"จุ๊บบ!! " คราวนี้ไม่ใช่แค่ริมฝีปากที่แนบชิดเหมือนก่อนหน้า แต่ลิ้นอุ่นของเขาได้แทรกเข้าไปในโพรงปากหวานของเธอด้วย และรุกเร้าเข้าไปกวาดต้อนน้ำหนาวลงคออย่างไม่นึกรังเกียจ จนเธอเผลอปล่อยเสียงครางแผ่วออกมาโดยไม่รู้ตัว
"อื้อออ~ อื้มมม!" เสียงครางอื้ออึงในลำคอดังขึ้นเป็นระยะ ขณะที่ใจบางเต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะ
หมับ!!
"อ๊ะ! หยุดเลยนะ ให้จูบไม่ได้ให้จับ!!" ร่างบางจับมือปลาหมึกของอีกคนที่เริ่มเลื้อยไปทั่วส่วนเว้าโค้ง ก่อนจะมาหยุดที่อกอวบ เธอเม้นปากแน่น ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่
"ทำไม? ไม่อยากได้มากกว่านี้หรอ..." เสียงทุ้มพร่ากระซิบถาม ตาคมจ้องมองมาที่เธอหยาดเยิ้ม ทำเอาเธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
"อึก! มะไม่~" ร่างบางเอ่ยปฏิเสธเสียงสั่น ทั้งที่ในใจของตัวเองตีกับความรู้สึกที่เริ่มปะทุขึ้นมาจนว้าวุ่นไปหมด
"ไม่จริงๆ หรอ...หื้ม?" ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้ามากระซิบข้างใบหูขาว ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดต้นคอ จนเธอขนลุกซู่
"อื้อออ ปล่อยเลยนะ...ตอนนี้ไม่ได้ เดี๋ยวมีคนมาเห็น" เธอรีบลุกออกจากตักแกร่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเลยเถิดไปไกล จนฉุดไม่อยู่...ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่มันยังไม่ใช่เวลา เพราะอีกเดี๋ยวก็มีคนเอาอาหารมาให้ไง!
"เฮ้อออ! โทรไปเลื่อนดีไหม ค่อยให้มันเอามาให้..." ชายหนุ่มถอนหายใจแรง พลางพึมพำเสียงหงุดหงิด...ตอนนี้เขาอึดอัดจนจะทนไม่ไหวแล้ว!
ผลัก!!
"เลื่อนอะไรหรอวะ!!' shit! พูดยังไม่ทันขาดคำก็มาถึงเลย แถมมากันครบทุกตัวอีก!!
"เอ่อ ปะเปล่าค่ะ!" หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบโบกมือปฏิเสธตะกุกตะกัก ขณะมองไปยังผู้มาใหม่ด้วยสายตาเลิ่กลั่ก จนทุกคนถึงกับหลุดยิ้มขำในความโก๊ะของเธอ
"นั่นอาหารของหนูใช่ไหมคะ..." เธอรีบเบี่ยงประเด็น พร้อมนิ้วเรียวชี้ไปทางอีกคนที่ถือของพะรุงพะรังอยู่หน้าประตู
"ครับผม!"
"งั้นหนูกินเลยนะ หิวม๊ากก!!~" มือเล็กรีบคว้าอาหารมาด้วยแววตาเป็นประกาย แล้วพาไม่ที่โต๊ะอย่างอารมณ์ดี
"เหอะ! เห็นของกิน ก็ไม่เห็นหัวผัวเลยนะ!" เสียงทุ้มบ่นคนตัวเล็ก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด เพราะตอนนี้รู้สึกหิวมาก จนแทบจะสวบทุกอย่างได้หมดแล้ว!
