Share

บทที่ 30 ฝัน?

Penulis: Sitha
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-02 17:12:08

“ชอบไหม” 

ประโยคคำถามแผ่วพร่ามาพร้อมกับเสียงลมหายใจหอบหนัก  อิสริยาพยายามลืมตามองแต่รู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้ง  ลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดไปตามผิวกายเจือกลิ่นบรั่นดีจางๆ จนเธอรู้สึกเหมือนจะเมาตาม

เธอยกมือขึ้นตั้งใจจะผลักอะไรก็ตามที่กำลังทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเหมือนขาดอากาศหายใจ  แต่ฝ่ามือบางของเธอก็ถูกรวบไว้ทั้งสองข้างกดลงกับที่นอน  จากนั้นความรู้สึกเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่างกายเมื่อยอดอกถูกดูดกลืนขบเม้มอย่างเมามัน

เธอครางออกมาเสียงแผ่วเบาเมื่อรู้สึกว่าควบคุมร่างกายไม่ได้อีกต่อไป  ผิวเนื้อเธอร้อนวูบวาบไปทั้งตัวและตอนนั้นเองที่รับรู้ว่าร่างกายของตนเปลือยเปล่าท่ามกลางความมืด  หญิงสาวบิดตัวแผ่นหลังแอ่นโค้งจนไม่ติดที่นอนเพราะร่างกายส่วนกึ่งกลางร่างถูกดื่มชิมอย่างตะกรุมตะกราม  ลิ้นสากเวลาที่สัมผัสกับกลีบเนื้ออ่อนทำให้เกิดเสียงหยาบโลนแต่ก็ชวนให้วาบหวามไปพร้อมกัน

ในความมืดเธอถูกพลิกร่างให้นอนคว่ำ  จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็ทิ้งตัวลงแนบชิดไล่จูบไปทั่วตั้งแต่ต้นคอ  ซอกใบหูสอดลิ้นเลียเข้าไปในรูหูจนเธอย่นคอหนี  ขนลุกทั้งตัวจากความเสียวสยิวที่เกิดขึ้นปุบปับ

ร่างสูงจูบไล่ไปตามแผ่นหลังและแนวกระดูกสันหลัง  หยุดนิ่งที่บั้นเอวกลมเล็กเขาสอดมือไปด้านหน้าโลมลูบทรวงอกใช้ปลายนิ้วปัดป่าย    ยอดอกจนมันชูชันหดตัวตอบสนองต่อการเล้าโลมนั้น 

เธอถอนใจโล่งอกเมื่อร่างถูกพลิกกลับมา  สองขาเหยียดกว้างข้างหนึ่งถูกยกให้วางพาดบนท่อนแขนล่ำสันกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ  อีกข้างยกขึ้นชันเข่าเปิดทางให้อีกคนใช้ปลายนิ้วสอดแทรกเข้าไปในร่างกายล้วงลึกยาวสลับสั้นจนเธอดิ้นพล่าน  ความปรารถนาถูกกระตุ้นจนคล้ายจะทนไม่ไหวอีกต่อไป 

ร่างนั้นเลื่อนตัวขึ้นทาบทับ  ประกบริมฝีปากจูบเธอดื่มด่ำกดสะโพกลงให้ร่างกายส่วนนั้นส่งความแข็งขึงอุ่นจนเกือบร้อนสวมสอดเข้าไปในความคับแน่นจนเขาต้องสูดปากราวกินของเผ็ด 

“เอ๋จ๋า  เอ๋ครับดีไหม”  คำถามกระซิบข้างหูจนเธอต้องพยักหน้าถี่ๆ แทนคำตอบ  อิสริยาคล้ายกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆจากการเคลื่อนไหวเข้าออกของเขา

