Share

TRILOGY ::: EP.10

Author: Aliyah.P
last update Last Updated: 2025-08-14 19:03:14

วันต่อมา...

'ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำให้สภาแปดเปื้อน... มันต้องตาย!'

ฟุ้บ!

“ได้ข่าวว่าเย็นวานไม่กลับมากินข้าวบ้าน”

เสียงเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารที่ไม่ได้รับเชิญทำให้ฉันที่นั่งกินโจ๊กมื้อเช้าและกำลังฉุกคิดถึงคำพูดเฮียแม็คอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง

“ช่วยไปให้พ้นสักสองชั่วโมงจะได้มั้ย”

“มันจำได้แล้วรึไง?”

“จิ๊”

คำพูดน่ารำคาญของเฮย์โซทำฉันออกอาการเซ็งใส่ทันที แล้วหมอนั่นพอเห็นท่าทางของฉันตอนนี้ก็หลุดขำออกมาแบบสะใจได้อีก

“ฮ่ะๆ โง่จริงๆ มันจำไม่ได้ง่ายๆหรอกน่า ก็มัวแต่หลงรักษากะ...”

“มีธุระอะไร?”

“ไม่มี”

เพราะปกติหมอนี่กับฉัน เราไม่ค่อยร่วมโต๊ะกันอยู่แล้วฉันถึงถามไป และคำตอบก็สวนกลับมาทันควัน แถมเฮย์โซยังลอยหน้าลอยตายกแก้วกาแฟที่เมดเอามาวางให้ขึ้นจิบชิลๆ ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าการเห็นหน้าหมอนี่แต่เช้ามันน่าหงุดหงิดซะจริง

“ไม่มีก็ไปไกลๆ”

“ไม่ ตรงนี้อากาศดี”

เฮ่อ...

ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกไปแล้วพยายามทำใจให้ชินไปซะ ที่จริงเราก็เถียงกันแบบนี้ทุกครั้งที่เจออยู่แล้ว วันไหนหมอนี่ไม่กวนประสาทสิแปลก

“ไม่เอาเวลายุ่งเรื่องคนอื่นไปฝึกให้เก่งกว่านี้”

“แล้วเธอล่ะ เมื่อไหร่จะเก่งเท่าพี่สาวสุดที่รักสักที”

“ใครสั่งสอนให้พูดจาชวนอ้วก...”

“ไม่รู้สิ อาจเป็นคนที่ทิ้งเธอไว้ในมูลนิธิ เอ๊ยไม่ได้ทิ้ง แค่สลับตัวกันนิดนึง พูดผิดไปหน่อยโทษที”

“เฮย์โซ!”

เอาจริงการต่อปากต่อคำพร่ำเพื่อมันก็ไม่มีอะไรหรอก ถ้าหมอนี่ไม่ชอบเอาฉันไปเปรียบเทียบกับพี่เฟรย์แบบแทบจะวันเว้นวัน

“แต่ก็ไม่แปลกที่มันจะรักรักษาการนี่...”

“หยุดพูดเดี๋ยวนี้!”

ฉันตะคอกออกไปเพราะรู้ดีว่าเฮย์โซจะกระตุ้นกันด้วยคำพูดแบบไหน แต่หมอนี่ก็ไม่หยุด

“หึ... ลืมแล้วเหรอว่าความจริง รักษาการมันควรเป็นเธ...”

“แปลกตาจริงๆ นานๆจะเห็นพวกแกร่วมโต๊ะกันแบบนี้”

ก่อนคำพูดที่ฉันไม่อยากฟังจะหลุดออกมาจนครบประโยค ท่านเซนจิก็เดินเข้ามา ตรงกับจังหวะที่ฉันลุกหนีเพราะเบื่อขี้หน้าคนที่น่าจะแลบลิ้นปลิ้นตาในใจตอนนี้

“หนูอิ่มพอดี ขอตัวค่ะ”

“เดี๋ยวสิ... เฮย์โซ”

เสียงเรียกจากท่านเซนจิทำฉันชะงักฝีเท้า ก่อนท่านจะหันไปหาเฮย์โซที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ครับท่าน”

“พาไปดูมารึยัง?”

“ครับ”

แล้วก็คงไม่ต้องขยายความ ไอ้ที่ว่าดู คือแผนการน่ารังเกียจที่ทำกันอยู่ในชั้นใต้ดินของ Dark Shadow น่ะสิ!

“งั้นก็รู้แล้วใช่มั้ย ว่าต้องทำอะไรต่อจากนึ้”

ท่านเซนจิหันมาหาฉัน ซึ่งเอาจริงๆตอนแรกบอกให้ฉันแยกเฮียแม็คออกจากคิระเท่านั้น ส่วนคนที่ต้องจัดการคิระคือเฮย์โซ แต่ดูท่าทางทั้งสองคนตอนนี้ เหมือนจะโยนเรื่องระยำตำบอนนี้มาให้กันซะงั้น ฉันต้องเป็นคนที่วางยาคิระซะเอง นั่นคือสิ่งที่เฮย์โซพูดเมื่อวานไงล่ะ

“แต่หนูใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ไทย ท่านก็รู้ว่า...”

