Episode 7
แค่เพื่อน
Rrrrrr Rrrrrr
เสียงริงโทนดังขึ้นในเช้าวันใหม่ เมื่อคืนหลังจากที่ฮีลเทสต์เตียงเสร็จสุดท้ายก็คะยั้นคะยอให้ฉันไปดื่มกับมันจนได้ พอกลับมาก็มาเทสต์เตียงกับฉันอีกรอบจนในที่สุดฉันก็ได้นอนกอดมันอีกครั้งแบบนี้ไง
ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่เวลาเราหลับเราไม่มีทางรู้ตัวหรอก จริงไหม?
“ฮัลโหล” ฉันรับสายนั้นด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
[นั่นใคร มารับโทรศัพท์ฮีลได้ไง] ฉันเบิกตาโพลง ก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกมาจากหูก็พบว่ามันเป็นเครื่องสีดำของไอ้ฮีล แต่ที่ตกใจไปยิ่งกว่าก็คือเจ้าของสายนั้นเป็นแม่ของฮีล
‘แม่สุดที่รัก’ ฉันละอยากจะแหวะ ปกติฮีลมันนิ่งจะตาย ไม่คิดว่าจะเมมเบอร์แม่ได้น่ารักขนาดนี้
ฉันทาบมือถือหูอีกครั้ง “มะ…มินเป็นเพื่อนฮีลค่ะ”
[เพื่อน?] แม่ฮีลทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ ก่อนจะ… [อ้อ แม่เข้าใจแล้วลูก เด็กสมัยนี้จะรักจะชอบกันก็ตอบเหมือนดาราอะเนอะ สมัยนี้แล้ว จะคบกันแม่ไม่ห้ามเลย]
“มะ…ไม่ใช่ค่ะ”
[ตื่นมารับโทรศัพท์แทนลูกชายแม่ยังปฏิเสธอีกเหรอลูก]
“อะ…เอ่อ อ๊ะ!” แล้วฮีลก็แย่งโทรศัพท์จากมือไป ดวงตาคู่คมมองค้อนมาที่ฉันแทบจะทันทีก่อนจะทักทายผู้เป็นแม่ “ครับ”
มันหลบสายตาฉันไปแป๊บเดียว ก่อนจะหันมามองกันอีกครั้งแล้วตอบคนในสายว่า “ครับ” อีกแล้ว
ครับอะไรวะ มึงจะครับอะไร!
ฉันอยากรู้นะ เมื่อกี้ยังคุยกับแม่ไม่เคลียร์เลย
“ครับผม”
“รออีกหน่อยนะครับ”
ฉันกัดปากแน่นแล้วจ้องสีหน้ามันเหมือนอยากรู้ไปด้วย แต่มันดันดีดตัวลุกแล้วเดินออกไปริมระเบียง คว้าบุหรี่กับไฟแช็กไปด้วย ท่าทางแบบนี้ทำให้ฉันเข้าใจได้ในทันทีว่าคงไม่อยากให้รับรู้ จึงหยัดกายลุกก่อนจะคว้าโทรศัพท์ตรงหัวเตียงมาเปลี่ยนเสียงเรียกเข้ามันเสียเลย ต่อไปนี้คงไม่มีทางหลงผิดไปรับสายแทนมันอีกแน่ จากนั้นก็กดโทรออกหาลูกพีชเรื่องนัดหมอในวันนี้
“ลูกพีช เป็นไงบ้าง วันนี้นัดหมอได้ไหม” ที่ต้องถามแบบนี้เพราะลูกพีชเป็นน้องเล็กของเจ้าของโรงพยาบาลหิรัญสกุล โรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อเรื่องการแพทย์ในไทย ฉันเลยวานให้ช่วยติดต่อหมอให้ เผื่อทางนั้นจะดูแลแม่ฉันแบบวีไอพีหน่อย
[นัดแล้ว วันนี้พี่เดย์ว่างตรวจกับพี่เดย์นะ]
“ทำไมเป็นพี่ชายแก”
[พี่ชายฉันเก่งกว่าที่แกรู้ เขาจะหาทางรักษาแม่แกเองไม่ต้องห่วง]
