Episode 25
ละเลียด
“คืนนี้ฉันขอไปนอนด้วยได้ไหม” ฮีลถาม ไม่ต้องใช้เวลาคิดให้มากมายฉันก็รีบตั้งท่าจะปฏิเสธโดยการส่ายหน้า ทว่ากลับถูกล็อกโดยฝ่ามือหนาที่กำลังประคองใบหน้าของฉันอยู่
“คืนนี้ฉันจะนอนกับนายเอง ไม่ต้องมานอนกับฉัน” พูดอย่างตรงไปตรงมาให้อีกฝ่ายเข้าใจ
“ไม่เอา ฉันอยากไปนอนกับเธอ” ไอ้ฮีลดึงดัน เป็นแบบนี้ฉันเริ่มรำคาญละ
“นายรีบสูบบุหรี่เลยไป” เป็นเพราะความอยากบุหรี่แน่ ๆ มันถึงได้งอแง กระทั่งอ้อนวอนขอมานอนกับฉันทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าฉันหวงพื้นที่ส่วนตัว
“ไม่อยากแล้ว อยากนอนกับเธอ” ไอ้บ้านี่ทำตัวง้องแง้งเป็นเด็ก ๆ ไปได้ ฉันจึงถอนหายใจออกมา
“อย่างอแง ยังไงฉันก็ไม่ให้นอน”
“งั้นขอไปกินขนมหวานที่ห้องเธอแทนก็ได้”
“นายมันคนตะกละตะกลาม กินยังไงก็ไม่รู้จักอิ่ม” ฉันรู้ ประโยคนั้นมันต้องหมายถึงร่างกายของฉันแน่ ๆ จึงค่อนแคะใส่
“แล้วใครบอกให้ร่างกายเธอหวานขนาดนี้ กินทั้งคืนฉันคงไม่รู้สึกอิ่ม”
กว่าจะตกลงกันได้ว่าใครจะนอนกับใครก็ใช้เวลาพอสมควร ซึ่งสุดท้ายแล้วฉันกลับกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ยอมให้เพื่อนสนิทซึ่งมีสัมพันธ์เซ็กซ์เฟรนด์เข้ามานอนด้วยจนได้
“อ๊ะ!” ฮีลผลักฉันติดผนังห้อง ค่อย ๆ สอดมือเข้าไปใต้เสื้อสายเดี่ยวแล้วบีบเคล้นตรงหน้าอกเบา ๆ ริมฝีปากร้อนไล่โลมเลียไปตามแนวลำคอระหง ก่อนจะจบด้วยการจูบอย่างดูดดื่มที่ริมฝีปากของฉัน
นานเท่าไรไม่อาจทราบได้ แต่ตอนนี้เสื้อผ้าของฉันหลุดลอยออกไปจากตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลำแขนแกร่งช้อนอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนจะวางเบา ๆ ตรงเตียงใหญ่แล้วเอาตัวเองมาทาบทับ
“ปากหวาน” มันเอ่ยชม เราผละออกจากกันนานนับนาที ทว่าไอ้บ้านี่กลับพึ่งรู้ตัวว่าต้องพูดคำนั้นออกมา
ร่างสูงยืนมองฉันซึ่งนอนเปลือยกายอยู่ ดวงตาคู่คมหลุบมองไปยังส่วนกลางกายซึ่งตอนนี้กำลังรู้สึกเปียกชื้น ฮีลค่อย ๆ คลายกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด ๆ อย่างอ้อยอิ่ง ในเวลาเดียวกันฉันก็มองมันด้วยสายตาเป็นประกาย
ไหนบอกอยากกินขนมหวานไง ฉันอุตส่าห์ค่อนขอดว่ามันตะกละตะกลามแต่กลับกลายเป็นว่ามันถอดเสื้อผ้าอย่างเชื่องช้า ราวกับไม่หิวกระหายเรือนร่างของฉัน
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ฉันนอนแผ่หลาแล้วมองมันถอดเสื้อผ้า จังหวะรอแทบจะอยู่ไม่สุขเมื่อความต้องการมันเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ แต่กลับไม่ถูกระบายออก
