนูกลายเป็นเด็กดีไปเลยค่ะจะบอกให้" ซีเซียหันไปเถียงกลับศิลาทันทีอย่างกระเง้ากระงอดเล็กน้อย ก่อนที่เสียงหัวเราะของคนเป็นอาจะดังขึ้นดึงความสนใจของเธอให้หันกลับมาทางคนเป็นอาอีกครั้ง
"หึๆ แล้วอาต้องทำยังไงครับว่ามาเลย"
"ก็อย่างที่หนูบอกว่าคุณตาคาดโทษพั้นซ์ไว้ ว่าจะส่งพั้นซ์ไปอยูกับแม่พั้นซ์หรือไม่ก็จับแต่งงาน อาเตก็แค่ใช้จังหวะนี้ขอพั้นซ์มาเลี้ยงเลยค่ะ"
"มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ ใครจะยอมยกหลานตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงง่ายๆ อาว่าแผนนี้คงไม่ได้ผลหรอกครับ" ซึ่งแน่นอนเตชินท์คิดว่าแผ่นของหลานสาวคงล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม เพราะคงไม่มีใครยอมยกลูกยกหลานของตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงง่ายๆอย่างแน่นอน
สิ้นเสียงของคนเป็นอา ซีเซียก็พูดส่วนกลับไปทันควัน
"ง่ายๆแบบนี้แหละค่ะ แล้วก็ต้องได้ผลแน่นอน เพราะตาเคยชมหนูว่าเป็นเด็กดีมีมารยาท แถมยังว่านอนสอนง่ายอีกต่างหาก ตาชมว่าอาเตสั่งสอนเลี้ยงดูหนูได้ดีมากๆค่ะ จุดนี้แหละค่ะที่หนูคิดว่าตากับยายของหนูต้องยอมให้พั้นซ์มาอยู่กับอาเตแน่นอน อีกอย่างหนูจำได้ว่าตาเคยพูดเอาไว้ ว่าถ้ามีโอกาสจะส่งพั้นซ์มาให้อาเตสั่งสอนบ้าง จะได้ว่านอนสอนง่ายเหมือนหนู คุณตาชมอาเตบ่อยมากเลยนะคะ อันนี้อาเตต้องยกเครดิตให้หนูนะที่เป็นเด็กดี จนตากับยายต้องชมคนเลี้ยงอย่างอาเตไง คิกๆๆ~" พูดจบซีเซียก็หัวเราะชอบใจเมื่อนึกถึงคำชมของตากับยาย รู้สึกภมูิใจในตัวเองขึ้นมาเฉย
"ตากับยายน้องเซียคงยังไม่รู้สินะ ว่าตอนน้องเซียอยู่กับพวกอาน้องเซียดื้อขนาดไหน"
ทว่าศิลาก็พูดขัดขึ้นมาอีกครั้ง ทำเอาซีเซียหุบยิ้มแทบไม่ทัน แล้วพูดส่วนศิลาไปอย่างกระเง้ากระงอด
"อาศิอะ ทำไมชอบขัดชอบว่าหนูอยู่เรื่อยเลย ชิ งอนอาศิแล้ว" พูดจบซีเซียก็ยกแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก ทำหน้ามุ่ยใส่ศิลาก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง ทว่าท่าทางของเธอตอนนี้ทำเอาศิลาหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู
"หึๆ อาก็แค่หยอกเล่น อย่างอนเลยครับคนสวยของอา"
ได้ยินเช่นนั้นซีเซียก็หันกลับมามองศิลาอีกครั้ง แล้วเอ่ยพูดกับเขาไป
"ปากหวานแบบนี้หนูไม่งอนแล้วก็ได้"
"หึๆ น่ารักที่สุดเลยครับ มานี่มา ขยับมาใกล้ๆให้อาหอมหน่อยครับ"
สิ้นเสียงของศิลา ซีเซียก็ขยับเข้าไปใกล้ตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แล้วยื่นหน้าไปให้ศิลาหอมทันที ด้านศิลาก็ไม่รอช้า จับใบหน้าสวยหวานของคนรักก่อนจะกดทั้งปากทั้งจมูกลงบนแก้มนุ่มๆหอมๆของเธอ แล้วสูดดมกลิ่นแก้มนุ่มเข้าปอดอย่างชื่นใจก่อนจะผละออกแล้วหอมแก้มนุ่มอีกข้างในแบบเดียวกัน
ด้านเตชินท์ที่หันมามองเพื่อนกับหลานสาวเป็นพักๆ ก็ถึงกับส่ายหน้าให้ทั้งคู่ที่แสดงความรักกันโดยไม่คิดจะเกรงใจเขาที่นั่งหัวโ่ด่อยู่เลย แต่พอเห็นแบบนี้เขาก็นึกไปถึงน้ำพั้นซ์ และหวังว่าสักวันหนึ่งเขากับน้ำพั้นซ์จะอยู่ในสถานะที่สามารถแสดงความรักแบบนี้ต่อกันได้ ภายในใจตอนนี้รู้สึกดีไปหมด เมื่อการเฝ้าดูเธอห่างๆมาตลอดสี่ปีกำลังจะสัมฤทธิผลเข้ามาทุกที ยิ่งขับรถใกล้ถึงจุดหมาย เขาก็ยิ่งตื่นเต้นที่จะได้เจอเธอ...