“กลับมาก็ทำ ระหว่างนี้มันแค่ช่วงลองเทสขำๆ ไม่ได้จริงจังอะไร”

“เห็นด้วยครับท่าน”

ดูเหมือนการพยายามเลี่ยงไม่ทำจะไม่ได้ผลทันตา สรุปว่าแม้จะย้ายกลับไปเรียนที่ไทยเพราะคิดว่าชีวิตตัวเองจะสงบสุขขึ้นได้ มันกลายเป็นฉันต้องบินไปบินมา และน่ารำคาญซ้ำๆตรงที่เฮย์โซคอยกระตุกยิ้มหัวเราะร่าอยู่แบบนั้น

“ถ้าพูดง่ายขนาดนั้น ทำไมไม่ทำซะเอง!”

จริงอยู่ ฉันพูดใส่เฮย์โซ แต่ก็กระทบถึงท่านเซนจิที่นั่งหัวโต๊ะตอนนี้ หมอนั่นก็ตอบกลับมาทันที

“ก็ช่วงนี้เห็นเธอคลุกคลีกับสองคนนั้นแล้วนี่”

“วันเดียวเนี่ยนะ”

ให้ตายสิ ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยอยากเฉียดเข้าไปใกล้เฮียแม็คกับคิระในห้องซ้อมด้วยซ้ำ เพราะฉันมีที่ๆคอยมองเขาอยู่ไกลๆ และทุกครั้งที่เจอ เฮียแม็คก็ยังทักทายกันตลอด เราเจอกันบ่อยเขาถึงกล้าดุเสมือนพี่ชายคนนึง ถึงฉันจะคิดอะไรมากกว่านั้นก็เถอะ

“เธอก็กลับมาบ่อยๆสิ หยอดไปทีละนิดละหน่อย รอดูผลไปเรื่อยๆสนุกดี”

เกลียด! ฉันเกลียดการจิบกาแฟแล้วส่งสายตาเยาะเย้ยนั่นซะไม่มี!

“สนุกมากก็ไปทำเอง!”

“ดุจัง นี่อุตส่าห์หาทางให้ใกล้ชิดมันเชียวนะ”

“เฮย์โซ! หุบปากสักที!”

ฉันทิ้งท้ายคำพูดนั้นแล้วกำลังจะก้าวขาเดินหนี แต่แล้วท่านเซนจิกลับวางบางอย่างลงบนโต๊ะเสียงดัง และเลื่อนมันมาให้ฉันที่หยุดชะงักอีกครั้งทันที

ตึง! ครืดดด

“มันยังเป็นแค่ตัวต้นแบบที่ไม่สมบูรณ์ ทำตัวเป็นประโยชน์ให้สมกับที่รับมาเลี้ยงหน่อยสิ”

คำพูดนั้นจากท่านเซนจิไม่ได้ตะคอกแดกดันอะไร แต่มันคือความเรียบเฉยให้ฉันพิจารณาสิ่งนั้นเองแบบแฝงไปด้วยความกดดันขั้นสูง เป็นวิธีการเลี้ยงของท่านที่ทำให้พวกฉันโตมาได้ถึงทุกวันนี้ และเมื่อไหร่ที่ฉันหรือเฮย์โซนอกลู่นอกทาง บทลงโทษที่ได้ มันก็ไม่ได้เรียบเฉยแบบนี้

“แต่ท่านก็รู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดกฎ”

ฉันตอบกลับไปเสียงเข้ม และไม่เข้าใจจริงๆว่าท่านเซนจิคิดยังไงถึงล้ำเส้นและแหกกฎซะเอง

“หึ...กฎ? เธอไม่ใช่ Dark Shadow ไม่จำเป็นต้องแคร์เรื่องนี้”

“แต่ท่านเป็น! และเป็นถึงผู้คุมกฎสูงสุด ท่านไม่ควรเพิกเฉย ไม่ควรเป็นผู้บงการเรื่องนี้!”

ฉันตาสว่างจากคำพูดของท่านที่สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ายอมให้ฉันไม่ต้องเป็นเมมเบอร์เพื่อใช้ประโยชน์ทันที แต่ถึงยังไง ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณ ฉันก็ยังเน้นเสียงเข้มเตือนสติไปอีกครั้งแม้จะรู้ว่าคงไม่ได้ผล แล้วท่านเซนจิก็เงียบ มีแต่เสียงเฮย์โซที่แทรกขึ้นมาแทน

“อย่ามารักความยุติธรรมหน่อยเลยน่า ถึงจะสลับตัวกันมา แต่ตอนนี้เธอเป็นคนของสภาฯนี่”

“นายก็เหมือนกันเฮย์โซ! เป็นถึงเมมเบอร์ระดับสูง แต่ไม่มีสำนึกปกป้ององค์กร มิหนำซ้ำยังทำสังกัดแปดเปื้อน!”

