บ้านของโกฮัน: ตำนานแห่งผู้ปราบและผู้บัญชาการ
โกฮัน ก้าวเข้ามาในบ้านพร้อมกับพ่อและแม่ของเขา ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งและเต็มไปด้วยคำถาม หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อคืนนี้ เขาอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับพลังที่เพิ่งตื่นขึ้นในตัวเขา และบทบาทของครอบครัวในประวัติศาสตร์ที่ถูกซ่อนไว้ "แม่ครับ... พ่อครับ... เรื่องเมื่อคืนนี้... มันคืออะไรกันแน่ครับ? ทำไมเราถึงต้องสู้กับพวกปีศาจเงา แล้วทำไมผมถึงรู้สึกมีพลังแบบนี้?" โกฮันถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน แม่ของโกฮันเดินเข้ามาโอบกอดลูกชายเบาๆ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและความภาคภูมิใจ "ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเล่าให้ลูกฟังนะโกฮัน เรื่องราวของตระกูลเรา... มันคือบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่เราถูกเลือกให้แบกรับมาโดยตลอด" "ในสมัยที่โลกยังคงเต็มไปด้วยความมืดมิดจากเงาปีศาจ... มันเป็นช่วงเวลาแห่งความโกลาหลและความหวาดกลัว" แม่ของโกฮันเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่ชัดเจน "ทวดของทวดของแม่... ท่านไม่ได้เป็นเพียงนักเวทย์ธรรมดาๆ หรอกนะลูก" พ่อของโกฮันเสริม "ตระกูลของเราคือ นักปราบ และ ผู้บัญชาการ บรรพบุรุษของเราเป็นผู้นำทัพเหล่านักเวทย์สายขาวเข้าสู่สมรภูมิ พวกท่านคือผู้ที่คอยวางแผนกลยุทธ์การต่อสู้ และนำทัพสู่ชัยชนะ" "ทวดของทวดของแม่" แม่ของโกฮันเล่าต่อ "ท่านเป็นนักเวทย์ที่เชี่ยวชาญด้าน การต่อสู้ระยะประชิด และ คาถาทำลายล้างที่รุนแรง ท่านมีพลังกายและพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง และท่านเป็นผู้ที่สามารถควบคุมพลังเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ ทุกการเคลื่อนไหวของท่านในการต่อสู้คือความรุนแรงและเด็ดขาด" "ท่านไม่ได้สู้เพียงลำพังหรอกนะลูก" พ่อของโกฮันเล่าต่อ "ท่านเป็นผู้ที่สามารถ รวบรวม และ บัญชาการ เหล่านักเวทย์สายขาวที่มีความสามารถหลากหลาย ให้ทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทวดของทวดของแม่เป็นผู้ที่มองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของปีศาจเงาได้อย่างชัดเจน และท่านก็วางแผนการโจมตีที่แม่นยำที่สุด" "ในสงครามครั้งสุดท้าย... เมื่อปีศาจเงาที่แข็งแกร่งที่สุดปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับกองทัพปีศาจจำนวนมหาศาล" แม่ของโกฮันกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น "ทวดของทวดของแม่ ท่านได้นำทัพเข้าปะทะกับผู้นำปีศาจโดยตรง การต่อสู้ครั้งนั้นรุนแรงจนแผ่นดินสะเทือน เลือดของปีศาจสีดำนองไปทั่วสมรภูมิ" "ท่านได้ใช้พลังทั้งหมดในการ ปลดปล่อยคาถาทำลายล้างขั้นสุดยอด ที่รวมพลังของนักเวทย์สายขาวจำนวนมาก และพลังของท่านเองเข้าไว้ด้วยกัน คาถานั้นสร้างคลื่นพลังงานบริสุทธิ์ที่แผดเผาร่างของผู้นำปีศาจ ทำให้มันอ่อนแอลงจนสามารถถูกกำจัดได้ในที่สุด" พ่อของโกฮันกล่าวเสริมด้วยความภาคภูมิใจ "ชัยชนะครั้งนั้นเกิดขึ้นได้เพราะความสามารถในการบัญชาการและพลังทำลายล้างที่ไร้เทียมทานของบรรพบุรุษเรา" แม่ของโกฮันมองลูกชายด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง "นี่คือภาระหน้าที่ของตระกูลเรา โกฮัน... การเป็นผู้นำ การเป็นผู้ปราบ และการเป็นผู้บัญชาการในสงครามแห่งแสงและความมืด พลังที่ลูกมีอยู่ในตอนนี้... คือพลังแห่งการทำลายล้างและความสามารถในการนำทัพ ลูกคือผู้นำในการต่อสู้ครั้งต่อไป" โกฮันฟังเรื่องราวทั้งหมดด้วยความตื่นเต้นและรับรู้ถึงพลังอันมหาศาลที่หลับใหลอยู่ในตัวเขา ความรู้สึกของการเป็นผู้นำและความรับผิดชอบเริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขาอย่างชัดเจน บ้านของโอกิ: เรื่องเล่าแห่งผู้คุมกฎและผู้สร้างปราการ ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านของ โอกิ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความห่วงใยเช่นกัน