หนึ่งเดือนต่อมาช่วงเวลาหนึ่งเดือนมานี้มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นมากมาย งานแต่งของศิลากับซีเซียก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ คราแรกเตชินท์กับศิลาได้คุยกันไว้เล่นๆว่าอยากจัดงานแต่งพร้อมกันสองคู่ ทว่าก็ไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้เพราะฤกษ์ดีของศิลากับซีเซียที่หาไว้แล้วดันไม่ใช่ฤกษ์ดีของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์ ฤกษ์ดีไม่ตรงกันจึงไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้ ซึ่งฤกษ์ดีหรือฤกษ์แต่งงานของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์คืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ...ทว่าเจ้าตัวน้อยก็ดันมากำเนิดในท้องของน้ำพั้นซ์ก่อนงานแต่งเหมือนคู่ของศิลากับซีเซีย แม้จะเป็นการท้องก่อนแต่ง แต่ทุกคนก็ต่างร่วมยินดีกับทั้งสองคู่ตอนนี้น้ำพั้นซ์ตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้ว ส่วนซีเซียก็ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์ อายุครรภ์ห่างกันแค่เดือนเดียว ส่วนสองหนุ่มใหญ่พอเจอหน้ากันก็ขิงใส่กันแทบทุกวัน ว่าต่างฝ่ายต่างน้ำยาดีสามารถทำให้สาวๆติดท้องได้เร็ว ทั้งที่อายุก็จะเข้าเลขสี่อยู่แล้วแต่ก็ยังมีน้ำยา"มาอีกแล้วเหรอมึง บ้านช่องตัวเองไม่อยู่ อยู่แต่บ้านกูเนี่ย" เมื่อเห็นเพื่อนกับหลานสาวมาบ้าน เตชินท์ก็เอ่ยทักเพื่อนไปอย่างกวนๆตามประสาเพื่อนรักเพื่อนสนิท"มึงพูดแบบน
วันต่อมาวันนี้เตชินท์กับน้ำพั้นซ์ได้เดินทางกลับกรุงเทพ มาถึงบ้านก็ช่วงค่ำเหมือนเดิม ทว่าวันนี้ศิลากับซีเซียได้พากันมานอนที่บ้านด้วยในเวลาห้าทุ่มกว่าๆ สองหนุ่มใหญ่ต่างหลับไหลอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าข้างกายของพวกเขาตอนนี้ไร้ซึ่งร่างบางหรือเมียตัวน้อยของพวกเขา"มาแล้วจ้า~ มาม่าร้อนๆ ฝีมือไอพั้นซ์""หืม~ หอมอ่ะพั้นซ์ วางเลยๆ เราหิวจะแย่แล้ว""นั่งข้างล่างดีกว่าไหมเซีย กินหม้อเดียวกันจะได้กินถนัดหน่อย""ได้ดิ"หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อย สองสาวก็นั่งลงบนพื้นภายในห้องครัว น้ำพั้นซ์วางมาม่าหม้อเล็กที่เธอเพิ่งต้มเสร็จใหม่ๆกำลังร้อนๆน่ากินลงบนพื้น จากนั้นสองสาวก็ไม่รอช้า จับตะเกียบคีบเส้นมาม่าในหม้อแล้วเป่าก่อนจะป้อนเข้าปากตัวเอง เคี้ยวตุ่ยๆอย่างเอร็ดอร่อย ให้สมกับความหิวกลางดึกโดยไม่ได้นัดหมาย ในเมื่อต่างคนต่างหิวพวกเธอก็เลยตัดสินใจมาต้มมาม่ากินกันสองคนในครัวแบบนี้ด้านเตชินท์ที่ลุกขึ้นมาจะเข้าห้องน้ำกลางดึก ทว่าเมื่อไม่เห็นเมียเด็กข้างกาย เขาจึงเดินไปดูในห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอ เลยเดินออกมาดูนอกห้อง ก็พบกับศิลาที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนพอดี ก่อนจะเป็นศิลาที่เอ่ยถามขึ้น"มึงจะไป