“อย่าให้มันมากเรื่องนักฟาราเดีย! คิดว่าเธอเดินชูคอมีทุกวันนี้ได้เพราะใครกัน?!”

คราวนี้ท่านเซนจิที่นั่งเงียบอยู่สักพักก็เริ่มเสียงเข้มขึ้นมาบ้าง เฮย์โซที่ติดเล่นในตอนแรกก็นิ่งไปคงเพราะรู้ว่าท่านเริ่มไม่พอใจ ส่วนฉันก็หันขวับไปตอบคำถามนั้น และเลือกเดินออกมาอย่างหนักใจ

“แล้วท่านแน่ใจแค่ไหนเหรอคะ? ว่าการสลับตัวของหนู ท่านไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตรงนั้น”

ไม่กี่นาทีต่อมา...

เคร้งๆๆๆ ฟรึ่บๆ

หมับ!

ข้อมือที่จับดาบคาตานะของฉันถูกหยุดไว้โดยฝ่ามือของเฮียแม็คที่หลบคมดาบครั้งสุดท้ายได้ทัน ก่อนที่เขาจะคว้าดาบนั่นออกจากมือฉันอย่างรวดเร็ว

“ทีหลังอย่าเข้าเขตทดสอบอาวุธ ถ้าไม่มีสมาธิ”

“ขอโทษเฮีย”

ฉันตอบกลับไปแบบจำยอมจริงๆ เพราะรู้ดีแก่ใจว่าจากเรื่องเมื่อเช้า ถ้าท่านเซนจิได้ลองทวงบุญคุณขึ้นมา ท่านก็ต้องกดดันให้ฉันทำมันอยู่ดี และยิ่งพอหันไปเห็นคิระที่นั่งอยู่ ถึงจะไม่สนิทและไม่อยากนับญาติด้วย แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าฉันต้องทำร้ายหมอนี่

แล้วอาจเพราะฉันเผลอจ้องคิระนานพอควร หมอนั่นเลยจ้องมา และก็ดูจะสงสัยท่าทางของฉันเข้าซะแล้ว

“มีไร ตั้งแต่เมื่อวาน”

แทบจะนับครั้งได้เลยจริงๆที่หมอนี่เอ่ยปากพูดกับฉันก่อน ฉันเลยเดินไปทิ้งตัวนั่งไม่ไกลกันมาก แล้วพอหันไปมองเฮียแม็ค ก็มีเมมเบอร์คนหนึ่งมาเรียกเขาเดินออกไปซะก่อน

“ไม่มี”

ฉันตอบคิระแบบที่ตายังมองคนอื่นๆในห้องซ้อม ตอนนี้เราอยู่ในห้องซ้อมรวม ซึ่งเสียงดังพอควร...

“ไม่มีก็เลิกจ้อง”

คิระพูดออกมาแบบตรงมากๆ ห่างออกไปสุดสายตา ฉันก็เพิ่งสังเกตว่าเฮย์โซอยู่ที่นี่ และกำลังมองมาแบบจับผิดกันใช้ได้เชียวล่ะ

“ก็แค่บังเอิญ”

“มีไรจะบอกก็ว่ามา”

ฉันตัดบทแต่คิระก็สวนมา เหลือเชื่อนิดหน่อยตรงที่หมอนี่อ่านท่าทางคนอื่นออก และยิ่งประโยคสนทนามันยาวมากขึ้น ก็ดูเหมือนเฮย์โซจะยิ่งสนใจพวกฉันมากกว่าเมมเบอร์คนอื่นๆ ฉันเลยหันไปหาคิระซะเลย อย่างน้อยก็เพื่อปั่นประสาทหมอนั่น

“ขวดน้ำนาย...สวยดีนะ”

พรึ่บ! หมับ!

สิ้นสุดคำพูดของฉันที่หาเรื่องคุยจากสิ่งใกล้ตัวคิระไปงั้นๆ อยู่ๆก็มีขวดน้ำส้มแช่เย็นจากไหนไม่รู้โยนมา คิระก็รับมันได้แบบเฉียดฉิวเพราะกำลังคุยกับฉัน ก่อนที่เราจะหันไปเห็นว่าคนที่โยนมาคือเฮียแม็ค

“...จากแม่” แล้วเฮียแม็คก็ยื่นขวดน้ำส้มอีกขวดในมือมาให้ฉัน

“มีของเดียด้วยเหรอ?”

“ของเฮีย”

“เฮียก็กินดิ”

“หึ...กินเลย สติจะได้ครบๆ”

เฮียแม็คไม่พูดเปล่า เขายกขวดน้ำเปล่าที่เหลือก้นขวดของตัวเองขึ้นมากระดกชิลๆ แต่สิ่งที่ฉันเหลือบไปเห็นหลังจากนั้น คือเฮย์โซกำลังจ้องมองคิระที่กำลังเปิดฝาขวดน้ำผลไม้เหมือนรอลุ้น แล้วหมอนั่นก็กระตุกยิ้มมุมปากขำขัน

ไอ้ท่าทางแบบนั้น...อย่าบอกนะว่า...

หมับ!

รู้ตัวอีกที จังหวะที่คิระกำลังจะยกขวดน้ำส้มขึ้นดื่ม ฉันก็คว้ามันจากมือหมอนั่นเต็มแรง คิระเลยส่งสายตาไม่เป็นมิตรกลับมาทันตา

“นะ...นายชอบกินเมล่อนปั่นไม่ใช่เหรอ”

เป็นอีกครั้งที่ฉันต้องหาข้อแก้ตัว โดยมีทั้งคิระและเฮียแม็คมองมา แต่ไม่รอให้ใครพูดอะไรทั้งนั้น

“เดี๋ยวไปเอามาให้ จิบน้ำในขวดรอไป”

พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องซ้อมพร้อมกับขวดน้ำส้มสองขวดในมือ และในจังหวะที่เดินออกมา คนของคุณป้ามาร์ธาก็เพิ่งแวะมาที่นี่ โดยเดินเข้าจากประตูห้องซ้อมอีกฝั่ง แล้วมันก็เป็นไปตามที่ฉันคิด เพราะคนของท่านถือกระเป๋าเก็บความเย็นมาด้วย ก่อนจะหยิบน้ำผลไม้สองขวดไปยื่นให้คิระกับเฮียแม็ค และดูเหมือนจะมองหาฉันอยู่ตอนนี้

หมับ! พรึ่บ!

“โอ๊ย!”

ฉันเดินออกจากห้องซ้อมได้ไม่เท่าไหร่ก็โดนกระชากด้วยแรงมหาศาลเข้ามุมอับของตึกทันที และแน่นอน คนที่กระชากก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

“จุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง!”

“นายแน่ใจได้ยังไงว่าคิระจะกินขวดนี้?!”

ฉันตะคอกตอบกลับเฮย์โซทันที เพราะดูจากสายตาก่อนหน้านี้ หมอนี่ดูมั่นใจมากๆว่าขวดในมือคิระมียา แต่จะมั่นใจขนาดนั้นได้ แปลว่ายามันต้องถูกใส่ไว้ทั้งสองขวดสิ เพราะไม่มีใครรู้ว่าขวดน้ำส้มแบบเดียวกัน เฮียแม็คจะเลือกโยนขวดไหนให้คิระจริงมั้ย?! แล้วยิ่งคิดฉันก็ยิ่งโมโห จนสะบัดแขนแล้วเขวี้ยงขวดน้ำส้มทั้งสองขวดในมือใส่เฮย์โซเต็มแรง

พลั่ก! ตึง!

“ก็บอกแล้วไงว่าอย่ายุ่งกับเขา!!!”

เสียงฉันตวาดออกไปดังลั่นจนดังก้องไปทั่วพร้อมกับเสียงขวดน้ำส้มที่หล่นลงพื้น มันอีกแค่นิดเดียว อีกนิดถ้ายานั่นเข้าปากใครสักคน จะเป็นตายยังไงกันก็ไม่รู้! 

เฮย์โซเห็นท่าทีของฉันก็รีบคว้าลากเข้าห้องทำงานที่อยู่ไม่ไกลเพราะกลัวใครมาได้ยิน ก่อนจะเหวี่ยงฉันเข้ากำแพงเต็มแรงเพราะโมโหพอกัน

พลั่ก!

“ก็เธอโลกสวยจะไม่ทำเองไม่ใช่เหรอวะ?!”

“ทุเรศ! นายเลยหยอดมันชุ่ยๆให้โดนทั้งคู่กันพลาด ชั่วไปป่ะ?!”

ฉันขึ้นเสียงกลับอย่างไม่ลดละ เฮย์โซเองก็เดินลิ่วๆเข้ามา

“ยัยบ้าเอ๊ย! ทุกอย่างที่ท่านเซนจิทำ มันมีผลต่ออนาคตเราทั้งนั้น!”

“เราเหรอ?! เรานี่มันใครกับใคร นายที่กำจัดเฮียแม็คได้จนขึ้นเป็นมือวางอันดับหนึ่งซะเอง กับท่านเซนจิที่กำจัดคิระ กำจัดสังกัดผู้นำเพื่อครอง Dark Shadow ว่างั้น?! นี่กระจอกกันถึงขนาดต้องเล่นวิธีสกปรกแบบนี้เลยรึไง?!”

พลั่ก!

“ฟาเดีย!”

“นายเล่นไม่ซื่อชัดๆเฮย์โซ! การที่เฮียแม็คเป็นคู่แข่งของนาย ไม่ได้แปลว่านายต้องตัดกำลังเขาด้วยยานรกนั่น! คิระก็เหมือนกัน! ก็พอรู้นะว่าท่านเซนจิมีปัญหาบางอย่างกับท่านผู้นำ แต่ถ้าพวกนายแมนพอ ทำไมไม่เคลียร์กันแฟร์ๆ สังกัดเรามีเกียรติกว่าสังกัดนั้นด้วยซ้ำ เขายังต้องเคารพกฎ เคารพเรา! นายคิดหน่อยดิวะ!”

ขนาดเฮย์โซเข้ามาประชิดตัวแล้ว ฉันก็ยังไม่คิดเกรงกลัวและโพล่งออกไปตามที่คิดเพื่อเรียกสติหมอนี่ แต่ก็ดูจะเปล่าประโยชน์ คนตรงหน้าฉันตอนนี้ หลงมัวเมาอยู่กับอำนาจและตำแหน่งที่เพ้อฝันว่าจะได้รับเท่านั้น ช่างต่างจากตอนที่เรารู้จักกันแรกๆอย่างไร้เดียงสาและใสซื่อบริสุทธิ์ซะจริง

และอาจฟังดูตลก ที่ตอนนี้ถึงฉันจะไม่ชอบหน้าเฮย์โซก็จริง แต่ครั้งนึงเชื่อเถอะ ตอนเจอกันแรกๆ ฉันเคยคิดว่าหมอนี่จะเป็นพี่ชายที่แสนดี แล้วสิ่งที่ฉันพูดไป ก็ทำให้โทนเสียงของเฮย์โซแผ่วลงนิดหน่อย

“...คนอย่างเธอมันจะไปเข้าใจอะไร”

“แล้วคนอย่างนาย...อยากจะทำแบบนี้จริงๆน่ะเหรอ นายเองก็ไม่ได้เป็น Dark Shadow อย่างแท้จริงไม่ใช่เหรอ ทำไมยอมเป็นเครื่องมือให้ครอบครัวเค้าทำร้ายกันเองได้”

พอโทนเสียงหมอนี่เบาลง ฉันก็แฟร์พอที่จะข่มอารมณ์ตัวเองเหมือนกัน และยิ่งฉันลงลึกด้วยประโยคแทงใจดำออกไป เฮย์โซก็จ้องมาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหมายหลากหลาย

“.......”

“เราไม่เหลือคนในครอบครัวที่แท้จริงแล้วนะเฮย์โซ เชื่อว่านายเองก็ไม่ได้ชอบที่ครอบครัวตัวเองมีปัญหา เพราะงั้นในเมื่อเราได้ครอบครัวใหม่มา ต่อให้เขาจะดีหรือร้าย เราต้องแยกแยะให้ได้ อย่ามาเป็นส่วนหนึ่งให้ครอบครัวคนอื่นเขาพังแบบนี้”

แต่ท่ามกลางความนิ่งเงียบ ในท่าทางรับฟังของเฮย์โซ เสี้ยวนาทีนึงหมอนี่ก็มีแววตาขัดแย้งแสดงออกมาจากสิ่งที่ฉันพูดไปเมื่อกี๊ แล้วเฮย์โซก็เกรี้ยวกราดขึ้นมาอีก

“เลิกพูดจางี่เง่าสักที! นี่มันเป็นการทดแทนบุญคุณของฉัน ซึ่งเธอ! ไม่เคยคิดจะทำสิ่งนี้”

ฉันมองเฮย์โซอย่างไม่เข้าใจ คนเราจะสวิทช์อารมณ์ตัวเองได้รวดเร็วเท่านี้ได้ยังไง แต่เพราะโดนตะคอกมา ฉันเลยตะคอกกลับไป

“ทดแทนบุญคุณเหรอ?! นายแค่คาดหวังมากกว่า ว่าพอหมดวาระของท่านเซนจิไป นายจะได้ครอบครองทุกอย่างและอยู่เหนือใคร ทฤษฎีทดแทนบุญคุณกับการนับถอยหลังให้ใครตาย มันต่างกันนะ นายรู้ตัวนายดี!”

ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ เฮย์โซเคยหลุดปากพูดมาเมื่อวาน หมอนี่วาดฝันถึงวันที่ท่านเซนจิไม่อยู่ ไหนจะพูดถึงแต่อนาคตที่จะสุขสบาย และพอได้ฟัง คำพูดที่เฮย์โซสวนมานี่แหละ ที่การันตีสิ่งที่หมอนี่คิด

“ใช่! แล้วมันยังไง ในเมื่อสุดท้ายเธอก็ต้องอยู่กับฉันที่นี่!”

“เสียใจเฮย์โซ!”

ฉันสวนกลับแบบไม่หยุดคิด เล่นเอาเฮย์โซถึงกับอึ้ง มันมีความเสียใจเล็กๆที่ฉันไม่เข้าใจผุดขึ้นมาในดวงตาคู่นั้น แต่ฉันก็ไม่ลังเลที่จะให้เหตุผลกับหมอนี่ไปเช่นกัน

“ต่อให้ต้องพูดอีกกี่ครั้ง ฉันก็ยังจะห้ามนาย ห้ามไม่ให้นายยุ่งกับเขา! และถ้านายยุ่งอีกแม้แต่ครั้งเดียว รู้ไว้เลยว่าเฮียแม็คนั่นแหละ ที่จะเป็นคนพังแผนการชั่วๆที่พวกนายกำลังทำ!”

