Share

#9 โรงละครสัตว์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-17 23:46:00

เสียงคลื่นกระแทกหาดดังปัง ๆ พร้อมเสียงนกทะเลที่โฉบผ่านยอดไม้

ภายใต้ร่มใบตาลขนาดใหญ่ ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ ผิวขาวซีดมีเลือดซึมที่แผลกลางอก

อีธาน...ยังไม่สิ้นใจ

“ข้ายังได้ยินเสียงลมหายใจเขาอยู่”

เสียงชายชรา—หมอประจำท่าเรือ—เอ่ยพลางเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “แม้เจ้าคนนี้จะโดนฟันเฉียดหัวใจ หากไม่ใช่เพราะชาวประมงช่วยเขาได้ ข้าคงได้ฝังเสียแล้ว”

อีธานกระพริบตาช้า ๆ ลมหายใจของเขายังคงแผ่วบาง

“...นีร่า…” เสียงพร่าที่เล็ดลอดออกจากริมฝีปาก แทบไม่ต่างอะไรจากสายลมผ่านหญ้า

หลายวันผ่านไป

ด้วยการดูแลของหมอ และสมุนไพรจากป่า อีธานเริ่มขยับตัวได้อีกครั้ง

แม้ความเจ็บแผลยังเหมือนมีไฟสุมในอก แต่ในใจเขากลับร้อนแรงยิ่งกว่า—เพลิงแห่งความมุ่งมั่น

“ข้าจะไม่อยู่เฉยอีกต่อไป”

ชายหนุ่มกัดฟันลุกขึ้นยืน ท่ามกลางเสียงห้ามปรามของชาวบ้าน

“ใจเย็นก่อนเถอะ เจ้ายังเดินไม่ไหว!”

“ข้าไม่อาจอยู่เฉยได้ หากนีร่าตกอยู่ในมือโจรสลัดพวกนั้น…ข้าจะเอานางคืนมา แม้ต้องแลกด้วยลมหายใจ!”

เช้าวันถัดมา

อีธานยืนอยู่หน้าท่าเรือเก่า ฝุ่นทรายปลิวว่อนเมื่อเขาชักดาบออกจากฝัก

“ผู้ใดสมัครใจล่องเรือกับข้า—ออกตามล่าพวกโจรนรกนั่น! ข้าต้องการเพียงหัวใจกล้า ไม่กลัวตาย!”

เหล่าชายหนุ่มในหมู่บ้านมองหน้ากัน ก่อนจะมีชายหนุ่มร่างใหญ่คนหนึ่งก้าวออกมา

“ข้า—บอร์ก ลูกเรือเก่าของกัปตันเเบลคธอร์น ข้าติดค้างบุญคุณเจ้าครั้งหนึ่ง ครั้งนี้...ข้าจะติดตามเจ้าไปจนสุดฟ้า!”

“นับข้าด้วย!” เสียงอีกคนตะโกน “พี่สาวข้าถูกจับไปกับนีร่า...ข้าจะไม่มีวันให้นางหายไปเฉย ๆ!”

เมื่อเรือ “ลูนาร่า” ลำเก่าถูกดึงออกจากคลัง

อีธานยืนประจำหัวเรือ ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นและแรงศรัทธา

“รอข้า นีร่า...ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ปลายฟ้าหรือใต้หล้ามหาสมุทร ข้าจะหาทางไปถึงเจ้า!”

แล้วเรือก็แล่นออกไป กลืนหายใต้ฟ้าสีหม่น…

ลมทะเลพัดแรง คลื่นซัดสูง

...ฤดูแห่งการล่าโจรสลัดได้เริ่มขึ้นเเล้ว

กลางเมืองคอร์เซียร์ – ยามเช้าอันวุ่นวาย

เสียงฝีเท้าเร่งรีบและเสียงตะโกนดังระงม

“เธออยู่แถวนี้แน่! พวกเจ้า แยกย้ายค้นซอกซอย อย่าให้มันหนีไปได้อีก!”