วันต่อมาวันนี้น้ำพั้นซ์พาเตชินท์ไปหาแม่ของเธอที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอเพื่อแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันไว้ หรือพาลูกเขยไปไหว้แม่ยายนั่นเอง หลังจากอยู่คุยกับคนเป็นแม่จนถึงช่วงบ่ายแก่ๆก็พากันกลับ โดยระหว่างทางกลับก็แวะตลาดสดเพื่อซื้อกับข้าวเย็นขณะที่ทั้งคู่เดินอยู่ในตลาดก็ดันมาเจอดิวที่มาเดินตลาดเช่นกัน โดยเป็นดิวที่เอ่ยทักขึ้นก่อน"มาซื้อกับข้าวเนาะพั้นซ์" (มาซื้อกับข้าวเหรอพั้นซ์) ดิวถามพลางหลุบตามองมือของน้ำพั้นซ์ที่มีมือของเตชินท์จับอยู่ เห็นเช่นนั้นดิวก็รู้สึกปวดใจ แต่ลึกๆก็ยินดีกับน้ำพั้นซ์ที่ได้คนเพรียบพร้อมอย่างเตชินท์คอยดูแล เทียบกับเขาที่ไม่มีอะไรเลย ก็คงเป็นได้แค่พี่ชายที่ดีให้เธอต่อไป"อือ แล้วนี่พี่ดิวจะขับรถกลับบ้านยังไงอ่ะ กับข้าวเต็มมือขนาดนี้" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบก่อนจะถามกลับเมื่อเห็นดิวซื้อของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง คงจะพากลับลำบาก"พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง" (พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง)น้ำพั้นซ์ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้ดิวอย่างเข้าใจ เธออยากจะเอ่ยปากชวนดิวกลับด้วยกันแต่ก็ไม่กล้า กลัวคนข้างๆจะไม่พอใจอีก"ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง งั้นก็กลับด้วยกันสิ"ทว่าเสียงทุ้มข
สองวันต่อมาวันนี้เตชินท์หาเวลาว่างพาน้ำพั้นซ์กลับใต้มาหาคนเป็นตากับยาย แต่ซีเซียกับศิลาไม่ได้มาด้วย เนื่องจากซีเซียนั้นท้องอยู่ จึงไม่สามารถนั่งรถเดินทางไกลๆได้เพราะจะเสี่ยงอันตรายต่อครรภ์อ่อนๆเตชินท์กับน้ำพั้นซ์เดินทางมาถึงใต้ช่วงเวลาตะวันใกล้ตกดินพอดี หลังจากที่น้ำพั้นซ์พูดคุยและกอดหอมคนเป็นตากับยายด้วยความคิดถึงจนหนำใจแล้ว ทุกคนก็พากันลงไปทานข้าวเย็นข้างล่างตรงใต้ถุนบ้าน ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของดิวที่ขับเข้ามาในบ้านก็ดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง ด้านดิวเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินมุ่งตรงมาทางทุกคนทันที ก่อนจะเอ่ยทักทายน้ำพั้นซ์ไป"หลบมาถึงนานแล้วเนาะพั้นซ์" (กลับมาถึงนานแล้วเหรอพั้นซ์)"ถึงสักพักแล้วล่ะ" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบดิว ก่อนจะหันมามองคนตัวโตข้างๆที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นเขามองมาแววตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่เขาก็เงียบ เธอเองก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร กระทั่งเสียงคนเป็นยายดังขึ้น"รู้ได้ไงว่าเจ้าพั้นซ์มันกลับบ้าน ได้ข่าวไวจริงนะเอ็ง""กะพั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมโร้พรือล่ะยาย" (ก็พั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมรู้ได้ไงล่ะยาย"ด้านน้ำพั้นซ์ตอนนี้นั่งก้มหน้างุด เพราะ