“งั้นเหรอ?! แต่ถ้ามันรู้ เธอเองจะซวยไปด้วยไม่ใช่รึไง ถ้าพังก็ต้องพังกันหมด คิดเหรอว่าท่านเซนจิจะปล่อยเธอไว้”

หึ...

“...นายเคยรักใครมั้ยเฮย์โซ?”

ฉันถามกลับไปเสียงเข้ม แล้วท่าทางเยาะเย้ยแต่ในขณะเดียวกันก็ดูผิดหวังแปลกๆในตัวฉันก็ถูกส่งมา พร้อมกันกับที่หมอนี่...เงียบไป

“...ถ้ามันต้องแลกกับการทำไปเพื่อรักษาไว้ซึ่งความเคารพ ศรัทธา และความถูกต้องที่เฮียแม็คมี สำหรับคนที่รักเขาอย่างฉัน ...มันยอมแลกได้นะ”

หมับ!

แล้วพอสิ้นสุดคำพูดนั้น มือหนาของเฮย์โซก็พุ่งเข้ามาบีบแก้มฉันแรงมากๆ ก่อนจะกัดฟันพูดมาเสียงเข้ม

“แต่มันก็มีคนที่ไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้นได้เหมือนกัน!”

เฮย์โซจ้องลึกเข้ามาในตาของฉัน ยอมรับเลยว่าฉันในตอนนี้มันทั้งเจ็บตัวและแปลกใจ แววตาที่มองมาของหมอนี่ ทำไมมันดูลึกลับซับซ้อนจังนะ มันซับซ้อนขนาดนี้... ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • DarkZ [II] TRILOGY   TRILOGY ::: EP.74 (END)

    วันต่อมา“ไม่ค่อยเห่อกันเลยนะครับ”คิระแกล้งแซวอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงที่ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีก็ยังดูแข็งแรงอยู่ แถมวันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงเมมเบอร์นับร้อยก็แต่งตัวสวยหล่อเป็นพิเศษ บรรยากาศโดยรอบของหอประชุมที่ถูกรีโนเวทใหม่ดูเป็นทางการและไม่มีที่นั่งส่วนไหนแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายอย่างเดิมเตโช โมเน่ต์ คิระ ลิซ่า เลโอ และเฟรย่า นั่งประจำในที่ของตัวเองโดยมีอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงนั่งตรงกลาง ราวกับเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานถัดจากทั้ง 6 คนมีตำแหน่งที่ว่างอยู่ทั้ง 2 ที่ ซึ่งอยู่ในระนาบเดียวกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือลำดับความสำคัญกำลังรอการกลับมาของมาโครและฟาเดีย มีเพียงพื้นที่ที่ถูกจัดให้ระดับความสูงไม่มากเกินไปอย่างด้านซ้ายมือของเหล่าพ่อแม่ที่ถือครองตำแหน่งต่างๆเท่านั้น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กๆทั้ง 5 คนเรียงตามลำดับ ประกอบไปด้วยไคโร – ลูกชายของคิระกับลิซ่าโซลาร์ – ลูกสาวของเตโชกับโมเน่ต์มาร์คัส – ลูกชายของมาโครกับฟาเดียริคกิ – ลูกชายของเฟรย่ากับเลโอ และลิมา – ลูกสาวของคิระกับลิซ่าซึ่งตอนนี้ เด็กๆที่สนิทกันอย่างรวดเร็วต่างก็กำลังแย่งกันพูดคุยกับมาร์คัสที่ชะเง้อหน้

  • DarkZ [II] TRILOGY   TRILOGY ::: EP.73

    @ เซฟต์เฮ้าส์อดีตผู้นำ“เดีย!”เฟรย่าที่ได้สติและถูกนำตัวกลับมารักษาลุกพรวดด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นน้องเดินเข้ามาส่วนฟาเดีย เธอนิ่งเงียบและดูเฉยชา แม้แต่หน้าเฟรย่าตอนนี้ยังมองไม่ชัด ม่านน้ำตาของเธอบดบังทุกสิ่งจนถ้าไม่ได้มาโครเดินจูงมือเข้ามา เธอก็มองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ“ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหนบอกพี่ หมอ!”เสียงเฟรย่าตะโกนดังลั่น มาโคร เตโช คิระ รวมถึงเลโอที่แยกตัวออกไปช่วยดูเลล่าให้ก็ไม่มีใครปริปาก จนกระทั่งอดีตผู้นำ ท่านผู้หญิง โมเน่ต์ และลิซ่าเดินเข้ามา“ขอหนูไปอยู่ที่อื่นสักพักได้ไหมคะ”ฟาเดียเห็นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ เธอก็ตั้งคำถามอย่างเลื่อนลอย แต่ลึกๆก็คาดหวังให้พวกเขาที่มองมาอย่างนึกสงสารช่วยเห็นใจเธอบ้าง“หนูอยู่ที่นี่ไม่ไหวเลย…หนูรับ...อะไรพวกนี้ไม่ไหว...มัน…”เธอส่ายหน้าส่งสัญญาณต่อต้านสิ่งรอบตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนอดีตผู้นำจะเดินเข้ามา พร้อมกันกับที่เธอพุ่งเข้าไปกอดและทรุดลงปล่อยโฮออกมาจนตัวสั่น“หนูเหนื่อย...หนู...”“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร”นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ทุกคนได้เห็นอดีตผู้นำหน้าเครียดที่สุดจากที่รับมือกับเรื่องอะไรต่อมิอะไรมามากเฟรย่าที่ได้ฟังแม้จะรู้เ

  • DarkZ [II] TRILOGY   TRILOGY ::: EP.72

    "นี่สำหรับเมียกู!ต่อไป...ก็มึงสินะ""ขอเรากับคุยเฮซก่อน"พอเห็นมาโครเดินท่าทางเอาเรื่องกลับมา ฟาเดียก็ตัดสินใจเอาตัวเองเข้าไปขวาง เขาหยุดเดินมองเธอนิ่งๆ แต่ถึงแววตาดุร้ายคู่นั้นมันน่ากลัวกว่าทุกครั้งฟาเดียก็ยัง“ได้ไหม”"รักมันรึไง"เสียงห้วนและเยือกเย็นที่เขาไม่เคยใช้กับเธอตั้งคำถาม ยิ่งเห็นเธออึ้งจนอึกอักมาโครก็ยิ่งตะคอก"ถามว่ารักมันไหม?!"พรึ่บ!ฟาเดียตกใจ รีบเลื่อนมือไปทาบอกแกร่งเพื่อให้เขาใจเย็นลงก่อนตอบอย่างหนักแน่น"ไม่""ชัดไหม?!"แค่นั้นเองที่มาโครเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงเธอไปถามเฮย์โซที่มองเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน"ปล่อยมัน"เขาสั่งลูกน้องให้แก้มัดเฮย์โซเช่นเดียวกับที่แก้มัดคาร์เตอร์ ก่อนจะพุ่งเข้าไปกระชากคอเฮย์โซมาเผชิญหน้าอย่างเหลืออดมานาน"มึงมีโอกาสตั้งมากมายที่จะปกป้อง! แต่มึงจ้องจะเอาคนของกูให้ได้!""คนของมึง ใครวะ กูไปยุ่งกับรักษาการตอนไหน"ผลัวะ!หมัดหนักๆของมาโครซัดเข้าหน้าเฮย์โซเต็มแรงไม่มียั้ง"ไม่ต้องมาเล่นลิ้น""งั้นกูเล่นเมียมึงได้ไหม”เฮย์โซไม่ลดละเลยที่จะต่อปากต่อคำเพราะไม่ชอบหน้ามาโครเหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ตัวดีว่านาทีนี้ไม่มีอะไรจะเสีย"คำว่าเมียกูที่มึงพูด ก็

  • DarkZ [II] TRILOGY   TRILOGY ::: EP.71

    5 นาทีต่อมา“ไม่เจอเลย กำลังเสริมก็มาไม่ทัน 10 นาทีนี้แน่ ไหนจะตู้ที่ซ้อนกันไว้อีก”เลล่ารายงานไปพร้อมกับก้าวขาตามมาโครที่แยกกับทุกคนซึ่งตอนนี้ช่วยกันหาฟาเดียและเฟรย่าอย่างร้อนใจ“ท่านผู้หญิงกับอดีตผู้นำกำลังช่วยคิดอีกแรง แต่นายรู้ใช่ไหมยังไงมันก็เสี่ยงเพราะเวลากระชั้นชิดเกินไป”“มันเอาเข้าไปตอนไหน”กึก!มาโครหยุดเดินทันทีที่ฉุกคิดขึ้นได้ และกวาดสายตาอย่างใช้ความคิดท่ามกลางตู้คอนเทนเนอร์เป็นร้อยๆที่สูงท่วมหัวเขา พลางคิดว่าถึงคนของ Dark shadow ที่เอามาจะไม่มากพอสำหรับการเช็คทุกตู้ชั้นล่างทั้งหมดพร้อมกัน แต่อย่างน้อยตู้ชั้นล่างกว่า 60% ก็ถูกเช็คอย่างเร่งด่วนแล้วและไม่มีใครหาเจอ“เฟรย์สู้กับไอ้เวรนั่นอยู่ก่อนเราจะมาไม่เกิน 30 นาที ประเมินจากความสามารถของเฟรย์ ถึงสู้แรงไม่ไหวก็ใช่ว่าการสู้จะจบง่าย รอยแผลบนตัวไอ้ยักษ์มีไม่น้อย แปลว่าเฟรย์สู้เต็มกำลัง จากสถิติและทักษะที่ฝึกมา การสู้หนักระดับนี้เฟรย์ยื้อได้เกิน 20 นาที ซึ่งก็แทบจะเท่ากับเวลาที่เรามาถึงนี่”“หมายความว่า...”“มันบอกว่า 2 ตู้ แปลว่าแยกไว้คนละตู้ ถ้าต้องการถ่วงเวลาให้เราหาไม่เจอ มันคงไม่เอาไว้ตู้ใกล้กันแน่ และหรือถ้าจะเอาไว้ตู้ช

  • DarkZ [II] TRILOGY   TRILOGY ::: EP.70

    ไม่กี่นาทีต่อมาโครม!!!ประตูโกดังสะเทือนลั่น พร้อมกันกับร่างของไอ้ยักษ์ที่เคยทำร้ายเฟรย่ากระเด็นจากด้านนอกเข้ามาด้วยฝีมือมาโครที่เดินเข้ามานิ่งๆพลั่ก!“เมียกูอยู่ไหน!”หลังจากผลักเฮย์โซที่ลากคอเข้ามาเองกับมือ เลโอก็ตั้งคำถามเสียงห้วนอย่างไม่เกรงกลัวลูกน้องของคาร์เตอร์ที่ตอนนี้มีจำนวนเยอะกว่าในคลิปแบบทวีคูณ“มึง...”คาร์เตอร์คุ้นหน้ามาโครอยู่แล้ว แต่มันหยุดคิดนิดหน่อยพอเห็นเลโอที่มาด้วย ก่อนลูกน้องคนสนิทจะเข้ามากระซิบ“อ๋อ ไอ้พวก Nightshade แล้วที่เหลือล่ะวะ หรือพวกมึงกล้ามาแค่นี้”ใช่ คำถามนี้ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วเพราะท่ามกลางคนกว่า 20 คนตรงนี้ อีกฝั่งมีแค่มาโครและเลโอที่มาพร้อมเฮย์โซในสภาพอิดโรยเท่านั้นและแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ไอ้ยักษ์ แต่มาโครกับเลโอจัดการพวกหน้าประตูโกดังจนเกลี้ยงด้วยสองมือเปล่าเท่านั้น“ถามโง่ๆ ถ้ามาก็เห็นแล้วป่ะ ความลับเลยนะ ที่จริงเพื่อนกูไม่ให้ค่ามึงเลยว่ะ”เลโอตอบยียวนอย่างตั้งใจกวนประสาท ส่วนมาโครก็ยกยิ้มมุมปากจนคาร์เตอร์เสียเซลฟ์ที่ผู้มาเยือนไม่มีทีท่าจะหวั่นอะไรกองทัพของเขาด้วยซ้ำ“มั่นใจขนาดนี้แปลว่าสั่งคนล้อมพวกกูไว้แล้วสินะ”“อยากรู้ไม่ให้คนไปดูวะ”“เห็นด้

  • DarkZ [II] TRILOGY   TRILOGY ::: EP.69

    @ โกดังร้าง ท่าเรือ X“ดี! ก็ให้มันรู้ไปว่าพวก Dark shadow จะเปิดหน้าสู้กับกูตรงๆไหม ฮ่าๆๆๆ”เสียงคาร์เตอร์หัวเราะลั่นโกดังอย่างชอบใจ ก่อนจะมองสภาพหมดสติเพราะถูกทำให้สลบอย่างไม่ทันตั้งตัวของเฟรย่าและฟาเดียที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล“อีนี่ใช่ไหมที่สั่งระเบิดโกดังเก็บยากู!”ฝ่ามือหยาบกระด้างของคาร์เตอร์จิกผมเฟรย่าขึ้นมาจ้องแล้วสะบัดออกอย่างหัวเสีย ก่อนจะใช้อีกมือบีบแก้มฟาเดียขึ้นมาอย่างเคียดแค้น“ส่วนอีนี่ อีตัวดีที่เอาเงินกูไปงั้นสิ”เพี๊ยะ!พูดจบคาร์เตอร์ก็ใช้หลังมือตบเรียกสติฟาเดียจนสะดุ้งตื่น สิ่งแรกที่เธอทำ คือกวาดสายตามองหาเฟรย่าที่เจ็บหนักกว่า เพราะจำได้ว่ากระสุนสาดเข้ากระจกฝั่งนั้นเต็มๆ“พี่เฟรย์! พี่เฟรย์เป็นไรมากรึปะ...”“หุบปาก! เงินกูอยู่ไหน!”ไม่เว้นช่วงให้ฟาเดียพูดจบประโยคด้วยซ้ำ คาร์เตอร์ก็ตรงเข้ามาบีบคอเธออย่างคาดคั้น“เงินอะไร”“มึงอย่าทำเป็นไม่รู้”จริงอย่างที่คาร์เตอร์พูด ฟาเดียรู้ว่ามันคือเงินซื้อขายยาเสพติดระหว่างคาร์เตอร์กับสภา เงินที่เธอถูกพ่อบุญธรรมอย่างท่านเซนจิและเฮย์โซรวมหัวกันโอนเข้าบัญชีตัวเองที่ไม่ได้ใช้งาน และอดีตผู้นำเป็นคนได้ข้อมูลพวกนั้นมาทำให้เธอตาสว่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status