"อันนี้อร่อย! กินไหมคะ?" มือเล็กยื่นไส้กรอกพรีเมี่ยมไปจ่อที่ปากคนตัวสูงด้วยรอยยิ้มสดใส ทว่าคำพูดคำพูดของเขากลับทำให้เธอชะงักค้างด้วยความงุนงง
"ไม่อ่ะ! อยากกินหอย..." ร่างสูงบอก พร้อมสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองไปยังเธออย่างสื่อความหมาย
"หื้ออ! หอยอะไรอ่ะ...พี่ซื้อหอยมาด้วยหรอ?" ร่างบางขมวดคิ้วสงสัย หาอาหารบนโต๊ะว่ามีหอยหรือไม่...แต่มันก็ไม่มี เธอจึงหันไปถามชายหนุ่มผู้ที่ซื้ออาหารมา
"เปล่า พี่ไม่ได้ซื้อมา...แต่มันหมายถึงหอยที่มีอยู่แล้วรึป่าว หึ!" ชายหนุ่มหันไปกระตุกยิ้มให้ร่างสูงอย่างรู้กัน!
"หอยอะไรคะ?" เธอเงยหน้าขึ้นถามอย่างไร้เดียงสา ดวงตาใสซื่อเต็มไปด้วยความสงสัย...หอยอะไรที่มีอยู่แล้ว? เมื่อกี้เธอดูจนหมดแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีหอยเลยสักตัว
"หอย...เชลล์!!"
"!!!!" ตุบ!! ไส้กรอกที่คาบหลุดร่วงออกจากปากทันที ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงก่ำในพริบตา เมื่อเสียงทุ้มพูดจบ...เธอจะไม่คิดอะไรมากกับคำพูดเขาเลย ถ้าเขาไม่ส่งสายตาโลมเลียมองมาที่เธอ แล้วเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหายไปด้วย!
คนบ้า!! พูดอะไรน่าอายต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ได้ไง!!
"ฮ่ะฮ่าๆๆ เบาได้เบาไอ้เวร น้องเขินจนจะมุดดินหนีแล้วนั่น!!" เสียงหัวเราะลั่นของเพื่อนสนิทของเขาดังขึ้นอย่างสะใจ
"งื้อออ~ ไม่กินแล้ว!" ใบหน้าสวยบึ้งตึง ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก มือเล็กวางไส้กรอกในลงอย่างหมดอารมณ์
"หึๆๆ กินต่อสิ...หรือจะกินไส้กรอกฉันดี!" ปรี๊ดดดด! อร๊ายยย~ ตอนนี้ทั้งใบหน้าและร่างกายเธอมันเหมือนเทด้วยน้ำร้อนที่กำลังเดือดปุดๆ เลย ร้อนไปหมดแล้ว!
พรึ่บ!! เธอฟุบลงบนโซฟาแล้วมุดหัวเข้าไปใต้หมอน เพื่อหลบซ่อนความเขินอายจากสายตาทุกคนในห้อง...ให้ตายเถอะ นี่มันวันบ้าอะไรของเธอเนี่ย!
วันต่อมา
"งื้อออ นี่ฉันกับพวกแกต้องแยกกลุ่มกันจริงหรอเนี่ย~ ทำไมรุ่นพี่ต้องคละกลุ่มแบบนี้ด้วยนะ!" มิลินส่งเสียงฟึดฟัดอย่างไม่พอใจ เนื่องจากตอนนี้พวกเธอทุกคนจำต้องแยกกลุ่มกันไปทำกิจกรรม ซึ่งแต่ละคนต้องถูกจับแยกไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันเลย
"เอาน่าแก~ พวกพี่เขาทำแบบนี้เพราะอยากให้เรารู้จักเพื่อนใหม่หรือมีเพื่อนมากขึ้นก็ได้นะ!" มิเชลล์บอกเพื่อให้เพื่อนคิดในแง่ดี
"ฉันเข้าใจ แต่แกลืมไปรึเปล่าว่าคณะเราส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายเยอะมาก ส่วนผู้หญิงมีเพียงน้อยนิด!" มิลินจีบนิ้วมาตรงหน้าเป็นการบอกว่ามันน้อยนิดจริงๆ ซึ่งมันก็จริงนั่นแหละ!
"แต่ผู้หญิงก็มีนะ รุ่นพี่เขาคงคละมาให้ดีแล้วแหละ...อย่าคิดมากเลย บางทีมันอาจจะไม่ได้แน่อย่างที่คิดก็ได้"
"งึก! แกก็โลกสวยจังเลยมิเชลล์!"
"ก็แน่ล่ะ!! พวกแกลองคิดตามฉันแล้วมองไปรอบๆ สิ คณะเรามีแต่ผู้งานดีทั้งนั้นเลยนะ ว่าไหม?" ร่างบางยิ้มกว้างก่อนจะชี้นิ้วให้3 สาวมองตาม...