หนึ่งเดือนผ่านไปวันเวลาล่วงเลยผ่านไปเร็วเหมือนโกหก หนึ่งเดือนมานี้ทุกคนต่างดำเนินชีวิตไปตามปกติ ด้านน้ำพั้นซ์ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ได้แล้ว และใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับเตชินท์ได้อย่างมีความสุข แม้ที่ผ่านมาจะมีการงอนง้อหรือง้องอนกันบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคู่รักอยู่แล้ว และอีกหนึ่งข่าวดีที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งเดือนนี้คือซีเซียได้ตรวจพบว่าเธอนั้นท้องจริงๆ แต่ระยะครรภ์แค่เพียงสามสัปดาห์เท่านั้น หรือเธอเพิ่งจะตั้งครรภ์หลังจากที่กลับจากใต้นั่นเอง20:35 น.ณ ร้านเหล้าเปิดใหม่"ขอบใจนะไอเตไอศิที่มาประเดิมร้านให้กู ว่าแต่สองสาวน้อยนี่ใครวะ สวยจัด" เสียงเบียร์ เพื่อนสมัยเรียนมหาลัยของเตชินท์และศิลาเอ่ยพูดขึ้น โดยไม่ลืมที่จะถามถึงสาวน้อยข้างกายของทั้งสองคนที่สวยและน่ารักไม่แพ้กันเลย"เมียกู!/เมียกู!" เตชินท์กับศิลาเอ่ยตอบพร้อมกันทันทีด้วยน้ำเสียงแข็ง ต่างก็รู้สึกไม่ชอบใจเบียร์เท่าไหร่ที่มาชมเมียของพวกเขาต่อหน้าต่อตา ตามประสาคนหวงเมีย จนเบียร์ต้องเอ่ยความบริสุทธิ์ใจออกไป"กูก็แค่ชมเมียพวกมึงเฉยๆ อย่ามาทำหน้าแบบนี้ใส่กูดิ ว่าแต่ไม่คิดจะแนะนำเมียพวกมึงให้เพื่อนอย่างกูรู้จักหน่อยเหรอวะ
เมื่อทั้งสี่คนกลับมาถึงบ้าน ศิลาก็ขอตัวพาซีเซียกลับบ้านของเขา ตามที่เคยตกลงกันไว้ว่าถ้าหากเตชินท์มีเมียเมื่อไหร่ก็จะยอมปล่อยซีเซียให้ไปอยู่บ้านของศิลาและเมื่อศิลาพาซีเซียกลับไปแล้ว เตชินท์ก็เดินขึ้นไปชั้นบน น้ำพั้นซ์ที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินตามไปทันที พลางเอ่ยถามออกไป"อาเตจะไปไหนคะ""ห้องทำงานครับ อามีประชุมออนไลน์" เตชินท์เอ่ยตอบโดยที่ยังเดินไปข้างหน้า ไม่ได้หันกลับมามองคนตัวเล็กเลย เพราะเขากำลังแกล้งเมินเธออยู่ แต่เขาก็มีประชุมออนไลน์จริงๆ ถึงแม้เขาจะหายงอนเธอแล้ว แต่เขายังอยากที่จะแกล้งงอนเธอต่อ เพราะแค่อยากให้เธอง้อเขาอีก อยากใจละลายใจระทวยกับการง้อของเด็กก็เท่านั้นด้านน้ำพั้นซ์พอได้ยินคนตัวโตบอกว่ามีประชุมออนไลน์ สองเท้าเล็กก็หยุดชะงักกับที่ โดยไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เลือกที่จะเดินไปอีกทาง เพราะไม่อยากตามไปรบกวนเขาในเวลาทำงานน้ำพั้นซ์เดินมานั่งตรงประตูด้านข้างของบ้าน ดวงตากลมโตทอดมองไปยังสระน้ำสีฟ้าใสดูสะอาดตา พอได้อยู่คนเดียวโดยไม่มีซีเซียหรือคนคอยคุยด้วย ภายในใจก็รู้สึกอ้างว้างขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกคิดถึงตากับยาย คิดถึงบ้าน คิดถึงทุกอย่างที่ใต้ ทว่าอยู่ๆโทรศัพท์ในกระเป