“…” ฉันครุ่นคิด เคยได้ฟังเรื่องพี่หมอเดย์มาบ้างนิดหน่อย เขาไม่ใช่หมอศัลฯ ด้านสมองแต่เป็นหมอศัลฯ ออร์โธปิดิกส์ แต่เพราะทดลองกับร่างกายมนุษย์ซึ่งได้มาผิดวิธีทำให้เขาเก่งและรู้ลึกกว่าศาสตราจารย์บางคนเสียอีก
[พี่ฉันไม่เอาแม่แกไปทดลองหรอก วางใจได้] รู้อีกว่าฉันกำลังคิดอะไร สุดท้ายจึงเออออตามไป
“อืม เจอกันนะ” ฉันตอบรับ ถัดจากนั้นคนที่เดินไปสูบบุหรี่ก็กลับเข้ามาพอดี
“แค่นี้นะลูกพีช แล้วเจอกัน”
ตัดสายลูกพีชเสร็จฉันก็เดินหนีเข้าไปอาบน้ำ ถัดจากนั้นฮีลก็เข้าไปอาบต่อ นี่มันไม่คิดจะกลับขึ้นห้องตัวเองเลยหรือไงฉันก็ไม่เข้าใจ ทำไมถึงได้มาอาบน้ำอาบท่าคอนโดคนอื่นแบบนี้
จะด่ามันมากก็ไม่ได้ เพราะฉันก็เคยอาบน้ำที่คอนโดมันเหมือนกัน จึงแต่งตัวแต่งหน้าต่อไป จนในที่สุดทุกอย่างก็เรียบร้อยพร้อม ๆ กับฮีลที่ตอนนี้แต่งตัวเสร็จพอดิบพอดี โดยใส่เสื้อผ้าชุดเดิม
“เน่า!” ฉันปิดจมูกแล้วแขวะมันเล่น ๆ แต่ร่างสูงทำเพียงแค่คว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถมาถือไว้ก่อนจะเปิดประตูออกไป
“อะไร” ยัยน้องสาวคนดีของฉันกำลังยืนอยู่หน้าประตู มือของมันยกขึ้นเหมือนกำลังจะเคาะเรียกฉัน
“ไม่ยักรู้ว่าพี่ฮีลก็ยังอยู่” ก็อย่างที่บอก เมื่อคืนเราออกกันไปรอบหนึ่งแล้วและกลับเข้ามาใหม่หลังจากยัยมิรินหลับไป
หึ! ตกใจละสิ
“ทำไม จะฟ้องพ่อไง!” ถ้าฉันโดนผู้ชายคนนั้นสั่งสอน สาบานเลยว่ามันต้องเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เขาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าใครจะมาสอนฉันได้ยังไง
“มะ…ไม่ค่ะ มิรินไม่บอกคุณพ่อแน่นอน ที่มาเคาะเนี่ยเพราะว่าคุณแม่โทรมาบอกว่าพี่มินจะพาคุณน้าไปหาหมอ” แล้วมันก็ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ “มิรินอยากไปด้วย มิรินเป็นห่วงคุณน้า”
“อ้อเหรอ อะ” ฉันยื่นกุญแจรถตัวเองให้มัน ก่อนจะคว้าแขนฮีลเอาไว้ ยัยมิรินมองไปที่มือของฉันซึ่งกำลังเกาะแขนกำยำของฮีลอยู่เหมือนไม่ชอบใจ ประมาณสามวิฯ เห็นจะได้สายตาก็กลับมาเป็นปกติ
ชอบสินะ ผู้ชายคนนี้
แต่เสียดาย พี่มึงกินแล้ว
ถึงแม่จะใจดียอมแบ่งพ่อให้แต่สำหรับฉันไม่มีทางใจดีแบ่งผู้ชายของตัวเองให้มันหรอก
“อยากไปก็ขับรถไปเองนะ พอดีว่ารถเต็ม ป้ะฮีล!” ฉันเกาะแขนฮีลแน่นขนาดนี้ก็เพื่อให้มันรู้ว่าฮีลจะไปกับฉัน และรถยนต์สองที่นั่งก็คงไม่มีที่ว่างให้น้องสาวสุดรักนั่งไปด้วยแล้ว
บอกแล้วให้ไปเรียนขับรถเอง เหอะ!
ยัยมิรินรับกุญแจรถมาถือไว้อย่างอึน ๆ ฉันจึงกดยิ้มร้ายในตอนที่คว้าแขนฮีลเดินออกมา ก่อนจะบังคับให้มันขับมาส่งบ้าน “จอดตรงนี้แหละ เหยียบคันเร่งดัง ๆ หน่อย”
“…” มันเงียบ แล้วยังไม่ตามใจฉันอีก
เออแล้วแต่มึงเหอะ! ฉันถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูรถออกไป แต่ไอ้บ้าฮีลมันดันดับเครื่องรถแล้วลงมาด้วย
“สวัสดีครับ”
อ่า โอเค มันคงอยากจะทักทายพ่อฉันสินะถึงได้ดับเครื่องยนต์แล้วเดินตรงไปหาคนที่กำลังยืนกอดอกอยู่หน้าบ้าน เดาจากสีหน้าก็รู้ว่ายัยมิรินมันต้องฟ้องพ่อแล้วแน่ ๆ
“…” พ่อมองฮีลแต่ไม่ยอมรับไหว้ ถามว่ามันหน้าเสียไหมก็ต้องตอบว่าไม่
อยากถามว่ามันมีความรู้สึกบ้างไหมมากกว่า ถึงได้ทำหน้าตายตลอดเวลาแบบนี้
“กลับไปได้แล้ว”
“ยังไม่ต้องกลับ เราต้องคุยกันหน่อย” แล้วพ่อก็พูดแทรก
ฉันถอนหายใจ “โทษทีนะที่พามาเจอเรื่องยุ่ง ๆ” แล้วฉันก็เดินออกไปปล่อยให้ไอ้ฮีลมันคุยกับพ่อต่อ ยังไงมันก็รับมือกับพ่อฉันได้อยู่แล้ว ฉันเชื่อ เดี๋ยวมันก็โชว์มึนใส่ เดี๋ยวพ่อก็ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นึกแล้วฉันก็แอบยิ้มในใจ รู้สึกขอบคุณบุคลิกของฮีลที่สามารถปั่นประสาทพ่อได้
“นมคะ ช่วยบอกลุงเข้มให้หน่อยค่ะ มินจะพาแม่ไปหาหมอ” ฉันเอ่ยบอกแม่นมให้ช่วยบอกคนขับรถไว้ จะได้ให้ไอ้ฮีลมันกลับ ๆ ไปหลังจากปั่นประสาทพ่อเสร็จ
“ค่ะ แล้วนั่นแฟนคุณหนูเหรอคะ”
“เพื่อนค่ะ”
“หล่อจังเลยนะคะ น่าเสียดาย”
“เสียดายอะไรคะ ถ้ามีแฟนหน้าตาดีแบบนั้นแต่นิสัยแบบพ่อมินก็ไม่อยากมีหรอก นมเลิกหวังได้เลย” ถึงฮีลมันจะไม่เคยแสดงอาการเจ้าชู้เหมือนพ่อ แต่ฉันก็ไม่อยากมีใคร
“อย่าพูดให้คุณนายได้ยินเชียวนะคะ” ฉันหยุดเดินก่อนจะหันไปมองแม่นมของตัวเอง สีหน้าของนมแสดงออกว่าตั้งใจจะสั่งสอน “คุณนายคงเสียใจแย่ถ้ารู้ว่าคุณหนูคิดแบบนี้เพราะมีปมเรื่องพวกท่าน”
“ค่ะ” ฉันรับปากแม่นม ก่อนจะเดินตรงไปหาแม่ต่อ
ครอบครัวคือสิ่งสำคัญอันดับแรกจริง ๆ สำหรับการที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นแบบไหน แล้วฉัน…ก็เลือกแล้วว่าจะไม่มีทางมีครอบครัวเป็นของตัวเองเด็ดขาด หากต้องมานั่งทุกข์ใจแบบแม่
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น