เหล่าคนงานโรงละครสัตว์ทั้งห้ากระจายกำลังกันเดินลัดเลาะทั่วเมือง

ภาพหญิงสาวผมทอง หางสีทองสะท้อนแดด เป็นเอกลักษณ์จนใคร ๆ จำได้

“มันเหมือนปีศาจในนิทานทะเลจริง ๆ!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งชี้

...แล้วเสียงตะโกนก็ดังลั่น

“อยู่นั่น! นางอยู่ตรงนั้น—ตรงข้างกำแพงหิน!”

นีร่า ที่สวมผ้าคลุมเก่า ๆรีบวิ่งสุดแรงหัวใจเธอเต้นรัว เสียงฝีเท้าของคนงานตามหลังมาไม่ห่าง

“ปล่อยข้าไปเถอะ...ได้โปรด”

เสียงในใจตะโกน แต่เท้าไม่หยุดวิ่ง

ปัง!!

เสียงปืนดังลั่นขึ้นกลางตลาด

กระสุนปืนเฉียดเนื้อขา เธอล้มลงทันที เลือดไหลซึมจากแผลสด

“จับมันไว้! อย่าให้ดิ้น!”

พวกมันกรูเข้าไปล็อกร่างนีร่าไว้ทั้งที่เธอยังดิ้นสุดแรง

“ข้าไม่กลับไป...ข้าไม่กลับไปที่นั่น!!”

“เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือก”

คนงานหัวหน้าแสยะยิ้มก่อนจะสั่งเสียงเย็น

“ลากกลับไปซะ อย่าให้มันมีแรงหนีอีก!”

---

คืนต่อมา – โรงละครสัตว์กลางเมืองคอร์เซียร์

เสียงเหล็กกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊ง

นีร่าถูกโยนเข้าไปในกรงแคบ ๆ ท่ามกลางเสียงเห่าหอนของสัตว์แปลกประหลาดรอบข้าง

เธอทรุดตัวลง ขาเจ็บจนแทบขยับไม่ได้

น้ำตาไหลซึมลงพื้นดินที่แข็งและเย็น

“นี่เจ้ามาใหม่หรือ…”

เสียงหนึ่งดังแผ่วเบาจากเงามืด

เมื่อสายตาเริ่มชินกับความมืด นีร่าจึงเห็นเงาร่างหญิงสาวผิวคล้ำ ผมดำขลับ ตาเป็นประกายเศร้า

“ข้า...ชื่อไอล่า” เธอกระซิบ

“ข้าอยู่ที่นี่มานาน..นานจนข้าเเทบลืมน้องชายข้า

นีร่าเบือนหน้ามองเธอด้วยความแปลกใจและสะเทือนใจ

ไอล่ายิ้มบาง ๆ แม้รอยช้ำเต็มใบหน้า

...เสียงคลื่นจากทะเลไกล ๆ พัดมากระทบหน้ากรง

นีร่ากำมือแน่น ดวงตาแดงก่ำด้วยแรงแค้น

“สักวันหนึ่ง...ข้าจะเป็นคนลากพวกมันเข้ากรงแทน”

คืนเงียบสงัดภายใต้ผ้าห่มแห่งความหวาดกลัว

นีร่าหลับไปเพียงครู่เดียวก่อนเสียงฝีเท้าหนัก ๆ จะดังใกล้เข้ามา

ลูกกรงเหล็กส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเมื่อถูกเปิดออก

“เจ้าลุกขึ้น ” เสียงเย็นชาจากคนงานในโรงละครดังลอดเข้ามา

หญิงสาวผิวคล้ำเงยหน้าขึ้นช้า ๆ

ในแววตามีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีแม้ความโกรธหรือต่อต้าน

เธอไม่พูดอะไร…เพียงเดินตามออกไปอย่างเงียบงัน

นีร่ารีบยันตัวขึ้น แม้ขาจะยังเจ็บ

“เจ้า...จะไปไหน?”

ไอล่าหันมา ยิ้มอ่อน ๆ แต่ในแววตาเหมือนมีคลื่นน้ำตาซัดอยู่ข้างใน

“ที่เดิม...ที่ข้าต้องไปทุกคืน”

และแล้วเงาของเธอก็ถูกกลืนไปในความมืด

---

รุ่งเช้า

เสียงโซ่กระทบกันดังเบา ๆ ไอล่าถูกโยนกลับเข้ากรง ร่างทั้งร่างล้มลงกับพื้น

นีร่าวิ่งไปหาเธอทันที

“เจ้าโอเคหรือไม่!?”

ไม่มีคำตอบ

มีเพียงเสียงหายใจแผ่วบาง และรอยฟกช้ำใหม่บนต้นแขนกับลำคอ

“มัน...พวกมันทำอะไรกับเจ้า…”

ไอล่าหลุบตาลง ไม่ตอบ

น้ำตาหยดหนึ่งไหลซึมจากหางตา

“พวกมันพรากทุกอย่างจากข้า...จนข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ข้ายังเหลืออะไรอยู่บ้าง”

นีร่ากัดฟันแน่น น้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวดแทน

เธอยื่นมือไปจับมือของไอล่าไว้แน่น

“แต่เจ้าก็ยังมีข้า”

เสียงเธอสั่น

“และข้าจะไม่ยอมให้มันทำแบบนี้กับเราอีก ข้าสาบาน…”

ในเงามืดของกรงเหล็ก – กลางดึกที่โรงละครสัตว์

เสียงลมหายใจของสัตว์ในกรงข้างเคียงดังคลอเคล้าไปกับเสียงคลื่นทะเล

นีร่ากระพริบตาช้า ๆ แม้จะเจ็บขา แต่เธอก็ยังไม่ยอมนอน

“ไอล่า…เจ้าตื่นอยู่ไหม”

เสียงกระซิบของนางเบาเกือบเท่าลมพัด

“ข้าไม่เคยหลับจริง ๆ อีกเลย” ไอล่าตอบพลางมองผ่านซี่กรงออกไปยังแสงจันทร์ที่ลอดลงมา

นีร่าเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ค่อย ๆ ดึงผ้าคลุมเก่าขึ้นเพื่อปิดบังร่างกาย

“ข้ามีความคิดอยู่...เจ้าเห็นกุญแจที่ชายคนนั้นพกติดเอวหรือไม่—คนที่เฝ้าเราเปลี่ยนเวรตอนยามดึก”

ไอล่าขมวดคิ้ว “เจ้าคิดจะขโมยมัน?”

นีร่าพยักหน้าเบา ๆ

“ข้าเคยลอบเดินตามพวกมันเมื่อยังไม่ถูกจับกลับ...พวกมันจะเปลี่ยนเวรช่วงใกล้สว่าง และคนใหม่มักมึนเมา เขาจะวางกุญเเจทิ้งไว้”

“แล้วเราจะหนีไปทางไหน? ท่อระบายน้ำใต้โรงเก็บสัตว์

ไอล่าสบตานางด้วยความลังเล “หากเราพลาด...”

“...ก็แค่ตาย” นีร่าตอบเสียงเรียบ “แต่ข้ายอมตายกลางทะเลมากกว่าถูกขังอยู่ที่นี่จนไม่เหลือวิญญาณ”

จากคืนนั้น ทั้งสองเริ่มสังเกตพฤติกรรมคนเฝ้า

ค่อย ๆ เก็บรายละเอียด ขโมยเสื้อคลุมเก่า ซ่อนเศษไม้ไว้ใต้ฟาง

วันเวลาผ่านไป ทุกค่ำคืนคือการฝึก—เดินเบา ๆ ขยับเงียบ ๆ

แม้แผลของนีร่าจะยังไม่หายดี แต่นางกัดฟันทุกคืนเพื่อฝึกให้ขาทำตามใจ

“อีกสามวัน...ถ้าฟ้าใส และลมพัดจากทิศตะวันตก เราจะลงมือ”

เสียงของนีร่าแน่วแน่

อีกฟากหนึ่งของทะเล – บนเรือ 'ลูนาร่า'

อีธานยืนอยู่ที่หัวเรือ มือจับพังงาแน่น

สายตากวาดไปรอบขอบฟ้า เรือแล่นฝ่าคลื่นกลางแสงแดดบ่าย

“เห็นเรือที่มีธงสีแดงขลิบดำเมื่อสองวันก่อนตรงแนวนั้น...” บอร์ก ผู้ช่วยเขาชี้ไปยังแผนที่

“มันเป็นเรือของโจรสลัดแน่นอน ข้าเคยเห็นมาก่อนที่ท่าเรือคอร์เซียร์

อีธานเม้มปากแน่น ข้าจะลากพวกมันลงนรก ถ้ามันแตะต้องเธอแม้แต่นิดเดียว…”

บอร์กวางมือบนบ่าชายหนุ่ม

“เราจะได้ตัวนางกลับมา นายท่าน ข้ามั่นใจ”

กลางคืนอันหนาวเย็น

อีธานนั่งเขียนบางสิ่งลงในสมุดหนังสีน้ำตาลเก่า

> "ข้าจะไม่ให้นางต้องกลายเป็นเงาแบบที่ข้าเคยเป็น นีร่า…เจ้ารอดมาให้ได้ ข้ากำลังจะไปหาเจ้า"

แล้วเขาก็ลุกขึ้น

“ปรับใบเรือ! มุ่งหน้าไปทางคอร์เซียร์!”

เสียงของเขาดังกังวานสู่ฟ้า

---

สองหัวใจ…ต่างดิ้นรนอยู่คนละฟากทะเล

หนึ่งคือหญิงสาวที่เดิมพันด้วยชีวิตในความมืด

อีกหนึ่งคือชายหนุ่มที่แล่นฝ่าแดดและพายุเพื่อไถ่คืนคนรัก

คืนหลบหนีกำลังใกล้เข้ามา…

แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยโจรสลัดและความโลภ

ไม่มีอะไรแน่นอน ยกเว้นเพียง…หัวใจที่ไม่ยอมแพ้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #62 กำเนิดราชินีองค์ใหม่

    อุโมงค์หินใต้ดินคดเคี้ยวและแคบจนแทบต้องคลาน รอยสลักเวทมนตร์เรืองแสงสีน้ำเงินริบหรี่เป็นระยะ แสงจากเปลวไฟพกพาทำให้เงาทั้งสามยาวยืดบนผนังเหมือนปีศาจในตำนานคาเอลหอบเบาๆ ขณะคลานตามหลังดราน “อย่าเข้าใจผิดนะ ข้าไม่กลัวที่มืด...แค่ไม่ค่อยถูกกับที่ที่ มีอะไรดุกว่าข้าอยู่ข้างหน้า เท่านั้นเอง”“เงียบหน่อย” ดรานสบถเบาๆ “เสียงสะท้อนมันดังไกลมากที่นี่”“โอเค โอเค ข้าจะเงียบ…หลังจากบอกว่าเข่าข้าไปบี้หอยที่พื้นนี่เข้าแล้วแน่ๆ มันแหลมเหมือนมีความแค้น!”นีร่าอดหัวเราะไม่ได้ “นี่ถ้าติดเกราะเหมือนเงือกที่เมืองใต้น้ำ คงรอดหอยได้ล่ะมั้ง”คาเอลยักคิ้วให้ทั้งคู่ แม้ในความมืด “พวกนั้นเกล็ดหนา ฉันแค่...บางกว่า นุ่มกว่า เรียกได้ว่าเป็นเงือกฉบับขนมปังปิ้ง”ดรานหลุดขำจมูก “เงือกขนมปังปิ้งเนี่ยนะ”“ใช่ และขนมปังปิ้งจะพาคุณรอดจากความตายได้ทันใดนั้น แผ่นหินใต้เท้าพังครืดลง! ทั้งสามร่วงลงไปในโพรงเบื้องล่าง ก่อนจะกระแทกพื้นน้ำตื้นเสียงดัง ซ่า!นีร่าดีดตัวลุกขึ้นก่อน มือลูบน้ำออกจากตา “ทุกคนปลอดภัยไหม!?”“ขาอยู่ แขนอยู่” ดรานคราง“ข้าเจอน้ำ...แล้วก็หอยอีก” คาเอลพูดพลางดีดเปลือกหอยออกจากคอเสื้อ “เอาจริงนะ—ข้าเริ่มคิด

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #61ห้องขังเเห่งคำตัดสิน

    ทางเดินหินแคบเริ่มกว้างออกเป็นโถงใต้ดินสูง เสาแกะสลักเป็นรูปคล้ายสัตว์ทะเลยักษ์เรียงรายอยู่สองข้าง เสียงหยดน้ำสะท้อนก้องคล้ายเสียงหัวใจเต้นช้าๆ ลึกลงไปในพื้นดินคาเอลเดินช้าๆ พิงไหล่นีร่า บางครั้งเขาสะดุดเพราะบาดแผลที่ยังไม่หาย ดรานเดินนำ ถือคบไฟไว้ในมือแต่แล้ว...พรึ่บ!เปลวไฟดับลงกะทันหัน เหลือเพียงความมืดสนิทและลมเย็นเฉียบพัดผ่านเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากรอบทิศ ก่อนที่แสงจากโคมเวทมนตร์สีน้ำเงินจะลอยขึ้นเป็นวงรอบตัวพวกเขา ส่องให้เห็นร่าง บุรุษและสตรีในผ้าคลุมสีเทาอมน้ำเงิน หน้ากากเรียบไร้อารมณ์ ตรงกลางหน้าผากมีเครื่องหมายสลักเป็นเกล็ดปลากลับหัว“หยุดอยู่ตรงนั้น” เสียงหนึ่งกล่าว—ราบเรียบแต่น่าเกรงขามดรานชักดาบ แต่มือแข็งค้างกลางอากาศ ราวกับถูกตรึงไว้ด้วยเวทบางอย่าง นีร่าก้าวไปขวางหน้า“เรามาเพื่อตามหาความจริง ไม่ได้หมายจะทำลายอะไรทั้งนั้น!”ชายผู้สวมหน้ากากยกมือขึ้น—และพื้นใต้เท้าก็เปิดวูบ---ห้องขังใต้โถงพิพากษาแสงเพลิงเย็นสีฟ้าจุดขึ้นตามซอกหิน พวกเขาถูกขังในห้องหินทรงกลม มีประตูเหล็กสูงกว่าเกือบสามเมตร คาถาป้องกันซับซ้อนจนดรานไม่กล้าแตะต้องคาเอลนั่งซบผนัง ดวงตาหลับลงครู่หนึ่ง

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #60 มนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนสภาพ

    หมู่บ้านริมผา – เวลาสองยามเพลิงจากแนวคบไฟถูกจุดขึ้นรอบหมู่บ้าน เสียงเปลวไฟแตกพรึ่บพรับแข่งกับเสียงคลื่นที่เริ่มโหมกระหน่ำ พื้นดินสั่นเล็กๆ จนเด็กเล็กบางคนเริ่มร้องไห้ไอล่าคาดแหลงไว้ข้างเอว เดินตรวจแนวป้องกันกับอีธาน ก่อนหยุดตรงจุดที่น้ำทะเลเริ่มซึมเข้ามา“ครีบพวกมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ...” ไอล่าพึมพำเสียงหวีดเบาๆ ดังแทรกอากาศ ราวเสียงไวโอลินขูดสายอย่างไม่ประสาน เสียงนั้นมาจากเรือดำที่ลอยเข้ามาใกล้จนเห็นได้ชัด — ไม่มีคนขับ ไม่มีเสียงฝีพาย แต่ค่อยๆ เคลื่อนเข้าหาฝั่งเหมือนถูกดูดเข้ามาทันใดนั้น เสียงคล้ายแตรเป่า — แต่ทุ้มต่ำและสะท้อนก้องเหมือนเปลือกหอยยักษ์ — ดังขึ้นจากทะเล“พวกมันเริ่มพิธีแล้ว!” อีธานร้อง “ถ้าเราไม่ขัดจังหวะตอนนี้ มันจะเปิดประตูขึ้นมาจริงๆ!”“ประตูที่พวกเงือกเผ่าเก่าเคยผนึกไว้?” ไอล่าขมวดคิ้วอีธานไม่ตอบ แต่วิ่งไปหยิบคันศรประดิษฐ์พิเศษจากศาลาไม้ที่เก็บอาวุธกลางหมู่บ้าน หัวลูกศรทำจากหินสีฟ้า...เป็นของที่นีร่าเคยทิ้งไว้เขาหันไปหาไอล่า “ถ้านีร่ายังอยู่ เธอคงรู้ว่าจะทำยังไง...แต่ตอนนี้เราต้องลองเสี่ยง”ไอล่าหยิบคันธนูขึ้นมา “งั้นยิงไปที่เรือนั่นเลย?”อีธานพยักหน้าฟิ้ว!ลูกศ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #59 เเผนที่

    เปลวไฟจากคบไฟกระพริบสั่นไหวตามแรงลมทะเล ชาวบ้านกำลังช่วยกันกางแผงไม้เสริมแนวป้องกันรอบหมู่บ้าน หลายคนขุดดินทำคูน้ำหรือผูกตาข่ายลวดไว้กับทุ่นลอยตามแนวชายป่าไอล่าใช้มีดเล็กฝนปลายไม้แหลมอยู่ตรงลานหน้าบ้านอีธาน เสียงขูดเบาๆ ฟังแล้วเหมือนเสียงลมหอบ“ข้างศาลนั่น มีอะไรไหม?” เธอถามขณะตัดไม้โดยไม่มองหน้าเขาอีธานเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบ “มีเศษเปลือกหอย...แบบที่ไม่ควรอยู่บนฝั่ง และก็มีสิ่งนี้”เขายื่นชิ้นไม้แตกหักที่มีลวดลายแกะสลักคล้ายเกล็ดปลามนุษย์ บางส่วนถูกเผาจนดำ ไอล่ารับมาแล้วขมวดคิ้ว“นี่เป็นสัญลักษณ์ของเทพแห่งสมดุล” เธอพึมพำ “แต่กลับหัว”“เหมือนมีใครเจตนาให้คำอวยพรกลับกลายเป็นคำสาป” อีธานว่าเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เสียงฝีเท้าเบาๆ จะดังขึ้นจากแนวพุ่มไม้เด็กชายตัวเล็กๆ วิ่งเข้ามาหอบหายใจ หน้าเปื้อนฝุ่นดิน“อีธาน! ข้า...ข้าฝันแปลกๆ”อีธานลุกขึ้นทันที “ฝันอะไร ไค?”เด็กชายชื่อไคส่ายหน้าแล้วพูดเสียงสั่น “มีหญิงคนหนึ่ง...ผมยาวถึงเอว ตัวสีน้ำเงินเหมือนเงาในน้ำ เธอร้องเพลงเรียกข้า บอกให้...บอกให้กลับไปที่ทะเล”ไอล่ากับอีธานสบตากันโดยไม่พูด เด็กชายยังพูดไม่หยุด“ข้าตื่นขึ้นมาเจอน้ำเปียกที่ปลา

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #58 ผู้คนจากเมือง

    เสียงฝีเท้าดังสวบสาบของไอล่าหยุดลงหน้าประตูไม้ผุบ้านหลังหนึ่งที่ปลายหมู่บ้าน ท่ามกลางแสงยามเย็นสีทองอ่อน เธอยืนมองแผ่นไม้ที่เคยมีตราครอบครัวตรึงอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแค่รอยไหม้ดำสนิทเป็นรูปนิ้วมือทั้งห้า“ที่นี่มันเคย...?” ไอล่าถามเสียงเบาอีธานพยักหน้า “บ้านของฉันเอง ถูกเผาเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่พวกโจรสลัดบุกมาปล้นครั้งใหญ่”ไอล่าหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง แล้วก้มหน้าลงช้าๆ “ขอโทษที่ถาม...”“ไม่เป็นไร ฉันชินแล้ว” เขายิ้มบางๆอย่างฝืน ก่อนหันกลับเดินไปยังลานกลางหมู่บ้านชาวบ้านเริ่มออกมารวมตัวกันหลังเสียงระฆังเตือนภัยเงียบสงบลง เด็กๆ วิ่งเล่นกันตามซอกทางแคบที่ปูด้วยหินเรียงตัวไม่เสมอ ผู้ใหญ่ต่างจับกลุ่มกระซิบกระซาบถึงข่าวลือเรื่องเรือโจรสลัดที่มีครีบปลาแหลมยื่นออกจากใต้ท้องเรือ“พวกมันไม่ใช่มนุษย์แล้ว...” ชาวประมงแก่คนหนึ่งกระซิบ “ฉันเห็นเองกับตา! มันว่ายอยู่ใต้น้ำ แล้วขึ้นมายืนบนเรือเหมือนผีทะเล!”“บ้าแล้ว แกเมาเหล้าต่างหาก!” ชาวบ้านอีกคนแย้ง แต่ก็ไม่มีใครหัวเราะตาม ทุกคนสีหน้าหนักเครียด ไม่เหมือนครั้งก่อนจู่ๆ เสียงเคร้งคร้างของโลหะก็ดังขึ้นที่ชายป่าด้านนอกหมู่บ้าน แล้วมีใครบางคนเดินโผล่ออกมาจา

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #57 พ่อค้าหาบเร่

    กลางคืนในหมู่บ้านชาวประมงที่พักชั่วคราวของพวกอีธาน ทะเลเบื้องหน้าเงียบสงัด ลมพัดโชยกลิ่นเค็มของเกลือ อีธานนั่งอยู่นิ่ง ๆ ริมฝั่ง จุดไฟไว้ข้างตัว เสียงเปลวไม้แตกดังเบา ๆ เคล้ากับเสียงคลื่นซัดฝั่งที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ“ยังไม่หลับเหรอ?” ไอล่าเดินเข้ามาช้า ๆ ชุดของเธอเปียกน้ำเล็กน้อย ดูเหมือนเพิ่งล้างตัวจากทะเลอีธานหันไปมองแล้วผงกหัวให้ เขาเคลื่อนตัวออกเล็กน้อยเป็นเชิงชวนให้นั่งด้วยกัน “นอนไม่หลับเหมือนกันเหรอ?”“ก็ใช่…” ไอล่าพูดเสียงเบา เธอนั่งลงข้าง ๆ ห่างจากเขานิดหน่อย “วันนี้ทั้งวันมันเงียบแปลก ๆ เหมือนพายุจะมา...แต่พอเงยหน้ามองท้องฟ้า กลับไม่มีเมฆเลย”“พายุที่เราไม่เห็น… มันน่ากลัวกว่าที่เราคิดนะ” อีธานพูดช้า ๆ ดวงตาสะท้อนเปลวไฟ เขาดูนิ่งมากกว่าปกติ“พูดเหมือนนักปรัชญาเลย” ไอล่าหัวเราะนิด ๆ พลางกอดเข่าตัวเอง “นายเคยมีคนรักไหม?”คำถามนั้นทำเอาอีธานชะงักไปครู่หนึ่ง เขาไม่ตอบในทันที ไอล่าเห็นเขาเงียบไปก็ก้มหน้าหลบสายตา รีบพูดกลบเก้อ “เอ่อ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะล้วงอะไรส่วนตัว”“มี…” เขาตอบเบา ๆ แต่ออกมาในโทนเสียงที่อบอุ่นอย่างประหลาด “เธอชื่อ…นีร่า”ไอล่าเงียบไปชั่วครู่ หัวใจเธอรู้ส

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status