จนกระทั่งมันเปลือยไปหมดทั้งตัว
ร่างสูงค่อย ๆ คลานเข่าเข้ามาหาฉัน ปลายนิ้วอุ่นแตะลงตรงฝ่าเท้าแล้วลากขึ้นสูงไปจนถึงข้อเท้า ก่อนยกมันขึ้นแล้วกดจูบตรงนั้นเบา ๆ
เวลานี้ฉันอยากมาก ไม่คิดว่ามันจะชิมฉันโดยการเริ่มตั้งแต่ฝ่าเท้า นี่เป็นครั้งแรกที่มันสัมผัสจากส่วนนี้ ซึ่งหากไม่นับปุ่มเนื้อที่อยู่ด้านบนร่องคับแคบแล้วละก็ สิ่งนี้คือจุดอ่อนไหวที่สุดของฉันเลยก็ว่าได้
ฉันจิกเท้าแน่นในตอนนั้น ริมฝีปากกรุ่นร้อนเริ่มไล้มันขึ้นสูงกระทั่งถึงหน้าขา
ขาทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกัน ก่อนที่ฮีลจะฝังใบหน้าคมคายลงไปยังจุดกึ่งกลาง โชว์จังหวะลิ้นร้ายกาจจนฉันบิดกายเร่า ๆ
เชื่อแล้วว่ามันตะกละตะกลามเมื่อเรียวลิ้นอุ่นยังคงทำงานอยู่ตรงร่องคับแคบ เนิ่นนานกระทั่งฉันปล่อยน้ำหวานออกมาได้ถึงสองหน
“ฮะ…ฮีล”
“มิน…” อ่า ให้ตาย
เหมือนมันยังจำคำพูดของฉันในวันนั้นได้ ถึงยอมครางชื่อฉันเสียงพร่า ราวกับไม่ต้องการให้ฉันรู้สึกเสียเปรียบ
แต่น้ำเสียงเมื่อครู่นั้นกระเส่าพอสมควร มันคงอยากมากแต่ทำไมไม่เข้ามาสักที
หรืออาจเป็นเพราะที่เคยกล่าวไว้ว่าอยากจะชิมขนม ดังนั้นมันจึงอ้อยอิ่ง ละเลียดชิมฉันราวกับส่วนนั้นเป็นของหวานอย่างที่มันเปรียบเปรย
“อยากแล้ว” ฉันเอ่ยบอกพลางผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังฝังหน้าลงตรงหว่างขา
ฮีลผละหน้าออก ก่อนคลานเข่าเข้ามาจนในที่สุดร่างสูงก็อยู่ในระดับที่สามารถประสานสายตากันได้
“ตรงนั้นเธอหวานมาก” ว่าจบก็ยกมือข้างที่เคยตะบี้ตะบันปุ่มเนื้อจนฉันเสร็จคานิ้วไปพร้อม ๆ กับลิ้นขึ้นมาดูดโชว์
ท่านี้ตลอด แต่พอมองทีไรฉันกลับตื่นเต้นทุกครั้ง
“ปากก็หวาน” มันก้มตัวลงมาจูบเบา ๆ ถัดมาก็ขบเม้มตรงเนินอกจนรู้สึกเจ็บจี๊ด
ริมฝีปากอันกรุ่นร้อนลากไล้ไปตรงยอดปทุมถันจนตรงนั้นชูชันขึ้น ส่วนฉันที่เสียววูบวาบจึงทำได้เพียงแค่ประคองศีรษะเอาไว้เหมือนหาที่ยึดเหนี่ยว เวลานี้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะล่องลอย
ช่วงล่างที่เปียกชื้นเริ่มรู้สึกกระสันซ่าน เมื่อท่อนเอ็นลำใหญ่กำลังขยับขึ้นลงเพื่อหยอกล้อกับกลีบเนื้อของฉันโดยไม่ยอมสอดใส่เข้าไป
“สักทีเถอะ” ฉันเร่งรัด มันจะทำตัวเหมือนคนมารยาทดีไม่ได้ที่ต้องเคาะประตูห้องก่อนจะเข้ามา
ฉันอยากจะตายห่าอยู่แล้ว ใส่ ๆ เข้ามาเลยก็ได้ พอดีไม่ได้ล็อก!
“อ๊า!” ร้องครวญครางออกมาในตอนที่แก่นกายร้อนตอกตรึงเข้าไปจนลึก ความยาวของท่อนเอ็นลำใหญ่ที่ค่อย ๆ ครูดผ่านผนังของฉันเข้าไปด้านในทำให้รู้สึกเสียวจนต้องเด้งเอวขึ้น
“แน่น” ฮีลบอก ซึ่งประโยคนั้นทำให้ฉันพึงพอใจเป็นอย่างมาก ที่อย่างน้อย ๆ ถึงแม้เรามีอะไรกันนับครั้งไม่ถ้วน ทว่าคนข้างบนกลับไม่รู้จักเบื่อในตัวของฉันเลย เช่นกันกับฉันที่ไม่รู้จักเบื่อในตัวมัน
ฮีลกระแทกเข้าออก จากจังหวะเนิบนาบเปลี่ยนเป็นรัวเร็ว จากท่าเบสิกเปลี่ยนให้ฉันโชว์เอวดี แล้วจบลงด้วยการที่ฉันนั่งคุกเข่าอยู่กับฟูกนุ่ม ๆ แล้วครางเสียงหวาน
“อื้อออ อ่า…” ส่งเสียงหวานโทนกระเส่าดังออกมาอีกหนเมื่อถูกคนข้างหลังดึงที่ผมเบา ๆ ให้เงยหน้าขึ้น ก่อนที่มันจะปิดปากฉันด้วยการจูบจนเผลอเคลิบเคลิ้ม แรงกระแทกที่หนักหน่วงไม่อาจทำให้ฉันร้องดังออกมาได้
“อ๊ะ! ๆ จะเสร็จ” ส่งเสียงบอกอย่างบางเบาทว่าคนที่อยู่ใกล้ตัวฉันกลับได้ยินอย่างชัดเจน ฮีลโถมกายเข้าใส่แรงขึ้นจนในที่สุดก็ฉันก็ปลดปล่อยออกมา
“อ่าาาาา” เราทั้งคู่ต่างก็หอบหายใจ
นาทีนี้พูดเลยว่าต้องยกถ้วยรางวัลความเอวดีให้มันแทน แรงกระแทกอย่างหนักหน่วงทำให้ฉันร้องครางไม่เป็นภาษา จนในที่สุดก็เสียงแหบแห้ง
“ออกไปได้แล้ว” หลังจากทุกอย่างจบลงฉันก็บอกให้มันถอนตัวตนออก พอไร้อารมณ์ความง่วงก็เข้าครอบงำในทันที ยิ่งตอนนี้ในร่างกายของฉันมีสิ่งกระตุ้นอย่างเบียร์อยู่ จึงง่วงหนักจนตาแทบจะปิดลงอยู่รอมร่อ
“กลับออกไปก็ล็อกประตูให้ด้วย”
“ใครว่าฉันจะกลับ ฉันยังกินขนมไม่อิ่มเลย” มันว่า ดวงตาที่ปิดลงจึงลืมขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อกี้เรียกว่าละเลียด”
“...!” โอ้มายก็อด ‘ละเลียด’ พจนานุกรมไทยให้คำอธิบายไว้ว่าคือ ‘การกิน หรือดื่มทีละน้อย ๆ’ ซึ่งแตกต่างจากที่มันทำกับฉัน ท่าทีกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วงจนร่างกายฉันสั่นคลอนแบบนั้นมันเรียกว่า ‘ตะกละตะกลาม’ ไม่ใช่การละเลียดสักหน่อย
ฉันว่ามันเกิดและโตที่ไทยนะ ไม่น่าจะใช้คำพวกนี้ผิดได้หรอก
“ไอ้บ้า ไม่เอาแล้วฉันเหนื่อย” ร้องปฏิเสธด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ก็เพราะมันละเลียดจนฉันใช้เสียงเยอะไงในตอนนี้ถึงได้แย่ถึงขนาดนี้
“แต่ฉันนอนไม่ได้ เพราะฉันได้รับอนุญาตให้มาชิมของหวานเฉย ๆ” ดูมันนะ ดูมัน นาทีนี้ฉันแอบคิดว่ามันเจ้าเล่ห์
“งั้นฉันอนุญาต คืนนี้นายนอนกับฉันได้ เคนะ”
สุดท้ายก็ต้องยอมใจอ่อนให้มัน ทั้งที่ในคราแรกตั้งกำแพงไว้สูงมากแต่มันกลับมีเล่ห์เหลี่ยมหาวิธีปืนป่ายขึ้นมาได้อย่างง่ายดายและแนบเนียน จนฉันต้องยอมให้มันปีนเข้ามาบ่อยขึ้น
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น