หญิงสาวใช้สองมือกอดรัดร่างหนา  เผยอริมฝีปากรับจูบร้อนแรงอย่างเต็มใจจนกระทั่งปลายทางเริ่มมาถึง  เธอหวีดร้องใช้เล็บจิกที่ต้นแขนอีกฝ่ายแน่นร่างเกร็งภายในตอดถี่รัดจนรู้สึกถึงอาการกระตุกตามของอีกคน  ลมหายใจของคนทั้งสองหอบถี่ขณะที่ร่างกายเกร็งค้างอิ่มเต็มกับความสุขที่ห่างมานาน  ก่อนที่เธอจะหลับไปอีกครั้งก็รู้สึกรางๆ ว่าเปลือกตาและหน้าผากถูกจูบและสติก็ดับวูบไปอีกครั้ง

ตอนเช้าเธอลืมตาตื่นอย่างงงๆ  หญิงสาวพบว่าตัวเองนอนอยู่คนเดียวในห้อง  มองดูนาฬิกาก็ตกใจว่ามันเกือบสิบโมงเช้าแล้ว  เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพลางคิดถึงเรื่องเมื่อคืน 

‘มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือว่าเธอฝันไป’ 

หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจ  เธอสำรวจตัวเองพบว่ายังสวมชุดนอนปกติ  ไม่มีริ้วรอยหรืออะไรตามตัวเมื่อไปอาบน้ำก็รู้สึกเหมือนจะแสบๆ นิดหน่อยแต่ก็ไม่มีอะไรตกค้างในร่างกายแบบชัดๆ

อิสริยาแต่งตัวออกจากห้องเดินลงไปชั้นล่างได้ยินเสียงน้องเพียงพูดแจ้วๆ มีเสียงห้าวทุ้มของสกนธีตอบมาบ้างเป็นระยะ  หญิงสาวเดินตามเสียงไปเจอสองพ่อลูกอยู่ในห้องครัว

“แม่มาแล้ว พ่อบอกว่าแม่ไม่สบาย  หายหรือยังคะแม่”  น้องเพียงถามพร้อมกับลงจากเก้าอี้วิ่งมาหาเธอ  อิสริยากอดลูกไว้และคิดตามเธอไม่สบายหรือ?

“อ้อ จ้ะ น้องเพียงกินอะไรยังลูก” 

“พี่กำลังทำกับข้าวให้ลูก  ข้าวต้มหมูสับกับไก่ทอด  เอ๋กินด้วยไหมหรือว่าจะเอาอย่างอื่น”  สกนธีตอบโดยไม่หันมามองเธอ  เขาทำครัวด้วยความคล่องแคล่วมากขึ้นเพราะรับหน้าที่นี้มาเกินครึ่งปีแล้ว 

“ค่ะ  อะไรก็ได้” 

“แม่ขา  พ่อบอกว่าปีนี้เราจะไปบ้านปู่ย่ากันตอนลอยกระทงนะคะ  หนูอยากไปลอยกระทงในบึงที่นั่นค่ะ”  

          “ลอยกระทงเหรอลูก อาทิตย์หน้านี่เองนะคะ”  หญิงสาวทวนคำพูดลูก

          “ใช่ครับ  พ่อแม่ชวนพี่เองก็อยากพาลูกไปงานลอยกระทงที่คนไม่เยอะเหมือนกัน  เอ๋ติดธุระอะไรที่กรุงเทพฯ ไหม” 

          สกนธีวางถ้วยข้าวต้มลงตรงหน้าลูกและหญิงสาว และของเขาเองอีกหนึ่งที่  มีจานไก่ทอดวางตรงกลางเผื่อใครอยากทาน  อิสริยามองหน้าเขาอย่างค้นคว้าจนชายหนุ่มเลิกคิ้ว

“กินได้เลยครับลูก” 

เขาบอกลูกและทรุดตัวนั่งข้างเธอ  “มีอะไรเหรอเอ๋  ทำหน้าเหมือนมีอะไรอยากจะถามพี่” 

“ปะ เปล่าค่ะ”  ท่าทีของเขาเป็นปกติ  คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนเธอคงฝันไปเอง  หญิงสาวคิดในใจ

“ไม่มีธุระอะไรค่ะ”  เธอพูดต่อทำให้น้องเพียงยิ้มแป้น

“เย้  งั้นเราไปบ้านปู่ย่ากันนะคะคุณพ่อคุณแม่”

อิสริยายิ้มรับ  “จ้ะลูก” 

รับประทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเขาย้ายจากในครัวไปที่ห้องเขียนหนังสือของเด็กหญิง  เพราะว่าวันนี้น้องเพียงมีเรียนพิเศษแบบออนไลน์กับครูติวเตอร์ภาษาอังกฤษ 

ในระหว่างที่สกนธีเปิดคอมเซตหน้าจอเตรียมการเรียนให้ลูก  เขาเห็นอิสริยายกมือขึ้นปิดปากแล้วหาว

“เอ๋ง่วงก็ไปนอนเถอะ  พี่ดูลูกเองครับ”  

“จริงด้วยค่ะแม่  แม่ไม่สบายไปกินยานอนนะคะ”  น้องเพียงพูดตามเวลาที่แม่เคยบอกให้เด็กหญิงกินยานอนเวลาป่วย

ตอนแรกเธอตั้งใจจะไม่ไป  แต่เมื่อถูกคะยั้นคะยอมากขึ้นก็เริ่มลังเลและเอนเอียงอยากไปนอนจริงๆ 

“งั้นแม่ไปนอนสักชั่วโมงก่อนนะคะลูก  วันนี้หนูอย่าลืมนะว่าเราต้องกลับร้าน”  หญิงสาวเตือนแต่คุณพ่อของเด็กหญิงไม่เห็นด้วย

“เมื่อวานเอ๋บอกพี่ว่าจะย้ายมาอยู่บ้านถาวรแล้วไง  ลูกจะได้ไม่ต้องย้ายของไปมา” 

“เมื่อวานเหรอคะ” 

เธอคิดย้อนไปและคลับคล้ายคลับคลาว่าตอนที่เราดื่มด้วยกันเมื่อวาน เขาชวนเธอพาลูกย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เพราะว่าสงสารลูกที่ต้องไปๆ มาๆ และโรงเรียนพิเศษของน้องเพียงก็ใกล้บ้านมากกว่าร้าน  ตัวเธอเองก็เห็นด้วยกับเขา ไหนๆ เราก็ลดระดับมาเป็นแค่แฟนกันเธอก็เลยไม่มีปัญหา

เย็นวานนี้

“ถ้าตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว  งั้นเอ๋กับลูกย้ายกลับมาอยู่บ้านนะ  เดี๋ยวพี่ไปช่วยเก็บของ” 

ตัวเธอที่น่าจะเมาได้ที่ก็ตอบไปอย่างมั่นใจ  “ได้เลยค่ะ  ไปขนของมาเลย ตกลงโอเค” 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 3

    สิบปีต่อมา “พ่อขา หนูขอไปเรียนต่อที่มช.นะ พ่อให้หนูไปนะคะ” สุพิชชาในวัยสิบแปดปีเต็ม เธอเป็นเด็กสาวที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเป็นผู้ใหญ่แล้วอ้อนขอบิดาในเรื่องเรียน “อืม... พ่อว่า” สกนธีคิดหนัก เขาเป็นพ่อที่ขึ้นชื่อว่าหวงลูกสาวทั้งสองคนมาก โดยเฉพาะคนโตที่กำลังเป็นสาวสะพรั่ง จะทำใจปล่อยให้ไปอยู่ไกลขนาดนั้นได้อย่างไร “หนูยื่นคะแนนผ่านแล้วหรือยังลูก” อิสริยาถามแทน“ผ่านแล้วค่ะแม่สาขาแอนนิเมชันและวิชวลเอฟเฟกต์ อาทิตย์หน้าต้องไปสัมภาษณ์ รอบรับตรงคะแนนผ่านยี่สิบคนรับสิบห้าค่ะ” “งั้นเดี๋ยวพ่อแม่ไปด้วย” สกนธีตัดสินใจ ในวัยของลูกเขาเองก็ผ่านมาแล้ว รู้ว่าไม่ควรห้ามและปิดกั้นลูกไม่ให้ออกไปเผชิญโลกภายนอก“พิงค์ไปด้วยค่ะ” สโรชาวิ่งลงมาจากบันไดทันได้ยินพอดี “ไปกันหมดบ้านล่ะ ถ้าน้องเพียงสอบผ่านเราก็หาบ้านไว้ที่นั่นสักหลังนะคะพี่เก่ง” อิสริยาสรุป“เย้... ดีใจจังเราจะมีบ้านที่เชียงใหม่แล้ว” ดูเหมือนว่าลูกสาวคนเล็กจะดีใจกว่าคนที่ขอไปเรียนเสียอีก สกนธีมองลูกแล้วส่ายหน้าไปมาด้วยความเอ็นดู แม้ว่าเขาเองจะมีความใจหายลึกๆ ว่าอีกหน่อยลูกจะโตกันหมดแล้วก็ตามห้าวันต่

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 2

    หนึ่งปีต่อมา“เราจะซื้อไปทำไมคะแม่ ดอกไม้พวกนี้” น้องเพียงในวัยแปดขวบถามหลังจากที่ช่วยมารดายกถุงใส่พวงมาลัยสดขนาดยาวสามเมตรขึ้นรถ“เอาไปไหว้เหล่ากงไงลูก” น้องเพียงทำหน้านึก “อ๋อ... ไปเชงเม้งเหรอคะแม่”“ใช่จ้ะลูก บ้านเราไปกันพรุ่งนี้” เพราะว่าครอบครัวของอิสริยาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ดังนั้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนจะเป็นช่วงเทศกาลเชงเม้งหรือการไปไหว้บรรพบุรุษ สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะต้องไปพร้อมหน้าพร้อมตากันไม่ว่าจะเป็นเสี่ยกวงและภรรยา ลูกชาย ลูกสะใภ้ ลูกเขย และบรรดาหลานๆโดยที่ปีนี้ครอบครัวของอิสริยาจะเอารถไปเอง โดยที่เธอนัดกับคนอื่นๆ ไว้ว่าให้ไปเจอกันที่สุสานที่จังหวัดสระบุรีในช่วงสายได้เลย เช้าวันนั้นเด็กๆ ตื่นเต้นที่จะได้ไปต่างจังหวัดจึงพากันตื่นเร็วทั้งพี่ทั้งน้อง อิสริยาให้พี่เลี้ยงลูกตามไปหนึ่งคนเพื่อคอยดูเด็กๆ ในช่วงที่ทำพิธีไหว้เมื่อจัดของขึ้นรถเรียบร้อยแล้วในตอนเช้า ยังไม่ถึงหกนาฬิกาดีรถยนต์เจ็ดที่นั่งก็เคลื่อนตัวออกเดินทาง สกนธีเพิ่งเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้เมื่อต้นปีเพราะมันเป็นรถรุ่นครอบครัว เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกหลายคน “ลูกอมกาแฟหน่อยไหมคะ

  • My wife เมื่อหมดรัก   ตอนพิเศษ 1 

    “คุณพ่อขา แม่จะต้องอยู่ข้างในนานไหมคะ” เด็กหญิงสุพิชชากระตุกมือคุณพ่อของเธอที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัด“เดี๋ยวคุณแม่ก็ออกมาลูก” สกนธีจูงมือลูกสาวพามานั่งรอด้วยกัน “หนูหิวหรือยังคะ ไปหาอะไรกินก่อนไหมพ่อพาไป” ชายหนุ่มมองเวลา จากที่คุณหมอแจ้งไว้น่าจะพอมีเวลานิดหน่อยพาลูกไปหาอะไรรับประทาน“หิวค่ะ แต่หนูอยากรอแม่” เพราะว่าเด็กหญิงเพิ่งกลับจากโรงเรียนก็ตรงมาที่โรงพยาบาลเลย “ไปกินก่อนลูก กว่าแม่จะผ่าตัดเสร็จกว่าจะขึ้นห้องพัก” ชายหนุ่มบอกลูกสาว กำลังจะพาเด็กหญิงไปชั้นล่างแต่คุณนายอิสรีย์เดินมาถึงเสียก่อน“น้องเพียงไปกับอาม่าก็ได้ลูก เก่งรอดูเอ๋เถอะเดี๋ยวแม่พาน้องเพียงไปเอง” “ขอบคุณครับม้า” สกนธีขอบคุณแม่ของภรรยาที่มาช่วยดูแลหลาน หลังจากที่อันธิกาเป็นคนไปรับหลานจากโรงเรียนมาส่งหาพ่อแม่ที่โรงพยาบาล“แล้วนี่เอ๋จะทำหมันด้วยเลยไหม” นางถามต่อ“ไม่ทำครับ เดี๋ยวผมทำเอง” แม่ยายชะงักมองหน้าลูกเขย ก่อนจะยิ้ม “ดี ทำหมันก็เจ็บตัวเพิ่มแค่ผ่าคลอดก็เจ็บพอแล้ว ขอบใจนะ” หาได้น้อยบ้านที่ผู้ชายจะยอมเป็นฝ่ายทำหมัน เนื่องจากมองกันว่าไหนๆ ฝ่ายหญิงก็คลอดลูกอยู่แล้ว ควรจะทำหมันไปด

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 37 (จบ) ขอบคุณที่กลับมา

    อิสริยาและสกนธีจรดปลายปากกาลงในทะเบียนสมรสต่อหน้านายทะเบียนที่เชิญมานอกสถานที่ ทั้งสองผลัดกันเซ็นแล้วนายทะเบียนลงนามและตรวจสอบความเรียบร้อยดีแล้ว จากนั้นจึงมอบให้คู่บ่าวสาวเก็บไว้ถือคนละฉบับวันนี้เป็นวันแต่งงานอีกครั้งของสกนธีและอิสริยา ซึ่งจัดเป็นพิธีแบบครึ่งวันไม่มีงานเลี้ยงเย็นเนื่องจากเจ้าสาวตั้งครรภ์อยู่ ไม่สะดวกเข้าพิธีที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานแขกที่พวกเขาเชิญมาร่วมงานมีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นคนสนิทหรือญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมวงการทั้งสิ้น งานจัดแบบสบายๆ เป็นงานแต่งงานในสวน ตามตารางเวลาจะมีพิธีเลี้ยงภัตตาหารและหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ พิธีส่งตัว จบที่การเชิญแขกร่วมรับประทานมื้อเที่ยงแบบเป็นกันเอง“รักกันนานๆ ดูแลกันไปตลอดนะลูก” คุณธิดาให้พรเป็นคนแรกในการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวอีกครั้งเพื่อเป็นสิริมงคลคู่บ่าวสาวในงานแต่งงานครั้งที่สองของลูกชายคนเดียว“พ่อขอให้ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข ทำอะไรเจริญก้าวหน้านะลูก เด็กๆ แข็งแรง พระเจ้าอวยพรลูก” ตามด้วยคุณศิริหลั่งน้ำสังข์พร้อมกับให้พรและมีเงินขวัญถุงใส่ซองให้บ่าวสาวคู่บ่าวสาวก้มลงไหว้คนทั้งสอง “ขอบคุณค่ะคุณแม่คุณพ่อ” “ขอบคุณครับพ่อแ

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 36 ข่าวดี

    คดีของติยากรคืบหน้าอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มไปในทางดี เพราะว่าทนายติดต่อไปยังอดีตแฟนสาวอีกคนของเคน และได้รับทราบถึงพฤติกรรมที่ไม่ต่างกันกับที่ติยากรได้พบ นอกจากนั้นในอีกส่วนซึ่งเป็นคดีของสกนธีเองก็มีการได้คุยกับเพื่อนร่วมวงการหลายคน และพบว่าเคนไม่ได้ทำกับสกนธีเป็นคนแรก ดังนั้นจึงมีการรวบรวมผู้เสียหายหลายคนรวมฟ้องกันเป็นหลายกระทง ต่างกรรมต่างวาระและมูลค่าความเสียหายสูงถึงหลายสิบล้านคดีของติยากรและผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่คดีที่เกี่ยวกับการแบล็กเมล ข่มขู่ ทำร้ายร่างกายและกรรโชกทรัพย์นั้น ศาลชั้นต้นได้พิจารณาแล้วและได้ตัดสินให้เคนจำคุกทั้งหมดสี่ปีสิบสองเดือน และเสียค่าปรับอีกสามแสนบาทและมีคำสั่งห้ามเข้าใกล้โจทก์ในระยะห่างที่ศาลกำหนดจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ซึ่งศาลได้รับอุทธรณ์ตามขั้นตอน นั่นหมายความคดีจะต้องยืดเยื้อไปอีกนาน ในส่วนคดีของสกนธีศาลได้ประทับรับฟ้องเคนเป็นจำเลยที่หนึ่ง และผู้มีส่วนรู้เห็นเป็นจำเลยที่สองและสามอีกหลายคน ซึ่งคดีของสกนธีเป็นคดีที่มีมูลความผิดและอัตราโทษที่รุนแรงไม่แพ้กัน คือคดีปลอมแปลงเอกสารราชการซึ่งถือเป็นความผิดอาญามีโทษทั้งจำและปรับทีมกฎหมายของคดีที่สกน

  • My wife เมื่อหมดรัก   บทที่ 35 โอกาสครั้งที่ 2

    การก่อสร้างห้างใหม่กว่าจะแล้วเสร็จใช้เวลาหนึ่งปีพอดี ในวันเปิดงานหลังเทศกาลขึ้นปีใหม่ปีถัดมา นั้นก็เป็นเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเข้าศกใหม่และย้ายโกดัง สำนักงานและสินค้าทั้งหมดเข้าห้างใหม่ไปในเวลาเดียวกันกรรมการบริหาร หุ้นส่วน พนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้างล้วนถูกเชิญให้มาร่วมในงานทำบุญเปิดห้างเพื่อเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นศักราชใหม่ ซึ่งรวมถึงอิสริยาและสกนธีกับทีมงานของเขาก็มาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน“แม่ขาหนูสวยยังคะ” น้องเพียงในวัยหกขวบหมุนตัวไปมาให้มารดาดู เธอสวมชุดเจ้าหญิงฟูฟ่องสีชมพูที่เธอร้องอยากได้และคุณพ่อเป็นคนซื้อให้ตามสัญญา“สวยแล้วค่ะ อยู่นิ่งๆ ก่อนนะคะ รอพระสวดเสร็จก่อนลูก” หญิงสาวปรามลูกไม่ให้ขยับตัวไปมาเยอะจนเป็นการรบกวนคนอื่นให้เสียสมาธิในการรับพร“หนูจะไปหาคุณพ่อ” ว่าแล้วเธอก็วิ่งปรู๊ดไปหาสกนธีที่กำลังคุยกับเสี่ยกวงและอังกูร พ่อและพี่ชายของภรรยา“ขอบใจมากนะอาเก่ง ลื้อเก่งจริงๆ ดูสิเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้” เสี่ยกวงขอบใจพ่อของหลานสาวที่เป็นธุระเรื่องการสร้างห้างใหม่ให้ชายหนุ่มก้มศีรษะน้อมรับคำชมนั้น ซึ่งไม่ใช่เขาคนเดียวที่ทำให้งานสำเร็จลงได้ การก่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status