โอกิกลับถึงบ้านพร้อมพ่อและแม่ และทันทีที่ประตูเปิดออก คุณปู่ และ คุณย่า ของเขาก็รีบวิ่งเข้ามาสวมกอดหลานชายด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด "โอกิ! หลานย่าปลอดภัยดีใช่ไหม!? ปู่เป็นห่วงแทบแย่เลย!" คุณปู่และคุณย่ากล่าวพร้อมกัน ท่านทั้งสองลูบไล้แขนขาของโอกิ ราวกับจะมั่นใจว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ โอกิรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ย่าครับ... ปู่ครับ... พ่อกับแม่... เรื่องเมื่อคืนนี้... ผมอยากรู้เรื่องทั้งหมดครับ" คุณย่าของโอกิถอนหายใจยาวๆ ท่านมองไปยังพ่อและแม่ของโอกิ ก่อนจะหันมามองหลานชายด้วยแววตาที่จริงจัง "เอาล่ะ... ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องรู้เรื่องราวที่แท้จริงของตระกูลเรานะโอกิ" คุณย่าเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มแต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง "เรื่องนี้ถูกเล่าสืบทอดกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของย่าเลยล่ะ" คุณย่าเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างบ้าคลั่งนั้น ตระกูลของเราไม่ได้เป็นนักรบแนวหน้า หรือผู้เยียวยาโดยตรง แต่พวกเราคือ ผู้คุมกฎ และ ผู้สร้างปราการ" "ทวดของทวดของย่า" คุณย่าเล่าต่อ "ท่านเป็นนักเวทย์ที่เชี่ยวชาญด้าน คาถาป้องกัน และ การสร้างเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ ท่ามกลางสงครามที่ดุเดือด นักเวทย์สายขาวส่วนใหญ่ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีโดยตรง แต่ทวดของทวดของย่า ท่านได้ใช้พลังเวทย์ของท่านในการสร้าง ปราการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อคุ้มครองเหล่าผู้บริสุทธิ์และสถานที่สำคัญ" คุณปู่ของโอกิเสริม "ท่านไม่ได้สร้างแค่กำแพงเวทมนตร์ธรรมดาๆ หรอกนะลูก แต่ท่านสร้างปราการที่สามารถ ดูดซับพลังงานปีศาจ และ แปรเปลี่ยนให้เป็นพลังงานป้องกัน ได้ ทวดของทวดของย่าเชื่อว่าการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดคือการเข้าใจและควบคุมพลังของศัตรู" "ในสงครามครั้งสุดท้าย... เมื่อปีศาจเงาพยายามจะโจมตีไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งรวมพลังงานของเหล่านักเวทย์สายขาว" คุณย่าเล่าต่อ "ทวดของทวดของย่า ท่านได้ใช้พลังทั้งหมดในการ สร้างปราการเวทมนตร์ขนาดยักษ์ ที่มองไม่เห็น ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของแหล่งพลังงานนั้น ปราการนั้นแข็งแกร่งเสียจนปีศาจไม่สามารถทะลุผ่านได้เลย ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน" "นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้ที่สามารถ กำหนดกฎเกณฑ์ และ ขอบเขต ของการใช้เวทมนตร์ เพื่อให้การต่อสู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อโลกมากเกินไป" คุณปู่กล่าวเสริม "ความสามารถในการควบคุมและสร้างปราการคือสิ่งที่ถูกส่งต่อมาในสายเลือดของพวกเราโอกิ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเข้าใจในพลังแห่งการป้องกันและการสร้างเขตแดน" คุณย่ามองหลานชายด้วยความภาคภูมิใจ "นี่คือภาระหน้าที่ของตระกูลเรา โอกิ... การเป็นผู้คุมกฎ การเป็นผู้สร้างปราการ และการเป็นผู้ปกป้องผู้บริสุทธิ์ พลังที่ลูกมีอยู่ในตอนนี้... คือพลังแห่งการสร้างปราการและควบคุมขอบเขต ลูกคือปราการสำคัญในการต่อสู้ครั้งต่อไป" โอกิฟังเรื่องราวทั้งหมดด้วยความรู้สึกเข้าใจในบทบาทของตัวเอง เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงมักจะคิดถึงเรื่องการป้องกันและการวางแผนเสมอมา พลังแห่งการสร้างปราการกำลังจะถูกปลุกขึ้นในตัวเขาอย่างเต็มที่ เรื่องเล่าจากอดีตของแต่ละครอบครัว ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยความลับที่ถูกซ่อนไว้มานาน แต่ยังเป็นการปลุกจิตวิญญาณของทายาทนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างแท้จริงเสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง