Episode 26
ต้องพิสูจน์
“มาทำไมแต่เช้า ขยั้นขยันเนอะ แต่ไม่รู้เหรอว่าอาจารย์ยกคลาส วันนี้มีกิจกรรม” ยัยลูกปลาแขวะเบา ๆ เมื่อเห็นว่าเช้านี้ฉันเข้าเรียนเร็ว
ว่าละ ทำไมป่านนี้คนอื่น ๆ ยังไม่มากันอีก มีแต่พวกแป้งหอมที่นั่งประชุมกันอยู่ ท่าทางออกจริงจังมาก
“อ้าวไม่รู้ พวกแกไม่เห็นบอกเลย” ฉันทำสีหน้างง เมื่อคืนก็เอาแต่ป้อนขนมหวานไอ้ฮีล ถึงจะแค่รอบเดียวแต่ตอนเช้ามันก็จัดไปอีกสองชุดใหญ่ ๆ จนฉันต้องรีบมาเรียนเช้า ๆ แบบนี้ไง
คือฉันไม่ไหวนะ ฉันกลัวคำว่าละเลียดของมันอะ
“อาจารย์แจ้งทุกคนแล้วนะ ในไลน์กลุ่มอะ” ลูกพีชตอบ ประโยคนั้นทำให้ฉันต้องควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาดู ก่อนจะพบว่าเป็นอย่างที่ลูกพีชว่าจริง ๆ
“อื้อ งั้นกลับ ป้ะฮีล!” วันนี้ฉันมาพร้อมมัน ดังนั้นก็ต้องกลับพร้อมมัน
“เดี๋ยว!” ในตอนที่ฉันกำลังจะเดินออกไปก็ถูกแป้งหอมเรียกเอาไว้เสียก่อน พร้อมกันนั้นก็เดินมาขวางทางฉัน
คราวนี้อะไรอีก
“วันนี้มีประกวดดาวเดือน” พยักหน้าเข้าใจ พร้อมทั้งจ้องหน้าอีกฝ่ายโดยใช้สายตามีคำถามส่งไป มองปราดเดียวก็รู้ว่างานต้องเข้าฉันแน่ ๆ
“พอดีวันนี้ไม่มีช่างแต่งหน้า แกไปช่วยน้องมันหน่อย” โอ๊ะโอ! หากฉันเล่นหวยป่านนี้คงรวยเป็นร้อยล้านไปแล้ว เดาครั้งเดียวก็ถูกเลย
“ไม่อะ”
“รีบกลับไปไหน ฉันเห็นพวกแกว่างอยู่ อะไร ๆ ก็ไปช่วยน้องมันหน่อย” แป้งหอมว่าต่อ จะว่าฉันเป็นรุ่นพี่ใจร้ายก็ได้นะ หากเด็ก ๆ ไม่มาขอร้องพวกฉันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ค่อยเสนอหน้าสักเท่าไร
“ไรอะ แล้วคนอื่นไม่มีเหรอ” ฉันเลิกคิ้วถาม ปกติกลุ่มแป้งหอมมีคนแต่งหน้าเก่งอยู่แล้ว
“มินนี่ไปเถอะ วันนี้น้ำตาลป่วยก็เลยไม่มีคนแต่งหน้า” ลูกพีชเกาะเข้าที่เรียวแขน พร้อมกันนั้นก็พยายามหว่านล้อมให้ฉันใจอ่อน
“ใช่ ไปช่วยกันหน่อย” แป้งหอมรบเร้าอีก ตอนนี้ทุกคนเดินกรูเข้ามาล้อมฉันไว้แล้วรอคำตอบ
ฉันดูสำคัญไปเลย
“ไป ๆ เถอะ แต่งหน้าสวยขนาดนี้รับรองว่าน้องเบเบ้กับน้องกอล์ฟของเราต้องได้ตำแหน่งแน่ ๆ” ลูกปลาหว่านล้อมอีก
คือไม่ต้องร่วมมือกันขนาดนี้ก็ได้ ก็อย่างที่บอก หากไม่มีคนขอร้องฉันก็ไม่เสนอหน้า แต่ที่ถามว่าคนอื่นไม่มีเหรอคือฉันแค่อยากรู้เหตุผลไง
“อ่า โอเค เดี๋ยวเจอฝีมือฉัน” ตอบรับอย่างมั่น ๆ แล้วสุดท้ายเราก็ไปเตรียมตัวกัน เรื่องเทรนดาวเดือนในการประกวดเป็นหน้าที่ของกลุ่มแป้งหอม ส่วนฉันที่มีสกิลการแต่งหน้าก็ต้องทำหน้าที่แปลงโฉมให้เด็กมันสวย
“พี่ฮีลสวัสดีค่ะ” น้องเบเบ้เอ่ยทักไอ้ฮีลเป็นอันดับแรก ใบหน้าจิ้มลิ้มเปรยยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้คนข้าง ๆ
ถัดมาก็หันมาทางฉัน “สวัสดีค่ะพี่มินนี่ ขอบคุณนะคะที่มาช่วยกัน”
“อื้อ เดี๋ยวจะแต่งให้สวยเลยนะ เอาตำแหน่งมาให้ได้ล่ะ คณะเราจะได้เป็นที่พูดถึงว่าเด็กบริหารมีแต่คนสวย ๆ เคนะเบเบ้” พูดเลยว่าท่าทีของน้องไม่ได้ทำให้ฉันตะขิดตะขวงเลยสักนิด มันน่ารักดีออก เหมาะสมแล้วกับตำแหน่งดาว
บุคลิกดูอ่อนหวานและน่ารักมาก
“ค่ะ เบเบ้จะทำสุดความสามารถเลย” น้องมันยิ้มให้ รอยยิ้มนั้นไม่ได้กั๊กให้ไอ้ฮีลคนเดียว
“จ้า แล้วน้องกอล์ฟล่ะ”
“กอล์ฟบอกว่าเป็นผู้ชายไม่ต้องแต่งก็ได้ค่ะ”
“ไปเรียกมาเลย จะไม่แต่งได้ไง ถึงจะมีพื้นฐานดีอยู่แล้วแต่หากหน้าสดไปเจอแสงสีมันไม่ไชน์ ยูโนว? เดี๋ยวจะดรอปเอาหากไปยืนข้างคนอื่น ๆ”
“ค่ะ ๆ รอสักครู่นะคะ”
หลังจากนั้นน้องกอล์ฟก็กลายเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ที่ถูกฉันจับแต่งหน้า ถัดมาก็เป็นน้องเบเบ้ พูดเลยว่าวันนี้หากเด็ก ๆ สองคนนี้ไม่ได้ตำแหน่งให้ไปตบไอ้ฮีลได้เลย
หุหุ เรื่องอะไรจะเอาตัวเองไปรับประกัน
“สวยเชะ!” ฉันปรบมือ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์มาลงสตอรีไอจี อวดฝีมือตัวเองสักหน่อย
“สวยมากเลยค่ะ พี่มินนี่นี่เก่งสุด ๆ ไปเลย” น้องมันยกนิ้วโป้งให้ เป็นการชมได้น่ารักมาก ฉันเห็นแล้วรู้สึกละลาย
“อ่า สู้ ๆ นะ พี่ไปละ”
“ค่ะ”
ฉันเดินเพ่นพ่านอยู่แถว ๆ นั้นไม่ได้กลับไปเสียทีเดียว จะกลับได้ยังไงก็ในเมื่อวันนี้ฉันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังงานประกวดดาวเดือนไปแล้ว ต้องอยู่ชมฝีมือตัวเองสักหน่อย
“เดี๋ยวดิ” มิ้นเดินเข้ามาทัก เธอเป็นเพื่อนในกลุ่มของแป้งหอมและมีหน้าที่เป็นสตาฟฟ์ของงาน
“ว่า”
“เหลืออีกคนอะ ตำแหน่งดาวปีก่อน วันนี้มาอำลาตำแหน่งก็ต้องสวย ๆ หน่อย” ฉันถอนหายใจออกมา ก็ยัยตำแหน่งดาวปีก่อนของคณะเราจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากยัยน้องฟาง
“แล้วนี่เจ้าตัวไปไหน ทำไมช้าอย่างนี้ ฉันเก็บของหมดละ” พูดไปก็กลอกตาไปมา แต่เชื่อไหมฉับพลันสายตาของฉันก็ดันไปเห็นยัยน้องยืนคุยกับไอ้ฮีลอย่างออกรสอยู่อีกมุม หมั่นไส้จริง
“โน่น! ไปเรียกมาเลย หากจะแต่งอะ”
“เค รอแป๊บ”
และแล้วยัยน้องฟางคนงามก็มานั่งอยู่ตรงหน้าฉัน ในขณะที่มือสะบัดแปรงอยู่ฉันก็พยายามห้ามใจว่าอย่าไปฟาดหน้ามัน
หมั่นไส้ทั้งน้องฟางและคนที่นั่งไถโทรศัพท์อย่างเงียบ ๆ อะ
“นี่! จะพูดอีกนานไหม เดี๋ยวตาก็เบี้ยวกันพอดี!” ฉันว่าให้ ก็กำลังกรีดอายไลน์เนอร์อยู่ยัยน้องมันก็กลัวแต่จะไม่ได้คุยกับไอ้ฮีลอะเนอะ ทั้งที่มันไม่ตอบรับสักคำ
บ้าเหมือนกันนะเนี่ย คุยคนเดียวก็เป็น
“ค่ะ ขอโทษค่ะ” น้ำเสียงอ่อนหวานดั่งคนรู้สึกผิด ฉันจึงหันไปสั่งคนข้าง ๆ ให้มันไปเล่นโทรศัพท์ไกล ๆ
“ไปไหนก็ไปเลยไป อยู่ทางนี้เสียสมาธิ” ฮีลเหลือบสายตามองหน้าฉัน ถัดมาก็ดีดตัวลุกแล้วเดินออกไป ตอนนี้ยัยน้องมันเลยสามารถนั่งนิ่งให้ฉันแต่งหน้าได้
“พี่ฮีลนี่พูดน้อยจังนะคะ ฟางพูดด้วยตั้งหลายคำก็ตอบฟางแค่สั้น ๆ เอง” หลังเสร็จการแต่งหน้าแทนที่จะขอบคุณ แต่ยัยน้องกลับหายใจเข้าเป็นไอ้ฮีล หายใจออกเป็นไอ้ฮีล
“อือ” ตอบรับสั้น ๆ พลางรีบเก็บของเข้ากระเป๋า พูดเลยว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้นาน ฉันละเกลียดมัน
“แต่พี่มินนี่คงจะพิเศษมากใช่ไหมคะ ฟางแอบเห็นว่าพี่ฮีลพูดกับพี่มินนี่มากกว่าคนอื่น ๆ อีก” ก็ใช่อะดิ ฉันอะพิเศษใส่ไข่เลยแหละ เพราะอะไรรู้ไหม เราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากไง สนิทแม้กระทั่งบนเตียงอะ
“อือ” ตอบสั้น ๆ อีกหน เมื่อไหร่จะเก็บของเสร็จสักที เริ่มลำไยมันละ
“ฟางโกหกเรื่องวันนั้น” จู่ ๆ ยัยน้องก็สารภาพออกมา จนฉันชะงักมือที่กำลังจะเก็บอายชาโดว์เข้ากระเป๋า
“คือว่า…ฟางชอบพี่ฮีลค่ะก็เลยพยายามเข้าหาเขา แต่ตอนนี้ฟางคงต้องตัดใจแล้ว” สีหน้าของน้องฟางดูผิดหวัง นางก้มหน้าลงแล้วกุมมือแน่น
“พอฟางสังเกตพี่ฮีลมาก ๆ ฟางก็รู้ว่าพี่ฮีลต้องชอบพี่มินนี่แน่ ๆ”
ชอบเหรอ? อืม ฉันเคยคิดเข้าข้างตัวเองนะ ครั้นพอจะเอ่ยปากถาม พฤติกรรมของมันก็ลบล้างความคิดออกไปได้ในทันควัน
“พี่ฮีลเก็บความรู้สึกเก่งเพราะเย็นชา แต่พี่ฮีลรักพี่มินนี่จริง ๆ นะคะ ฟางว่าพี่ ๆ สองคนเหมาะสมกันดีเลยค่ะ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” เมื่อยัยน้องมันเริ่มพูดไร้สาระฉันก็เริ่มบอกกล่าวให้หยุดความคิดไว้เพียงเท่านี้ จะมาตัดพ้อบ้าบอแล้วเชียร์ให้ฉันคบกับมันทำไมอะ ยังไงก็ไม่มีทาง ฮีลมีคนที่ชอบอยู่แล้วซึ่งไม่ใช่ฉันแน่ ๆ และตอนนี้มันยังปอดแหกอยู่ถึงได้ไม่ยอมจบความสัมพันธ์กับฉันสักที
เมื่อสี่ปีก่อนก็เคยเป็นแบบนี้ครั้งหนึ่ง มันอะ ชอบลูกพีชจะตาย แต่เพราะมีนิสัยเย็นชาจึงไม่เคยแสดงออก จนปัจจุบันนี้ยัยลูกพีชยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเคยถูกมันชอบ
“ฟางชอบแอบมองพี่ฮีล มองทีไรก็เห็นแต่พี่มินนี่ได้รอยยิ้มของพี่ฮีลไปคนเดียวตลอด อย่าบอกว่าเพื่อนกันนะคะ คนอื่นฟางไม่เคยเห็นพี่ฮีลยิ้มให้เลย”
“…” ถึงตอนนี้ฉันเริ่มคิดละ ฉันดูพิเศษเกินกว่าใครจริง ๆ ยิ่งตอนนี้มันอัปสกิลอ้อนฉันก็เริ่มคลางแคลงใจไปตาม ๆ คำพูดของยัยน้อง
ช่องว่างระหว่างเราที่ลดหลั่นลงไปเรื่อย ๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันสงสัย มันแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของฉันได้อย่างแนบเนียน เนียนกระทั่งฉันแทบไม่รู้ตัวและยอมเปิดประตูรับมันอย่างไร้ข้อสงสัย
“พี่มินนี่ต้องลองพิสูจน์นะคะ”
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น