"อ้ออ~ แบบนี้สินะสาเหตุของการมองโลกในแง่ดีของแก!..."
"แต่มันก็จริงนะ! นี่ฉันลืมไปได้ไงเนี่ยว่า คณะวิศวะเราขึ้นชื่อว่าเป็นคณะที่มีผู้ชายหล่อและงานดีที่สุด! แล้วเราจะพลาดโอกาสแบบนี้ได้ไงกัน!!" พริกแกง กูรูผู้รอบรู้เรื่องแบบนี้ คงจะเพิ่งนึกขึ้นได้สินะว่านี่คือโอกาสทอง ที่จะได้ผูกมิตรกับหนุ่มหล่อแบบใกล้ชิด
"จริงด้วย! ขอบคุณนะมิเชลล์ที่ช่วยเบิกเนตรให้ฉัน~" มิลินเลิกหงอยแล้วกลับมาร่าเริงเหมือนอย่างเคย
"ว่าแต่แกเถอะรดา ยังซึมอยู่อีกหรอที่ต้องแยกกับพวกฉัน!" นั่นสิ! เห็นยังนิ่งเงียบอยู่เลย
"ซึมบ้าอะไรล่ะ ฉันกำลังมองหาเป้าหมายอยู่ต่างหาก"
"อิบ้า!! ไวกว่าใครเลยแก!" พริกแกงหัวเราะพรืด ก่อนจะผลักไหล่เพื่อนด้วยความหมั่นไส้
ปรี๊ดดดด
"น้องๆ คะ ในเมื่อรู้แล้วว่าตัวเองต้องอยู่กลุ่มไหนก็เร่งรีบไปรวมกลุ่มเลยค่ะ!" เสียงเป่านกหวีดดังขึ้น ทำให้ทั้ง4 คนต้องแยกกันไปรวมกลุ่มในทันที
"สวัสดีน้องๆ ทุกคนครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัว ผมชื่อวินเป็นผู้รับผิดชอบดูแลกลุ่มสีแดงของพวกคุณ!"
กลุ่มทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น4 กลุ่ม 4สี ซึ่งร่างเล็กของมิเชลล์ก็ถูกจับให้มาอยู่กลุ่มสีแดง และตอนนี้เธอก็กำลังฟังรุ่นพี่อธิบายการทำกิจกรรมอยู่อย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลยว่า มีใครหลายคนให้ความสนใจกับเธอเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหนุ่มหน้าหล่อที่นั่งอยู่ข้างๆ
"นี่เธอ!" แรงสะกิดจากด้านหลังพร้อมกับเสียงเรียกกดังขึ้น ทำให้มิเชลล์ต้องหันไปมอง ก็พบว่ามาจะคนข้างๆ นั่นเอง
"หื้อ...ว่าไง?"
"เธอชื่อมิเชลล์ใช่ป่ะ คนที่มีปัญหากับรุ่นพี่วันรายงานตัว"
"ใช่ มีอะไรรึป่าว?" ถามแบบนี้หรือว่าอยากมีปัญหากับเธออีกคน!?
"เฮ้ย! อย่ามองเราแบบนั้นสิ เราก็แค่อยากรู้จักเธอเอง...เราชื่อพาสนะ ยินดีที่ได้รู้จัก" พาสยิ้มทักทายให้หญิงสาวอย่างเป็นมิตร ก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้าเธอ
"อ๋อ! ยินดีที่ดะ!!" มิเชลล์กำลังจะยื่นมือไปจับตอบเพื่อทักทาย ทว่าดันเหลือบไปเห็นสายตาคมดุของชายผู้หนึ่งใต้ต้นไม้ เธอจึงรีบดึงกลับและหันกลับไปฟังรุ่นพี่พูดต่อในทันที โดยไม่สนใจคนข้างๆ อีก
"อะ อ้าว!" พาสชักมือกลับอย่างงงวยเมื่อจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงมือกลับ ทั้งๆ ที่เธอกำลังจะจับมือเขาอยู่แล้วเชียว!
"วันนั้นเธอสุดยอดมากเลยนะ เราไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนั้นกับรุ่นพี่ด้วย..." พาสมองมิเชลล์ที่ยังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม จึงคิดว่าเธอน่าจะฟังเขาพูดอยู่ ก็เลยพูดต่อไป…
"เราได้ข่าวมาว่ารุ่นพี่คนนั้นถูกทำโทษ โดยให้พักการเรียนไป1 เดือนเต็มๆ และก็สั่งห้ามเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ด้วย คงเพราะก่อความวุ่นวายและทำตัวไม่เหมาะสม!" ชายหนุ่มยังคงพูดต่อ โดยไม่ได้เอะใจสีหน้าของคนข้างที่แสดงออกมาในตอนนี้เลยว่าเป็นเช่นไร
"...แต่มันก็สมควรแล้วแหละ เธอว่าไหม?" เขาเอียงคอเข้าไปถามความเห็นจากร่างบาง แต่เธอกลับขยับตัวถอยออก
"ใช่! และถ้าเธอไม่อยากโดนลงโทษเหมือนรุ่นพี่คนนั้นล่ะก็...เราว่าเธอตั้งใจฟังที่พี่เขาพูดก่อนดีกว่านะ" เพิ่งรู้ว่าผู้ชายมีนิสัยชอบนินทาคนอื่นแบบนี้ด้วย
"ไม่เป็นไรหรอก กลุ่มเรามีกันหลายคนเดี๋ยวพวกเขาก็ทำกันเองแหละ" มิเชลล์ถึงกับมองบนทันทีเมื่อได้ยินอีกคนพูดแบบนั้น...เฮ้อ! ผู้ชายคนนี้หล่อดีนะ แต่ไร้คุณภาพ!
คิดได้ไงถึงพูดออกมาแบบนั้น ถึงสิ่งที่กำลังจะทำมันเป็นแค่กิจกรรมสานสัมพันธ์ก็เถอะ แต่เราทุกคนก็ต้องทำร่วมกันไง...พูดแบบนี้มันเห็นแก่ตัวชัดๆ มิเชลล์ไม่ปลื้ม!!
"แล้วแต่เธอจะคิดแล้วกัน! ถือว่าเราเตือนแล้วนะ" พาสทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจในความหมายที่หญิงสาวพูด แต่มันก็แค่ครู่หนึ่งเท่านั้น นอกจากชายหนุ่มจะไม่ทำตามที่ร่างบางบอกแล้ว เขายังคงพูดนู่นนี่นั่นไม่หยุดจนเธอต้องขมวดคิ้วด้วยความรำคาญใจ!
สูดดด ฟู่ววว~ มิเชลล์หลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อสงบจิตสงบใจ จากนั้นก็พายายามตั้งใจ และโฟกัสไปทางรุ่นพี่ แต่เสียงชายหนุ่มมันก็ช่างรบกวนใจเธอเหลือเกิน
ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!!
"จะพูดอีกนานไหมครับ!!" เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างชายสูงโปร่งเดินมาหยุดอยู่ข้างพาส ส่งผลให้คนที่กำลังพูดอย่างออกรสต้องสะดุ้งตกใจ
"เฮือก!!" นั่นไงโดนแพ่งเล็งจนได้!! ช่วยไม่ได้นะพาส เพราะเธอเคยเตือนไปแล้ว...แต่เอ๊ะ! เสียงนี้เธอว่ามันคุ้นๆ นะ
"!!!!" ชัดเลย!! คราวนี้เป็นเธอที่สะดุ้งตกใจมากกว่าพาสอีก! เมื่อหันไปเห็นเจ้าของเสียง...แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นมากที่เห็นเขาคนนี้!
"อึก!!"
"กรี๊ดดด ยัยน้อง!! ขึ้นสองขีด!" คะนิ้งตะโกนพูดเสียงดัง ทำให้มิเชลล์ที่หลับตาอยู่ ต้องเปิดตากว้างและชะโงกหน้าเข้าไปดูแท่งสีขาวให้เห็นกับตาเฮือก!! สะสองขีดจริงๆ ด้วย!!"อึก! มะมันจะไม่พลาดใช่ไหมคะ""พี่ก็ไม่แน่ใจ งั้นลองดูแท่งอื่นดูไหม พี่ซื้อมาหลายแท่ง..." หงึกๆ มิเชลล์พยักหน้ารัว ขณะนี้อารมณ์ความรู้สึกของเธอมันหลากหลายมาก จนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้เลย!"อะนี่! ลองดู..." มือเล็กรับที่ตรวจครรภ์มาแล้วค่อยๆ หยดฉี่ที่ยังเหลืออยู่ลงไปบนที่ตรวจครรภ์ทุกแท่ง และยืนรอผลด้วยความลุ้นระทึกพรึ่บ!"เอ๊ะ? ยัยน้อง นี่มันก็ที่ตรวจครรภ์หนิ!" คะนิ้งเปิดถังขยะ เพื่อที่จะนำกล่องลงไปทิ้ง ทว่าเธอก็เจอเข้ากับที่ตรวจครรภ์จำนวนหลายสิบชิ้นอยู่ในนั้น…"เอ่อค่ะ มันเป็นของที่เชลล์เคยตรวจไปเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่มันขึ้นขีดเดียว""แล้วทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้ล่ะ!?" ก็หลังจากที่ร่างสูงรู้ว่าเธอมีเปอร์เซ็นต์ที่จะท้อง เขาก็บังคับให้เธอตรวจครรภ์ทุกวันเลย และที่มันเยอะขนาดนี้ก็เพราะว่ามันถูกสะสมมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ยังไงล่ะ แต่ช่วงสองวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้บังคับให้เธอตรวจเลย เพราะคงจะท้อกับผลที่ออกมาเป็นขีดเดียวทุกครั้ง"แห
"คะคิรัน...มาได้ไง!!?" นั้นสิ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?"ผลตรวจออกมาว่ายังไง..." คิรันไม่ได้ตอบคำถามที่ร่างบางสงสัย แต่กลับเป็นฝ่ายตั้งคำถามกลับไปแทน"กึก! ผะผลตรวจอะไร?" ร่างบางผงะกับคำถามที่สุดจะตรงประเด็นของเขา ก่อนจะเฉไฉทำเป็นไม่เข้าใจ"อย่าเฉไฉ...ตอบมา ผลตรวจออกมาว่ายังไง" คิรันถามย้ำอีกครั้งเสียงดังจนทุกคนในที่นี้หันมามอง"อย่าเสียงดังสิ!"หมับ!"เฮ้ออ~ กลับเถอะ..." มิเชลล์ฉุดรั้งมือใหญ่ เพื่อบังคับให้เขาเดินตาม จนมาถึงหน้าโรงพยาบาลพรึ่บ!"จะบอกได้ยังว่าผลตรวจเป็นยังไง!" คิรันหยุดเดินแล้วออกแรงกระตุกเบาๆ ให้ร่างบางมาอยู่ในอ้อมแขน"อื้ออ~ คิรันนี่มันหน้าโรงพยาบาลนะ!"“…..”"เฮ้ออ~ โอเค! เชลล์บอกก็ได้...แต่ต้องไม่ใช่ตรงนี้" ร่างบางยกมือยอมแพ้ เมื่ออีกคนยังจ้องมองเธอไม่ลดละ"งั้นก็ไปที่รถ!"ปัง!!"ถึงรถแล้ว คราวนี้ก็พูดมา!""ก่อนเชลล์จะตอบคำถาม…คิรันตอบมาก่อนว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?""ก็ตามเด็กเจ้าเล่ห์ที่แอบหนีผัวมาไง!!" เมื่อเช้าเขารู้สึกตัวตั้งแต่เธอพยายามแกะท่อนแขนเขาออกจากตัวแล้ว แต่ที่ยังแกล้งหลับต่อเพราะอยากรู้ว่าคนตัวเล็กจะทำอะไร และก็แอบตามเธอมานี่แหละ"อึก!" นี่เมื่อเช้า
"ว่าไง เธอมั่นใจไหม...""อึก! มะมั่นใจสิ มั่นใจมากด้วย!!" มั่นใจกับผีสิ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว ตอนนี้ทั้งตัวและหัวใจเธอสั่นยิ่งกว่าเจ้าเข้าทรงอีก...แต่จะให้ยอมรับกับเขาตามตรงได้ยังไงไม่ได้การแล้ว พรุ่งนี้เธอต้องไปฉีดยาคุมให้เร็วที่สุด แต่มันจะทันไหมนะ!!"โอเค ถ้าเธอมั่นใจว่าไม่ได้ท้องงั้นฉันก็เ-ดเธอแรงๆ ได้ใช่ไหม""ได้…เฮ้ย!! ไม่ได้!!" อะไรของเขาเนี่ย ทำไมถึงวกเข้าเรื่องนี้ได้ ซ้ำยังถือจังหวะตอนเธอกำลังกังวลมากๆ จนเผลอตอบออกไปแบบนั้นอีก!!"ทำไมจะไม่ได้! มานี่!!""อ๊ะ!!" ร่างบางถูกมือหนาฉุดรั้งให้เข้ามานั่งบนตัก แล้วกอดรัดไว้แน่น"คะคิรันไม่เอา เราลงไปข้างล่างเถอะนะ ทุกคนรออยู่...""รู้ได้ไงว่ารอ ป่านนี้พวกเขาคงกลับไปหมดแล้วล่ะ""งะงั้นเชลล์ไปอาบน้ำนอนดีกว่า!" มิเชลล์พยายามหลีกเลี่ยงอย่างสุดฤทธิ์ เพราะเธอจะยอมให้เขาทำแบบนั้นตอนนี้ไม่ได้!!"อย่าเพิ่งสิ! ฉันยังไม่ได้แกะของขวัญเลยนะ...""แต่ของขวัญอยู่ข้างล่าง...งั้นเราลงไปแกะของขวัญกันนะ!" ดีเหมือนกันเขาจะได้เลิกหมกมุ่นเรื่องอย่างว่า!"ไม่ต้องลงไปหรอก เพราะของขวัญชิ้นนั้นอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว..." เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วข้างหู จนคนฟังขนลุกซู่อึก
พรึ่บ!! คาเรนกับคาริสช่วยกันฉุดรั้งพี่ชายทั้งสองคนไว้เมื่อได้ยินเช่นนั้น...ไม่ได้ ให้ไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแผนเซอร์ไพรส์ล้มแน่นอน!!"มาจับเฮียไว้ทำไมเนี่ยคาเรน ปล่อย!" คิรินแกะมือเล็กของคาเรนออก แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระได้อย่างง่ายดาย ซ้ำยังกอดรัดขาเขาไว้แน่นอย่างกับงูเหลือมอีก..."ไม่! ใกล้ถึงเวลาเป่าเค้กแล้ว ออกไปข้างนอกกันเถอะนะ...""ใช่ๆ ไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวพวกพี่เขาก็มาแล้ว!""เอ่อออ คุณหนูคะ!" สาวใช้คนหนึ่งเอ่ยเรียกคุณหนูของเธอเสียงเบา เนื่องจากขณะนี้พวกเธอไม่ได้อยู่กันแค่สองคน"อ๊ะ! พี่แจ่มเสร็จแล้วหรอคะ?""เสร็จแล้วค่ะ""อะไรเสร็จ จะทำอะไรกัน?""ไม่บอก! ตามไปดูเองเถอะ..." คาเรนกับคาริสปล่อยพี่ชายทั้งสองให้เป็นอิสระ แล้วก็วิ่งออกจากห้องครัวไป ทำให้คิรันกับคิรินต้องเร่งเดินตาม จนมาถึงห้องโถงกว้าง ที่ขณะนี้มีทุกคนอยู่ด้วย และดูเหมือนกำลังล้อมวงมุงดูอะไรสักอย่าง"กล่องอะไรครับม๊า ทำไมมันใหญ่ขนาดนี้" คิรินถามผู้เป็นแม่ด้วยความแปลกใจ เมื่อเข้ามาในวงล้อมของทุกคนก็เห็นว่ามีกล่องขนาดใหญ่วางอยู่1 ใบ"กล่องของขวัญของลูกสองคนไง!" หืม! ด้านในต้องเป็นของขวัญที่ใหญ่ขนาดไหนกัน กล่
"เอ่อออ...""ก็ได้ค่ะ!!" มิเชลล์กับคะนิ้งพยักหน้าตกลงพร้อมกัน หลังจากชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งเฮ้ออ~ หวังว่าเธอจะตัดสินใจถูกนะ...แอบกลัวใจร่างสูงเหมือนกันแฮะ กลัวว่าเขาจะรู้สึกนอยด์ที่ไม่ได้ของขวัญพิเศษเหมือนพี่คิริน...แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา แม้ว่าเขาจะจบมหาลัยและมีงานทำแล้ว แต่เธอนี่สิ เธอยังต้องเรียนอีก1 ปีนะ เพราะตอนนี้เธออยู่ปี4"เย้!!" สองคาโผเข้ากอดพี่สะใภ้ด้วยความดีใจสุดฤทธิ์ เนื่องจากครั้งนี้พวกเธอมีส่วนร่วมในการเซอร์ไพรส์พี่ชายทั้งสองด้วย"ยัยเรน ยัยริส! กอดพี่คะนิ้งเบาๆ สิลูก!" คริสตัลปรามสองแสบเสียงดัง เพราะทั้งคู่พุ่งเข้ากอดคะนิ้งแรงเกินไปด้วยความลืมตัว"อุ๊ย! ขอโทษค่ะหนูลืมตัว" สองคารีบผละออกแล้วขอโทษ"คิก! ไม่เป็นไรค่ะ" คะนิ้งยกยิ้มเอ็นดูเด็กน้อยทั้งสอง"งั้นพวกหนูไปแปรงโฉมกับม๊ากันลูก!""หืม? ทำไมต้องแปรงโฉมด้วยล่ะคะม๊า" มิเชลล์เอียงคอสงสัย...ชุดที่เธอกับพี่คะนิ้งใส่อยู่ตอนนี้มันก็สวยและน่ารักดีออก"จะเซอร์ไพรส์ของขวัญคนรักสักที เราก็ต้องสวยที่สุดสิลูก ป่ะ ไปห้องม๊ากัน...""คาเรน! คาริสพวกเราไม่ต้องตามไปหรอก เดี๋ยวเฮียของลูกจะสงสัย คอยอยู่ช่วยม๊าถ่วงเ
2 ปีต่อมา“คิรันแต่งตัวเสร็จยัง เชลล์อยากไปหาป๊าม๊าแล้วนะ!!” ร่างเล็กตะโกนเร่งเร้าคิรันที่กำลังแต่งตัวอยู่ด้วยความเร่งรีบ พลางกระโดดเหยงๆ ไปมาเป็นการกดดันเขาอย่างหนัก“เสร็จแล้ว จะรีบอะไรขนาดนั้น หืม?” คิรันเดินออกมาจากห้องแล้วโยกหัวเล็กเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว“ก็ต้องรีบสิ! เพราะทุกคนกำลังรออยู่...วันนี้เป็นวันเกิดคิรันกับพี่คิริน แล้วก็ป๊าเลยนะ!” มีผู้ใหญ่รอเขากับเธออยู่ที่นั่นมากมาย แล้วจะให้ไปสายได้ยังไง มันเสียมารยาท“หึ! กลัวเสียมารยาทว่างั้น?”“ก็ใช่น่ะสิ!”“…แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเธอกำลังตื่นเต้น มากกว่ากลัว!” คิรันจ้องมองคนตรงหน้าอย่างต้องการจับผิด...ยัยเด็กต้องมีแผนอะไรในหัวแน่นอน เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าแผ่นอะไร“ก็ ก็ตื่นเต้นด้วย วันนี้ที่บ้านมีปาร์ตี้วันเกิดคนต้องเยอะมากแน่ๆ” มิเชลล์เบี่ยงหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาจ้องจับผิดของอีกคน“ทุกปีก็มีแต่คนในครอบครัว ไม่เห็นจะเยอะตรงไหน...ปีที่แล้วก็เหมือนกัน” เออว่ะ! ปล่อยโป๊ะทำไมเนี่ยมิเชลล์~“แต่มันก็เยอะกว่าทุกวันที่เราไปบ้านม๊าไง เพราะมีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย แล้วก็เพื่อนกับคนสนิทของพี่กับป๊าม๊าด้วยไง!”“โอ๊ย!! คิรันอย่าสงสัยมากไ